ลู่โจวลืมตาขึ้นอย่างรุนแรง เขากระเด้งตัวจากเตียง หน้าอกของเขาสั่นกระเพื่อม และเขาหายใจอย่างหนักหน่วง ทันใดนั้นเขาพบว่าเสื้อผ้าของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
ลู่โจวลูบหน้าผากตัวเองและลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินไปที่ตู้เย็น และหยิบน้ำออกมาดื่มเพื่อพยายามสงบสติตัวเอง
สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่ในหัวของเขา แต่มันอาจจะดูสมจริงเกินไป ความทรงจำถูกฝังลึกเข้าไปในสมองเขา
มันเหมือนกับว่า…เขาเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่สูงถึงเพดานแล้วมองดูภาพบรรยากาศกลางคืน เขายืนอยู่ตรงนั้นจนขวดน้ำแร่ในมือไม่ได้เย็นอีกต่อไป เขาหันหลังกลับแล้วพึมพำกับตัวเอง
“มันเหมือนกับ…”
“มันเหมือนกับฝันร้าย”
เขาเดินไปอาบน้ำที่ห้องน้ำ จากนั้นลู่โจวเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่และนั่งลงที่โต๊ะคอมพิวเตอร์
เขากลับเข้าพื้นที่ระบบและทำให้แน่ใจว่าพื้นที่ระบบสีขาวบริสุทธิ์ไม่ได้เปลี่ยนไปเพราะ ‘ความทรงจำวอยด์ เอ’
แต่ตัวอย่างสีม่วงในช่องเก็บของได้หายไป ราวกับว่ามันไม่เคยมีอยู่
ลู่โจวกลับสู่โลกความจริงและเปิดไฟล์เอกสาร เขาพิมพ์สิ่งที่คิดลงไป
[ตึกสีดำพวกนี้คืออะไร? ถ้ามันเป็นคอมพิวเตอร์ แล้วมันเป็นของใคร? มันกำลังคำนวณอะไรอยู่?]
นอกจากนี้กล่องลูกบาศก์สีทองที่จมอยู่ใต้สระน้ำเหมือนกับ ‘เศษซาก หมายเลข 2’ ของเขา
เขาไม่ได้รีบร้อน หลังจากเขากลับไปที่จินหลิงเขาจะใช้ความรู้ใหม่นี้เพื่อวิจัยเศษซาก หมายเลข 2
ลู่โจวครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะตั้งรหัสไฟล์เอกสาร
ถึงจะมีใครอ่านความฝันแปลกประหลาดของเขา ไม่มีอะไรจะเกิดขึ้น
แต่ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า
…
วันต่อมา
รายงาน 45 นาทีของเวร่าเริ่มขึ้น และสถานที่รายงานคือห้องบรรยายหมายเลข 7
ห้องบรรยายค่อนข้างครื้นเครง มีคนจำนวนมากอยากรู้เกี่ยวกับหญิงสาวที่ได้เหรียญฟิลด์คนนี้
สุดท้ายแล้วถึงแม้ว่ามีนักฟิสิกส์และนักเคมีจำนวนมาก นักคณิตศาสตร์หญิงมีจำนวนไม่มากเท่าไร โดยเฉพาะนักคณิตศาสตร์หญิงที่โดดเด่น
ไม่ใช่แค่นั้น เวร่ามีพรสวรรค์ทั้งภายนอกและภายใน
แม้แต่นักวิชาการที่ไม่ได้อยู่ในด้านทฤษฎีจำนวนเชิงวิเคราะห์ก็ตัดสินใจร่วมการรายงาน
ลู่โจวที่มาถึงห้องบรรยายก่อนเวลาสิบนาทีก็แทบหาที่นั่งไม่ได้ ชูลทซ์ที่นั่งอยู่กลางห้องบรรยายได้โบกมือให้กับเขา
“ผมกันที่นั่งนี้ไว้ให้กับอาคเชย์ เพื่อนของผม แต่เขาไปเข้าฟังรายงานอื่นแทน”
ลู่โจวตอบ “ขอบคุณครับ”
ชูลทซ์ยิ้มให้
“ด้วยความยินดีครับ”
ลู่โจวหาวระหว่างที่เขาหยิบธีสิสที่อยู่ตรงหน้าเขา เขาพลิกหน้าธีสิสดูคร่าวๆ
เมื่อคืนเขาหลับไม่ค่อยสบาย
สมองเขาปั่นป่วน และเขาหยุดคิดไม่ได้เกี่ยวกับเมืองโลหะ ตึกสีดำ ดาบเหล็ก และฮีเลียมเหลว…
ชูลทซ์ถาม “เมื่อคืนคุณหลับไม่สบายเหรอ?”
ลู่โจวจึงตอบ “ใช่ครับ”
ชูลทซ์ถามต่อ “โต้รุ่งเหรอครับ?”
“ประมาณนั้นครับ” ลู่โจวนิ่งไปสักพักและพูดต่อ “ผมฝันร้ายยาวเลยครับ”
ชูลทซ์ถามด้วยความอยากรู้ “แล้วคุณฝันเกี่ยวกับอะไรเหรอ?”
ลู่โจวตอบ “…เกี่ยวกับอนาคตครับ”
ชูลทซ์ขมวดคิ้วและถามว่า “แน่ใจใช่ไหมว่ามันเป็นฝันร้าย?”
ลู่โจวพูดตอบ “ผมคิดแบบนั้น…ผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นอนาคตของมนุษยชาติ…ผมหมายความว่าผมไม่แน่ใจว่าผมเคยเห็นมันในหนังไซไฟมาก่อนหรือเปล่า มันมีอารมณ์เหมือนแบบโลกที่ล่มสลาย”
“เหมือนกับ ‘ไอ แอม ลีเจนท์’? “
“ฮ่าๆ ประมาณนั้น แต่เรื่องนั้นเป็นหนังเก่าแล้ว”
ชูลทซ์ยักไหล่และพูดติดตลก “ฟังดูเศร้าจัง นักวิทยาศาสตร์ที่เก่งที่สุดในศตวรรษนี้มีมุมมองในแง่ร้ายเกี่ยวกับอนาคต ดูเหมือนว่าผมต้องพิจารณาซื้อประกันเสียแล้ว”
ลู่โจวส่ายหัวและยิ้ม
“เฮ้ นี่มันไม่ตลกนะ”
ชูลทซ์ยิ้มและพูดว่า “แต่คุณกำลังหัวเราะ?”
ลู่โจวพูดตอบ “ผมหัวเราะเพราะว่าสิ่งแรกที่คุณคิดคือการซื้อประกัน…ใครจะประกันผู้ประกันตนของคุณล่ะ?”
ชูลทซ์ลูบคางและครุ่นคิด
“นั่นแหละปัญหา”
ระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยกัน การรายงานเริ่มขึ้น
เวร่ายืนบนเวที และลู่โจวรู้สึกว่าเธอดูไม่ค่อยสบายเท่าไหร่
แต่เขาค่อยถามเธอได้หลังการรายงาน
ตอนนี้การรายงานได้เริ่มขึ้น เขาควรสนใจกับด้านวิชาการ
เพื่อเป็นการให้เกียรติผู้รายงาน
ลู่โจวสูดหายใจเข้าลึกและเพ่งความสนใจไปที่ธีสิสในมือ
เนื่องจากที่ผ่านมาเขาค่อนข้างยุ่ง เขาเลยไม่มีเวลาอ่านธีสิสรายงาน
แต่มันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น
เขาสามารถเข้าใจคอนเซปต์เกือบทั้งหมดจากการเปิดดูผ่านๆ
“ส่วนผนวกวิธีการวิเคราะห์เส้นโค้งไฮเปอร์เอลลิปติก?” ลู่โจวพูดหลังจากอ่านบทคัดย่อ เขาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสนใจ “สิ่งนี้น่าสนใจ”
โดยสรุป เวร่าสร้างขึ้นบนรากฐานของวิธีการวิเคราะห์เส้นโค้งไฮเปอร์เอลลิปติก แต่เธอใช้วิธีการที่ล้ำมากกว่าเพื่อแนะนำสูตรแพลนเชอเรลกับกลุ่มไฮเซนเบิร์ก สิ่งนี้ทำให้วิธีการวิเคราะห์เส้นโค้งไฮเปอร์เอลลิปติกใช้งานได้มากขึ้นกับแมนิโฟลด์ซับซ้อนมิติเดียวที่เชื่อมติดกับพื้นผิวรีมันน์
มันยากที่จะอธิบายสิ่งนี้ในภาษาคนทั่วไป แต่โดยสรุป มันเป็นไอเดียใหม่ที่ทำให้ลู่โจวและกลุ่มผู้ฟังสนใจ
มันยังสร้างแรงบันดาลใจให้ลู่โจวมากขนเขาอยากกลับไปห้องพักที่โรงแรมเพื่อปลีกวิเวกในทันที
แน่นอนว่ามันเป็นแค่ความคิด
เขาคงไม่ทำตามความอยากแบบนั้น
ไม่ใช่แค่นั้น เวร่ายังนำเสนอรายงานอยู่
เธอมีโอกาสที่จะพูดคุยให้ชุมชนคณิตศาสตร์ทั้งหมดฟังในที่สุด ถ้าอาจารย์ของเธอเดินออกไประหว่างที่เธอพูดกะทันหัน เธออาจจะเริ่มน้ำตาตกบนเวที…
ชูลทซ์ฟังรายงานของเวร่า เขานั่งกอดอกและจู่ๆ เขาก็ถอนหายใจ
“เอาจริงๆ นะ ผมอิจฉาคุณ”
ลู่โจวพูดตอบโดยที่ไม่หันหน้าไปหา
“…อิจฉาเรื่องอะไรเหรอ?”
“เรื่องที่คุณมีลูกศิษย์ที่ฉลาดและเชื่อฟัง เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีทฤษฎีใหม่ เธอก็จะมาช่วยคุณทำให้สมบูรณ์แบบ”
ลู่โจวยิ้ม
แต่ทันใดนั้นมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น
เวร่าเริ่มไออย่างรุนแรงบนเวที
“…ขอโทษค่ะ”
เวร่าเอามือปิดปากแล้วกำลังจะรายงานต่อ แต่เมื่อเธอพยายามจะพูดต่อ เธอเริ่มไออีกครั้ง
เวร่าเริ่มเหงื่อออก เธอเอนตัวไปจับไวท์บอร์ด และหน้าของเธอซีดลง
ทีมงานวิ่งขึ้นบนเวทีทันที
“คุณพุลยุย ตอนนี้หยุดการรายงานดีกว่า ถ้าคุณรู้สึกไม่สบาย”
“ไม่เป็นไรค่ะ ให้ฉันเขียนเสร็จก่อน!”
เธอกำหมัดแน่นในระหว่างที่มีความมึนงงปรากฏขึ้นในตาของเธอ แต่หน้าตางุนงงถูกแทนที่ด้วยความแน่วแน่และความกล้าหาญ
เมื่อปีก่อน ตอนที่เธอเริ่มป่วย เธอรู้ว่าเธอมีเวลาไม่มาก
เธอมาไกลถึงขนาดนี้…
ทีมงานลังเลอยู่สักพักและถอยตัวออกไป
เวร่ามองดูไวท์บอร์ด
สติของเธอไม่เคยชัดถึงขนาดนี้
เธอกัดฟันและเริ่มเขียนบนไวท์บอร์ด
แต่ด้วยความเจ็บและความกังวล จำนวนและสัญลักษณ์บนกระดานดำเริ่มดูบิดเบี้ยว แต่กระแสความคิดของเธอไม่หยุดหลั่งไหล
เธอเขียนความคิดทั้งหมดลงไวท์บอร์ดรวมไปถึงสิ่งที่เธอไม่ได้เขียนไว้ในธีสิส มันดูเหมือนว่ากาลเวลาได้มลายหายไป รวมไปถึงความเจ็บปวดในหน้าอกของเธอ
ดูเหมือนว่า เมื่อคนถึงขีดจำกัดของร่างกาย ร่างกายก็จะแบ่งทรัพยากรทั้งหมดไปที่สมอง
แต่เธอไม่มีเวลามาคิดเรื่องนี้
เธอไม่ได้ทำสิ่งนี้เพื่อชุมชนคณิตศาสตร์ หรือว่าอาจารย์ของเธอ…
มันอาจจะเป็นรายงานสุดท้ายของเธอ…
แต่…เธอจะทำให้ดีที่สุด!
ในที่สุด เธอเขียนบรรทัดสุดท้ายของการคำนวณเสร็จ
เธอถอยออกมาครึ่งก้าวและยิ้มเบาๆ
ถึงแม้ว่าเธอยังไม่สามารถไขเขาวงกตได้ อย่างน้อย…สิ่งนี้อาจจะช่วยผู้อื่นได้ โดยเฉพาะลู่โจว
ทันใดนั้น เธอเริ่มหมดสติ
เธอพิงตัวที่ไวท์บอร์ด แต่แขนเสื้อของเธอทิ้งรอยเลือดไว้บนไวท์บอร์ด
เลือด!
เกิดความสับสนวุ่นวายในห้องบรรยาย
เวรแล้ว…
หัวใจเวร่าตกไปถึงตาตุ่มเมื่อเธอเห็นรอยสีแดง
ฉันรอดมาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่อยากเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นวันนี้…
มันเป็นวันที่ดีและแย่ที่สุดในชีวิตของเธอ
ขาของเธอหมดเรี่ยวแรงลงอย่างช้าๆ
ก่อนที่เธอจะสิ้นสติไป เธอเห็นร่างหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเธอระหว่างที่เธอล้มตัวลงที่พื้น
เธอค้นพบในที่สุดว่า…เธอไม่มีอะไรที่เสียดายแล้ว
……………………………………………………..
Related