ตรุษจีนปี 2023 มาถึงเร็วกว่าทุกครั้ง
วันหยุดในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะมีช่วงใกล้ๆ สิ้นเดือนมกราคม
คืนก่อนวันตรุษจีนผ่านไป อาคารวิจัยฟิสิกส์มหาวิทยาลัยจินหลิงก็เริ่มดูว่างเปล่า
นักวิชาการหรูเสินเจียนนั่งในออฟฟิศของเขา เขากำลังอ่านนิตยสารวิชาการในมือขณะที่ดื่มชาร้อนที่เพิ่งชงเสร็จใหม่ๆ
หลังจากที่เปิดดูคร่าวๆ เขาเห็นหัวเรื่อง
[นักวิชาการจีนเดินทางออกจากเซี่ยงไฮ้ ILHCRC ปิดตัวลง! จุดสูงสุดพิเศษ 750 จิกะอิเล็กตรอนโวลต์ล้มเหลว! อนาคตของฟิสิกส์จะไปทางไหน]
หลังจากที่นักวิชาการหรูเห็นหัวข้อ เขาก็อดหัวเราะเบาะๆ ไม่ได้
“สื่อนี่ไร้สาระจริงๆ ก็นี่มันวันหยุด เราก็ต้องปิดสิ”
ชายสูงวัยที่นั่งอยู่บนโซฟายิ้ม
“ผู้เฒ่าหรู นี่มันวันหยุด คุณจะกังวลอะไรในเมื่อไหร่คุณจะเกษียณล่ะครับ”
คนที่นั่งตรงข้ามนักวิชาการหรูคือนักวิชาการหลิวกวงจาวจากแผนกฟิสิกส์มหาวิทยาลัยจินหลิง แต่สาขางานวิจัยของนักวิชาการหลิวไม่ใช่ฟิสิกส์ของอนุภาค แต่เป็นสสารฟิสิกส์ควบแน่น งานวิจัยของเขาจะเน้นไปที่คลัสเตอร์ของอะตอม ระบบควอนตัมมิติต่ำและนาโนเทคโนโลยี
ศาสตราจารย์สูงวัยทั้งสองคนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แม้ว่างานวิจัยของพวกเขาจะอยู่คนละสาขา แต่พวกเขาก็มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน
ผู้เฒ่าหรูยิ้มและโบกมือ
“ยังหรอก ผมยังทำงานได้อีก 10 ปี”
นักวิชาการหลิวยิ้มและพูด “จริงเหรอ แต่คุณแก่ขึ้นเรื่อยๆ นะ”
นักวิชาการหรูยิ้มและพูด “เราอยู่บนดาวเคราะห์นี้แค่ไม่กี่สิบปีเท่านั้น ทำไมผมต้องเสียเวลาด้วย ไม่ต้องห่วง ผมรู้ว่าผมทำอะไรได้”
“ผมไม่ได้เป็นห่วงหรอก คุณแค่ดูเหนื่อยๆ ” นักวิชาการหลิวถอนหายใจและพูด “แล้วโปรเจกต์ 750 จิกะอิเล็กตรอนโวลต์เป็นอย่างไรบ้าง ผมได้ยินมาว่ามันไม่ค่อยดีเลยนี่นา”
นักวิชาการหรู “เราเพิ่งจะทำการทดลองไปแค่สี่ครั้งเอง แน่นอนอยู่แล้วว่ามันจะออกมาได้ไม่ดี ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม ไม่ต้องห่วง ผมมั่นใจในโปรเจกต์งานวิจัยนี้”
“ผมก็แค่ถาม เพราะผมไม่ค่อยรู้เรื่องฟิสิกส์ของอนุภาคเท่าไหร่นัก” นักวิชาการหลิวยิ้มและจิบชาก่อนจะพูด “ชานี่ดีทีเดียวนะคุณได้มาจากไหนเหรอ”
“ผมไม่ได้ซื้อมาเองหรอก นักศึกษาให้ผมมา” นักวิชาการหรูพูดอย่างภาคภูมิใจ “ผมคงดื่มไม่หมดอยู่แล้ว คุณเอากลับบ้านไปบ้างก็ได้นะ แต่อย่าเอาไปหมดล่ะ”
“ตาแก่นี่ ชอบอวดอยู่เรื่อยเลยนะ” ผู้เฒ่าหรูวางถ้วยชาและยืนขึ้น เขาถอนหายใจและพูด “ถ้าผมสามารถผลิตนักศึกษาที่โดดเด่นได้สักสองสามคนเหมือนคุณ ผมก็คงเกษียณเร็ว”
หลังจากที่ผู้เฒ่าหรูได้ยินเพื่อนบ่น เขาก็หัวเราะออกมา
“ฮ่าฮ่า! ลืมไปได้เหรอ บางทีอาจจะหลังความตายก็ได้”
…
[M2π=(Mμ+Md)/2Fπ1&;lt;0|ΨΨ’|&;gt:…]
[…]
ด้านในบ้านที่จงซาน อินเตอร์เนชั่นแนล
ลู่โจวนั่งอยู่ในห้องทำงานของเขา เขามองไปที่กองพิมพ์เขียวและกระดาษร่าง และจมดิ่งไปกับห้วงความคิดของตัวเอง
ตรุษจีนเพิ่งจะผ่านพ้นไปหมาดๆ ลู่โจวเพิ่งจะทานเกี๊ยวที่แม่ของเขาทำและกำลังจะเริ่มทำงานอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากพัก แต่มีคนมากมายที่ต้องพึ่งพาเขา เขาจะมัวเสียเวลาไม่ได้
โดยปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นโปรเจกต์วิจัยอะไรก็ตาม เขาจะพยายามรีบทำโปรเจกต์วิจัยนั้นให้เสร็จก่อนเทศกาลตรุษจีน เขาไม่อยากให้งานของเขามีผลกระทบต่อชีวิตเขา
แต่ปีนี้นับว่าโชคร้าย เครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงใช้เวลานานกว่าจะเสร็จ และวันหยุดปีนี้ก็มาเร็วกว่าทุกปี
โชคดีที่ครอบครัวของเขาเห็นใจ
แม้แต่พ่อเองก็แทบจะไม่บ่นบนโต๊ะอาหาร ส่วนเสี่ยวถงก็ยุ่งอยู่กับการเรียนของเธอ เธอก็เลยไม่ได้ว่าอะไรเขา
ลู่โจวสูดอากาศที่อบอุ่นเข้าไปและลุกขึ้นจากเก้าอี้ เขาเดินไปเปิดหน้าต่าง
ลมที่หนาวเหน็บพัดผ่านหน้าเขาทำให้สมองที่รุ่มร้อนของเขาเย็นลง ราวกับว่าลมได้พัดความอิดโรยและความเหนื่อยล้าออกไป
ขณะที่โดรนของเสี่ยวไอบินมาที่เขา ข้อความปรากฏขึ้นมาตรงหน้าจอ
เสี่ยวไอ [เจ้านายไม่หนาวเหรอ 0.0]
ลู่โจวส่ายหัวและพูด “ฉันไม่หนาว”
จริงๆ แล้วมันร้อนเกินไป จนทำให้เขารู้สึกวิงเวียน มากจนเขาแทบจะจดจ่อไม่ได้
เสี่ยวไอ [เจ้านายคะเจ้านาย อยากให้เสี่ยวไอทำกาแฟมาให้ไหม (๑•̀ᄇ•́)]
ลู่โจวพยักหน้า
“ขอบคุณนะ”
เสี่ยวไอ [โอเค มาแล้วค่ะ (*≧▽≦)]
หลังจากนั้นไม่นาน กลิ่นหอมของกาแฟก็ลอยเข้ามาในห้องทำงาน
ลู่โจวหยิบกาแฟมาจากเสี่ยวไอไปดื่ม เขารู้สึกมีพลังหลังจากที่ปิดกระจก เขานั่งลงที่โต๊ะและมองไปที่กระดาษร่างที่ยังเขียนไม่เสร็จ เขาค่อยๆ จมลงไปในห้วงความคิด
ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง เขารู้สึกว่าสมองของเขาปลอดโปร่งขึ้นหลังจากได้พัก
“ดูเหมือนว่าฉันคงต้องพักบ่อยๆ แล้ว”
ลู่โจวสัมผัสได้ถึงความอุ่นของกาแฟในมือ เขายิ้มและหยิบปากกาบนโต๊ะ
หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาเขียนบนกระดาษ
เขาทำการวิจัยจุดสูงสุดเฉพาะ 750 จิกะอิเล็กตรอนโวลต์มาสักพักแล้ว เขามีการคาดเดาและข้อคาดการณ์นับไม่ถ้วน
แต่เขาไม่รู้สึกถึงความยากของโปรเจกต์นี้จนกระทั่งตอนที่เขาเปิดใช้งานเครื่องชนอนุภาคบนดวงจันทร์
สัญญาณมันเหมือนกับผีที่บินเข้าออกสเปกตรัมพลังงาน เขาเริ่มสงสัยว่าอาจจะมีการแทรกแซงของมนุษย์ต่างดาวในการทดลองของเขา
เพราะเหตุผลอะไรบางอย่าง จู่ๆ ปากกาก็ปรากฏขึ้นในหัวของลู่โจว
ถ้าจะให้พูดชัดๆ คือมันคือปากกาที่อยู่ด้านในตึกสภาเอ็มไพร์ เป็นเล่มที่ศาสตราจารย์เลนกำไว้แน่น
ลู่โจวหยุดเขียนและจ้องไปที่การคำนวณบนกระดาษ เขาขมวดคิ้วและจู่ๆ ก็บ่นพึมพำกับตัวเอง
“… บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับไฮเปอร์สเปซ”
ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ในโลกสามมิติ…หรือมีแค่ส่วนเดียวเท่านั้นที่มองเห็นได้ แล้วส่วนไหนบ้างที่ไม่สามารถมองเห็นได้
ถ้าเขาเดาถูก เวลาและปริภูมิจะต้องบิดเบือน ในขณะที่ส่วนที่สัญญาณส่วนที่มองไม่เห็นจะหลบซ่อนอยู่ในปริภูมิที่ไม่สมบูรณ์
มันเหมือนเป็นประตูบานใหม่ที่เปิดในหัวของเขา ความคิดของเขาไม่เคยชัดเจนขนาดนี้มาก่อน
หัวปากกาสั่นสะเทือนในขณะที่เขารู้สึกถึงคลื่นแห่งความตื่นเต้นในหัวใจ
เขามีความรู้สึกว่า…
การค้นพบครั้งนี้จะต้องวิเศษเกินกว่าที่เขาคิดไว้แน่ๆ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ดวงอาทิตย์นอกหน้าต่างๆ ค่อยๆ เลือนลับไป
ลู่โจววางปากกาและมองไปที่กองกระดาษตรงหน้า เขาแสยะยิ้ม
“ในที่สุดฉันก็ทำเสร็จก่อนวันที่กำหนด”
แล้วเขาก็มองปฏิทินที่ตั้งอยู่ตรงมุมโต๊ะ
การทดลองรอบที่สองกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกสองวัน
ไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว เขายังเป็นกังวลอยู่เลยว่าจะทำไม่ทันเวลา
แต่ตอนนี้เขาตั้งหน้าตั้งตารอที่จะทำการทดลองมากกว่าทุกครั้ง
……………..