ณ สถาบันสารกึ่งตัวนำที่สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน
ห้องทดลองยุ่งเหมือนทุกครั้ง
ในฐานะของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ในสาขาสารกึ่งตัวนำ วัสดุศาสตร์ และอิเล็กทรอนิกส์ พวกเขาไม่เพียงแค่เป็นสถาบันวิจัยสารกึ่งตัวนำอันดับหนึ่งของจีน แต่พวกเขายังมีส่วนร่วมในโปรเจกต์ชิปดราก้อนอีกด้วย
เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับชิปดราก้อนทำให้สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งนี้สร้างชื่อไปทั่วโลก
เนื่องจากชื่อเสียงที่มากมาย นั่นทำให้ผู้คนที่สถาบันรู้สึกถึงความกดดันที่ต้องแบกรับ
ไม่มีใครอยากทำพลาด
ถ้าพวกเขาไม่สามารถรักษาข้อได้เปรียบนี้ไว้ได้ ความพยายามของพวกเขาก็สูญเปล่า…
ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือพยายามทำทุกอย่างเพื่อพัฒนาการทำงานของทรานซิสเตอร์คาร์บอนเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของชิปคาร์บอนโดยไม่ปล่อยให้คู่แข่งได้หายใจ พวกเขาต้องการบีบชิปซิลิคอนออกจากตลาดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้…
ภายในออฟฟิศศูนย์ออกแบบวงจรรวม
ผู้อำนวยการหลี่และนักวิชาการหลิวฉางฉิงสวมหมวกภาพเสมือน พวกเขานั่งเงียบๆ อยู่บนโซฟา และเข้าไปเยี่ยมชมสถาบันสารกึ่งตัวนำที่ใหม่ของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน
“นี่คือห้องทดลองห้องใหม่ของเรา เครื่องมือพัฒนาเหล่านี้สร้างขึ้นตามความต้องการของเราโดยสตาร์สกายเทคโนโลยี เรากำลังช่วยพวกเขาทดสอบซอฟต์แวร์ อ๋อใช่ ผมเกือบจะลืมพูดถึงเรื่องที่สำคัญที่สุดไป นี่เรียกว่าเวิร์กช็อปวงจรรวมภาพเสมือน หรือเรียกสั้นๆ ว่าเวิร์กช็อปไอซี”
ภายในห้องว่าง นักวิชาการหลิวฉางฉิงควบคุมและเคลื่อนไหววงจรในอากาศ เขาสาธิตฟังก์ชันของเครื่องมือพัฒนาให้ผู้อำนวยการหลี่ที่นั่งใกล้ๆ เขาฟังคร่าวๆ
“เครื่องมือและการดำเนินการทั้งหมดผ่านอินเตอร์เฟสเชิงโต้ตอบ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว การหมุน หรือการเปลี่ยนวัตถุก็ตาม หน้าที่เหล่านี้สามารถทำได้ด้วยคนเพียงคนเดียวหรือคนหลายคนก็ได้…สุดยอดใช่ไหมล่ะครับ”
“มันยิ่งกว่าสุดยอดอีก มันคือเวทมนตร์ชัดๆ …” ผู้อำนวยการหลี่ดูสับสนขณะที่ถาม “แล้วจะนำไปใช้อะไรได้บ้างครับ”
“โอ้ นำมาใช้ได้หลายอย่างเลย” นักวิชาการหลิวยิ้มและพูด “เราสามารถใช้ห้องทดลองเสมือนนี้ในการเลียนแบบชิปคาร์บอนและออกแบบรายละเอียดของวงจรรวมโดยการรวมภาพเรขาคณิตและติดตั้งพารามิเตอร์”
ผู้อำนวยการหลี่อึ้งไป
“เดี๋ยวนะ คุณกำลังจะบอกว่าสิ่งนี้สามารถแทนที่การทดลองในชีวิตจริงได้เหรอ”
เยี่ยมไปเลย!
“มันแทนที่การทดลองไม่ได้ แต่เทคโนโลยีนี้จะช่วยเราประหยัดเวลาในขั้นตอนการออกแบบ”
ตอนที่คณบดีหลิวฉางฉิงเคลื่อนไหวข้อมือและนิ้ว เส้นวงจรสีเหลืองหมุนอยู่ตรงหน้าผู้อำนวยการหลี่
“ส่วนประกอบทั้งหมดถูกเพิ่มขนาดขึ้น ด้วยสิ่งนี้เองเราจึงไม่จำเป็นต้องใช้การวาดแบบเดิมๆ และใช้คอมพิวเตอร์ในการออกแบบอีกแล้ว จากความคิดเห็นของคนในสถาบัน พวกเขามีแรงบันดาลใจมากกว่าในเวลาที่ทำงานในห้องทดลองออกแบบวงจรรวมภาพเสมือนนี้”
เมื่อเทียบกับนักวิชาการสูงวัยอย่างหลิวฉางฉิงเป็นคนที่เปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ ดังนั้นตอนที่สตาร์สกายเทคโนโลยีติดต่อเขา เขาผสมผสานเทคโนโลยีภาพเสมือนให้เข้ากับสถาบันวิจัยของเขาทันที
มันแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เขาทำถูกต้องที่สุด อุปกรณ์พัฒนานี้ไม่เพียงแค่ทำให้งานออกแบบจากที่น่าเบื่อสนุกขึ้นเท่านั้น แต่มันยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแผนกออกแบบวงจรรวมเป็นสองเท่า
จริงๆ แล้วมันไม่ใช่แค่การออกแบบวงจรรวม
เทคโนโลยีแบบเดียวกันนี้สามารถนำไปปรับใช้กับหลายสาขา ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์จำเพาะหรือการออกแบบผังเมือง
ผลกระทบเชิงบวกประเภทนี้ไปไกลมากกว่าแค่การทำให้งานออกแบบสนุกขึ้น แต่มันเปิดมิติแห่งความสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงสมมติฐานของเขาจากมุมมองของนักวิชาการเท่านั้น เขามั่นใจเป็นอย่างมากว่าศาสตราจารย์ลู่คนเก่งก็ต้องคิดแบบเดียวกันเมื่อนานมาแล้ว
ไม่อย่างนั้นทางสตาร์สกายเทคโนโลยีคงไม่มีทางขายผลิตภัณฑ์ห้องทดลองพัฒนาไอซีกับเราหรอก
หลังจากที่ผู้อำนวยการหลี่เดินสำรวจห้องทดลองไอซี ชายสูงวัยสองคนก็ออกจากระบบแฟนท่อม ถอดหมวกออก และกลับไปยังออฟฟิศของพวกเขา
ถ้วยชาสองถ้วยบนโต๊ะเย็นแล้ว แต่หลังจากที่สวมแว่นหัวใจของผู้อำนวยการหลี่อบอุ่นขึ้น
เขาไม่คิดเลยว่าเกมคอนโซลจะจำเป็นต่ออุตสาหกรรมมากขนาดนี้
นักวิชาการหลิวหยิบชาขึ้นมาและพูดต่อ “มันเป็นอุปกรณ์เล็กๆ ที่ยอดเยี่ยม วงการการออกแบบวงจรรวมกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นที่มหาวิทยาลัยแล้วนำไปปรับใช้กับภาคธุรกิจ แต่ผมยังเชื่อว่าเราไม่จำเป็นต้องโปรโมทธุรกิจนี้เลยแม้แต่น้อย หลังจากที่เห็นฟังก์ชันของเทคโนโลยีนี้แล้ว ไม่มีบริษัทไหนจะปฏิเสธเครื่องมือที่พัฒนาขนาดนี้”
เขาจิบชาเพื่อให้ชุ่มคอ หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่งเขาก็พูดด้วยความปลาบปลื้ม
“แม้ว่ามันจะชัดเจนอยู่แล้ว แต่ผมก็อยากจะบอกว่าตั้งแต่นักวิชาการลู่กลับมาประเทศจีน ผมรู้สึกว่าทุกอย่างกำลังเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นงานหรือชีวิตของผม”
ผู้อำนวยการหลี่โบกมือ
“อย่าพูดถึงนายคนนั้นเลย เขายังติดค้างผมอยู่”
“เขาติดค้างอะไรคุณ”
ผู้อำนวยการหลี่มองดูสีหน้าสับสนของนักวิชาการลู่และพูด “จริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เขาสัญญาว่าเขากำลังทำบางอย่างที่ยอดเยี่ยมในสิ้นปีนี้ แต่ป่านนี้แล้วเขาก็ยังไม่บอกอะไรกับผมเลย”
นักวิชาการหลิวยิ้มและพูด “บางทีมันอาจจะมีเหตุผลก็ได้”
ผู้อำนวยการหลี่ส่ายหัว
“ไม่น่าจะใช่นะ”
มันจะมีเหตุผลไม่ได้
ฉันรู้จักลู่โจวดี
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ผมต้องรับสายนี้” ผู้อำนวยการหลี่พูดขณะมองโทรศัพท์ของเขา เขามองหน้าจอและพูด “พูดถึงก็มาเลย นักวิชาการลู่โทรมาพอดี”
นักวิชาการหลิวจิบชาและพูด
“บางทีเขาอาจกำลังจะบอกความลับกับคุณก็ได้”
“หวังว่าอย่างนั้นนะ แต่ผมพนันได้เลยว่าเขาคงอยากให้ผมช่วยอะไรบางอย่าง”
ผู้อำนวยการหลี่รับโทรศัพท์และพูดด้วยน้ำเสียงสดใส ไม่มีความไม่พอใจในน้ำเสียงของเขาอยู่เลย
“สวัสดีครับ นักวิชาการลู่ ผมได้ยินมาว่าคุณเพิ่งจะร่ำรวยใหญ่เลย”
ลู่โจวสับสนกับคำพูดของผู้อำนวยการหลี่ เขานิ่งไปครู่หนึ่งและตอบ “ร่ำรวยเหรอ”
ผู้อำนวยการหลี่ยิ้มและพูด “ผมได้ยินมาว่าแว่นของคุณสร้างรายได้หลายพันล้านหยวนเลยไม่ใช่เหรอ”
โอ้ นั่นคือสิ่งที่เขาพูดถึง…
ลู่โจว “ครับ ผมก็คิดแบบนั้น”
ผู้อำนวยการหลี่ “ทำไมผมรู้สึกว่าคุณไม่ได้ตื่นเต้นเลย”
“มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอก นี่ไม่ใช่เหตุผลที่ผมโทรหาคุณ” ลู่โจวมองเวลาบนนาฬิกาและพูด “ผมได้แก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ควอนตัมทอพอโลยี”
“ควอนตัมเชิงทอพอโลยีเหรอ”
ผู้อำนวยการหลี่ไม่เคยได้ยินประโยคที่ซับซ้อนขนาดนี้มาก่อน เขาจึงถาม “มันคืออะไร”
ลู่โจวตอบสั้นๆ ได้ใจความ “คุณจะคิดว่ามันเป็นคอมพิวเตอร์ควอนตัมก็ได้”
จู่ๆ โทรศัพท์ก็เงียบไป
ผู้อำนวยการหลี่กลืนน้ำลาย เสียงของเขาสั่นขณะที่พูด “คุณกำลังจะบอกว่า…”
ลู่โจวพยักหน้า
“ครับ คอมพิวเตอร์ควอนตัมเป็นจริงแล้ว”
……………………