ท้องฟ้าเป็นสีส้ม ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ความร้อนทำให้หายใจลำบาก
ภูเขาและเนินเขาปกคลุมไปด้วยไร่นา พืชผลที่นี่เป็นสีฟ้า พวกมันดูเหมือนคลื่นทะเล
เดิมทีลู่โจวคิดว่ามันคงจะเป็นประสบการณ์เหมือนในครั้งที่แล้วที่เขาอาจโดนกระสุนโจมตี แต่เขาอยู่ในฉากที่เงียบสงบ
แต่ความเงียบสงบนั้นหายไปในเวลาอันสั้น
ภูเขาที่อยู่ห่างออกไปดูเหมือนถูกผ่าครึ่งโดยกองทัพที่น่ากลัว พวกเขาระเบิดหินที่อยู่ใต้ดิน
เห็นได้ชัดว่ากำลังเกิดสงครามที่น่าสลดใจที่นี่
“มันงดงามใช่ไหมล่ะ” ชายชาวคาลาเนียนพูดกับลู่โจว “คุณลอง ผมได้ยินมาว่าคุณมาจากดาวอันไกลโพ้น”
ลู่โจวพยักหน้าและพูด
“ครับนายพลเรนฮาร์ท”
ไม่เหมือนกับครั้งที่แล้วในตอนที่ลู่โจวพูด ความทรงจำแปลกๆ หลั่งไหลเข้ามาในสมองของเขา เขาจำได้ว่าเขาเคยเป็นทหารจากดาวอันไกลโพ้น เขาเข้าร่วมกองทัพกบฏและกลายเป็นทหารภายใต้การบังคับบัญชาของนายพลเรนฮาร์ท
ไม่อยากจะเชื่อเลย
เรนฮาร์ทก่อการปฏิวัติเพื่อล้มล้างอำนาจของเอ็มไพร์ 50 ปีหลังเหตุการณ์ออราเคิล
แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
อย่างน้อยแค่ตอนนี้ พวกเขาอาจจะอยู่ในฝั่งผู้แพ้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ครั้งก่อน
“ผมขอโทษนะ ผมทำลายบ้านเกิดของคุณ ผมจำได้ว่าภูเขาลูกนั้นเป็นหนึ่งในสิบสถานที่ที่งดงามที่สุดของเอ็มไพร์ มันถูกเรียกว่าประตูสนธยา”
จู่ๆ ทหารก็เดินเข้ามา
“นายพล กองทัพเอ็มไพร์ส่งคำสั่งมาที่เรา”
เรนฮาร์ทนิ่งไปสักพักก่อนจะพูด
“เรียกทหารระดับ 5 และสูงกว่ามารวมกันที่ห้องเจ้าหน้าที่ ผมมีเรื่องสำคัญจะพูดคุยกับพวกเขา”
“ครับ”
ทหารเดินจากไป
เรนฮาร์ทหันไปมองที่ลอง ซึ่งก็คือตัวละครของลู่โจว นิ้วของเรนฮาร์ทชี้ไปที่ดาวตกบนท้องฟ้า
“คุณเห็นแสงโค้งนั่นไหม”
ลู่โจวเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ยังทางที่เขาชี้
ก่อนที่เขาจะพูด เรนฮาร์ทยิ้มและพูดขึ้น
“นั่นคือเอ็มไพร์สปีดแลนซ์ สุดยอดเลยใช่ไหมล่ะ”
ลู่โจว “…”
“เมื่อไม่กี่ร้อยปีก่อนเรากำจัดอาวุธที่ยุติสงครามครั้งล่าสุด แต่กองทัพเอ็มไพร์ใช้เวลาไม่ถึงห้าปีด้วยซ้ำในการติดอาวุธขึ้นมาอีกครั้ง”
“จริงๆ แล้วสงครามก็คือสัญชาตญาณของมนุษย์ ดูเหมือนว่าเอ็มไพร์ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย เราประเมินค่าสภาต่ำเกินไป”
เรนฮาร์ทส่ายหัวพร้อมรอยยิ้มหลงตัวเองบนใบหน้า
แม้ว่าอาวุธเหล่านี้จะเล็กน้อยเมื่อเทียบกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นที่ออราเคิล แต่อย่างน้อยเอ็มไพร์ก็ไม่ใช่แกะที่รอถูกฆ่าอีกต่อไป
แต่ถ้าหากพวกเขาเป็นแกะจริงๆ …
อย่างน้อยพวกเขาก็เป็นแกะที่มีปืนและเสื้อเกราะ
“มากับผม ลอง
“ทุกวินาทีที่เราเสียไปคือทหารหาญที่เสียสละตัวเองเพื่อเหตุผลของเราในการจะใช้ประโยชน์จากการเสียสละของพวกเขาและเพื่อมอบความหวังของอนาคตแก่พวกเรา ผมจึงต้องเตรียมการ คุณช่วยมอบความกล้าให้ผมหน่อยได้ไหม”
ลู่โจวไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
“…คุณมีความกล้ามากพอแล้วครับนายพล”
“จริงเหรอ?” นายพลเรนฮาร์ทนึกถึงอดีตและยิ้มขณะที่พูด “อาจจะเป็นแบบนั้น”
…
ไม่นานพวกเขาก็เดินทางมาถึงห้องเจ้าหน้าที่
เรนฮาร์ทวางมือบนโต๊ะประชุมขณะที่มองเจ้าพนักงานที่รอบๆ โต๊ะ
“ทุกคน เราแพ้ในสงครามนี้”
ห้องทั้งห้องเงียบลง
ลู่โจวสังเกตเห็นว่ามีบางคนกลั้นลมหายใจ
“ผมไม่กลัวความล้มเหลว ความตายก็แค่การกลับไปสู้อ้อมกอดแห้งจิตวิญญาณของจักรวาล การเสียสละคือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชายชาติทหาร รุ่นพี่เคยบอกผมแบบนี้ แม้ว่าผมจะมั่นใจว่าเขาคงผิดหวังกับผมตอนนี้มากก็ตาม”
นายพลเรนฮาร์ทยิ้มยิงฟันและมองไปที่เจ้าพนักงานรอบๆ โต๊ะประชุม เขาพูดขึ้น
“ผมไม่กลัวความล้มเหลว แต่ผมไม่อยากให้ความพยายามทั้งหมดของพวกเราสูญเปล่า”
“ถ้ากรณีที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้น เราต้องทิ้งสิ่งที่มีความหมายเอาไว้เบื้องหลัง”
ห้องพนักงานเงียบอยู่นาน
ในที่สุดเจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็ทำลายความเงียบนั้น
“แต่นายพลครับ เราจะทิ้งอะไรไว้ล่ะ”
“ทิ้งไฟหรือความหวัง” เรนฮาร์ทเดินไปตรงแผงโฮโลแกรม เขายื่นมือออกไปและโบกมือ เขาเปลี่ยนแผนที่รบเป็นแผนที่ดวงดาวในระบบกาแล็กซีทั้งระบบ
เขามองกาแล็กซี นิ้วชี้ของเขาชี้ไปที่ศูนย์กลางของกาแล็กซี
“ในบันทึกของศาสตราจารย์โลนเขาได้คำนวณวิถีโคจรของควาร์กสตาร์ เรารู้ว่าพวกเขากำลังไปไหน ถ้าความหวังอยู่ที่ไหนเราก็ควรไปที่นั่น”
เจ้าหน้าที่กองทัพปฏิวัติแสดงสีหน้าขมขื่นขณะที่พูด “ไม่มีใครหยุดกองทัพของเอ็มไพร์ได้ พวกเขาจะตรวจสอบยานอวกาศทุกยานเพื่อหาสิ่งมีชีวิต พวกเขาจะทำลายโลกทั้งใบถ้าจำเป็น อีกอย่างเราไม่มียานอวกาศที่สามารถขับเคลื่อนระยะทาง 500 ปีแสงโดยไม่ต้องเติมเชื้อเพลิง เราอยู่ห่างจากศูนย์กลางของระบบสุริยะก็อย่างน้อย 10,000 ปีแสงแล้ว…”
“แต่เราต้องลองดู”
เรนฮาร์ทมีสีหน้าแห่งความมุ่งมั่นขณะที่พูดด้วยท่าทางมั่นใจ “คัดลอกความทรงจำของผมลงคอมพิวเตอร์ของคุณและเปลี่ยนร่างกายของผมให้เป็นตัวอย่างทดสอบ”
“ถ้าอารยธรรมของเราอยู่รอดไปจนถึงตอนสุดท้าย มันก็เป็นเรื่องดี”
“แต่ถ้าไม่ เราก็ต้องทิ้งอะไรบางอย่างไว้ข้างหลังเพื่อพิสูจน์ว่าครั้งนี้เคยมีอารยธรรมที่ดีขนาดนี้อยู่”
คำพูดท่อนหลังของเขาดูน่าสลดใจ
ช่วงหลังของการประชุม กองทัพเอ็มไพร์เริ่มระเบิดพื้นผิวโลก พลาสมาอุณหภูมิสูงละลายหิน และแผดเผาพื้นผิว อาวุธเคมีที่เป็นสิ่งไร้ประโยชน์ในอวกาศกลับมีพลังเหนือจินตนาการกับบรรยากาศบนดาวเคราะห์
หน่วยรบภาคพื้นดินและในวงโคจรของการบินของกองทัพปฏิวัติพ่ายแพ้อย่างช้าๆ
ด้านในหลุมหลบภัยใต้ดิน เรนฮาร์ทเก็บความทรงจำของเขาลงในคอมพิวเตอร์ เขาเข้าสู่เส้นทางการรบอวกาศและเปิดใช้งานเรือปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะ
ในที่สุดเขาก็จบชีวิตตัวเองด้วยเข็มที่มีไวรัสรุนแรง ร่างกายของเขาจะถูกส่งไปยังศูนย์กลางกาแล็กซี
ลู่โจวดูทุกอย่างคลี่คลายต่อหน้าต่อตาเขา เขากลั้นหายใจ
แม้ว่าการเดินทาง 10,000 ปีแสงจะไม่ได้เกิดขึ้นต่อหน้าเขา แต่การที่เขาสามารถเข้าถึงความทรงจำนี้หมายถึงยานอวกาศมาถึงศูนย์กลางกาแล็กซีแล้ว
ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับจักรวาลเก่าถูกทำลายหมด แต่ความทรงจำนี้ถูกส่งต่อและเฝ้าดูโดยเขาภายในจักรวาลใหม่
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมากไม่ใช่ความใจเย็นของชาวคาลาเนียนในระหว่างการรบ แต่เป็นสิ่งที่นายพลเรนฮาร์ททำก่อนจะขึ้นเรือหลบหนี
เขาเห็นนายพลเรนฮาร์ทถอดสร้อยคอแบตเตอรี่พังๆ สวดภาวนาอยู่สักพัก แล้วใส่แขวนไว้รอบคอเหมือนเดิม
ลู่โจวจำแบตเตอรี่นั่นได้
แบตเตอรี่เพิ่มพลังอาวุธของเขาในวอยด์เมมโมรี่บี
แบตเตอรี่พังเพราะกระสุนระหว่างการรบ
เขาไม่คาดคิดว่าเรนฮาร์ทจะใส่แบตเตอรี่เป็นสร้อยคอแบบนี้
แบตเตอรี่พังๆ ยานอวกาศเก่าๆ และเรือปัญญาประดิษฐ์
ลู่โจวนึกถึงของขวัญที่เขาได้รับจากเดอะวอยด์ เขารู้สึกว่าใจเขาเต้นเร็วมาก
ของขวัญที่เขาได้จากเดอะวอยด์มาจากซากปรักหักพังของคาลานเอ็มไพร์…
เขาอาจจะค้นพบต้นกำหนดของเสี่ยวไอ…
…………………