ภายในวอร์ดเดียวกัน
หญิงสาวร่างบางสวมชุดกาวน์ที่ผลิตจากวัสดุพิเศษนอนอยู่ในเคบินพักตัว
ลู่โจวยืนอยู่ข้าง ‘เตียง’ นี้ เขายื่นปึกเอกสารให้กับเธอ
“…นี่เป็นเอกสารทะเบียนบ้าน เราต้องการลายเซ็นของคุณ”
เวร่าเอียงหัวและถามว่า “ทะเบียนบ้าน?”
ลู่โจวพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ คุณเป็นผู้ได้รับรางวัลเหรียญฟิลด์ ถึงแม้ว่าเราไม่ได้อยู่ในประเทศอพยพ เรามีนโยบายพิเศษสำหรับคนที่มีพรสวรรค์ ผมได้ติดต่อคณบดีก็อดเดิร์ดจากสถาบันพรินซ์ตันเพื่อการศึกษาขั้นสูงและอธิบายสถานการณ์นี้ให้เขาทราบ ตอนนี้คุณได้รับว่าจ้างจากมหาวิทยาลัยจินหลิงในทางเทคนิค คุณจะอยู่ที่นี่อีกนาน ผมเลยเกรงว่าวีซ่าทำงานไม่เพียงพอ”
วีซ่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในตอนนี้ แต่เมื่อผ่านไปสองสามทศวรรษ มันอาจจะเป็นปัญหาได้
แล้วก็ด้วยอำนาจการเมืองของลู่โจว เขาสามารถได้ใบผู้พำนักที่ลงทะเบียนสำหรับเวร่า
นอกจากนี้ทั้งมหาวิทยาลัยจินหลิงและสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงมีโควตาว่าจ้างชาวต่างชาติที่มีความสามารถ สำหรับนักวิชาการเหรียญฟิลด์อย่างเธอ มหาวิทยาลัยในประเทศทุกแห่งยินดีที่จะรับเธอไว้
มันไม่มีปัญหาสำหรับเธอที่จะปรับตัวเข้าสังคมโลกในอนาคต สังคมในอนาคตจะเปิดกว้างมากขึ้นและอดทนต่อเชื้อชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย
ถึงแม้ลู่โจวรู้ว่าแผนการมักล้มเหลว และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในร้อยปีข้างหน้า มันก็ดีกว่าไม่ทำอะไร
เวร่ากะพริบตาให้ลู่โจวและไม่ได้พูดอะไร เธอหยิบปากกาขึ้นมาเซ็นชื่อตัวเอง
เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ต่อต้าน ลู่โจวถอนหายใจอย่างโล่งอกและพูดว่า
“…ตอนนี้คุณไม่ต้องการบัตรประชาชน คุณจะได้รับมันเมื่อคุณตื่นขึ้น และนี่เป็นเอกสารยินยอมรับการรักษา คุณจะอ่านมันไหม?”
ลู่โจวรู้สึกเซอร์ไพรส์ที่เวร่าเซ็นเอกสารทุกฉบับโดยที่ไม่ได้อ่านก่อน ลู่โจวได้เตรียมพร้อมที่จะอธิบายเอกสารให้เธอฟังทีละฉบับ
เวร่ากะพริบตาและยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ฉันเชื่อใจคุณ”
จากนั้นเธอคืนปากกาให้ลู่โจว
เธอพูดว่า “โอเคค่ะ…เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”
ลู่โจวเก็บปากกาและพูดว่า
“…ใช่ครับ เรียบร้อยแล้ว”
“เงินเก็บของฉัน…มันมีไม่มาก แต่คุณช่วยส่งมันให้พ่อฉันได้ไหม? ฉันต้องเขียนพินัยกรรมหรืออะไรไหม?”
ลู่โจวอ้าปากแล้วกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาหยุดปากไว้
เขากำลังจะบอกเธอว่าพ่อของเธอเป็นคนที่อยากจบชีวิตของเธอในตอนที่เธอโคม่าอยู่ แต่เขาตัดสินใจที่จะไม่บอก
มันไม่มีเหตุผลที่ต้องเพิ่มความโศกเศร้าให้โลกใบนี้
ในอนาคต พ่อของเธอคงจากไปนานแล้ว
ลู่โจวพยักหน้าและพูดว่า
“โอเค ผมจะทำให้…มีอะไรอีกไหม?”
เวลาของพวกเขากำลังหมดลง
สารสกัดฟีโรโมนแบคทีเรีย X-0172 ใช้เวลาทำงานประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อให้เธอใช้เวลาครึ่งชั่วโมงสุดท้ายโดยไม่ต้องรอคอยอย่างกระวนกระวาย พยาบาลได้ฉีดฟีโรโมนให้ก่อนที่เธอเซ็นเอกสาร…
ลู่โจวไม่อยากมองดูนาฬิกา แต่เขารู้ว่าเวลาของเขากำลังหมดลง
เวร่าพูดขึ้นว่า “จริงๆ แล้ว…มันมีอีก ฉันมีคำขอสุดท้าย แต่มันฟังดูเด็กน้อยไปหน่อย…”
ลู่โจวพูดตอบ “…บอกผมมา”
แก้มของเธอค่อยๆ แดงขึ้น
“จำคริสต์มาสครั้งนั้นได้ไหม? ครั้งที่บ้านของคุณที่พรินซ์ตัน…”
ลู่โจวไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ เธอถึงรื้อฟื้นเรื่องที่ผ่านมานานแล้ว เขาพยักหน้าและพูดว่า
“ผมจำได้ ทำไมล่ะ?”
“เมื่อเช้านั้น ก่อนที่ฉันเอาผ้าเช็ดตัวไว้บนหัวคุณ จริงๆ แล้ว ฉัน…”
เธอกัดปากแล้วลังเล ราวกับว่าเธอไม่อยากหลุดเผยความลับออกไป
แต่เธอคิดว่าเธอไม่มีโอกาสพูดสิ่งนี้ในอนาคต ดังนั้นเธอจึงลังเลแค่เล็กน้อยก่อนที่จะพูดด้วยความกล้าหาญ
“จริงๆ แล้ว…ฉันจูบคุณ”
ลู่โจว “???”
เวร่าแอบมองดูหน้าลู่โจวเพื่อดูท่าทีของเขา
มันดูเหมือนว่าลู่โจวรู้สึกอึ้ง เธอจึงรีบพูดเสริม
“ไม่ ไม่ใช่ตรงนั้น…ตรงที่หน้าผาก”
ลู่โจว “…”
ไม่แปลกใจเลย…
เช้านั้นหลังจากที่เมาค้าง เขาสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่อบอุ่นและชุ่มชื้นบนหน้าผา แต่ผ้าเช็ดตัวบนหัวเขากลับเย็น เวลานั้นเขาคิดว่ามันแปลก แต่เขาไม่ได้คิดอะไรมาก
ตอนนี้เวร่าได้บอกให้เขารู้ เขาเข้าใจในที่สุดว่าเกิดอะไรขึ้น…
“อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนั้น ฉันชื่นชมและพึ่งพาคุณจริงๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันทำแบบนั้นไป…
บางครั้งฉันทำถามตัวเองว่า ฉันมีความรักหรือเปล่า? และฉันอยากได้อะไรจากเรื่องนี้?
…ขอบคุณที่ให้พื้นที่ฉันในการคิดถึงเรื่องนี้เพื่อแยกแยะระหว่างการชอบใครสักคนและการพึ่งพาใครบางคน”
ลู่โจวพยักหน้าและพูดว่า “งั้น…มันชัดเจนแล้วใช่ไหม?”
เวร่ายิ้มให้เขา
“อืม มันเป็น…อย่างหลัง”
ถึงลู่โจวรู้อยู่แล้ว แต่หัวใจเขากลับเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้
เธอหลับตาและเงยหน้าขึ้น
“…ฉันไม่อยากพูดถึงมัน”
ลู่โจวมองดูขนตาสั่นเท่าของเธอ และเขาเอื้อมตัวไปหอมหน้าผากของเธอ
กลิ่นดอกมะลิทำให้ลู่โจวมึนงงเล็กน้อย
เวร่ามีท่าทีชัดเจนกว่า ทั้งลำคอ ใบหู และหน้าของเธอแดงเป็นมะเขือเทศ
เธอลืมตาขึ้น
ระหว่างที่เวร่าพูดอย่างประหม่า เสียงของเธอมีทั้งความเขินอายและความตื่นเต้น
“ฉันรู้สึกว่าฉันจะแช่แข็งไม่ได้”
ลู่โจวลุกขึ้นยืนและพูดว่า “การแช่แข็งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของฟิสิกส์ คุณจะหลับลงไปก่อน จากนั้นเมื่อคุณตื่นขึ้นมา…”
ลู่โจวกลืนน้ำลาย
ถึงเขาเตรียมใจมาแล้วสำหรับเรื่องนี้ เขาก็ยังไม่สามารถพูดจบประโยคได้
เวร่าพูดแทนเขา
“จากนั้น…ฉันจะอยู่ในโลกใหม่?”
ลู่โจวพยักหน้าและพูดว่า “ใช่…สำหรับคุณ ทุกอย่างมันจะเกิดขึ้นในชั่วพริบตา”
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเร็วแค่ไหน สำหรับคนที่อยู่ในการพักตัวทุกอย่างจะเกิดขึ้นในชั่ววูบ
เธอไม่ต้องรอนานเลย
หนึ่งศตวรรษจะผ่านไปโดยที่เธอไม่รู้ตัว
เวร่ารู้สึกได้ว่าตาของเธอเริ่มหนักอึ้ง เธอมองไปที่เขาราวกับว่าเธออยากจำภาพนี้ไว้ในใจของเธอ
“แต่ฉันยังไม่อยากหลับตา ฉันยังไม่อยากจากไปเลย…”
“อย่าโง่ไปเลย…”
“ฉันอยากโง่…ฉันจะไม่หลับตา”
“ขอโทษ…”
เวร่าหมดสติอย่างช้าๆ
เธอเริ่มหลับใหลและหายใจอย่างสงบ
ลู่โจวยืนอยู่ข้างแคปซูลพักตัว เขาจ้องมองหน้าเธอเป็นเวลานาน ศาสตราจารย์หลิวจิวปิงเตือนเขาเบาๆ
“เธอหลับไปแล้ว
ฟีโรโมนที่ถูกปล่อยแบคทีเรีย X-0171 กำลังป้องกันเซลล์โฮสต์ในสภาวะพักตัว…กระบวนการประสบความสำเร็จอย่างมาก”
“คุณน่าจะดีใจกับเธอ”
หวังเผิงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาเพียงแค่ตบไหล่ลู่โจว
ลู่โจวสูดลมหายใจเข้าลึกและพูดว่า
“…งั้นเริ่มกันเลย”
ศาสตราจารย์หลิวจัวปิงพยักหน้าและพูดว่า
“ครับ”
…
กระบวนการจำศีลได้เริ่มขึ้นแล้ว
ลู่โจวมองดู ‘ไทม์แมชชีน’ เครื่องนี้ที่นั่งอยู่ในห้องแล็บ
นักวิชาการจ้าวจงจี้กระแอมเบาๆ และพยายามปลอบเขา
“คิดถึงแง่บวกนะ เราอยู่ในยุคของเทคโนโลยีแตกตื่น เรามีแม้กระทั่งพลังงานฟิวชั่นที่ควบคุมได้ในตอนนี้ บางทีเราอาจจะรักษามะเร็งได้ใน 70 ปี…เฮ้อ แต่คุณคงอายุมากขึ้นเล็กน้อยในเวลานั้น”
พยาบาลที่ดูแลเวร่ามาตลอดได้เช็ดน้ำตาที่ขอบตา
“อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลขสำหรับเวร่า…เธอนั้น…”
“ไม่ต้องพูดอะไร!”
พยาบาลปิดปากเงียบหลังจากที่เธอโดนนักวิชาการตำหนิ
ถึงอายุจะเป็นแค่ตัวเลข พวกเขาคงไม่ได้อยู่ด้วยกันในอนาคต
เอาจริงแล้วนักวิชาการจ้างจงจี้กำลังเกี่ยวกับลู่โจวมากกว่าผู้ป่วยพักตัว
นักวิชาการระดับท็อปส่วนใหญ่เป็นคนเพี้ยน พวกนั้นใจร้อนและมักมองโลกในแง่ร้าย
ไม่ใช่แค่นั้น ลู่โจวอาจจะมีชีวิตอยู่ต่อไม่ถึงอีก 70 ปี…
ศาสตราจารย์หลิวจัวปิงยืนอยู่ข้างคอนโซลควบคุม เขาสั่งให้ลูกน้องได้ทำขั้นตอนเริ่มทำงานแคปซูลพักตัวให้สำเร็จ ทันใดนั้นศาสตราจารย์หลิวจัวปิงคิดอะไรบางอย่างได้
“เอ่อ…เรากำลังเผยแพร่เรื่องนี้ต่อสาธารณะเหรอ?”
ลู่โจวสูดลมหายใจเข้าลึกและจำสิ่งที่พ่อของเขาพูดได้ เขาจึงพูดว่า
“ประกาศไปเลย
เธอเป็นผู้ได้รับรางวัลเหรียญฟิลด์…เราปิดข่าวไม่ได้หรอก ถ้าเราปิดข่าว ผู้คนจะสงสัยว่าเธออยู่ที่ไหน
แล้วก็เราไม่มีเหตุผลต้องปกปิดเรื่องนี้”
………………………..
Related