“…แด่ลอนดอน เคลย์ และภรรยาของเขา ลาวิเนีย เคลย์ แด่ครอบครัวเคลย์ แด่ครอบครัวรีมันน์ และนักคณิตศาสตร์ทุกคนที่มายังเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในครั้งนี้”
“ที่งานประชุมปารีสเมื่อ 23 ปีที่แล้ว สถาบันคณิตศาสตร์เคลย์มอบรางวัลให้แก่ทุกคนที่สามารถแก้โจทย์เจ็ดข้อที่ยากที่สุดของโลกได้ แม้ว่านักคณิตศาสตร์จะตื่นเต้นกับคณิตศาสตร์มากกว่าชื่อเสียและเงินทอง…”
“แต่ก็ไม่ได้ความหมายว่ามันไม่สำคัญ”
“มันคือโจทย์ปัญหาของศตวรรษที่ 20 ที่ยังไม่ได้รับการแก้ มันสร้างความตื่นเต้นให้วงการคณิตศาสตร์ มันดึงดูดนักเรียนนักศึกษาให้หันมาสนใจในพัฒนาการของคณิตศาสตร์และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์”
“มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะสนใจคณิตศาสตร์จริงๆ หรือเงินรางวัลหนึ่งล้านดอลลาร์”
ณ สถาบันแห่งฝรั่งเศส
ในหอประชุมขนาดใหญ่อัดแน่นไปด้วยผู้คน
เพราะนี้คือพิธีมอบรางวัลสมมติฐานของรีมันน์ นักคณิตศาสตร์ฝรั่งเศสอันดับต้นๆ รวมไปถึงสมาชิกองค์กรคณิตศาสตร์หลักๆ ถูกเชิญมาที่นี่
สถานที่แห่งนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์รวมคณิตศาสตร์ในยุโรปและทั่วโลก นักคณิตศาสตร์จำนวนนับไม่ถ้วนมีความฝันที่จะได้มีโอกาสพูดที่นี่
แม้ว่าความรุ่งโรจน์ของสถานที่แห่งนี้จะจืดจางไปเพราะการปฏิเสธของวงการคณิตศาสตร์ยุโรป แต่ก็ยังมีบางอย่างที่ยังเหมือนเดิม
ศาสตราจารย์คาร์ลสันยืนอยู่ตรงเวที หลังจากที่นิ่งไปสักพัก เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่มุ่งมั่นและจริงจัง
“นีลส์ เฮนริก อาเบลเคยเขียนในบันทึกของเขาว่าการจะแก้ปัญหายากๆ นั้น จะต้องเขียนให้ชัดเจน…
“จะต้องเขียนในรูปนิพจน์ที่ถูกต้อง”
“ปกติแล้วสิ่งที่เรารู้จะไม่ได้ง่ายและเข้าใจได้เหมือนที่เราคิด เบื้องหลังทฤษฎีทุกทฤษฎีที่เรารู้คือความมุ่งมั่นของนักวิชาการมากมายจากหลายประเทศ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องคือความก้าวหน้าของสาขาเรา”
“เรามาได้ไกลมาก ผลงานของศาสตราจารย์ลู่โจวเผยให้เห็นความลับเบื้องหลังการกระจายจุดศูนย์ของฟังก์ชันรีมันน์และความหมายของคณิตศาสตร์ลึกซึ้งที่อยู่เบื้องหลัง นั่นก็คือความเป็นเอกภาพของพีชคณิตและเรขาคณิต ต้นกำเนิดของทฤษฎีนี้ได้เปลี่ยนโครงสร้างพีชคณิตเชิงเรขาคณิตและจำกัดความเข้าใจของเราในเรื่องของตัวเลขและเรขาคณิต”
“เราอาจจะต้องใช้เวลาหลายสิบปีหรือนานกว่านั้นกว่าจะไปถึงจุดสูงสุดของพื้นฐานของเขา ตอนนี้เราก้าวมาแล้วหนึ่งก้าว ดังนั้นผมจึงมั่นใจว่าอย่างไรเสียก้าวที่สองก็ต้องเกิดขึ้น”
คำกล่าวรับรางวัลจบไปแล้ว
ศาสตราจารย์คาร์ลสันโค้งคำนับต่อเสียงปรบมือที่ดังกึกก้อง
ลู่โจวเดินขึ้นไปบนเวทีและรับเช็คหนึ่งล้านดอลลาร์จากศาสตราจารย์คาร์ลสัน เขายิ้มอย่างมืออาชีพและจับมือคาร์ลสัน
“ขอบคุณครับ”
แน่นอนว่าเงินก็ดี
แต่เมื่อเทียบกับไซต์งานก่อสร้างฟิวชั่นมูลค่าพันดอลลาร์เมื่อวานแล้ว เงินหนึ่งล้านดอลลาร์ก็เป็นแค่เงินทอนไปเลย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีสิ่งที่เรียกว่ามีเงินมากเกินไปอยู่ดี
ในที่สุดศาสตราจารย์คาร์ลสันก็ได้มอบรางวัลที่สำคัญเสียที เขามีสีหน้าโล่งใจ
เขารู้สึกว่าเขาอยู่ในสถานการณ์ที่พิเศษ
เขาอยากมอบเงินหนึ่งล้านดอลลาร์
ศาสตราจารย์คาร์ลสันจับมือลู่โจวและพูดอย่างตื่นเต้น
“คุณอยากจะกล่าวสุนทรพจน์ตอบรับไหมครับ ก็แค่บอกว่าคุณรู้สึกอย่างไรบ้าง”
สุนทรพจน์ตอบรับเหรอ
ตอนที่ลู่โจวได้ยินสิ่งที่ศาสตราจารย์คาร์ลสันพูด เขาแสดงสีหน้าเคอะเขินทันที
“ผมเพิ่งจะพูดไปแล้วครั้งที่แล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องพูดอีกรอบหรอกครับ”
เพราะเสียงปรบมือที่ดังอยู่รอบๆ ศาสตราจารย์คาร์ลสันเป็นคนเดียวที่ได้ยินสิ่งที่ลู่โจวพูด
ลู่โจวมองหน้าของชายสูงวัยที่แดงขึ้นเพราะความดันเลือดสูง จู่ๆ เขาก็รู้สึกโชคดีที่คำพูดของเขาถูกกลบด้วยเสียงปรบมือและที่เขาอยู่ห่างจากไมโครโฟน
…
ในช่วงค่ำมีงานเลี้ยงที่มหาวิทยาลัยฝรั่งเศส โดยทางสมาคมคณิตศาสตร์แห่งฝรั่งเศสและสถาบันคณิตศาสตร์สเคลย์เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ แม้จะมีนักคณิตศาสตร์บางคนที่ไม่ได้เข้าร่วมงานรับรางวัลในช่วงกลางวันแต่ทุกคนกลับมาร่วมงานเลี้ยงในตอนกลางคืน
ลู่โจวเจอเพื่อนเก่าหลายคนที่งานเลี้ยง
หนึ่งในนั้นคือศาสตราจารย์เฮลฟ์ก็อต ที่ทำงานที่เอกอล นอร์มาล ซูเพริเยอ
นักทฤษฎีตัวเลขชาวเปรู-ฝรั่งเศสคนนี้ช่วยเหลือเขาตอนที่เขาทำวิจัยข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อพิสูจน์ของข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคที่อ่อนแอสร้างแรงบันดาลใจให้กับเขาในการผสมวิธีการวิเคราะห์ขนาดของอนุภาคของแข็งกับวิธีการวงกลม
หลังจากแก้ข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคได้แล้ว ลู่โจวก็แทบจะไม่ได้ตีพิมพ์วิทยานิพนธ์ในหัวข้อทฤษฎีตัวเลขเลย ทั้งสองจึงไม่ได้ติดต่อกัน แต่เขาก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีนะ
ศาสตราจารย์เฮลฟ์ก็อตค่อนข้างกระตือรือร้นและพูดคุยกับลู่โจวเป็นเวลานาน ลู่โจวถามถึงชีวิตของก็อตเท็นดิ๊กและข่าวลือเกี่ยวกับศาสตราจารย์อาเบล
“สมมุตินะครับ”
เฮลฟ์ก็อต “ครับ”
ลู่โจวรินแชมเปญให้ตัวเองและพูด “…ถ้าบนจักรวาลนี้มีมนุษย์ต่างดาวจริงๆ ถ้าพวกมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างจากเราโดยสิ้นเชิง เราควรสื่อสารกับพวกเขาอย่างไร
ศาสตราจารย์เฮลฟ์ก็อตนิ่งไปครู่หนึ่ง และมองลู่โจวด้วยสีหน้าแปลกๆ
“คุณค้นพบมนุษย์ต่างดาวเหรอ”
ลู่โจวหยุดนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะยิ้ม
“ไม่อยู่แล้ว! ก็แค่เป็นคำถามเชิงสมมุติเฉยๆ ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้นล่ะ”
เฮลฟ์ก็อตยิ้มและพูด “เพราะทุกครั้งที่คุณถามคำถาม ดูเหมือนว่าคุณแก้คำถามนั้นไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว คุณไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้คนอื่นได้มีโอกาสมาแย่งชิงความรุ่งโรจน์ของคุณใช่ไหม”
เอ่อ
จริงเหรอ?
ลู่โจวคิดเรื่องนั้นอย่างตั้งใจและพบว่าเฮลฟ์ก็อตพูดถูก
ในความเห็นของเขา เขาทำงานอย่างหนักเพื่อความสำเร็จของตัวเอง แต่ในสายตาของคนอื่น เขาใช้เวลาแค่ไม่กี่เดือนหรือไม่กี่อาทิตย์ในการแก้ประพจน์คณิตศาสตร์ที่มีอายุยาวนาน
เฮลฟ์ก็อตยิ้มและจิบไวน์ เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบคำถาม
“ถ้าผมจะต้องสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวเป็นครั้งแรก ผมคิดว่าคณิตศาสตร์คือวิธีที่เหมาะสมที่สุด”
ลู่โจวเลิกคิ้ว
“อย่างนั้นเหรอ?”
ช่างบังเอิญจริงๆ เลย
กุญแจหลักในการสื่อสารระหว่างอารยธรรมทั้งสองคือการหาภาษาที่เหมือนกัน อย่างเช่น ถ้วยในมือของผม ถ้าพวกเขาไม่ใช้ถ้วยเป็นภาชนะและดื่มของเหลว ก็แปลว่าถ้วยใบนี้ไม่ได้มีความหมายกับพวกเขาเลย” เฮลฟ์ก็อตพูดขณะที่วางถ้วยลง เขาคิดอยู่สักพักแล้วพูดต่อ “วิทยาศาสตร์คือการศึกษาปัญหาของโลก ปัญหาที่เราเผชิญอาจจะแตกต่างกับพวกเขา แต่เครื่องมือที่เราใช้ในการแก้ปัญหาก็น่าจะเหมือนกัน”
“ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ธรรมชาติหรือเทคโนโลยีประยุกต์ก็ต่างเกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์ทั้งสิ้น
“ผมคิดว่าคณิตศาสตร์ควรเป็นภาษาธรรมดา”
ลู่โจว “ถ้าคุณเป็นมนุษย์ต่างดาวแล้วคุณอยากรู้ว่าผมฉลาดขนาดไหน คุณจะทำอย่างไร”
เฮลฟ์ก็อตเอนตัวไปกับเก้าอี้และยิ้ม
“ผมเนี่ยนะ? ผมจะให้จำนวนเฉพาะกับคุณก่อนสองตัว แน่นอนว่าผมจะให้จำนวนคูณของจำนวนเฉพาะสองจำนวนนี้ ถ้าคุณสามารถหาจำนวนเฉพาะได้ แล้วอย่างไร…”
“เป็นความคิดที่น่าสนใจ…” ลู่โจวยิ้มและพูด “แล้วอย่างไรต่อ
เฮลฟ์ก็อต “แล้ว? ใช้ระยะห่างที่อยู่ระหว่างในการสร้างระบบวัดอย่างนั้นเหรอ แล้วตารางธาตุล่ะ การทำสิ่งนี้ตามระบบคือข้อบังคับ ผมจำได้ว่ามันเรียกว่าภาษามนุษย์ต่างดาว ผมคิดว่ายังมีศาสตราจารย์จากปารีสที่ศึกษาหัวข้อนี้อยู่… “
“โดยทั่วไปแล้ว ผมคิดว่าถ้าเราสามารถดำเนินการเรื่องการสื่อสารพื้นฐานได้ทุกอย่างก็ไม่เป็นไรแล้ว บางทีเราสามารถแลกเปลี่ยนความรู้กันด้วยซ้ำ เมื่อการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมเริ่มขึ้น เราจะสามารถเข้าใจกันและกันได้”
เฮลฟ์ก็อตนิ่งไปครู่หนึ่ง ยักไหล่ และพูด
“ถ้าพวกเขาตัดสินใจติดต่อเรามา พวกเขาอาจจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับเราหรืออาจสังเกตเรามาสักพักหนึ่งแล้ว ไม่ว่าจะผ่านสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือแคปซูลอวกาศ ถ้าพวกเขาต้องการสื่อสารกับเราจริงๆ พวกเขาก็ต้องหาวิธี”
ลู่โจวพูดด้วยรอยยิ้ม
“พูดตรงๆ นะ คุณน่าจะเป็นนักเขียนไซไฟนะ”
เฮลฟ์ก็อตยิ้ม
“ขอบคุณสำหรับคำชม แต่นิยายไซไฟไม่น่าตื่นเต้นเท่าคณิตศาสตร์ ผมจะทิ้งโอกาสนี้ไว้ให้คนอื่นก็แล้วกัน”
……………………