แสงอาทิตย์ส่องผ่านโลกที่ว่างเปล่า ราวกับว่ามันกำลังคัดลอกเรื่องราวของจักรวาลเก่า
พวกเขายืนอยู่ในพลาซ่าที่กว้างใหญ่และงดงามในขณะที่ผู้คนเดินอยู่รายรอบพวกเขา พวกเขาสูดอากาศและมองดูเศษกระดาษร่วงหล่นลงมาจากฟ้า ทุกอย่างนั้นราวกับความฝัน
จริงๆ แล้วมันก็คือความฝัน
ความฝันเมื่อนานมาแล้ว
ลู่โจวเอื้อมมือออกไปหยิบแผ่นกระดาษที่ปลิวบนท้องฟ้า
มันก็เหมือนเครื่องมือสื่อที่ทำมาจากวัสดุย่อยสลายได้ ข่าววันนี้อยู่บนกระดาษ
[กองทัพเอ็มไพร์ที่แข็งแกร่งยุติสงครามกลางเมืองนานห้าปี! จอมพลอินซ์ถูกจับกุม!]
ลู่โจวทำสีหน้าเหมือนนึกอะไรออก
ตอนนี้เขาอยู่ในช่วงเวลาหลังจากที่นายพลเรนฮาร์ทเสียชีวิตได้ไม่นาน กองทัพเอ็มไพร์เพิ่งจะทำลายกลุ่มผู้ปฏิวัติทำให้กบฏซ่อนตัวและพยายามสร้างความแตกแยกปราการเอ็มไพร์จากข้างใน
กองทัพติดอาวุธที่แข็งแกร่งเริ่มต่อสู้กับกบฏที่ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มพวกเขา ราวกับว่าเอ็มไพร์มีเนื้องอกที่ทำลายพวกเขาอย่างช้าๆ
ในที่สุดลู่โจวก็เข้าใจว่าผู้สังเกตการณ์หมายถึงอะไร
สิ่งเดียวที่เขาประหลาดใจก็คือนายพลเรนฮาร์ทมีตำแหน่งที่สูงกว่าอินซ์ คงมีเรื่องมากมายเกิดขึ้นในช่วงสงครามห้าปี…
เฉินยู่ซานมองไปที่หนังสือพิมพ์ในมือและถามด้วยความสงสัย “มาร์แชล อินซ์ คือใคร”
“…น่าจะเป็นคนใหญ่คนโตจากกองทัพเอ็มไพร์ ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเกมนี้เท่าไหร่” ลู่โจวพูด เขาโยนแผ่นกระดาษและมองมันสลายกลายเป็นฟองอากาศ เขายิ้มและพูด “ไปกันเถอะ ฉันจะพาคุณไปดูรอบๆ “
โลกนี้กว้างมาก
น่าจะใช้เวลาทั้งชีวิตกว่าจะสำรวจทุกอย่างจบ
ที่นี่มีเขตการค้า ไร่นาที่กว้างสุดลูกหูลูกตา และภูเขาและแม่น้ำที่ถูกสร้างขึ้น เว้นเสียแต่ว่าจะมีคนมองลงมาที่สถานีอวกาศ พวกเขาจะไม่มีทางบอกได้ว่ามันเป็นโลกรูปทรงวงแหวน
เฉินยู่ซานคิดว่านี่เป็นการพักผ่อนสั้นๆ ดังนั้นลู่โจวจึงอยากพาเธอเดินชมโลกนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พวกเขาขึ้นรถไฟแรงต้านแรงโน้มถ่วงและมาถึงอาคารที่มีลิฟต์ที่สูงที่สุด
มันคือหนึ่งในทางเข้าของชาวคาลาเนียนที่ใช้เข้าและออกริงเวิร์ลจากนอกอวกาศ มันยังเป็นทางเชื่อมที่สำคัญของระบบขนส่งของเอ็มไพร์ทั้งหมด
และมันเป็นหนึ่งในไม่กี่ที่มองไม่เห็นพื้นที่ของมันในริงเวิร์ล
เฉินยู่ซานยืนอยู่ตรงกระจกสูงและจ้องไปที่บรรยากาศนอกกระจก ตาของเธอเบิกกว้างขณะที่มองรอบๆ
หลังจากนั้นสักพักเธอก็พูดด้วยความตื่นเต้น
“มันสวยมากเลย…”
ลู่โจว ที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอพยักหน้า
แต่เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ผิดหวัง
“ใช่ มันเหมือนปาฏิหาริย์”
ปราการเก็บเกี่ยวพลังงานมีฟิล์มพลังงานที่ดูเหมือนใบไม้ มันดูเหมือนต้นไม้สูงในป่า ฟิล์มแกว่งไปมาในอากาศจากลมสุริยะมันพยายามดูดซึมพลังงานแสงอาทิตย์และแปลงให้เป็นพลังงานทุกรูปแบบให้โลกได้ใช้
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่นี่ พวกเขาไม่ต้องการเทคโนโลยีที่เก่าแก่อย่างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่น
ดาวทั้งดาวคือแกนนิวเคลียร์ของพวกเขา พวกเขาไม่จำเป็นต้องลดประสิทธิภาพของพลังงานด้วยการเติมเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์กลาง ตราบใดที่ดาวยังมีชีวิตอยู่แหล่งพลังงานของพวกเขาก็ยังคงอยู่ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นพลังงานจากความว่างเปล่าหรือปฏิสสาร ไม่มีอะไรที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับพลังงานจากดาวธรรมชาติได้เลย
พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีดวงอาทิตย์ขึ้นหรือดวงอาทิตย์ตก จะมีกลางวันหรือกลางคืนยาวนาน 24 ชั่วโมงก็ได้ สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ที่นั่นไม่ต้องพึ่งพาการเปลี่ยนแปลงของกลางวันและกลางคืน แต่พวกเขาใช้นาฬิกามาตรฐานในการดูเวลา
ไม่เพียงแค่นั้น ต้องขอบคุณระบบควบคุมอุณหภูมิกลาง เพราะจะไม่มีภัยพิบัติทางอากาศเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเดินบนไร่นาหรือเดินใจกลางตึกสูงเฉียดฟ้าอุณหภูมิจะอยู่ในระดับที่สบายตัวและคงที่อยู่เสมอ
แม้ว่าลู่โจวจะใช้เวลาหลายชั่วโมงในโลกนี้ แต่หลังจากที่เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เขาก็อดรู้สึกอ่อนไหวไม่ได้
นี่คือสิ่งที่เรียกว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีห้าศตวรรษ ปัญญา และความขยัน
ฉันคิดไม่ออกเลยว่าวิศวกรจะต้องใช้ความพยายามขนาดไหนในการสร้างสวรรค์แห่งนี้ขึ้นมา
พวกเขาสามารถสร้างสวรรค์ขึ้นมาได้จริงๆ
แต่พวกเขาก็เป็นคนเดียวกับคนที่ทำลายมัน…
หลังจากที่ลู่โจวและเฉินยู่ซานลงมาจากลิฟต์ ลู่โจวพาเฉินยู่ซานไปที่ย่านช้อปปิ้งและเอ็มไพร์ปาร์ค ซึ่งเป็นที่ที่มีคนบอกว่าเป็นสถานที่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในริงเวิร์ล
ระหว่างการเดินทาง เฉินยู่ซานมองรอบๆ ด้วยความตื่นเต้น ซึ่งแตกต่างกับตัวเธอเวลาที่นิ่งและเย็นชา
“น่าทึ่งมากเลย AI สร้างขึ้นมาจริงๆ เหรอ”
ลู่โจวพยักหน้า
เขาไม่ได้โกหก ในแง่หนึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง
เฉินยู่ซานมองกลับไปที่ลู่โจวและพูดด้วยความตื่นเต้น
“นี่ นายคิดว่าในอนาคตจะเป็นแบบนี้ไหม”
ลู่โจว “ไม่แน่ใจ บางทีหลังจากผ่านไปเป็นสหัสวรรษมั้ง”
พวกเขาจะต้องหาดวงดาวที่มีตัวเลขที่ถูกต้องบนดาวเคราะห์ หลังจากนั้นพวกเขาจะต้องใช้อาวุธในการทำลายดาวเคราะห์นั้น หลังจากนั้นพวกเขาจะใช้วิศวกรทางอากาศแนวไซไฟในการสร้างริงขนาดยักษ์รอบๆ เขตที่อยู่อาศัย…
วัฒนธรรมและศีลธรรมของแต่ละอารยธรรมย่อมแตกต่างกัน ไม่มีอะไรที่เป็นอุดมคติของอารยธรรมที่ก้าวล้ำ
เปรียบเทียบกับคาลาเนียนเอ็มไพร์แล้ว ลู่โจวรู้สึกว่าโลกเป็นอารยธรรมที่เปิดกว้างกว่า มนุษย์ไม่เพียงแค่ส่งโปสต์การ์ดอวกาศสู่จักรวาล พวกเขายังเชื่ออย่างใสซื่อว่าพวกเขาไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเดียวในอวกาศ แต่พวกเขายังสนใจที่จะใช้จรวดเพื่อก้าวล้ำดาวเคราะห์เล็กๆ ของพวกเขา
สำหรับอารยธรรมอย่างมนุษย์ พวกเขาอาจจะสนใจที่จะสำรวจเขตแดนมากกว่า แทนที่จะเป็นตึกที่มีโครงสร้างทางวิศวกรรมขนาดยักษ์รอบๆ บ้านของพวกเขา
ในแง่ของสายพันธุ์ มนุษย์ได้เปรียบกว่าชาวคาลาน
แน่นอนว่าการจะสรุปตอนนี้ก็ยังเร็วไป
“หลังจากผ่านไปหนึ่งพันปี…ดูเหมือนว่าเราสามารถสัมผัสประสบการณ์นี้ในวิดีโอเกมเท่านั้น”
ลู่โจวยิ้มและไม่พูดอะไรต่อ
แน่นอน
คุณตั้งใจว่าจะอยู่อีกเป็นพันปีหรือไง
กว่าจะถึงตอนนั้นก็กลายเป็นมัมมี่ไปแล้ว
หลังจากเดินรอบๆ ย่านการค้าและเอ็มไพร์ปาร์คอยู่สักพัก พวกเขาก็กลับมาที่พลาซ่า
เฉินยู่ซานมองไปที่รถบินและพูด
“ฉันรู้สึกว่าฉันรู้แล้วว่าเกมนี้เกี่ยวกับอะไร โครงเรื่องก็สั้นๆ และฉันยังไม่ได้เล่นระบบต่อสู้เลย…แต่ฉันรู้สึกทุกอย่างที่นี่คือโลกใหม่ทั้งหมด ฉันรู้สึกว่าผู้เล่นที่ชอบสำรวจจะชอบเกมนี้”
ลู่โจว “ฉันไม่ต้องการคนเยอะหรอก ตราบใดที่มันเพียงพอให้ประสบการณ์ของฉันขับเคลื่อนไปได้ น่าจะประมาณ 100,000 คน”
เฉินยู่ซานยิ้มและพูด “เราคือสตาร์สกายเทคโนโลยีนะ ลืมเรื่องคนแสนคนไปได้เลย มาพนันกันไหมว่าเราจะต้องขายได้เป็นล้านแน่ๆ”
ลู่โจว “…ฉันไม่เคยพนันเรื่องที่นอกเหนือความชำนาญของตัวเอง”
เฉินยู่ซานกลอกตาและพูด
“น่าเบื่อจัง นายไม่คิดจะให้โอกาสฉันได้ชนะบ้างเลยเหรอ”
ลู่โจวหัวเราะเบาๆ อย่างประหม่า
ไม่มีทาง
คุณคิดจริงๆ เหรอว่าผมชอบความพ่ายแพ้
ช่างมันเถอะ
จู่ๆ เฉินยู่ซานก็นึกอะไรออก เธอถามด้วยความสงสัย “โอ้ แล้วทีมเรสพอนล่ะ พวกเขาทดสอบเกมกันที่ไหน นายพาฉันไปดูที่นั่นได้ไหม”
“โลกใบนี้เพิ่งสร้างขึ้นได้ไม่นาน และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันมาที่นี่” ลู่โจวพูด แน่นอนว่าในเชิงเทคนิค นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยู่ที่ริงเวิร์ล ณ เวลานี้
แต่ริงเวิร์ลแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย
“นายกำลังบอกว่าเราคือคนสองคนบนโลกนี้เหรอ”
ลู่โจวรู้สึกว่าเฉินยู่ซานตื่นเต้นมากเกินไปด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง
ลู่โจวไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรที่น่าตื่นเต้นขนาดนั้น แต่เขาก็ยังพยักหน้าและตอบ “ใช่”
“…เยี่ยมไปเลย”
ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง เฉินยู่ซานที่เพิ่งจะร่าเริงเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว จู่ๆ ก็รู้สึกอายขึ้นมา
“นี่…”
“อะไรอีก”
“นายหมายความว่าอย่างไรตอนนี้ ช่างมันเถอะ” เฉินยู่ซานพูด “นายไม่รู้สึกว่า…”
“รู้สึกว่าอะไร”
“…นายไม่รู้สึกเหรอว่าเหมือนเรากำลังออกเดทกันอยู่”
เฉินยู่ซานรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ เธอประหลาดใจที่เธอพูดออกมาตรงๆ ขนาดนี้
ลู่โจวไม่ทันตั้งตัว
เขาครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่สักพักก่อนที่จะตอบ “เรากำลังเดทกันเหรอ”
ดูเหมือนว่าลู่โจวจะไม่เข้าใจสัญญาณของเฉินยู่ซาน เฉินยู่ซานเริ่มตกใจกลัว
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”
ลู่โจวพูด “ออกเดทก็ต้องมีการช้อปปิ้งและดูหนัง”
เฉินยู่ซาน “ไปกันเถอะ”
“…ไปไหน”
“ไปช้อปปิ้งไง”
“แต่ฉันไม่มีเงิน”
“ฉันจ่ายเอง”
“ไม่ ฉันจะบอกว่าเราไม่มีเงิน” ลู่โจวพูดด้วยท่าทีอึดอัด “ในทางทฤษฎีก็คือเราไม่มีเครดิต”
แล้วจ่ายกับเงินหยวนก็ไม่ได้
นอกจากระบบรถไฟแล้ว ทุกอย่างในริงเวิร์ลจะต้องจ่ายด้วยรูปแบบของเครดิต
บรรยากาศตึงเครียดเกิดขึ้นรอบๆ
จู่ๆ ลู่โจวก็สังเกตเห็นว่าเฉินยู่ซานนิ่งไป
นี่เธอ หลุดออกจากเกมไปแล้วเหรอ
ไม่เอาน่า
…………………