หลังจากที่ลู่โจวได้รับข้อมูลมาแล้ว เขาใช้เวลาทั้งวันไปกับการวิเคราะห์ข้อมูล เขาไม่สามารถหาสัญญาณของควาร์กสตาร์ได้
“จากวอยด์เมมโมรี่คาลาน เราสามารถสรุปได้ว่าอารยธรรมที่ก้าวล้ำที่สร้างควาร์กสตาร์ เรามาเรียกพวกเขาว่าอารยธรรมวอยด์ ได้เข้าถึงเทคโนโลยีไฮเปอร์สเปซอย่างถ่องแท้ ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถส่งข้อมูลที่ความเร็วเหนือแสง”
ลู่โจวปิดสมุดและขมวดคิ้ว เขาพูดพลางรู้สึกปวดหัว
“แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร”
เดินทางได้เร็วกว่าแสง
แม้ว่ามันอาจจะฟังดูง่าย และได้เห็นในหนังไซไฟอยู่บ่อยๆ แต่ในความเป็นจริง มันเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก
ไม่เหมือนฟิวชั่นที่ควบคุมได้ ที่พิสูจน์ว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปได้โดยนักฟิสิกส์เมื่อหลายสิบปีก่อน นักฟิสิกส์พลังงานสูงจินตนาการไม่ออกด้วยซ้ำว่าจะย้ายสิ่งของได้เร็วกว่าความเร็วแสงได้อย่างไร มันเป็นไปไม่ได้จากมุมมองทางทฤษฎีทุกมุมมอง
ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องสามารถตามหาร่องรอยไปถึงปลายศตวรรษที่แล้ว
ในปี 1992 นักวิชาการผู้โด่งดัง สตีเฟน ฮอว์กิงได้พิสูจน์โดยการใช้วิธีการทางคณิตศาสตร์และทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปว่าถ้าขอบเขตของโครงสร้างปริภูมิทอพอโลยีเปลี่ยนแปลง เส้นโค้งปิดเสมือนเวลาก็จะเกิดขึ้น
โดยทั่วไป เนื่องจากทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป รูหนอนจะฝ่าฝืนกฎแห่งสาเหตุ (สิ่งที่น่าสนใจก็คือไอน์สไตน์ ผู้ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพ สนับสนุนทฤษฎีรูหนอนและเสนอว่ามันคือ ‘ท่อบางๆ ที่เชื่อมต่อระหว่างปริภูมิและเวลาระหว่างพื้นที่ห่างไกลของจักรวาล’ มันแสดงให้เห็นว่าแม้แต่คนที่เก่งขนาดนี้ก็ผิดพลาดได้เหมือนกัน เพราะท้ายที่สุดแล้ว นักวิชาการไม่ได้ทำตามผู้มีอำนาจ แต่เป็นผู้ตามหาความจริง)
จากวอยด์เมมโมรี่คาลาเนียน วิธีการที่พวกเขาใช้ในการเดินทางด้วยความเร็วเหนือความเร็วแสงก็คือการใช้แรงโน้มถ่วงระหว่างระบบดาวฤกษ์ มันหมายความว่าไฮเปอร์สเปซสามารถเกิดขึ้นได้ ทำให้เกิดความเร็วเหนือความเร็วแสง
มันสอดคล้องกับทฤษฎีของไอน์สไตน์
แหล่งที่มาของฟิสิกส์เฉพาะที่เบื้องหลังเรื่องนี้ไม่ได้ถูกกล่าวถึงในวอยด์เมมโมรี่ ลู่โจวจะต้องสรุปจากความรู้ของเขาและข้อมูลที่ได้มาเพียงเล็กน้อย
ตัวอย่างเช่น แรงโน้มถ่วงมหาศาลสามารถแยกอวกาศให้กลายเป็นมิติใหม่ การเข้าสู่มิตินี้คือวิธีที่พวกเขาเดินทางเหนือความเร็วแสงได้สำเร็จ
มันก็คล้ายกับการเล่นหมากฮอส
แม้ว่าเทคโนโลยีคาลาเนียนจะล้ำหน้าก็จริง แต่คาลาเนียนไม่ได้สร้างปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์อยู่ในจักรวาลอยู่แล้ว ส่วนใหญ่แล้ว คนที่ฉลาดๆ จะสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ของพวกเขาได้
แต่อารยธรรมวอยด์ดูเหมือนจะแตกต่างออกไป
ลู่โจวเข้าใจแล้วว่าทำไมทุกคนที่รัฐสภาจึงดูวิตกกังวล
พวกเขาไม่เพียงแค่สร้างควาร์กสตาร์ แต่พวกเขายังสร้างไฮเปอร์สเปซของตัวเองด้วย เทคโนโลยีประเภทนี้ก้าวไกลกว่าของชาวคาลาเนียนเยอะ
“…ปัญหาก็คือถ้าการแพร่ข้อมูลที่ออกไปสู่จักรวาลมีความเร็วเหนือความเร็วแสง แน่นอนว่ามันจะต้องถูกตรวจจับได้บนโลก”
บางทีการแพร่ข้อมูลอาจจะจบลงแล้วเหรอ
หรือบางที อาจจะเป็นอย่างที่เขาคาดเดาในตอนแรก ที่วอยด์เมมโมรี่ที่คาลาเนียนเอ็มไพร์พูดถึงอาจจะเกิดขึ้นนานมาแล้ว
ลู่โจวเคาะนิ้วกับโต๊ะ เขาส่ายหัวและยัดสมุดเข้าไปในคอมพิวเตอร์ของเขา เขาลุกขึ้นยืนและหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาหวังเผิง
“ฮัลโหล? “
“พาผมไปที่มหาวิทยาลัยจินหลิง”
“รับทราบครับ”
…
เงินรางวัล 100,000 หยวน
มันเป็นเงินมหาศาลสำหรับนักศึกษา
จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่นักศึกษาด้วยซ้ำ
มันมากกว่ารายได้ต่อปีของพนักงานทั่วไปที่จินหลิงเสียอีก
แต่แทนที่จะเอาแต่คิดถึงเงินมหาศาล ตวนซื่อฉีกังวลเรื่องอื่นมากกว่า
สัญชาตญาณของเขาบอกว่าพื้นที่ภาพเสมือนคือโอกาสทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ เขาเป็นแค่ลูกค้าคนแรกของพวกเขา
แม้ว่าเขาเป็นเพียงหนูทดลองที่ทำงานนี้ในช่วงพาร์ทไทม์ หลังจากเขาได้ลิ้มรสความหอมหวานนั้นแล้ว เขาก็ไม่มีทางพอใจได้
ฉันควรเปลี่ยนเอกดีไหมนะ
เขามีความคิดนี้อยู่หลายครั้ง
จริงๆ แล้วยามว่าง เขาจะเริ่มอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม การจัดวางองค์ประกอบ และเทคโนโลยี VR
แม้ว่าการเรียนรู้เรื่องพวกนี้จะกินเวลาว่างของเขาก็ตาม แต่มันก็ทำให้เขามีความสุขอย่างคาดไม่ถึง
ไม่เหมือนคณิตศาสตร์ ตอนที่เขาเรียนเรื่องพวกนี้จะไม่มีเพื่อนร่วมห้องมาทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย แม้ว่าการเรียนรู้เรื่องพวกนี้จะไม่ช่วยให้เขาทำข้อสอบได้ดีขึ้น แต่ความรู้ที่มากขึ้นก็ทำให้เรารับรู้ความรู้สึกของความสำเร็จ
วันหนึ่ง ระหว่างทางที่เขากำลังไปห้องสมุด จู่ๆ ใครบางคนก็มาเข้ามาพูดกับเขา
“คุณคือผู้เล่นที่ผ่านด่านใช่ไหม”
ตวนซื่อฉีหยุดเดินและเงยหน้ามอง
ตอนที่เขาเห็นคนที่อยู่ตรงหน้า เขาแทบช็อก
อะไรวะเนี่ย?
เทพลู่
ราวกับว่าไปซื้อน้ำดื่มในร้านสะดวกซื้อ แล้วดันไปเจอจัสติน บีเบอร์โดยบังเอิญ
จริงๆ แล้วเจอจัสติน บีเบอร์ยังจะง่ายเสียกว่า
แม้ว่าลู่จะสอนทฤษฎีจำนวนอยู่ที่มหาวิทยาลัยจินหลิง แต่เขาก็แทบจะไม่ได้มาสอนเลยในช่วงปีที่ผ่านมา
ตวนซื่อฉีกำลังจะพยักหน้า แต่จู่ๆ ก็นึกถึงชื่อผู้ใช้ของตัวเองขึ้นมา จู่ๆ เขาก็รู้สึกอับอาย
“ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอกครับ…จู่ๆ ผมก็นึกถึงชื่อผู้ใช้นั้นขึ้นมา จริงๆ แล้วผมไม่ใช่แฟนคลับอะไรหรอก”
“ไม่เป็นไรครับ” ลู่โจวโบกมือและพูด “มันไม่สำคัญหรอก”
ตวนซื่อฉีพยักหน้าเก้ๆ กังๆ และพูด
“โอเค…คุณต้องการอะไรจากผมเหรอครับ”
“จริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไรพิเศษหรอกครับ ผมก็แค่อยากคุยกับคุณเรื่องเกม…ถ้าคุณพอมีเวลา ผมอยากจะเลี้ยงกาแฟคุณสักแก้ว”
“ได้ครับ” ตวนซื่อฉียิ้มและพูด “คุณอยากจะรู้อะไรครับ”
โอ้พระเจ้า
คนคนนี้มีอำนาจมากกว่าอธิการบดีมหาวิทยาลัยเป็นสิบเท่า
แค่ได้พูดคุยกับลู่โจวก็เป็นประโยชน์ต่อสายงานของเขาได้เยอะเลย เขาไม่มีทางพลาดโอกาสที่จะได้ไปดื่มกาแฟกับเขาแน่ๆ
ลู่โจวมองไปที่นักศึกษาแล้วยิ้ม
แม้ว่าเขาจะเห็นว่าตวนซื่อฉีพยายามซ่อนความประหม่า แต่เขาก็มองเด็กคนนี้ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง
“ผมรู้จักคาเฟ่ดีๆ อยู่นอกมหาวิทยาลัยอยู่ที่หนึ่ง มีคนเคยพาผมไปที่นั่นตอนที่ผมยังเป็นนักศึกษา…ไปกันเถอะ”
ตอนที่ลู่โจวหันหลังกลับ ตวนซื่อฉีรีบตามเขาไป
ระหว่างทางทั้งคู่พูดคุยกัน สิ่งเดียวที่พวกเขาพูดถึงคือเกม ตวนซื่อฉีไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเจออะไรแบบนี้ ใจหนึ่งเขาไม่คาดคิดว่านักวิชาการลู่จะเข้าถึงง่ายขนาดนี้ ส่วนอีกใจหนึ่งเขาก็ไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะเข้ากันได้ดี
เนื่องจากช่องว่างของสถานะและอำนาจ เขาแทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าจริงๆ แล้วลู่โจวก็ไม่ได้แก่กว่าเขาสักเท่าไหร่…
“คุณคิดว่าเกมเป็นอย่างไรบ้าง”
“มันยากเกินไปครับ มันไม่มีจุดตรวจ และต้องเล่นตั้งหลายรอบกว่าจะผ่านแต่ละด่าน มันทำให้ผมแทบจะเป็นบ้า”
ตวนซื่อฉีนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมแล้วตัวสั่น
เขาเล่นในส่วนของโดรนอย่างน้อย 20 ครั้งได้ เหตุผลเดียวที่เขาผ่านมาได้ก็เพราะกำลังจะหมดเวลา และตำแหน่งของเขาอยู่ในจุดที่เหมาะสมพอดี
ลู่โจวพยักหน้า
ถ้าเกมนี้ไม่ได้ยากขนาดนี้ เขาก็คงผ่านด่านได้ด้วยตัวเองแล้ว แทนที่จะก่อตั้งทีมงานมาช่วยให้ผ่านด่าน
“แล้วในด้านอื่นๆ ล่ะ”
ตวนซื่อฉีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูด “ผมคิดว่าโลกมันขยายได้มากกว่านี้ ผมไม่ได้สนใจริงเวิร์ล แต่ผมสนใจดาวเคราะห์อื่นๆ …ผมรู้สึกว่าถ้าขยายโลก อย่าง EVE ออนไลน์ มันจะโดดเด่นกว่านี้นะครับ”
ลู่โจวพยักหน้า
“ผมจะบอกเรื่องนั้นให้ผู้จัดการฝ่ายผลิตรู้….แต่ผมอยากรู้ว่าคุณคิดอย่างไรกับโครงเรื่องมากกว่า”
ตวนซื่อฉีพูด “โครงเรื่องเหรอครับ”
“ครับ..” ลู่โจวพยักหน้าและพูด “คุณไม่สงสัยเรื่องออราเคิลและภัยธรรมชาติเหรอ”
“ผมว่าเกมทุกเกมมันก็คล้ายๆ กันนะครับ…” ตวนซื่อฉีเกาหัวและพูด “ผมสงสัยนิดหน่อย จู่ๆ เรื่องมันก็ตัดจบเลย ก็เลยรำคาญเล็กน้อย”
ลู่โจว “…ถ้าดูจากสิ่งที่คุณเกี่ยวกับเกมนี้ คุณคิดว่าภัยธรรมชาติน่าจะหมายถึงอะไร”
“อาจจะเป็นภัยพิบัติที่กวาดล้างจักรวาลทั้งหมด AI ที่เหนือการควบคุม แต่ผมรู้สึกว่าการคุกคามระดับนั้นยังสูงไม่พอ ขอโทษนะ ผมไม่ค่อยมีจินตนาการสูงขนาดนั้น บอกมาหน่อยได้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น”
ลู่โจวมองนักศึกษาขี้สงสัยและยิ้ม
“น่าเสียดายที่โครงเรื่องถูกเขียนโดย AI เนื้อเรื่องยังถูกเขียนอยู่ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป คุณจะต้องรอดูเอง”
“มันยังถูกเขียนอยู่…” ตวนซื่อฉีพูด เขาดูผิดหวังและพูด “ผมแนะนำให้คุณเปลี่ยนเกมนี้ให้เป็นเกมออนไลน์ หรืออาจจะขยายระดับความเป็นอิสระ เกมมันควรจะจบตอนที่พวกเขาเดินทางมาถึงตึกเอ็มไพร์ ตอนที่นักวิชาการต่างดาวโดนจับ ผมคิดว่าผมจะต้องไปช่วยเขา แต่เกมจบเสียก่อน ผมคิดว่าน่าจะมีโหมดเปิดโลกหลังจากโครงเรื่องหลักจริงไหม”
ลู่โจวสังเกตเห็นสิ่งที่ผิดปกติ เขาขมวดคิ้วและพูด
“มันจบเหรอ”
“ครับ…” ตวนซื่อฉีมองไปที่เขาและพูด “คุณไม่รู้เหรอ”
ลู่โจว “…ผู้เล่นตามกัปตันอินซ์กลับไปที่กองทัพและส่องมองอุปกรณ์ของเขา คุณปลดล็อกโหมดเปิดโลกหรือเปล่า”
“กองทัพอะไรครับ” ตวนซื่อฉีคิดฟุ้งซ่าน เขามองไปที่ลู่โจวและพูด “หน้าจอไม่ได้กลายเป็นสีดำเหรอ”
ลู่โจว “คุณไม่ได้รับทรัพย์สมบัติจากศาสตราจารย์เลนเหรอ”
ตวนซื่อฉี “…???”
ลู่โจวมองสีหน้าที่สับสนของนักศึกษา จู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ตอนที่พวกเขาเดินทางมาถึงอาคารสภา ลู่โจวใช้ความพยายามที่ตระหนักรู้เพื่อจะได้คุยกับศาสตราจารย์เลน ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่ได้สืบทอดทรัพย์สินของศาสตราจารย์เลน
นั่นแปลว่าตอนจบที่ฉันเห็นคือตอนจบจริงๆ เหรอ
ลู่โจวแสดงสีหน้าแปลกๆ
แล้วฉันเป็นคนเดียวที่เห็นมันเหรอ
นั่นมันหมายความว่าฉันเป็นผู้เล่นที่เก่งกว่าเหรอ
ตวนซื่อฉีมองไปที่ลู่โจวและพูดอย่างประหม่า “ผมไม่ผ่านเกมเหรอ”
แล้วเขาจะดึงเงินโบนัสของฉันกลับไปหรือเปล่า
แม้ว่าเขาจะอยากถามคำถามนี้ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ถามออกไป
ตอนที่ลู่โจวได้ยินแบบนั้น เขานิ่งไปครู่หนึ่งและยิ้ม
“ไม่ ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ”
ลู่โจวเปลี่ยนบทสนทนา
“ผมอยากจะรู้ว่าประสบการณ์ต่อไปที่คุณอยากสัมผัสคืออะไร”
ตอนที่ตวนซื่อฉีได้ยินแบบนั้น ดวงตาของเขาเป็นประกาย
“แล้วเดอะแมทริกซ์ล่ะ มันเป็นนิยายไซไฟสุดคลาสสิกและเหมาะสมสำหรับการจำลองภาพเสมือน”
“เดอะแมทริกซ์เหรอ ฟังดูน่าสนใจดีนะ” ลู่โจวพูด “ผมจะบอกวิศวกรที่สถาบันให้…”
……………………….