“เห็นนั่นไหม?”
“เห็นอะไรเหรอ?”
“สะพานไง…” เหอช่างเหวินชี้ด้วยมือขณะที่เขาพูด “สะพานที่นักวิชาการลู่พูดถึงน่ะ”
หานเมิ่งฉีวางนิ้วชี้บนคางและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็พูดว่า “ฉันไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ฉันเห็นคืออันเดียวกันกับที่ศาสตราจารย์ลู่กำลังพูดถึงหรือเปล่า…แต่ฉันคิดว่ามันคงคล้ายกันมั้ง”
เหอชางเหวินตกใจกับคำตอบของว่าหานเมิ่งฉีเพราะเขาคิดว่าเธอจะสับสนเหมือนกัน
“บ้าไปแล้ว…นี่คุณ…เข้าใจสิ่งที่เขาพูดจริงๆ เหรอ?”
หานเมิ่งฉีไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงตื่นเต้นมากขนาดนี้ แต่เธอก็พยักหน้าและพูดด้วยท่าทางแปลกๆ
“ใช่…ฉันเข้าใจนิดหน่อย อาจเป็นเพราะโปรเจกต์วิจัยที่ฉันเพิ่งทำมานี้”
เหอชางเหวิน “…โปรเจกต์วิจัยอะไรเหรอ?”
“สมการของการอยู่เหนือจำนวนเต็มบวกคี่บนฟังก์ชันซีตาของรีมันน์”
เหอชางเหวิน “…”
หานเมิ่งฉีเห็นเขาเงียบไป เธอจึงหยุดครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า “มีอะไรเหรอ?”
“เปล่าหรอก” เหอชางเหวินส่ายหัว และเริ่มสงสัยในชีวิตตัวเอง เขาพูดว่า “โปรเจกต์วิจัยของฉันก็มีความคล้ายคลึงกัน”
…
ในอีกมุมหนึ่ง…
ในห้องประชุมสำนักงานใหญ่ของสตาร์สกายเทคโนโลยี มีชายในชุดสูทกำลังยื่นเอกสารด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“เราได้แก้ไขข้อเสนอเดิมตามคำขอของคุณแล้วครับ ผมมั่นใจว่าการประชุมครั้งนี้จะน่าเป็นเรื่องที่ยินดีกว่าครั้งที่แล้วแน่นอน”
แม้ว่าเขาจะเป็นซีอีโอของเพนกวินก็ตาม แต่เขาก็ไม่ได้ดูถูกนักธุรกิจสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเลยสักนิด
เฉินยู่ซานหยิบเอกสารมาและอ่านเนื้อหา จากนั้นก็มีรอยยิ้มเล็กๆ เธอ
หม่าเถิงที่กำลังนั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอเฝ้าดูการแสดงออกทางสีหน้าของเธออย่างตั้งใจ
“ฉันอยากเปลี่ยนบางรายการ”
หม่าเถิงมีใบหน้าที่สง่างามหล่อเหลา แต่เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สบายๆ
“ว่ามาเลยครับ”
“ลบข้อตกลงพิเศษทั้งหมด ระบบการจำลองภาพเสมือนจริงของเราไม่ใช่แพลตฟอร์มสำหรับเพนกวินบริษัทเดียวเท่านั้น ฉันต้องการให้บริษัทของคุณร่วมมือกับเราในการรวบรวมข้อมูลผู้ใช้ในขณะที่ใช้เทคโนโลยีการจำลองภาพเสมือนจริงของเรามากกว่า นั่นก็คือการปรับปรุงระบบการจำลองภาพเสมือนจริง”
แม้ว่าหม่าเถิงจะผิดหวังเล็กน้อยที่พวกเขาไม่สามารถบรรลุข้อตกลงผูกขาดเอาไว้ได้ แต่เขาก็ดีใจที่เขาไม่ได้ทำให้ซีอีโอของสตาร์สกายเทคโนโลยีต้องขุ่นเคือง
เทคโนโลยียังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แถมตัวเกมเองก็ยังไม่ได้มีอะไรเลย เกมไหนที่สามารถให้ประสบการณ์เสมือนจริงได้ มันจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากทุกที่
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการรวบรวมข้อมูลผู้ใช้ เพราะหากสตาร์สกายเทคโนโลยีต้องการที่นั่งประธานกรรมการของเพนกวินแล้ว พวกเขาคงจะพิจารณาอย่างจริงจังแน่นอน
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าสตาร์สกายเทคโนโลยีไม่สนใจที่จะควบคุมเพนกวินเลยสักนิด
สำหรับการรวบรวมข้อมูลผู้ใช้…
นี่เป็นเรื่องกล้วยๆ สำหรับบริษัทอินเทอร์เน็ตแบบพวกเขา
จะมีใครที่ตั้งเป้าโฆษณาโดยไม่รวบรวมข้อมูลผู้ใช้กันล่ะ? แล้วพวกเขาบริการที่ดีขึ้นแก่ผู้ใช้ได้อย่างไร?
หม่าเถิงพยักหน้าและยิ้ม
“ถ้าแค่นั้น เราก็เห็นด้วยกับข้อเสนอของคุณ”
เฉินยู่ซานยิ้มแล้วพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้พวกเราประสบความสำเร็จในการร่วมมือนะคะ”
การเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงได้ทันที
พวกเขาจะลงนามในสัญญาเฉพาะภายในสองสามวันหลังจากที่มีการร่างใหม่
หม่าเถิงยืนขึ้นและยิ้ม เขาจับมือกับซีอีโอเฉินขณะที่เขาพูด “ผมเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับคุณมามาก ในที่สุดผมก็จะได้รับเกียรติที่ได้มาเจอคุณแบบตัวต่อตัวสักที”
“โอ้ คุณชมกันเกินไปแล้วนะคะ”
“ผมได้พบกับผู้บริหารองค์กรจำนวนมาก แต่มีไม่กี่คนเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จได้ตั้งแต่อายุยังน้อยแบบคุณ” หม่าเถิงยิ้มและพูดว่า “น่าเสียดายที่ผมไม่สามารถพบกับอัจฉริยะคนอื่นๆ ในบริษัทของคุณ”
เฉินยู่ซานยิ้มและพูดว่า “คุณกำลังหมายถึงนักวิชาการลู่ใช่มั้ย?”
“ใช่…” หม่าเถิงพยักหน้าและพูดว่า “ผมได้ยินว่าเขากลับมาจากปักกิ่งแล้ว ผมเลยสงสัยว่าฉันจะมีโอกาสพบเขาสักครั้งไหมนะ?”
เฉินยู่ซาน “ฉันจะส่งข้อความของคุณถึงเขาให้นะคะ แต่อย่าหวังเลยจะดีกว่า”
หม่าเถิงกล่าวว่า “เขาไม่ว่างเหรอครับ?”
“ค่ะ…” เฉินยู่ซานพยักหน้าและพูดว่า “ที่สำคัญกว่านั้นคือเขาไม่สนใจอะไรเลยที่เกี่ยวกับธุรกิจ ยกเว้นว่าคุณจะมีเรื่องที่น่าสนใจจริงๆ”
หลังจากที่หม่าเถิงออกไปจากอาคาร เฉินยู่ซานก็กลับไปที่ออฟฟิศของเธอและโทรหาลู่โจวทันที
เมื่อต่อสายได้สำเร็จ เธอก็ยิ้ม
“ฉันเอง ว่างรึเปล่า?”
ปลายสายส่งเสียงดังราวกับอยู่ที่โรงอาหาร
เฉินยู่ซานเดาได้ว่าเขาอาจจะกำลังกินอยู่
และเดาได้ว่าเขากำลังกินอะไรอยู่ด้วย
“ยังเลย แต่อีกไม่กี่วันฉันคงว่าง”
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่รบกวนนายเรื่องการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และคำเชิญของซีอีโอหม่านะ”
“ซีอีโอหม่า?”
ซีอีโอ “ซีอีโอของเพนกวินน่ะ เขาสนใจอยากจะคุยกับนาย”
ลู่โจวที่กำลังกินข้าวเนื้อย่างอยู่ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ทำไมเขาถึงสนใจฉันล่ะ?”
“นายนี่ถ่อมตัวเกินไปนะ มีคนมากมายที่คิดว่านายน่าสนใจ” เธอกระแอมในลำคอและเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจ “เราเพิ่งบรรลุข้อตกลงกับเพนกวินไปเมื่อสักสิบนาทีที่แล้ว ตามสัญญาแล้วพวกเขาจะช่วยเราในการรวบรวมข้อมูลผู้ใช้ และอนุญาตให้เราแก้ไขวิดีโอเกมและผลิตภัณฑ์อื่นๆ…”
เฉินยู่ซานใช้เวลาประมาณห้านาทีในการพูดคุยเกี่ยวกับการเจรจากับเพนกวินในช่วงสองวันที่ผ่านมา
ส่วนลู่โจวก็ฟังเฉินยู่ซานอย่างเงียบๆ เขาพยักหน้าและพูด
“ทำได้ดีมาก”
เฉินยู่ซานยิ้มอย่างภาคภูมิใจและพูดว่า “แน่นอน ฉันรู้”
ลู่โจวยิ้มและกล่าวว่า “เราสามารถใช้สิ่งนี้เป็นแม่แบบในการเจรจากับบริษัทอินเทอร์เน็ตอื่นๆ ได้นะ และก็มีบางอย่างที่ฉันต้องการให้เธอทำ”
เฉินยู่ซานถาม “อะไรเหรอ?”
ลู่โจว “เราต้องสร้างศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์”
ศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์?
เมื่อเฉินยู่ซานได้ยินสิ่งนี้ เธอก็นิ่งไปครู่หนึ่ง
“…สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงไม่มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์อยู่แล้วหรอกเหรอ?”
ลู่โจวส่ายหัวและพูดว่า “นั่นเอาไว้ใช้สำหรับใช้ทดลอง แถมมันยังเล็กเกินไปด้วย ฉันต้องการศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์แบบเชิงพาณิชย์ที่ใช้เทคโนโลยีการประมวลผลแบบขนานจำนวนมากเพื่อประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายการจำลองภาพเสมือนจริง ตอนนี้เรากำลังทำงานกับบริษัทอื่นและทำการค้าเทคโนโลยีของเรา เราเองก็ไม่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ของสถาบันได้ตลอดใช่ไหมล่ะ? มันไม่เหมาะสมที่จะใช้ทรัพยากรการวิจัยจนหมด”
“เข้าใจแล้ว” เฉินยู่ซานพยักหน้าและพูดว่า “เราต้องการพลังประมวลผลมากกว่านี้เหรอ?”
ลู่โจวพยักหน้า
“ใช่”
“นอกจากนี้ นี่คือการพิสูจน์ระบบของเราในอนาคตอีกด้วย”
เมื่อเทียบกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบดั้งเดิมบนเครือข่ายระนาบ ระบบการจำลองภาพเสมือนจริงได้ปรับปรุงวิธีที่ผู้คนโต้ตอบผ่านอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังเพิ่มการใช้ข้อมูลและการคำนวณแบบทวีคูณขึ้นไปอีก
ลู่โจวได้คุยกับศาสตราจารย์ลูเมียร์เกี่ยวกับปัญหานี้ และพวกเขาทั้งสองเห็นพ้องกันว่าพวกเขาไม่สามารถรักษาการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเครือข่ายการจำลองภาพเสมือนจริงได้
ตอนนี้พวกเขาสามารถใช้เซิร์ฟเวอร์เชิงพาณิชย์ได้แล้ว แต่จะต้องอัปเกรดเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ภายในสองปี
และในอีกสิบปีข้างหน้า มันก็อาจจะเป็นแค่การประมวลผลแบบควอนตัมในตำนานที่สามารถประมวลผลแบบขนานและแบบมัลติเธรด ซึ่งต้องเป็นทั้งสองอย่างนี้เท่านั้นที่จะสามารถคำนวณได้
และมันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่จะใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลคำนวณได้
ทุกคนจะต้องมีเซิร์ฟเวอร์ระดับองค์กร ซึ่งจำกัดความพร้อมในใช้งานเทคโนโลยีนี้
หลังจากที่ลู่โจวได้คุยกันแล้ว พวกเขาก็ได้ตัดสินใจว่าวิธีที่ดีที่สุดคือการใช้ระบบคลาวด์คอมพิวติงเพื่อจัดการกับการคำนวณ ในขณะที่ผู้ใช้เพียงต้องการรับข้อมูลที่คำนวณได้เท่านั้น
ดังนั้นสิ่งเดียวที่ผู้ใช้จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับเครือข่ายการจำลองภาพเสมือนจริงคือหมวกนิรภัยและอินเทอร์เน็ต
อันที่จริงการจัดเรียงนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เครือข่ายเสมือนจริงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอนาคตของเครือข่ายระนาบอีกด้วย
ด้วยซอฟต์แวร์ที่มีซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ความต้องการในการคำนวณมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน วิธีเดียวที่จะปรับปรุงอุปกรณ์ส่วนบุคคลคือการละทิ้งหน่วยประมวลผล หรือแม้แต่ฮาร์ดไดรฟ์ และทำทุกอย่างในระบบคลาวด์อย่างเดียว
ดังนั้นใครก็ตามที่สามารถให้บริการคลาวด์คอมพิวติงได้ก็จะสามารถควบคุมเครือข่ายการจำลองภาพเสมือนจริงได้ทั้งหมด
มันน่าเชื่อถือและแข็งแกร่งกว่าการมีสิทธิบัตรเสียอีก
ไม่ว่าจะอีกห้าสิบหรือร้อยปีข้างหน้า ตราบใดที่สตาร์สกายเทคโนโลยีได้ควบคุมศูนย์คลาวด์คอมพิวติงแล้วล่ะก็ ยังไงซะพวกเขาก็จะควบคุมเครือข่ายการจำลองภาพเสมือนจริงได้ตลอดไป…
…………………………………