รถไฟที่เขานั่งเป็นรอบพรุ่งนี้เช้า ดังนั้นเขาจึงต้องอยู่เซี่ยงไฮ้อีกหนึ่งคืน
เหตุผลหลักที่ลู่โจวมาเซี่ยงไฮ้คือการมาขอวีซ่า ตอนนี้เขาได้วีซ่าแล้ว เขาจึงไม่มีอะไรให้ทำ เขาจึงนั่งรถไฟใต้ดินไปเขตลู่เจียจุ่ยของเซี่ยงไฮ้
มันถือเป็นย่านที่ก้าวหน้าและรุ่งเรืองที่สุดของประเทศจีน
ขณะที่ลู่โจวเดินไปตามริมแม่น้ำ เขาก็สงสัยว่าลู่เจียจุ่ยเป็นหนึ่งในชื่อที่ตั้งตามบรรพบุรุษของเขาหรือเปล่า?
เขาหวังว่าสักวันหนึ่งพ่อเขาจะมาบอกว่า ‘ลูก เรามีมรดกที่เกี่ยวข้องกับลู่เจียจุ่ย เรามีที่ดินที่นั่น พ่อไม่อยากบอกลูกเพราะพ่อไม่อยากให้เราถูกตามใจจนเสียคน…’
เอาล่ะ นั่นมันฝันเฟื่องไปหน่อย
ฉันต้องพึ่งพาตัวเอง!
ลู่โจวเจอร้านเคเอฟซี เขาจึงเข้าไปทานเป็นมื้อค่ำ เขาเห็นว่าสภาพแวดล้อมไม่เลว เขาหันไปทางหน้าต่างแล้วถ่ายรูปหอไข่มุกตะวันตกก่อนจะส่งลงไปในฟีดข่าวในวีแชท
ขณะที่เขาหยิบโทรศัพท์จะสั่งอาหาร ทันใดนั้นโทรศัพท์เขาก็สั่น
ลู่โจวมองดูแล้วเห็นว่าเป็นข้อความจากหานเมิ่งฉี
เขาสงสัยว่าทำไมจู่ๆเธอถึงติดต่อมาหาเขา เขาเลยปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์
หานเมิ่งฉี [นายอยู่เซี่ยงไฮ้เหรอ?]
ลู่โจวตอบ [ใช่]
หานเมิ่งฉี [ฉันก็อยู่เซี่ยงไฮ้เหมือนกัน! นายจะกลับตอนไหน?]
จะว่าไปเธออยู่ที่บ้านพ่อตั้งแต่ช่วงหยุดฤดูหนาว คดีความของครอบครัวเธอยังไม่จบ
เด็กจากครอบครัวที่หย่าร้างกันนั้นไม่ง่ายเลย…
ลู่โจวรู้สึกเห็นอกเห็นใจ เขาถอนหายใจแล้วตอบ
[ผมจะไปพรุ่งนี้]
หานเมิ่งฉี [เร็วขนาดนั้นเลย…นายอยู่เที่ยวเล่นเซี่ยงไฮ้สักสองสามวันไม่ได้เหรอ? (เศร้า)]
ลู่โจว [ผมต้องกลับไปเตรียมตัวเข้าร่วมงานประชุมคณิตศาสตร์ที่พรินซ์ตัน ผมไม่มีเวลาเที่ยว นอกจากนี้ผมก็ไม่มีอะไรให้ทำนักในเซี่ยงไฮ้]
หานเมิ่งฉี [รอแป๊บ]
รอแป๊บ?
ลู่โจวลังเลชั่วครู่ เขาไม่รู้ว่าเธอหมายความว่ายังไง
หลังจากนั้นประมาณสิบนาที ประตูร้านเคเอฟซีพลันถูกเปิดออก มีเด็กสาวคนหนึ่งเดินตรงมาที่โต๊ะของลู่โจวแล้วจ้องมองเขาด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
“ฮ่าๆ เซอร์ไพรส์ไหม?”
เด็กสาวสวมเสื้อโค้ทสีน้ำตาลและผ้าพันคอสีแดงซึ่งมันเหมาะกับเธอมาก ผมทรงโพนี่เทลฟูๆ ของเธอเป็นเหมือนกับหางกระรอก
นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่โจวเห็นเธอใส่เสื้อผ้าปกติ ตอนที่เธออยู่ที่บ้าน เธอจะสวมชุดนักเรียนไม่ก็ชุดนอน
ลู่โจว “คาดไม่ถึงเลยทีเดียว…บังเอิญ? หรือเธอมาซื้อของแถวนี้?”
หานเมิ่งฉีบุ้ยปากแล้วกล่าว “อะไร มันจะบังเอิญได้ไง? ฉันอยู่แถวนี้”
ลู่โจวคิด ‘มันไม่บังเอิญยังไง?’
เดี๋ยวนะ เธอกำลังโม้เรื่องความรวยใช่ไหม?
ลู่โจวพูดไม่ออก
ความเห็นอกเห็นใจที่มีต่อเธอก็หายไป
หานเมิ่งฉีมองลู่โจวแล้วกระแอมก่อนจะกล่าว “นายต้องเบื่อมากแน่ถึงได้มาเซี่ยงไฮ้คนเดียว เนื่องจากนายสอนพิเศษฉัน ฉันจะเป็นไกด์ให้นายเอง ป่ะ นายอยากไปไหน?”
ลู่โจว “ไม่ต้อง ผมเดินดูมารอบๆ แล้ว และผมก็กำลังจะกลับโรงแรม”
“โอ้ นายไปมาแล้ว…” หานเมิ่งฉีกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ เธอกล่าวต่อ “นายไม่อยากซื้ออะไรเลยเหรอ?”
“จะซื้อของที่นี่ ผมกลับไปซื้อที่จินหลิงเอาก็ได้ มีเหมือนกัน” ลู่โจวตอบอย่างมีเหตุผล เขาถาม “เธอทานอะไรมาแล้วหรือยัง?”
“ยังไม่ได้กินอะไรเลย” หานเมิ่งฉีกล่าวแล้วส่ายหน้า เธอกล่าวเสริม “ฉันจะซื้อกลับไปกินที่บ้าน”
ทำไมครอบครัวคนรวยครอบครัวนี้ถึงไม่หาพี่เลี้ยงล่ะ?
ลู่โจวถอนหายใจแล้วกล่าว “อย่าทานอาหารขยะมากนัก เธอเรียนทำอาหารเองก็ได้ มันไม่ได้ยากปานนั้น…ผมจะเลี้ยงเธอเอง เธออยากทานอะไร?”
แววตาของหานเมิ่งฉีเปล่งประกาย “จริงเหรอ? ฉันอยากได้เซ็ตเบอร์เกอร์ไก่!”
“รอตรงนี้นะ” ลู่โจวกล่าวก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์
ไม่นานอาหารสองชุดก็มาถึง
หานเมิ่งฉีนั่งตรงข้ามลู่โจว เธอกัดแฮมเบอร์เกอร์ไปด้วยและเริ่มคุยกับลู่โจวไปด้วย
“เอ้อ จะว่าไปแล้ว พี่สาวฉันอยากเข้ามหาวิทยาลัยเยี่ยน นายรู้เรื่องนี้ไหม?”
“ผมรู้ ทำไมเหรอ?”
หานเมิ่งฉีกล่าว “ทำไมนายไม่หยุดเธอล่ะ? ขั้นต่อไปของเธออาจไปเรียนต่อต่างประเทศก็ได้นะ”
ลู่ โจวเหลือบมองเด็กสาวคนนี้อย่างไม่เข้าใจ “ทำไมผมต้องหยุดเธอล่ะ?”
“เพราะ…” หานเมิ่งฉีกล่าว เธอกัดริมฝีปากแล้วกระซิบแผ่วเบา “ไม่ใช่ว่านายเป็นแฟนเธอเหรอ?”
ลู่โจว “???”
อะไรนะ?
“เธอดูทีวีมากไปแล้ว!” ลู่โจวกล่าวขณะหยิบเมนูเคเอฟซีมาเคาะหัวเธอ “เธอคิดได้ไง? ชายกับหญิงเป็นแค่เพื่อนกันไม่ได้เหรอ?”
หานเมิ่งฉีชินกับการโดนลู่โจวเคาะหัวแล้ว ดังนั้นเธอจึงขอโทษ
“เอ่อ…ขอโทษ ฉันเข้าใจผิดเอง ฉันขอโทษ…”
แม้ว่าบางครั้งนิสัยของเธอจะค่อนข้างบ้า แต่เมื่อเธอทำอะไรผิด เธอก็ยังเอ่ยปากขอโทษ
มันเป็นหนึ่งในข้อดีไม่กี่อย่างของเธอ
“คุยกับพี่สาวเธอนู่น” ลู่โจวกล่าวแล้ววางเมนูลง เขากลอกตามองบนก่อนจะทานแฮมเบอร์เกอร์ต่อ
เฮ้อ หนุ่มสาวสมัยนี้นะ
ความไร้เดียงสาเริ่มหายไปเรื่อยๆ
หานเมิ่งฉี “เฮ้”
ลู่โจว “คราวนี้อะไร?”
หานเมิ่งฉีจ้องมองลู่โจวราวกับว่าเธอกำลังยืนยันความคิดของตัวเอง เธอพยักหน้าแล้วกล่าว “ฉันคิดว่านายดูเหมือนใครบางคน”
ลู่โจว “ใคร?”
“ตัวละครเล็กๆในอะนิเมะที่มีความสามารถที่แข็งแกร่ง” หานเมิ่งฉีกล่าว “ทั้งนายกับตัวละครอะนิเมะต่างก็มีน้องสาว แล้ว…”
เด็กสาวขยำเมนูก่อนจะโยนลงถังขยะ จากนั้นเธอก็พลันจ้องมองลู่โจวแล้วกระซิบเสียงแผ่ว “…นอกจากนี้นายก็เป็นผู้ชายที่ไม่มีความรักเหมือนกันอีก!”
ลู่โจว “…”
เด็กคนนี้ใช้เวลานานเพียงเพื่อบอกว่าฉันไม่มีความรัก?
ลู่โจวถอนหายใจแล้วกล่าว “ผมไม่เข้าใจเธอเลยจริงๆ”
…
หลังากทานมมื้อค่ำ ลู่โจวกับหานเมิ่งฉีก็เดินไปตามท้องถนน จากนั้นเขาก็ส่งเธอกลับบ้านก่อนจะกลับโรงแรมคนเดียว
เมื่อเขาอาบน้ำเสร็จ เขาก็นอนบนเตียง ขณะที่เขากำลังจะนอนนั้น โทรศัพท์ของเขาก็สั่นขึ้นมา
มันมาจากเฉินยู่ซาน
เฉินยู่ซาน [วีซ่าผ่านแล้ว?]
ลู่โจว [ผ่านแล้ว]
เฉินยู่ซาน [ฮ่าๆ ขอให้โชคดีกับงานประชุมที่พรินซ์ตัน เอาชนะแล้วกลายเป็นนักคณิตศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่!]
ลู่โจวยิ้มแล้วพิมพ์ตอบ [ผมยังไม่ได้ขึ้นเครื่องด้วยซ้ำ]
อะไรคือเอาชาะ? ผมไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันสักหน่อย
เฉินยู่ซาน [พอนายได้พาสปอร์ต นาจะไปอเมริกาใช่ไหม? ฉันจะไปอิตาลีกับครอบครัวตอนกุมภาพันธ์]
[เอาล่ะ ฉันไม่กวนแล้ว ฝันดีๆ!]
ลู่โจวยิ้มแล้วตอบ [ฝันดีครับ]
เขาวางโทรศัพท์ไว้ข้างเตียงแล้วมองดูทิวทัศน์ตอนกลางคืนนอกหน้าต่าง
ลู่โจวได้ยินเสียงรถเบาๆ แล้วหาวออกมา เขาหลับตาแล้วนอน
………………………………….