หลุมฝังศพของศาสตราจารย์ก็อตเท็นดิ๊กตั้งอยู่ในมุมลับๆ ของสุสาน มันถูกปกคลุมด้วยฝุ่นและดูเหมือนว่าไม่มีใครมาเยี่ยมเขาเป็นเวลานานแล้ว
ก็อตเท็นดิ๊กเลิกติดต่อกับผู้คนในช่วงบั้นปลายชีวิต เว้นแต่เพื่อนไม่กี่คนที่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน คนส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลุมศพของเขาอยู่ไหน
นักบวชสูงวัยบอกว่าก็อตเท็นดิ๊กจะมาสวดมนต์ที่นี่แทบทุกอาทิตย์ ยกเว้นช่วงสองเดือนสุดท้ายของชีวิตเขา
ลู่โจวพยักหน้าให้นักบวชที่พล่ามไม่หยุด เขาก้มตัวลงไปวางช่อดอกไม้บนหลุมฝังศพ
ลู่โจวแสดงความเคารพต่อนักวิชาการคนเก่ง และขอบคุณเขาที่ทิ้งสมุดที่มีค่าไว้ข้างหลัง จากนั้นเขาก็หันหลังแล้วเดินจากไป
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะอยู่ตรงนั้นนาน
เขาก็แค่ไม่อยากให้ผู้อำนวยการจัคโกบิโนต้องมายืนตรงนี้และแสร้งทำเป็นเศร้าไปมากกว่านี้แล้ว
จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรให้เศร้าเลยด้วยซ้ำ มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย แต่การที่สามารถเลือกใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่อิจฉา การที่เขาเก็บตัวเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่สำหรับวงการคณิตศาสตร์ แต่สำหรับเขาแล้วมันคือพร
หลังจากที่ลู่โจวออกมาจากสุสานแล้ว เขาตามนักบวชสูงวัยไปที่บ้านของเขา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโบสถ์ เขาเห็นกองบันทึกที่เหลือในโรงรถของนักบวช
ใช่ ถูกต้อง ทั้งบันทึกและโน้ตเป็นกอง
เห็นได้ชัดว่าในศตวรรษที่ 18 ในช่วงที่การแลกเปลี่ยนทางวิชาการไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดา นักคณิตศาสตร์ยุโรปส่วนใหญ่จะตีพิมพ์ผลการวิจัยของพวกเขา ลู่โจวไม่คิดว่าจะได้เห็นวิธีการสื่อสารที่เก่าแก่ขนาดนี้ในศตวรรษที่ 21
แม้ว่าบันทึกเหล่านั้นจะกองรวมกันอยู่ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าชายสูงวัยให้เวลากับการแยกบันทึกร่างกับบันทึกทางการ เขายังคลุมบันทึกเหล่านั้นด้วยแผ่นพลาสติกเพื่อป้องกันฝุ่น
หลังจากที่ได้เห็นว่าสมุดเหล่านี้ถูกเก็บรักษามาอย่างดี ลู่โจวจึงทำตามสัญญาและบริจาคเงินหนึ่งล้านยูโรให้กับโบสถ์แซงต์ลิซิเยร์ เขาทำราวกับว่ามันเป็นค่าเก็บรักษาที่นักบวชเก็บบันทึกเหล่านี้มาตลอดแปดปี
ลู่โจวหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาเฉินยู่ซาน เขาขอให้เธอช่วยติดต่อบริษัทขนส่งท้องถิ่นในปารีสและมอบหมายให้พวกเขารวบรวมบันทึกและวัสดุพวกนี้และส่งกลับไปที่จีน หลังจากนั้นเขาก็ขึ้นรถและกลับไปที่ปารีส
สตาร์สกายเทคโนโลยีมอบรางวัลให้กับบริษัทขนส่งท้องถิ่นเพื่อพวกเขาจะได้ปฏิเสธไม่ได้ หลังจากบริษัทขนส่งมาถึงเมืองแซงต์-ลิซิเยร์และเก็บบันทึกอันมีค่าแล้ว พัสดุถูกส่งทางเครื่องบินเฉพาะในวันถัดไป
ตอนที่ลู่โจวกลับมาถึงโรงแรมในช่วงค่ำ เขารีบทานมื้อค่ำในห้องอาหารและกลับมายังห้องของเขา เขาแผ่สมุดของก็อตเท็นดิ๊กบนโต๊ะและเปิดแต่ละหน้าด้วยความกระตือรือร้น
“ปัญหาที่แม้แต่ศาสตราจารย์ก็อตเท็นดิ๊กเองก็แก้ไม่ได้ ขอฉันดูหน่อย..”
มีข่าวลือมาว่าก่อนที่จะปลีกตัวออกมาอยู่คนเดียว ศาสตราจารย์ก็อตเท็นดิ๊กและนักศึกษาของเขา เดอลีงย์ทุ่มเทไปกับการวิจัยสมมติฐานของรีมันน์และการประยุกต์ใช้ในสาขาเรขาคณิตเชิงพีชคณิต ข้อคาดการณ์ของไวล์ที่โด่งดังได้รับการพิสูจน์โดยศาสตราจารย์เดอลีงย์ในช่วงนี้
ถ้าศาสตราจารย์ก็อตเท็นดิ๊กยังคงทำงานวิจัยคณิตศาสตร์หลังจากปลีกตัวออกมาแล้ว มันก็เป็นไปได้สูงมากว่าปัญหาที่เขากำลังวิจัยอยู่คือสมมติฐานของรีมันน์
แต่ขณะที่ลู่โจวคิดว่าเขาจะอ่านการวิจัยเกี่ยวกับสมมติฐานของรีมันน์ ขณะที่อ่านอยู่นั้นเขาก็มีสายตาแปลกๆ
“… นี่คืออะไร?”
ทฤษฎีแรงจูงใจเหรอ
ก็ไม่!
แม้ว่ามันจะใช้ตัวเลขนามธรรมก็จริง แต่มันแตกต่างจากทฤษฎีแรงจูงใจโดยสิ้นเชิง
ลู่โจวพลิกหน้าและยังคงอ่านต่อ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็รู้ว่าสิ่งต่างๆ ที่ถูกบันทึกในสมุดเล่มนี้มันเหนือความคาดหมายของเขา มันไม่เกี่ยวข้องกับสมมติฐานของรีมันน์เลยแม้แต่น้อย แต่มันคือประพจน์ทางคณิตศาสตร์ที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
ศาสตราจารย์ก็อตเท็นดิ๊กได้ให้วิธีการในการพิสูจน์สำหรับประพจน์แรกแล้ว ส่วนประพจน์ที่สองนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถแก้ได้
ลู่โจวให้ความสนใจกับปัญหาที่ทำให้ก็อตเท็นดิ๊กว้าวุ่นใจ เขาหยิบปากกาลูกลื่นบนโต๊ะและหยิบกระดาษออกมา เขาเปลี่ยนประพจน์ 2 โดยใช่ทฤษฎีรวมของพีชคณิตและเรขาคณิตของเขา
แต่ทันทีที่เขาเปลี่ยนเสร็จ เขาก็ประหลาดใจ
นี่มันเป็นนิพจน์อีกรูปแบบหนึ่งของสมมติฐานของรีมันน์เหรอ
ลู่โจวรีบพลิกสมุดไปที่หน้าหลังสุด ตอนที่เขาอาจหน้าสุดท้าย เขาถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
“…เห็นได้ชัดว่าก็อตเท็นดิ๊กไม่ได้พิสูจน์มัน”
สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่าประพจน์นี้เหมือนกับสมมติฐานของรีมันน์ แต่ก็อตเท็นดิ๊กไม่มีข้อพิสูจน์ที่สมเหตุสมผลพอ
ท้ายที่สุดแล้ว ทฤษฎีการรวมของพีชคณิตและเรขาคณิตก็เพิ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อปีที่แล้วนี้เอง
เขาใช้ดินสอกาถูกเบาๆ บนประพจน์ที่ 2 เพื่อบ่งบอกว่าประพจน์ได้รับการพิสูจน์แล้ว ลู่โจวมองไปที่การคำนวณและเริ่มครุ่นคิด
“…นี่มันมากกว่าแค่ปัญหาคณิตศาสตร์แน่ๆ “
ประพจน์ที่ซับซ้อนพวกนี้สามารถตีพิมพ์ในฐานะการคาดการณ์ทางคณิตศาสตร์อย่างเป็นทางการ
ไม่ว่าคุณค่าทางวิชาการของมันคืออะไร แต่ในเรื่องของความยาก มันไม่ได้ง่ายไปกว่าโจทย์รางวัลมิลเลนเนียมเลย มันดูไม่เหมือนสิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถแก้ได้
ถ้าศาสตราจารย์ก็อตเท็นดิ๊กต้องการหาคำตอบ เขาจะเสนอประพจน์เหล่านั้นสู่สาธารณะ
แต่ตอนนี้ในยุคของอินเทอร์เน็ต เขาสามารถตีพิมพ์ปัญหาเหล่านี้ได้โดยไม่ให้ใครรู้
การเผยแพร่สู่สาธารณะจะเพิ่มโอกาสที่ใครสักคนจะสามารถแก้ปัญหาได้
ลู่โจวเคาะปากกาบนกระดาษ
จู่ๆ เขาก็จำข่าวลือได้
เพื่อนของศาสตราจารย์ก็อตเท็นดิ๊กเคยกล่าวไว้ว่าในช่วงบั้นปลายของชีวิต จิตใจของเขาอยู่ในภาวะที่แปรปรวน เขาเสพติดกับความคิดเรื่องปีศาจ
ตัวอย่างเช่น เขาเชื่อว่าปีศาจที่เปลี่ยนความเร็วแสงที่งดงามที่มันควรจะเป็น 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที ให้เป็นเลขที่น่าเกลียดอย่าง 299,792.458 กิโลเมตรต่อวินาที
มันไม่ชัดเจนว่าทำไมนักคณิตศาสตร์ที่โดดเด่นจะต้องสนใจการวัดทางกายภาพของจักรวาล แต่มันจะต้องมีเหตุผลที่อยู่เบื้องหลัง
สันตะปาปาแห่งวงการคณิตศาสตร์ที่เกษียณแล้วคนนี้เขียนจดหมายถึงศิษย์เก่าของเขา ศาสตราจารย์อิลูซซี ในเดือนมกราคมปี 2010 ว่าเอกสารทั้งหมดที่เคยถูกตีพิมพ์แล้ว หลังจากที่เขาหายตัวไป ห้ามนำกลับมาตีพิมพ์ซ้ำ
เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความวุ่นวายในตอนนั้นตั้งแต่ที่สมัยที่หนังสือ “Fondements de la Géométrie Algébrique” และ “Éléments de Géométrie Algébrique” ยังเป็นรากฐานสำคัญของสาขาเรขาคณิตเชิงพีชคณิต แต่ความต้องการของก็อตเท็นดิ๊กทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับผู้คนในการหาหนังสือเหล่านี้
ลู่โจวนึกถึงคำในจดหมายที่ก็อตเท็นดิ๊กเขียนถึงเขา เขาไม่คิดว่าคนที่สติไม่ดีสามารถเขียนคำพูดพวกนี้ได้
เขาเชื่อว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับนักวิชาการคนนี้ บางอย่างที่เขาไม่รู้
ตัวอย่างเช่น…
ลูกตาของลู่โจวหดตัว เขามีความคิดที่คลุมเครือในหัว
“…ฟิสิกส์ควบคุมกฎแห่งจักรวาล คณิตศาสตร์คือภาษาสากล”
ลู่โจวมองไปที่การคำนวณทางคณิตศาสตร์ในสมุด เขารู้สึกว่าเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างแจ่มแจ้ง ดวงตาของเขาเป็นประกาย
ถ้าฉันคิดถูก…นี่จะไม่ใช่แค่ประพจน์ทางคณิตศาสตร์ธรรมดา…แต่มันคือภาษาทั้งหมด
………………………………..