การขายที่งานเปิดตัวเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม
การขายออนไลน์เริ่มเที่ยงคืน ทุกคนตื่นเต้นมากกว่าทุกครั้ง
หมวก 900,000 ใบบนเว็บไซต์ขายหมดภายในสองนาที ซึ่งเว็บไซต์เกือบจะล่มเพราะจำนวนคนที่เข้าไปดูอย่างล้นหลาม หมวก 900,000 ใบขายหมดไม่เหลือแม้แต่ใบเดียว
ผู้อำนวยการโปรเจกต์หลี่กวงเหวินอ้าปากค้างขณะที่มองยอดขายบนหน้าจอ และไม่ได้พูดอะไรต่อ
พนักงานที่นั่งตรงหน้าเขาพูดขึ้น
“บ้าไปแล้ว หลังจากไลฟ์ไปแค่สองนาที หมวกก็ขายออกตั้ง 900,000 ใบแล้ว”
“ดูจากข้อมูลจากสตาร์สกายเทคโนโลยี จำนวนผู้ใช้ที่สมัครระบบแฟนท่อมสูงถึง 300,000 ผู้ใช้”
หลี่กวงเหวินขมวดคิ้วและถาม “ทำไมมันน้อยจังล่ะ”
พนักงานที่นั่งตรงคอมพิวเตอร์พูด “อาจจะเป็นเพราะผู้ใช้บางคนซื้อมากกว่าหนึ่งเครื่อง”
เพราะท้ายที่สุดแล้วการควบคุมการซื้อของออนไลน์ก็ยากกว่าการซื้อด้วยตัวเอง แม้ว่าหนึ่งผู้ใช้จะจำกัดให้ซื้อแค่ชิ้นเดียว แต่ผู้ใช้บางคนก็ไม่ทำตามโดยการใช้เบอร์โทรศัพท์และไอพีแอดเดรสปลอม
จู่ๆ พนักงานที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ก็ถามขึ้น “คุณคิดว่าพวกเขาจะเพิ่มปริมาณสินค้าในคลังไหม”
“แน่นอนอยู่แล้ว” หลี่กวงเหวินพยักหน้าและตบมือ เขาพูด “แต่ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเปิดขายอีกรอบก็ไม่มีผลอะไรกับเรา โรงงานใหม่ที่ย่านอุตสาหกรรมเจียงเฉิงก็กำลังจะเปิด ซึ่งจะขายเป็นสองเท่าของเราเลยนะ”
หลังจากที่พนักงานได้ยินสิ่งที่ผู้จัดการโปรเจกต์พูด พวกเขายิ้ม
บรรยากาศแห่งความสุขเกิดขึ้นในออฟฟิศฝ่ายขาย
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีแผนกลยุทธ์การขายอะไรมากมาย แต่หมวก HV-1 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
พวกเขาจะต้องได้โบนัสก้อนโตแน่ๆ
…
ณ มหาวิทยาลัยจินหลิง
ในห้องพัก 201
แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถซื้อได้ แต่พวกเขาก็ยังตื่นเต้นอยู่ดีที่ได้เห็นราคาของมันสูงขึ้นเรื่อยๆ
หยางชวงมองไปที่เบอร์ในโทรศัพท์ มือของเขาสั่นเทาขณะที่พูด
“บ้าไปแล้ว ราคาหมวกหนึ่งใบสูงกว่า 100,000”
100,000…
ถ้าฉันซื้อหนึ่งใบได้ในราคา 12,000 ก็จะได้กำไรตั้ง 90,000
เขาเริ่มเสียใจที่ไม่ได้ไปต่อแถวที่งานประชุมที่เซี่ยงไฮ้
อู๋ตี้นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่เก้าอี้ จู่ๆ เขาก็ยืนขึ้นและเดินตรงไปที่หยางชวง ตอนที่เขาเห็นเบอร์โทรศัพท์ของหยางชวง เขาประหลาดใจ
“หนึ่งแสนสำหรับหมวกใบเดียวเนี่ยนะ ใครจะเป็นคนซื้อหมวกพวกนั้นกัน”
เมื่อคืนทั้งคู่พูดถึงหมวก HV-1ที่หัวเหว่ยกำลังจะปล่อยออกมา พวกเขายังเสียดายหมวกราคากว่า 12,000 หยวน ซึ่งมากพอๆ กับค่าใช้จ่ายทั้งปีของพวกเขา
แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับมืดมัวเข้าไปอีก
พวกเขาจะหาเงิน 100,000 ได้จากที่ไหนกัน
ลืมไปได้เลย
หยางชวง “หมวกนี่ขายดิบขายดีมากเลย เห็นได้ชัดว่ามีชาวต่างชาติมาซื้อจากเว็บไซต์ของเราเหมือนกัน”
อู๋ตี้ “นายรู้เรื่องนั้นได้อย่างไร”
เพราะมีคนโพสต์ในติ๊กต็อกว่าเห็นชาวต่างชาติที่นั่งอยู่ที่สนามบินและใช้ไวไฟสนามบินเข้าเว็บไซต์นี้ แต่ไม่มีใครสามารถซื้อได้
ตวนซื่อฉีนั่งฟังบทสนทนาทั้งหมดอยู่ข้างๆ เขาอดไม่ได้ที่จะเข้าไปร่วมด้วย
“…พวกนั้นบ้าหรือเปล่า ฉันได้ยินมาว่าระบบแฟนท่อมใช้ได้กับเครือข่ายคอมพิวเตอร์คลาวด์ของสตาร์สกายเทคโนโลยีเท่านั้น แล้วพวกเขาจะซื้อหมวกนั่นไปเพื่ออะไรกัน พวกเขาใช้มันไม่ได้ด้วยซ้ำ ซื้อแว่นโลกเสมือนสักคู่ยังดีเสียกว่า”
เขาศึกษาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมโลกเสมือนมาสักพักแล้ว แล้วมีความเข้าใจเรื่องระบบแฟนท่อมเป็นอย่างดี นักวิชาการที่สตาร์สกายเทคโนโลยีต่างก็ดีใจที่ได้คุยกับเขา เหตุผลส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะเรื่องพวกนี้ไม่ใช่ข้อมูลลับ อีกอย่างพวกเขาก็จดสิทธิบัตรแล้วด้วย
หยางชวงส่ายหัวและพูด
“ใครจะไปรู้ บางทีพวกเขาอาจจะอยากใช้มันทำหมวกกันน็อคก็ได้ แต่ฉันคิดว่าเราคงมองไม่เห็นอะไรหลังจากที่สวม บางทีฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนรวยเขาคิดอะไรกันอยู่ แถมยังมีคนที่บินมาถึงที่นี่เพื่อซื้อมันด้วยนะ นายคิดว่าพวกเขาจะสนใจเงิน 12,000 หยวนเหรอ”
อู๋ตี้ถอนหายใจและพูด “บ้าเอ๊ย มันแย่มากเลย”
จู่ๆ หยางชวงก็นึกอะไรออก
“เออใช่ ซีอีโอตวน สตาร์สกายเทคโนโลยีก็ส่งหมวกนี่มาให้นายไม่ใช่เหรอ”
ตวนซื่อฉีนิ่งไปครู่หนึ่งและรู้สึกเหมือนมีใครมองอยู่ข้างหลัง
เขาหันหลังและเห็นสายตาแห่งความอิจฉาจากเพื่อนร่วมห้อง
ตวนซื่อฉีนิ่งไปครู่หนึ่งและรีบอธิบาย “อย่าคิดเรื่องนั้นเชียว หมวกของฉันสามารถเลือกผู้ทดสอบเกมได้จำกัด ฉันไม่มีทางขายหรอก ฉันจะส่งต่อให้ลูกของฉัน”
“จำกัดในการเลือกผู้ทดสอบเกมเหรอ” หยางชวงมองไปที่โทรศัพท์และพูด “ฉันว่าฉันเหมือนจะเห็นคนขายอยู่นะ ขอดูหน่อย พระเจ้า”
อู๋ตี้โน้มตัวลงไปและถาม “ราคาเท่าไหร่”
“30 ล้าน”
ห้องพักเงียบไป สิ่งเดียวที่พวกเขาได้ยินตอนนี้คือพัดลมโน้ตบุ๊ค
มือของหยางชวงสั่นเทา เขาแทบจะจับโทรศัพท์ไว้ไม่อยู่
“ซื้อลัมโบร์กีนียังได้เลยใช่ไหม”
อู๋ตี้กลืนน้ำลายและพูด “นั่นมันมากพอที่จะซื้อบ้านที่เซี่ยงไฮ้เลยนะ”
“นั่นมันบ้าไปแล้ว” นี่มันบ้าไปแล้ว!”
ตอนที่ตวนซื่อฉีได้ยินคำว่า 30 ล้าน ใจของเขาหล่นลงพื้น
เขาทำปากกาหลุดมือขณะที่เอามือปิดหน้า
เวรเอ๊ย!
มันก็แค่หมวกโลกเสมือน
ฉันเล่นมามากจนรู้สึกเบื่อมันแล้ว
มันมีค่ามากขนาดนั้นเลยเหรอ
จากความเข้าใจของเขา แม้ว่ามันจะเป็นหมวกที่ใช้สำหรับการทดสอบซอฟต์แวร์ แต่สิ่งผู้ทดสอบได้ก็คือเหรียญทดสอบเกม ผู้เล่นสามารถเข้าสู่ระบบแฟนท่อมและเลือกว่าอยากจะเปิดเหรียญหรือไม่
นอกจากจะเอาไปอวดใครๆ ว่าได้เข้าทดสอบเกมแล้วล่ะก็ เหรียญนี่ก็ไร้ประโยชน์ ผู้ทดสอบไม่ได้มีสิทธิหรือประโยชน์อะไรเลย
เหรียญนั่นราคาสามสิบล้าน
ตวนซื่อฉีไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ก็เหมือนกับที่เพื่อนร่วมห้องของเขาพูด
มันบ้าไปแล้ว
……………………