สตาร์สกายเทคโนโลยีได้เริ่มออกมาตอบโต้บ้างแล้ว
หรือถ้าพูดให้ถูก สตาร์สกายเทคโนโลยีไม่ได้เป็นผู้ทำ แต่เป็นกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐต่างหาก
หลังจากการสอบสวนสามวันเต็ม พวกเขาได้รวบรวมหลักฐาน เช่น บันทึกธนาคาร บันทึกการสนทนาในการสื่อสาร ข้อมูลการท่องเว็บ ฯลฯ ทีมสืบสวนได้รวบรวมข่าวกรองที่มีมากเพียงพออย่างรวดเร็วเพื่อการทำคดี
สายลับได้พบหยางเฟยเฟยและเชิญเธอไปที่ออฟฟิศขณะที่เธอกำลังเดินทางกลับบ้านหลังเลิกงาน เขาขอคุยกับเธอ
“คุณต้องการอะไร?”
ชายคนนี้อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติ ดังนั้นหยางเฟยเฟยจึงมีอาการกลัวเล็กน้อย
อย่างแรกเธอกลัวอำนาจ แต่อีกอย่างหนึ่งก็คือเธอรู้ว่าเธอมีความผิด
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเจ้าหน้าที่นั้นสุภาพมากๆ เธอจึงคิดว่ากระทรวงนั้นไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะจับกุมเธอได้แน่นอน เธอจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ไม่ต้องกลัวนะครับ เราแค่” เจ้าหน้าที่ที่นั่งตรงข้ามเธอพูดขึ้น เขารู้ว่าเธอแกล้งทำเป็นใบ้อยู่ ดังนั้นเขาจึงยิ้มและพูดว่า “ถ้าคุณบริสุทธิ์ คุณก็ไม่มีอะไรต้องกังวลนะครับ”
หยางเฟยเฟยกล่าวว่า “หมายความว่าไงคะ? ฉันไม่รู้เรื่อง!”
“แน่นอนว่าสิทธิของคุณได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายครับ แต่มันก็อยู่ภายใต้หลักฐานที่ว่าหากคุณเป็นผู้บริสุทธิ์จริงๆ คุณหยาง ผมอยากจะถามเกี่ยวกับบล็อกในบัญชีเว่ยป๋อของคุณที่คุณอ้างถึง เช่น ‘การทดลองของสตาร์สกายเทคโนโลยีนั้นไร้มนุษยธรรม’ ‘สถานะอยู่เบื้องหลังการทดลองที่ชั่วร้ายอยู่’ และ ‘ระบบแฟนท่อมนั้นจะทำลายสมองของคุณ’…สิ่งเหล่านี้เป็นการอ้างที่ถูกต้องแล้วใช่มั้ยครับ?”
“มีปัญหาอะไรเหรอคะ?” หยางเฟยเฟยเดินไปมาบนเก้าอี้ของเธอและพูดอย่างประหม่าว่า “ไม่สำคัญว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือเปล่า แต่มันคือสิ่งที่ฉันรู้สึกค่ะ ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดเลยอย่างนั้นเหรอคะ?”
“เสรีภาพในการพูดไม่ได้ปกป้องคุณจากการหมิ่นประมาทและการใส่ร้ายป้ายสีครับ คุณมีสิทธิ์พูด แต่สตาร์สกายเทคโนโลยีเองก็มีสิทธิ์ที่ปกป้องชื่อเสียงของพวกเขาเช่นกัน จากที่เราทราบมา หลังจากการทดสอบครั้งนั้นสตาร์สกายเทคโนโลยีได้จัดให้มีการตรวจสุขภาพสำหรับคุณแล้วและทุกอย่างก็ปกติดี คุณเซ็นรายงานทางการแพทย์ด้วยใช่ไหมครับ?”
หัวใจของหยางเฟยเฟยหล่นลงพื้นทันที เธออธิบายอย่างรวดเร็วว่า “ในตอนนั้นฉันรู้สึกปกติ แต่หลังจากที่ฉันกลับถึงบ้าน สิ่งต่างๆ กลับเปลี่ยนไป—”
เจ้าหน้าที่ “แล้วคุณมีอาการประสาทหลอนไหมครับ?”
หยางเฟยเฟยพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ค่ะ”
ตัวแทนยิ้มและพูดว่า “แต่คุณยังไปทำงานอยู่อย่างนั้นเหรอครับ?”
หยางเฟยเฟย “ก็ฉันเป็นแค่คนธรรมดา ฉันต้องหากเงินเพื่อใช้จ่ายนี่คะ”
เจ้าหน้าที่ยิ้มให้
“งั้นถ้าคุณคิดว่าคุณแค่คนธรรมดา งั้นสิ่งที่ผมสนใจคือสตาร์สกายเทคโนโลยีได้เสนอให้จ่ายเงินจำนวนหนึ่งแสนหยวนเป็นค่าชดเชยแล้ว แต่คุณก็ปฏิเสธและยืนกรานที่จะดำเนินคดีต่อไป คุณเผยแพร่ข้อมูลเท็จบนอินเทอร์เน็ตและทำให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อของเรา คุณทำให้ภาพลักษณ์องค์กรของสตาร์สกายเทคโนโลยีกำลังเสื่อมเสีย”
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนปกติจะทำนะครับ”
หยางเฟยเฟยพูดอย่างประหม่า “ทำไมล่ะ! ฉัน…ฉันแค่อยากให้ทุกคนฟังฉันก็เท่านั้น! ”
เจ้าหน้าที่ไม่สนใจเธอ และพูดต่อว่า “หลังจากที่สตาร์สกายเทคโนโลยีร่วมมือกับเรา เรารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ”
“แล้วเราก็ได้ตรวจสอบบัญชีของคุณและพบสิ่งที่น่าสนใจเข้า เงินสกุลต่างประเทศจำนวนมากถูกโอนมายังบัญชีของคุณจากแหล่งที่ไม่รู้จัก”
เขาเปิดเอกสารในมือแล้วพูดว่า “ที่น่าสนใจกว่านั้นคือบัญชีต่างประเทศที่ให้เงินกับคุณนั้นเป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงที่ต่อต้านจีนจากต่างประเทศด้วย พวกเราได้เฝ้าดูพวกเขามานานแล้วและองค์กรนี้เรียกว่า NED เอาเป็นว่ามันไม่ใช่เพื่อการกุศลน่ะครับ”
ใบหน้าของหยางเฟยเฟยเริ่มเปลี่ยนไป
เธอประเมินอำนาจของสตาร์สกายเทคโนโลยีน้อยเกินไป เธอไม่คิดว่ารัฐจะจริงจังกับเรื่องนี้มากขนาดนี้
ตอนนี้เธอคิดว่าทั้งหมดที่เป็นแบบนี้เพราะเธอไปฟ้องบริษัทเทคโนโลยีนี้เข้า แม้ว่าบริษัทนี้จะเป็นบริษัทที่ทรงพลัง แต่เธอก็ไม่ได้คิดว่ามันจะมาไกลขนาดนี้
ตอนนี้กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐกำลังสอบสวนเธออยู่ และเธอก็รู้สึกหวาดกลัวมาก
“ฉัน…ฉันขอสารภาพ มีคนมาพบฉันและบอกว่าพวกเขาจะให้ความยุติธรรมกับฉัน แล้วพวกเขาก็บอกว่าจะจ่ายเงินให้ฉัน ฉันขอโทษ โอเคไหม?”
ตำรวจรุ่นน้องที่นั่งอยู่ข้างๆ ยิ้มและพูดขึ้น
“ถ้าขอโทษแล้วมันหายง่ายๆ ตำรวจจะมีประโยชน์อะไรล่ะครับ?”
หยางเฟยเฟยกำลังจะร้องไห้จนแทบอยากจะฆ่าตัวตาย
เธอเกี่ยวข้องกับองค์กรต่อต้านจีนในต่างประเทศและนี่ไม่ใช่แค่อาชญากรรมของพนักงานออฟฟิศทั่วไปอีกต่อไปแล้ว
แม้ว่าเธอจะไม่ถูกตั้งข้อหาจารกรรม แต่พวกเขาก็สามารถเอาเธอเข้าคุกได้หลายปีแน่นอน
“ฉันจะ…ฉันจะคืนเงินให้นะคะ!”
“นี่ไม่ใช่การเจรจา แต่ให้ผู้พิพากษาเป็นผู้ตัดสิน” เจ้าหน้าที่บอกเธออย่างจริงจัง “แต่ถ้าคุณร่วมมือกับเรา คุณก็อาจจะรอด”
หยางเฟยเฟยพูดทันที
“ได้เลยค่ะ! ฉันจะทำทุกอย่างให้เลย!”
เจ้าหน้าที่ถอนหายใจและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“งั้นใช้บัญชีเว่ยป๋อของคุณยอมรับในที่สาธารณะว่าคุณถูกจ้างมาและชี้แจงข่าวลือทั้งหมดด้วยครับ
“เราจะทำงานร่วมกับสตาร์สกายเทคโนโลยีและถ้าหากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี พวกเขาอาจจะไม่ฟ้องคุณ
“สำหรับเงินผิดกฎหมายพวกนั้น เราจะขอยึดเอาไว้”
…
ที่จริงแล้วเฉินยู่ซานได้เตรียมแผนรับมือไว้แล้วก่อนที่จะปล่อยระบบแฟนท่อมออกไป
อย่างไรก็ตาม หากสตาร์สกายเทคโนโลยีต้องการแยกเครือข่ายการจำลองภาพเสมือนจริงออกจากอินเทอร์เน็ตล่ะก็ พวกเขาจะต้องได้รับปฏิกิริยาตอบรับที่รุนแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน
เฉินยู่ซานรู้ดีว่ามันกำลังมา
เมื่อพวกเขาสร้างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญกับระบบแฟนท่อม หรือแสดงว่าระบบแฟนท่อมนั้นมีมูลค่าการค้า ต่างประเทศก็จะพยายามติดป้ายกับพวกเขาว่ามัน ‘ผิดกฎหมาย’ และ ‘ชั่วร้าย’ อย่างแน่นอน โดยหวังว่าจะซื้อเวลาให้บริษัทเทคโนโลยีของพวกเขาตามทัน
แต่สตาร์สกายเทคโนโลยีไม่ได้รีบร้อนอะไร พวกเขาชั่งน้ำหนักปัจจัยต่างๆ เช่น ความเสี่ยงและผลกำไรโดยคำนึงถึงตลาดเศรษฐกิจในอนาคต ในรายการลำดับความสำคัญการเจาะตลาดอเมริกานั้นค่อนข้างต่ำเลยทีเดียว
เพราะไม่มีทางที่บริษัทและประเทศอื่นๆ จะพัฒนาระบบเสมือนจริงที่เทียบได้กับแฟนท่อมได้เลย หรืออย่างน้อยๆ ก็ภายในอีกหลายปีข้างหน้า
ดังนั้นเฉินยู่ซานจึงยังไม่ต้องกังวลอะไร
สตาร์สกายเทคโนโลยีก็ไม่กังวลเช่นกัน
สิ่งที่น่ากังวลกว่าก็คือคนที่ไม่สามารถรับมือกับเทคโนโลยีได้ หรือคนที่กำลังรอรับเทคโนโลยีนี้อยู่…
ณ เขตพื้นที่ไฮเทค เมืองจินหลิง
เฉินยู่ซานได้รับโทรศัพท์จากกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐขณะที่เธอกำลังนั่งอยู่ที่ออฟฟิศ
“นางสาวหยางได้ถอนฟ้องและตกลงที่จะร่วมมือกับเราแล้วครับ เธอจะแก้ความผิดพลาดที่เธอก่อเอาไว้”
ถึงแม้ว่าเฉินยู่ซานรู้แล้วว่ามันจะเป็นเช่นนี้ แต่เธอก็ยังรู้สึกโล่งใจ
“ฉันไม่เข้าใจ ทำไมคนอื่นถึงชอบทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้กันนะ”
“เพราะมันเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่จะถูกล่อลวง แล้วคุณคิดที่จะฟ้องเธอไหมครับ?”
เฉินยู่ซานคิดกับตัวเองเงียบๆ ไม่นานก็ตอบ “เธอได้ชดใช้ความผิดของเธอเรียบร้อยแล้ว ฉันคิดว่ามันไม่จำเป็นหรอก ฉันมั่นใจว่ารัฐจะตัดสินอย่างยุติธรรม”
เจ้าหน้าที่จากกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐพยักหน้า
“…นี่เป็นคำแนะนำของเรา หากคุณฟ้องเพื่อเรียกค่าชดเชย เธออาจจะไม่สามารถจ่ายค่าปรับได้ นอกจากนี้เรายังต้องการให้เธอร่วมมือกับการสอบสวนติดตามผลของเราอีกด้วย”
เฉินยู่ซานยิ้ม “อืม ขอบคุณมากนะคะ”
“ด้วยความยินดีครับ
“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับใช้ชาติและนำความยุติธรรมกลับคืนมา!”
…
หยางเฟยเฟย เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายรายนี้ ได้ยอมรับอย่างเต็มใจในสื่อออนไลน์ว่าเธอได้ทำข่าวปลอมขึ้นมา และเธอยังแนบหลักฐานบันทึกการติดสินบนของเธออีกด้วย ซึ่งมันเปลี่ยนความคิดเห็นของสาธารณชนไปโดยสิ้นเชิง ความตื่นตระหนกอย่างไร้เหตุผลของผู้คนที่มีต่อระบบแฟนท่อมนั้นได้กลายเป็นการอภิปรายเกี่ยวกับองค์กรที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด
หยางเฟยเฟยรู้ว่าผู้คนจะเข้ามาโจมตีเธอหลังจากเธอออกมาขอโทษ ดังนั้นเธอจึงลบบัญชีเว่ยป๋ออย่างรวดเร็ว ส่วนสตาร์สกายเทคโนโลยีนั้น พวกเขากล่าวว่าเพราะหยางเฟยเฟยได้ทราบถึงความผิดที่เธอมีแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงจะไม่ฟ้องเธอ
ความวุ่นวายของความคิดเห็นของประชาชนในที่สุดก็สิ้นสุดลง
สำหรับการอภิปรายสาธารณะระหว่างประเทศ …
สตาร์สกายเทคโนโลยีไม่เคยเอาจริงเอาจังกับพวกเขาขนาดนี้มาก่อน
พวกเขายังไม่จำเป็นต้องสนใจตลาดต่างประเทศในตอนนี้ก็ได้
พวกเขาไม่ใช่คนที่ควรกังวลอะไร
เพราะว่ามีการประชุมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ขึ้นที่ศูนย์การประชุม และนิทรรศการนานาชาติเซี่ยงไฮ้โดยมีบริษัทมากกว่าห้าร้อยแห่งเข้าร่วม…
………………………
