ในเขตชานเมืองของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กบนฝั่งแม่น้ำฟอนตากา
ชายชราสวมเสื้อกันลมนั่งอยู่บนม้านั่ง เขามองดูนาฬิการาวกับว่าเขากำลังรออะไรบางอย่าง
ไม่นานก็มีวัยรุ่นสองคนสวมหมวกเบสบอลเดินผ่านเขาขณะเลี้ยงลูกบาสเกตบอลไปด้วย หนึ่งในนั้นพูดกับอีกคนหนึ่ง
“เคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการทดสอบรอบพิเศษของการจำลองภาพเสมือนจริงไหม?”
“อือ ในจินหลิงใช่ไหม? บ้าเอ๊ย ฉันอยากไปจัง!”
“ลืมมันไปเถอะ คนอย่างเราจะไม่มีวันได้รับโอกาสแบบนั้นหรอก ฉันไม่เชื่อว่าพวกเขากำลังเลือกคนแบบสุ่ม ได้ดูวล็อกของยูทูบเบอร์ เจมรอฟแล้วหรือยัง? เขาบอกว่าถ้าเทคโนโลยีการจำลองภาพเสมือนจริงจากสตาร์สกายเทคโนโลยีเหมือนกับการ์ตูนเรื่องซอร์ดอาร์ตออนไลน์ เขาจะกินคีย์บอร์ดของเขา!”
“ฮ่าฮ่า แล้วเขากินมันรึเปล่าล่ะ?”
“ไม่รู้ แต่ฉันได้ยินมาหลังจากที่เขากลับจากจีน เขาสั่งเค้กคีย์บอร์ดจากร้านเบเกอรี่มานะ”
“ฮ่าๆๆๆ!”
เป็นบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์ เสียงหัวเราะและการสนทนาของชายหนุ่มทั้งสองค่อยๆ หายไป
ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์มองไปที่ทิศทางของพวกเขาและขมวดคิ้ว
จินหลิง?
เขาไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ในย่านชานเมืองเช่นนี้
ฟาลติ้งส์คิดเรื่องของลู่โจว และไม่นานบนใบหน้าของเขาก็แสดงออกมาว่ากำลังคิดถึงใครบางคนอยู่
เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการจำลองภาพเสมือนจริง หรือยูทูบเบอร์
ตั้งแต่มีสมาร์ทโฟนออกมา คนรุ่นเบบี้บูมเมอร์อย่างเขาก็เริ่มล้าหลังยุคใหม่แห่งเทคโนโลยีไปแล้ว แม้ว่าเขาอยากจะตามให้ทัน แต่เขาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะทำเช่นนั้น
ทันใดนั้น ชายวัยกลางคนที่มีเครารกรุงรังถือถุงช้อปปิ้งเดินไปที่ม้านั่งและพูดว่า “คุณมาจริงๆ แฮะ”
ฟาลติ้งส์มองมาที่เขาและพูดว่า “ใช่ ทำไมเหรอ?”
“ไม่มีอะไร ผมแค่แปลกใจที่ได้เห็นฟาลติ้งส์ผู้ยิ่งใหญ่ต่อหน้าเฉยๆ น่ะ…”
ใบหน้าของเพเรลมานถูกบังด้วยขนมปังบาแกตต์ขนาดใหญ่ในถุงที่ถือมา เขาหยิบกุญแจออกมาแล้วโยนมันไปในมือของฟาลติ้งส์ เขากล่าวว่า “บ้านของผมค่อนข้างรก หวังว่าคุณคงไม่คิดมากนะ เดี๋ยวช่วยเปิดประตูให้ผมหน่อยได้ไหม…”
“อืม” ฟาลติ้งส์พยักหน้าและพูดว่า “ให้ช่วยอะไรอีกไหม?”
เพเรลมานส่ายหัวและพูด
“ไม่เป็นไร ผมไม่ต้องการคนแก่มาขนของกินก็เท่านั้น”
ทั้งสองเดินไปเขตที่อยู่อาศัยและไม่นานก็ถึงอพาร์ตเมนต์ที่ดูราคาถูก
ไม่มีใครคาดคิดว่านักคณิตศาสตร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกจะอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ขนาดยี่สิบตารางเมตร ซึ่งเพื่อนบ้านเป็นชาวรัสเซียสูงอายุที่อาศัยในสวัสดิการหรือไม่ก็คนรุ่นมิลเลนเนียลที่ตกงาน
แต่เพเรลมานก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิด
หลังจากสละรางวัลรางวัลมิลเลนเนียม เขาก็ถูกกล่าวหาว่าอาศัยเงินบำนาญของแม่เพื่อซื้อของกินของใช้ เขาสับสนระหว่างอุดมการณ์และความเป็นจริง โดยเขาเลือกที่จะออกจากชุมชนคณิตศาสตร์ที่เหนือหลักการทางศีลธรรมอันแข็งแกร่งของเขา เขากลับไปใช้รูปแบบการวิจัยคณิตศาสตร์ในศตวรรษที่ 19…
ซึ่งก็คือการจะอยู่ในที่ลี้ภัยถาวรปิดกันการติดต่อสื่อสาร
บางทีเขาก็คล้ายกับลู่โจว
ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือลู่โจวจะเผยแพร่ผลงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการ และหากเขาขี้เกียจเกินกว่าจะส่งเอกสาร เขาก็จะอัปโหลดตัวอย่างไว้ล่วงหน้า อย่างไรก็ตามเพเรลมานไม่ได้อัปโหลดผลการวิจัยของเขามานานมากแล้ว
เขาวางของใช้ในห้องครัวและเช็ดมือที่เสื้อตัวเอง จากนั้นก็เข้าไปในห้องนั่งเล่นเล็กๆ และกำลังจะยื่นน้ำหรือชาให้ฟาลติ้งส์ แต่ทันใดนั้น เขาก็สังเกตเห็นเอกสารบนโต๊ะ
เขาดูสนใจและหยิบเอกสารขึ้นมาแล้วเปิดดู
“มันคืออะไร…”
“บทความเกี่ยวกับทฤษฎีแรงจูงใจ” ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์กล่าวขณะหยิบขวดสุญญากาศออกจากเสื้อกันลม เขาเทน้ำร้อนลงในถ้วยแล้วพูดว่า “ผู้เขียนเสนอแนวคิดที่น่าสนใจมากในการรวมทฤษฎีโคโฮโมโลยีทั้งหมดเข้าไว้ในวัตถุเรขาคณิตเชิงนามธรรม”
เพเรลมานพูดขึ้นว่า “นั่นเป็นความคิดที่บ้ามาก”
“ใช่ มันบ้ามากๆ”
เพเรลมาน “มันเหมือนกับทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่ทางคณิตศาสตร์เลยไม่ใช่เหรอ?”
“นั่นก็ใช่”
“ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีนักวิชาการคนหนึ่งกำลังทำสิ่งนี้… รอสักครู่นะ” เพเรลมานกล่าวขณะที่เขาอ่านเอกสารนั้น คิ้วของเขาขมวดขณะที่เขาพูด “นี้มัน… ดูค่อนข้างคุ้นเคยจังเลยนะ”
ฟาลติ้งส์ยิ้ม ซึ่งมันเป็นภาพที่หายากสำหรับผู้ชายที่จริงจังอย่างเขา
“ดูเหมือนจะสังเกตได้แล้วสินะ”
เพเรลมานกล่าวว่า “ลู่โจวเหรอ?”
ฟาลติ้งส์พยักหน้าและพูด
“ใช่”
เขาจิบน้ำร้อนและพูดว่า “เมื่อสามวันก่อนเขาอัปโหลดบทความนี้ไปยัง Inventiones Mathematicae ผมไม่รู้ว่าเขาและเลขาธิการสหภาพคณิตศาสตร์ระหว่างประเทศได้ทำข้อตกลงในการเผยแพร่ไปยัง Inventiones Mathematicae หรือเปล่า แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น”
เพเรลมานกล่าวว่า “ประเด็นก็คือว่าเขาได้แก้ไขรูปแบบที่อ่อนแอของการคาดเดามาตรฐานของก็อดเทนดิก รวมถึงการหาโครงสร้างแรงจูงใจของวงแหวนโคโฮโมโลยี”
“ใช่เลย” ฟาลติ้งส์พยักหน้าและพูดว่า “ผมคิดว่าผมถูกนะ คุณเป็นคนที่สมบูรณ์แบบในการทบทวนบทความนี้”
เพเรลมานมองเอกสารในมือด้วยใบหน้าที่ว่างเปล่า
“คุณคงไม่ได้มารัสเซียเพียงแค่ขอให้ผมทบทวนเอกสาร Inventiones Mathematicae สินะ ถ้าแค่นี้คุณส่งอีเมลถึงผมก็ได้”
ฟาลติ้งส์พยักหน้าและกล่าวว่า “แน่นอน ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อแค่เรื่องนี้”
เพเรลมานวางกระดาษลงและไม่ได้พูดอะไร เขารอให้ชายตรงหน้าพูด
ฟาลติ้งส์พูดตรงๆ โดยไม่อ้อมค้อมใดๆ “มาที่มหาวิทยาลัยบอนน์”
เพเรลมานพูดโดยไม่ลังเล
“ไม่”
ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์เมินคำตอบของเขาและกล่าวต่อว่า “โลกคณิตศาสตร์ได้มาถึงทางแยกที่สำคัญแล้ว ตัวเลขและเรขาคณิตจะรวมกันเป็นรูปแบบนามธรรมเดียว ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าพรุ่งนี้พีชคณิตและเรขาคณิตจะรวมกันเป็นหนึ่ง แต่มันก็อาจจะไม่รวมกันได้ก็ได้”
เพเรลมานพึมพำ “ลู่โจวไม่ได้ทำงานในโปรเจกต์วิจัยนี้เหรอ? ปล่อยให้เขาทำไปเถอะ ไม่มีอะไรที่เขาแก้ไม่ได้หรอก”
“นั่นไม่ก็ไม่เสมอไป เมื่อเจ็ดปีที่แล้วเขาพบจุดสูงสุดที่มีลักษณะเฉพาะเจ็ดร้อยห้าสิบจิกะตรอนโวลต์ที่เซิร์น เขาไม่สามารถให้คำอธิบายทางจุดสูงสุดนี้ได้”
เพเรลมาน “ก็นั่นมันฟิสิกส์ แต่นี่เป็นคณิตศาสตร์”
“ใช่ นั่นคือฟิสิกส์” ฟาลติ้งส์กล่าว “แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือเขาไม่ควรทำโปรเจกต์นี้คนเดียว”
“เราไม่ควรคาดหวังอนาคตทั้งหมดไว้กับเขาคนเดียว ถ้าเราไม่ช่วยเหลือตัวเอง โลกวิชาการก็จะไม่มีวันเติบโต”
ฟาลติ้งส์มองไปที่ชายตรงหน้าและพูดอย่างจริงใจ
“โรงเรียนแห่งความคิดของเบอร์บากิต้องการความช่วยเหลือจากคุณ โลกคณิตศาสตร์ทั้งโลกต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”
“ในตอนนี้มันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยู่เหนือการควบคุมของผม ผมหวังว่าคุณจะเข้ามามีส่วนร่วมในสิ่งที่คุณหลงใหลนะ”
เพเรลมานมองดูเอกสารบนโต๊ะและครุ่นคิด
“… ขอผมคิดดูก่อนนะ”
เขาหยิบเอกสารขึ้นมาแล้วพูดว่า “ขอผมอ่านให้จบก่อนนะ”
………………