ในที่สุดก็ถึงวันทดลอง หลังจากที่พวกเขารอมาถึงสามวัน หลี่เกาเหลียงกำลังนอนอยู่บนเก้าอี้เสมือนจริงพร้อมกับทหารของเขา ในที่สุดเขาก็เข้าใจความหมายของลู่โจวที่ดาวเคราะห์ ‘รีช’
ณ อวกาศอันไร้ขอบเขต ดาวเคราะห์ซีรูเลียน ยานอวกาศขนาดยักษ์…
“ให้ตายเถอะ! นี่มันคือ…สะพานนกกางเขนเหรอ?”
“ใช่จริงๆ เหรอเนี่ย…อย่างกับเรื่องที่แต่งขึ้นมาเลย”
มีผู้คนกำลังยืนอยู่ในห้องหนึ่งๆ ภายในโลกเสมือนจริง พวกเขาทั้งหมดต่างพากันประหลาดใจ
ตอนนี้มันแตกต่างจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ในโลกที่ทุกอย่างตอนนั้นดูกระจัดกระจาย แต่ตอนนี้ทุกอย่างดูสมจริงมาก เนื้อสัมผัสของวัสดุ เสียงฝีเท้า ทั้งหมดให้ความรู้สึกราวกับกำลังฝันอยู่
ราวกับว่าพวกเขาได้ย้ายห้องปฏิบัติการในสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงไปยังยานอวกาศยังไงยังงั้น
เสียงและสัมผัสต่างๆ ไม่ได้เกิดจากอุปกรณ์ภายนอก
เช่นเดียวกับภาพที่พวกเขาเห็นด้วยตาของพวกเขาเอง ทุกสิ่งทุกอย่างถูกฉายเข้าในสมองของพวกเขาโดยตรง…
แน่นอนว่านอกจากวิวนอกหน้าต่างยานอวกาศแล้ว สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจมากที่สุดก็คือเสื้อเกราะบนตัว และปืนที่ห้อยอยู่รอบไหล่ของพวกเขา
ชุดเกราะไซไฟให้ความรู้สึกเหมือนจริงมาก แม้ว่าพวกเขาจะนอนอยู่ในห้องทดลองเล็กๆ แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหมือนอยู่ในสงครามจริงๆ
“ทำไมเกราะมันหนักจัง…” ชายร่างสูงพูด เขาขมวดคิ้วและพูดต่อ “มันต้องหนักอย่างน้อยห้าสิบกิโลแน่นอน”
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแรงโน้มถ่วงต่ำ แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความหนักของชุดเกราะที่สวมอยู่
น้ำหนักของมันทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยแต่ไม่สบายเท่าไหร่
การใช้อุปกรณ์ที่ไม่คุ้นเคยเป็นสิ่งที่อันตราย โดยน้ำหนักของมันที่อาจจะกลายเป็นปัญหาในสนามรบ
ชายร่างเตี้ยที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดขึ้น
“นี่มันกันกระสุนได้เหรอ?”
“ไม่…” ชายคนหนึ่งพูด เขามีปืนยาวพาดบ่า เขาพูดอย่างสงบ “มันดูเหมือนกับเอ็กโซสเกเลตัน…และเลนส์ใกล้ตามีหน้าจอโฮโลแกรมที่จะบอกวิธีใช้อาวุธที่คุณถืออยู่”
จู่ๆ ประตูห้องโดยสารก็เปิดออก
เมื่อหลี่เกาเหลียงและศาสตราจารย์ลู่เดินเข้ามา ทหารก็พากันหยุดพูดและแสดงความเคารพทันที
ลู่โจวพยักหน้าอย่างเชื่องช้าขณะที่เขามองไปที่หลี่เกาเหลียง
หลี่เกาเหลียงสูดหายใจเข้าลึกและเดินไปตรงไป เขามองดูพวกเขาทั้งหมดแล้วพูด
“ฉันรู้ว่าพวกนายทุกคนกำลังตกใจกัน…ซึ่งจริงๆ ฉันประหลาดใจมากกว่าพวกนายตอนได้เห็นพวกมันเสียอีก
“นี่เป็นเพียงการวอร์มเท่านั้น แต่ก็หวังว่าทุกคนจะตั้งใจเหมือนกับต่อสู้จริงๆ นะ!”
หลี่เกาเหลียงมองกลับไปที่ลู่โจว และกำลังสงสัยว่าเขาจะข้ามเรื่องไร้สาระทางทหารและเริ่มการฝึกได้เลยไหม
อย่างไรก็ตามเขาเห็นว่านักวิชาการลู่ดูสนใจและทึ่ง ราวกับว่านักวิชาการลู่ต้องการให้เขาพูดสุนทรพจน์ต่อเขา
หลี่เกาเหลียงหยุดชั่วครู่และในที่สุดก็หันกลับมา เขาพูดด้วยน้ำเสียงเข้มแข็ง
“…พันธมิตรของเราบนดาวรีชกำลังถูกโจมตีโดยกองกำลังที่เป็นศัตรู ภารกิจของเราคือไปให้ถึงหอสื่อสารที่ด่านหน้าอาณานิคม ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานของสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการสื่อสารปกติดี เราต้องกำหนดพิกัดสำหรับการโจมตีทางอากาศของอาวุธโคจร”
“คู่มือการใช้อุปกรณ์มีอยู่ในเอ็กโซสเกเลตัน กดปุ่มทางด้านขวาของช่องมองทางยุทธวิธีเพื่อเริ่มส่วนต่อประสานการควบคุมแบบโฮโลแกรม”
“ยานอวกาศของเราจะมาถึงที่ลงจอดในอีกยี่สิบนาที พวกนายมีเวลาสิบนาทีในการใช้อุปกรณ์ให้เป็น”
หลี่เกาเหลียงตั้งเวลาสิบนาทีบนนาฬิกาของเขา
หลี่เกาเหลียงยืนนิ่งและมองดูพวกนั้นในห้องโดยสาร จากนั้นเขาก็ตะโกนว่า “พร้อมหรือยัง!”
เหล่าทหารยืนตัวตรง
“ครับท่าน!”
หลี่เกาเหลียงหันกลับมา
“ไปลุยกัน!”
หลังจากที่กลุ่มคนออกจากกระท่อมแล้ว ลู่โจวก็ไปที่ศูนย์บัญชาการ
พนักงานที่นี่เป็น NPC ทั้งหมด และมีตรรกะพฤติกรรมที่เข้ารหัสอย่างง่ายๆ เอาไว้ พวกนั้นไม่ได้มองลู่โจวตอนที่เขาเดินเข้าไปในศูนย์บัญชาการด้วยซ้ำ เพราะพวกเขายังคง ‘ทำงาน’ ต่อไป
มันเหมือนกับว่าลู่โจวกำลังดูหนังอยู่
และก็นั่งเบาะแถวหน้าอีกด้วย
“…การดูภาพยนตร์ด้วยการจำลองภาพเสมือนจริงเป็นอะไรที่ดีจริงๆ คนดูนั้นสามารถมีส่วนร่วมในเรื่องโดยไม่กวนเนื้อเรื่องเลยสักนิด” ลู่โจวกล่าวขณะที่มองดูหน้าจอ ซึ่งกำลังแสดงให้เห็นว่าทหารกำลังก้าวเข้าไปในแคปซูลในอากาศ เขาพูดกับตัวเองว่า “ก็ไม่เลวนะ ฉันว่าฉันควรเขียนไอเดียนี้ลงไปด้วย”
กลุ่มทหารก้าวเข้าไปในห้องปลอดเชื้อ
ภายใต้คำแนะนำของเจ้าหน้าที่…หรือ NPC หลี่เกาเหลียงได้เชื่อมต่อระบบดำรงชีพกับเอ็กโซสเกเลตันของเขาอย่างรวดเร็ว
พูดตามตรงเขารู้สึกไม่ดีนิดหน่อย
เขาเป็นทหารที่มีประสบการณ์ แต่ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนเป็นทหารเกณฑ์ใหม่อีกครั้ง
ตอนนี้เขาได้ยินเสียงในหูของเขา
“ใกล้ถึงจุดลงในอีกสามสิบวินาที”
“…”
“ห้า”
“สี่”
“สาม”
“สอง”
“หนึ่ง”
การนับถอยหลังสิ้นสุดลง
พวกเขาได้ยินเสียงคลิกอู้อี้ และเริ่มรู้สึกถึงแรงดันขนาดใหญ่
“เข้าสู่วงโคจรสำเร็จ เริ่มยุทธวิธีทางอากาศได้”
“ขอให้โชคดี ทหาร! “
“ห้องโดยสารแยกออกจากกัน!”
ห้องโดยสารเริ่มร้อนขึ้น
เมื่อพวกเขาสัมผัสกับบรรยากาศก็มีแรงผลักดันให้พวกเขานั่งลง
หลี่เกาเหลียงขมวดคิ้ว
นี่มันให้ความรู้สึกที่เหมือนจริงเกินไป
ความรู้สึกของการลงจากอวกาศเหมือนของจริงมากๆ …
พวกเขาได้เดินทางมาหลายร้อยกิโลเมตรแล้ว เปลวไฟพ่นออกมาจากเครื่องเพื่อชะลอความเร็ว
เมื่อพวกมันอยู่ห่างจากพื้นผิวหนึ่งร้อยเมตร แคปซูลในอากาศก็ปล่อยระเบิดควันออกมา ระเบิดลงบนพื้นจนปกคลุมไปทั้งสนามรบ
แคปซูลลอยฟ้าตกลงบนพื้นขณะที่กลุ่มทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีก้าวออกจากประตูห้องโดยสาร จัดการกับอาวุธ และเปิดเครื่องสร้างภาพอินฟราเรดบนเลนส์ตามยุทธวิธี
อย่างไรก็ตามทุกอย่างกลับเงียบสนิท ไม่มีวี่แววของชีวิตใดๆ ที่นี่เลย
ทหารคนหนึ่งถือปืนยาวเล็งไปที่เงาไม่ไกล เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วถามผ่านช่องทางการสื่อสาร
“ท่านครับ ศัตรูของเราคือใครครับ? บ้าจริง…พืชพวกนี้คืออะไร ทำไมฉันไม่เคยเห็นมาก่อน”
หลี่เกาเหลียงมองไปที่เงาที่อยู่ใกล้ๆ และตรวจสอบแผนที่ของเขาในขณะที่เขาพูด “นี่มันเป็นมนุษย์ต่างดาว”
“มนุษย์ต่างดาว? ไอ้บ้าเอ๊ย!?”
ไม่มีเวลาให้คนเหล่านี้ได้ประหลาดใจ
ไม่นานก็มีเสียงหอนดังขึ้นมาจากที่ที่ห่างไกล
เสียงหอนดังทะลุแก้วหูของเขาทำให้หลังเย็นยะเยือก
พวกเขาได้ยินเสียงฝีเท้าเหมือนกับสัตว์ที่กำลังวิ่งผ่านป่ามาจากระยะไกล
ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นจุดสีแดงบนแผนที่ช่องมองภาพทางยุทธวิธี
พวกเขาสามารถเห็นกรงเล็บแหลมคมปรากฏขึ้นจากควัน
ทหารเตรียมปืนของพวกเขาพร้อมที่จะยิง รูม่านตาพวกเขาหดลง
ศัตรูคือ…
สวอร์มโฮสต์![1]
[1] เป้าหมาย: สายพันธุ์จากสตาร์คราฟต์
…………………