วันพุธแรกของเดือนกุมภาพันธ์ เครื่องบินสีขาวลงจอดที่สนามบินนานาชาติปารีส-ชาร์ลเดอโกล
บนเครื่องบิน ชายสูงวัยท่าทางใจดีพูดคุยกับเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา
“นักวิชาการลู่ เชิญเลย”
“โอ้ ไม่ๆ เชิญคุณก่อนเลยครับ”
ลู่โจวนึกถึงความปลอดภัยที่สนามบิน เขาก็เกิดความกังวล
ไม่ได้กังวลขนาดนั้น
เขาก็แค่ไม่เก่งเรื่องการเมืองเท่าไหร่นัก
ชายสูงวัยมองลู่โจวและยิ้ม
“ไม่ คุณไปเลย คนที่สนามบินรอเราอยู่”
หลังจากที่เห็นว่าชายสูงวัยยืนกรานแบบนั้น ลู่โจวก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเดินต่อไป
ลู่โจวก็แค่ขอให้ผู้อำนวยการหลี่ช่วยซื้อตั๋วเครื่องบินให้เขาหรือหาเครื่องบินพลเรือนให้เขา
เขาไม่คาดคิดว่าผู้อำนวยการหลี่จะให้เขามาเที่ยวบินนี้
ชายสูงวัยคนนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือประธานาธิบดีประเทศจีนที่เขาพูดคุยผ่านอีเมลอยู่บ่อยๆ
เห็นได้ชัดว่าการเดินทางครั้งนี้ก็เพื่อสร้างสถานีไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชั่นที่คาดาราชให้เสร็จและร่วมมือกันเรื่องเส้นทางสายไหม
หลังจากที่เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงได้ยินว่าลู่โจวจะไปฝรั่งเศส พวกเขาก็จัดให้ลู่โจวไปเที่ยวบินเดียวกัน
ระหว่างการเดินทาง ทั้งสองพูดคุยกันถึงเรื่องคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ ชิปคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมนิวเคลียร์ และการบินและอวกาศ
ลู่โจวอยากจะนอนพักผ่อนตลอดการเดินทาง แต่ประธานาธิบดีก็ยังถามคำถามอย่างต่อเนื่อง เขาเองก็ไม่อยากเสียมารยาทจึงต้องคุยต่อ
โชคยังดีที่เขาได้นอนพักมาแล้วสี่ชั่วโมงก่อนจะขึ้นเครื่อง ไม่อย่างนั้นเขาก็คงฝืนลืมตาไว้ไม่อยู่
เขากำลังจะเดินลงบันไดเครื่องบินแต่ใครบางคนหยุดเขาไว้เสียก่อน
“คุณคะ รอก่อนค่ะ”
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเอื้อมมือออกมาจัดปกเสื้อที่ยับตอนที่เขาหลับให้เขา เธอยิ้มอย่างมืออาชีพ
“หล่อแล้วค่ะ”
“…ขอบคุณ.”
ลู่โจวรู้สึกว่าพนักงานบนเครื่องมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ
ราวกับว่าเธอเป็นสัตว์กินเนื้อส่วนเขาก็เป็นเนื้อก้อนโต
ลู่โจวก็อดรู้สึกภาคภูมิใจไม่ได้
เฮ้อ นี่คงจะเป็นข้อเสียของการหล่อเกินไป
อย่างที่คิดไว้ สนามบินเต็มไปด้วยคนที่มาต้อนรับ พรมแดงยาวอยู่ตรงทางลงบันได มีชายสวมสูทยืนอยู่สองฝั่งของพรมแดง
นอกจากรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสแล้ว ประธานาธิบดีฝรั่งเศสก็อยู่ที่นี่เช่นกัน
“ยินดีต้อนรับสู่ประเทศฝรั่งเศส นักวิชาการลู่…” ชายตัวสูงรูปร่างดีสวมสูทยื่นมือออกมาและพูด “ยินดีที่ได้พบคุณครับ”
ลู่โจวจับมือกับประธานาธิบดีฝรั่งเศสและพูดอย่างสุภาพ
“ขอบคุณครับ ยินดีที่ได้พบคุณเช่นกัน”
ชายมีรอยยิ้มบนใบหน้าขณะที่พูด
“ผมได้ยินเรื่องของคุณมาเยอะเลย เท่าที่ฟังจากความสำเร็จของคุณผมคิดว่าคุณจะอายุเยอะเสียอีก ไม่คิดเลยว่าจะยังหนุ่มขนาดนี้”
ลู่โจวตอบอย่างถ่อมตนว่า “คุณก็พูดเกินไปครับ”
ในเมื่อมันเป็นโอกาสทางการเมือง หลังจากที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสถามสารทุกข์สุกดิบกับลู่โจว เขาก็เปลี่ยนความสนใจไปที่ประธานาธิบดีจีนที่กำลังเดินลงมาจากบันได
ในที่สุดลู่โจวถอนหายใจออกมา เขารู้สึกว่าความกดดันมากมายถูกยกออกจากบ่อของเขา
มันไม่ใช่ว่าเขารู้สึกประหม่า
เขาเคยทำการรายงานในงานประชุมระดับชาติใหญ่ๆ มาแล้ว เขาก็เป็นคนที่มีประสบการณ์เยอะพอสมควร แม้ว่าถ้าเกิดมีคนที่นี่มากกว่าตอนนี้เป็นสองเท่า มันก็ไม่ได้มีผลกับเขา
แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าตอนนี้ เขาไม่ใช่แค่มาเป็นตัวแทนของตัวเอง แต่เขาเป็นตัวแทนของวงการวิจัยวิทยาศาสตร์จีนและเป็นหน้าเป็นตาของประเทศจีน
เขาจึงรู้สึกถึงความกดดันมหาศาลบนตัวเขา…
…
นอกเหนือจากการต้อนรับสุดอลังการที่สนามบินแล้วก็ยังมีงานเลี้ยงระดับประเทศที่รอพวกเขาอยู่ในค่ำคืนนี้
งานเลี้ยงของรัฐจัดขึ้นที่ทำเนียบประธานาธิบดี และอาหารถูกจัดเตรียมโดยพนักงานในครัวของประธานาธิบดี
จริงๆ แล้วลู่โจวก็ค่อนข้างตั้งหน้าตั้งตารอที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงนี้อยู่เหมือนกัน แต่หลังที่อาหารมาถึงเขารู้สึกว่ามันไม่ได้ต่างจากอาหารในร้านอาหารฝรั่งเศสที่เขาเคยกินมาก่อนเลย
ในความคิดของเขา แต่ละจานก็แค่เล็กกว่าและซับซ้อนกว่าแค่นั้นเอง
แต่สิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับเขามากที่สุดก็คือหอยทางฝรั่งเศสย่าง
ไม่ใช่เพราะมันอร่อย แต่เพราะเขาไม่เคยกินมาก่อน…
แน่นอนว่ารสชาติมันก็ค่อนข้างดี
เพราะท้ายที่สุดแล้วคงไม่มีอาหารจานไหนสามารถมาอยู่ตรงนี้ได้ถ้ามันไม่อร่อย
งานเลี้ยงถูกจัดในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
ดูเหมือนว่านักการเมืองฝรั่งเศสจะรู้ว่าลู่โจวไม่ค่อยชอบคุยเรื่องการเมือง พวกเขาจัดเตรียมนักวิชาการจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศฝรั่งเศสเพื่อพูดคุยกับเขาโดยเฉพาะ
หลังจากที่งานเลี้ยงจบก่อนที่ลู่โจวจะกลับโรงแรม เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสมาพบและพูดคุยกับเขาอย่างสุภาพ
“นักวิชาการลู่ ผมได้ยินมาว่าคุณตั้งใจจะไปเยี่ยมชมที่อยู่ของมิสเตอร์ก็อตเทนดิ๊กเหรอครับ”
ลู่โจวพยักหน้าและพูด
“ผมคิดเอาไว้เหมือนกันครับ แต่น่าเสียดายที่ผมไม่เคยมีโอกาสได้เจอชายคนนี้ แต่ถ้าพูดตามหลักวิชาการ เขาก็แทบจะเป็นเหมือนพ่อของผมเลย”
“ศาสตราจารย์ก็อตเทนดิ๊กเป็นนักวิชาการที่น่านับถือ ไม่ว่าจะเป็นเจตคติต่อความขัดแย้งหรือการแสวงหาความจริงของเขา เขาก็ได้รับความเคารพจากคนนับไม่ถ้วน” เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสยิ้มและพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร “ถ้าคุณต้องการ เราสามารถจัดหารถดีๆ และทีมรักษาความปลอดภัยให้คุณได้นะครับ คุณจะไปที่ไหนก็ได้ในฝรั่งเศส”
ลู่โจวพยักหน้าและพูด
“ถ้าเป็นแบบนั้นได้จะดีมากเลยครับ”
ยามค่ำคืน
หลังจากวันยุ่งๆ ผ่านพ้นไป ในที่สุดลู่โจวก็เดินทางมาถึงโรงแรม
หลังจากที่เข้าห้องไป เขาอาบน้ำและนอนเล่นบนเตียง เขาไม่อยากขยับร่างกายเลย
ก่อนที่เขาจะเผลอหลับไป เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่ออ่านข่าว
อย่างที่คิดไว้ เขาเห็นรูปตัวเองจับมือกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส
ลู่โจวอดยิ้มและส่ายหัวไม่ได้
ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นข่าวอยู่เรื่อยๆ ในช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมา
ความตื่นเต้นเรื่องอนุภาค Z เริ่มซาลงบ้างแล้ว แต่ประชาชนยังคงถกเถียงกันว่ามันจะชนะรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ของปีนี้ไหม และตอนนี้เขาก็ได้มีความเกี่ยวข้องกับการเยือนทางการทูตที่ประเทศฝรั่งเศสของประเทศจีน
ลู่โจวกำลังจะโยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะข้างเตียงและเตรียมตัวนอน แต่จู่ๆ ข้อความก็เด้งขึ้นบนหน้าจอ
[คุณอยู่ปารีสเหรอ]
ตอนที่ลู่โจวเห็นข้อความนี้ เขานิ่งไปครู่หนึ่งและกดเข้าไปดูแอปข้อความในเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นแอปที่เขาแทบจะไม่ได้ใช้เลย คนที่เป็นเพื่อนของเขาในเฟซบุ๊กส่วนใหญ่คือคนที่เขาเรียนและทำงานด้วยที่พรินซ์ตัน แต่เขาแทบจะไม่ได้คุยกับคนพวกนั้นในเฟซบุ๊กเลย ส่วนใหญ่ก็จะสื่อสารกันทางอีเมลมากกว่า
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่าคือข้อความจากโมลิน่า
ข้อความล่าสุดก็คือ “สวัสดีปีใหม่”
ข้อความนี้ยาวนานกว่าหนึ่งปีแล้ว
ลู่โจวนิ่งไปก่อนที่จะพิมพ์ตอบ
[ใช่ มีอะไรเหรอ]
โมลิน่า [ออกไปหาอะไรดื่มกัน]
ลู่โจว “…”
เธอพูดเรื่องอะไรของเธอ
ฉันคิดว่าครอบครัวของเธออยู่ที่ฝรั่งเศส
พรินซ์ตันอนุญาตให้เธอหยุดยาวขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ลู่โจวไม่ได้พูดอะไร เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและส่งรูปวิวนอกหน้าต่างไปให้
หลังจากนั้นสักพัก เขาได้รับข้อความ
โมลิน่า […มันคืออะไร]
ลู่โจว […คุณคิดว่าผมจะหนีออกไปจากที่นี่โดยไม่โดนนักข่าวรุมได้เหรอ]
นักข่าวเข้าไปในโรงแรมไม่ได้
แต่พวกเขาทำอะไรก็ได้นอกโรงแรม
หนีออกไปจากโรงแรมในยามวิกาลเพื่อไปดื่มกับสาวสวย…
แม้ว่าเขาและโมลิน่าเป็นแค่เพื่อนกัน เพื่อนในวงการวิชาการ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเขา
โมลิน่า: “…”
ลู่โจวถอนหายใจ เขาไม่อยากทำร้ายความรู้สึกเพื่อนตัวเอง เขาพิมพ์ข้อความและส่งออก
[แล้วถ้าคุณมาที่นี่แทนล่ะ]
โมลิน่า [ส่งที่อยู่คุณมา]
ลู่โจวแชร์ที่อยู่ผ่านแอป
ปารีสเป็นเมืองใหญ่ที่รถติดหนัก ลู่โจวคิดว่าเธอคงไม่อยากเดินทางมาไกลขนาดนี้
มันไม่คุ้มกันหรอกที่จะต้องขับรถไกลเป็นสิบกิโลเมตรเพียงเพื่อหาอะไรดื่ม
แต่หลังจากที่เขาแชร์ที่อยู่ไป เขาก็ไม่ได้รับข้อความตอบกลับ
ลู่โจวนิ่งไป
อะไรวะเนี่ย?
แม่สาวคนนี้จะมาจริงๆ เหรอ
……………………………………