ศูนย์ประกอบกระสวยอวกาศ ภายในเขตไฮเทคจินหลิง
กองทัพบกมีหน้าที่ปกป้องโรงงาน สถานที่นี้เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยและเป็นความลับที่สุดในสวนอุตสาหกรรม
จากสกายโกลว์มาที่สะพานนกกางเขน ยานอวกาศกว่า 90% ในวงโคจรรอบดวงจันทร์ถูกประกอบที่นี่ หลังจากนั้นก็จะถูกส่งไปที่จุดปล่อยยานผ่านจุดปล่อยยานจินหลิงที่อยู่ใกล้ๆ
จินหลิงค่อยๆ กลายเป็นหัวใจของอุตสาหกรรมอวกาศของจีนเพราะความร่วมมือของสตาร์สกายเทคโนโลยีและองค์การเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศแห่งประเทศจีน ศูนย์ประกอบการแห่งนี้คือเลือดที่ไหลผ่านหลอดเลือดหัวใจ
วิศวกรสองคนสวมหมวกแข็งยืนอยู่ตรงทางเข้าหมายเลขหนึ่งของศูนย์ประกอบการ พวกเขามองดูเจ้าหน้าที่กำลังขนเครื่องจักรพลางพูดคุยอยู่ใกล้ๆ
“ช่วงนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเยอะเลย ผมได้ยินมาว่าตอนมื้อค่ำเมื่อวานท่านผู้เฒ่าหวังและคนอื่นๆ โอ้อวดกันใหญ่เรื่องที่ปลัดอำเภอของเขตไฮเทคจินหลิงถูกสอบสวน”
“คุณหมายถึงนายอำเภอซุนเหรอ”
“ก็ใช่ไง จะเป็นใครเสียอีกล่ะ เห็นว่าตอนที่ตำรวจไปบ้านของเขา พวกนั้นเจอทองแท่งอยู่ในกระเป๋าเดินทางสองใบ”
วิศวกรที่หนุ่มกว่าเล็กน้อยประหลาดใจ
ทองคำแท่งในกระเป๋าเดินทางสองใบมีค่าเท่าไหร่
ต้องมากกว่าเงินที่ฉันหามาได้ทั้งชีวิตแน่ๆ
“พระเจ้า แม้แต่ปลัดอำเภอเองยังยักยอกเงินได้มากขนาดนี้”
“นั่นเป็นแค่สิ่งที่พวกเขาเจอในบ้านนะ แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องไม่ใช่ทั้งหมด เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การติดสินบนทั่วไป มีหน่วยข่าวกรองต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”
วิศวกรสูงวัยถอนหายใจและส่ายหัว
“ใครจะไปคิด ขอบคุณพระเจ้าที่พวกเขาจับเขาได้ก่อนจะได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าอำเภอ”
อุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ๆ ถูกขนย้ายแล้ว รถขนย้ายอัตโนมัติเคลื่อนย้ายคอนเทนเนอร์สีน้ำตาลเข้าสู่โรงงาน
หลังจากนั้นรถบรรทุกอีกคันขับเข้ามาและจอดหน้าโรงงาน เจ้าหน้าที่เริ่มขนกล่องเข้าไปยังรถลำเลียง
วิศวกรที่หนุ่มกว่ามองไปที่รถบรรทุกแล้วพูด
“นี่คุณไม่คิดเหรอว่าเราได้รับสินค้ามากมายเลยนะช่วงนี้”
วิศวกรสูงวัยพูด “ใช่ ไม่แน่อาจจะมีโปรเจกต์ใหญ่เร็วๆ นี้”
วิศวกรหนุ่มมองไปที่เขา
“คุณคิดว่าจะเป็นโปรเจกต์อะไร”
วิศวกรสูงวัยมองไปที่ชายหนุ่มและถาม “คุณอยากจะรู้อะไรล่ะ คุณอยากขายข้อมูลให้สหรัฐอเมริกาเหมือนกันเหรอ”
“เปล่า ผมก็แค่สงสัย…”
“คุณไม่จำเป็นต้องรู้หรอก พูดให้น้อย ทำงานให้เยอะ”
วิศวกรสูงวัยตบไหล่วิศวกรหนุ่ม หลังจากนั้นพวกเขาหันหลังและเดินกลับเข้าไปยังโรงงาน
วิศวกรหนุ่มคาดหมวกนิรภัยและบ่นพึมพำ “…ฉันก็แค่ถามไหมล่ะ พระเจ้า”
หลังจากพักกลางวัน วิศวกรในโรงงานหนึ่งกลับมาที่จุดประจำการ
อีกฟากหนึ่งของโรงงาน กลุ่มผู้เชี่ยวชาญสวมหมวกแข็งยืนใกล้ๆ โครงเหล็กขนาดใหญ่ พวกเขายืนอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่เช้า
“…นี่คือเครื่องเจาะอุโมงค์ล่าสุดที่เราผลิต วัสดุส่วนใหญ่คือโลหะผสมไทเทเนียม น้ำหนักโดยรวมหลังจากประกอบเสร็จแค่ 50 ตัน มันเหมาะสมต่อสภาพแวดล้อมแรงโน้มถ่วงต่ำและสามารถใช้ที่ความลึกสูงสุด 20 เมตร อุโมงค์เครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์ถูกเจาะด้วยเครื่องนี้”
คนที่ยืนข้างๆ ลู่โจวคือวิศวกรในวัย 50 ชื่อของเขาคือเฉินหยงเหลียง เขาคือรองผู้จัดการและหัวหน้าช่างเทคนิค
ดูจากเครื่องแบบของเขาก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาไม่ได้ทำงานที่ศูนย์ประกอบกระสวยอวกาศ แต่เขาทำงานให้กับไชน่าเรลเวย์กรุ๊ป
แม้ว่าการบินและอวกาศกับการรถไฟดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่แตกต่างกัน แต่ก็มีความสอดคล้องกันอยู่หลายอย่าง
ตั้งแต่โปรเจกต์เครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์ ไชน่าเรลเวย์กรุ๊ปก็เดินตามรอยสตาร์สกายเทคโนโลยีและเข้าสู่วงการการบินและอวกาศ
รางรถไฟความเร่งที่มีความยาวหลายร้อยกิโลเมตรและติดตั้งภายในปล่องภูเขาไฟ ซึ่งก็คือผลงานชิ้นเอกที่เกิดจากความพยายามของวิศวกรมากมายและนักวิจัยจากไชน่าเรลเวย์กรุ๊ปและองค์การเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศแห่งประเทศจีน
เครื่องเจาะอุโมงค์ที่อยู่ตรงหน้าลู่โจวคือหนึ่งในผลิตภัณฑ์จากโปรเจกต์เครื่องเร่งอนุภาค
ตัวเครื่องทำจากวัสดุโลหะผสมไทเทเนียมน้ำหนักเบา โมดูลาร์ดีไซน์ทำให้สามารถประกอบตัวเครื่องได้โดยไม่ต้องใช้วัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่อย่างรถเครน
เครื่องเจาะอุโมงค์ถูกสร้างขึ้นโดยเหล็กที่มีน้ำหนัก 50 ตัน มันมาพร้อมเกราะหน้าและหลัง ซึ่งทำให้สามารถหนักเป็นร้อยๆ ตันได้ง่ายๆ แต่เครื่องจักรขนาดใหญ่นี้หนักเพียงแค่ 50 ตันเท่านั้น
ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมวิศวกรเฉินจึงภูมิใจขนาดนี้
พวกเขาคือบริษัทเดียวบนโลกที่สามารถเจาะเส้นทางวงโคจรของการบินบนดวงจันทร์ได้ พวกเขาคือที่หนึ่งในอุตสาหกรรมของพวกเขา
หลังจากฟังคำแนะนำจากวิศวกรเฉิน ในที่สุดลู่โจวก็ถามคำถามที่เขาสนใจที่สุด
“มันราคาเท่าไหร่เหรอครับ?”
เฉินหยงเหลียง “60 ล้าน! “
“มันแพงไปหน่อยนะ
ตอนที่วิศวกรเฉินเห็นหัวหน้านักออกแบบส่ายหัว เขารีบอธิบาย
“มันก็ไม่ได้แพงขนาดนั้น ตัวเครื่องโลหะผสมไทเทเนียมอย่างเดียวก็มีค่าใช้จ่ายหลายสิบล้านแล้ว ยังไม่รวมถึงเทคโนโลยีและส่วนประกอบอื่นๆ ที่อยู่ภายใน”
ลู่โจวไม่ได้พูดอะไร
เขาคือหัวหน้านักออกแบบ เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเงิน เขาก็แค่ออกความเห็นจากความรู้สึกของตัวเอง
ผู้จัดการทั่วไปจากไชน่าเรลเวย์กรุ๊ปที่ยืนอยู่ใกล้ๆ พวกเขา กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ลู่โจวพูดขึ้นมาเสียก่อน
“ผมวางแผนที่จะสร้างวงโคจรของการบินแม่เหล็กไฟฟ้าบนดวงจันทร์”
เฉินหยงเหลียงตกตะลึง
“…ระยะทางเท่าไหร่ล่ะ”
“20 ถึง 40 กิโลเมตร”
“ต้องใช้อะไรบ้าง คล้ายๆ กับเครื่องชนอนุภาคเหรอ”
“มันแตกต่างจากเครื่องชนอนุภาคแน่นอน มันควรจะกว้างกว่าและขีดจำกัดความเร็วจะต้องสูงกว่า” ลู่โจวยิ้มและหรี่ตาขณะที่มองไปที่เครื่องจักรเหล็กตรงหน้าเขา เขาพูด “ผมจะต้องเพิ่มความเร็วอยู่ที่ 50 ตันถึง 2.5 กิโลเมตรต่อวินาทีใน 2 นาที มันจะเป็นไปได้ไหม”
หลังจากได้ยินสิ่งที่ลู่โจวต้องการ วิศวกรดูประหลาดใจขณะที่พูด
“…มันก็ยากอยู่นะครับ ผมเกรงว่าจะไม่มีใครบนโลกนี้ที่สามารถสร้างมันได้”
2.5 กิโลเมตรต่อวินาที นั่นมันเร็วกว่าความเร็วหลุดพ้นของดวงจันทร์เสียอีก เขาตั้งใจจะขนส่งสินค้าไปวงโคจรขนย้ายรอบดวงจันทร์หรืออย่างไร
“ถ้ามีคนบนโลกทำได้ ผมก็คงไม่ถามคุณตอนนี้หรอกครับ” ลู่โจวพูดต่อ “สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงวางแผนที่จะจัดตั้งทีมวิจัยเพื่อออกแบบรางอวกาศบนดวงจันทร์ เป้าหมายคือการส่งแร่ธาตุบนดวงจันทร์ไปยังวงโคจรขนย้ายรอบดวงจันทร์โดยตรงหรืออาจจะไปที่วงโคจรต่ำของโลก มันจะเป็นประโยชน์อย่างมาก
“เรายื่นเรื่องขอทุนพิเศษจากรัฐสำเร็จแล้ว งบประมาณเริ่มแรกก็อยู่ที่ หนึ่งหมื่นล้านหยวน ถ้าทุกอย่างราบรื่นดีเราก็จะได้รับทุนเพิ่ม พวกคุณขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัทอันดับต้นๆ ในเรื่องรถไฟระบบพื้นผิวแม่เหล็กและเทคโนโลยีความเร่งแม่เหล็กไฟฟ้า ผมหวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันนะ”
ก่อนที่วิศวกรเฉินจะได้พูดอะไร ผู้จัดการทั่วไปที่ยืนข้างๆ เขาก็พูดขึ้นมา
“ครับ แน่นอน เราก็อยากให้เป็นแบบนั้น ฮ่าฮ่า เป็นเกียรติจริงๆ ที่ได้ร่วมงานกับสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง”
ลู่โจวยิ้มและพยักหน้าอย่างสุภาพ
“เป็นเกียรติกับทางเราเช่นกันครับ”
วิศวกรเฉินเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อ
เขาเดาถูก
นักวิชาการลู่วางแผนจะสร้างปืนใหญ่แม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อยิงวัตถุตรงจากดวงจันทร์จริงๆ
มันจะเป็นไปได้เหรอ
แม้ว่าเขาจะมีความคลางแคลงใจ แต่ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ลู่โจวทำ ไม่ว่ามันจะน่าขำขนาดไหน แต่มันก็กลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมาได้
เฉินหยงเหลียงอดถอนหายใจไม่ได้
บางทีนี่อาจจะเป็นวิศวกรรมอีกยุคสมัยหนึ่งก็ได้
ในอีก 100 ปี จะไม่มีใครจำวิศวกรเฉินจากไชน่าเรลเวย์กรุ๊ปได้ แต่พวกเขาจะจำลู่โจวได้
เฉินหยงเหลียงมองลู่โจวและเริ่มรู้สึกอิจฉา
…
ลู่โจวใช้เวลาช่วงเช้าทั้งหมดไปกับการดูคนจากไชน่าเรลเวย์กรุ๊ปสาธิตเครื่องเจาะอุโมงค์ เขาไม่มีเวลาจะทานมื้อเที่ยงด้วยซ้ำ
หลังจากที่กลับมาที่ออฟฟิศ เขาหยิบตะเกียบและเริ่มทำลายล้างอาหารที่หวังเผิงนำมาให้
“ครั้งหน้าผมขอโค้กสักกระป๋องนะ ถ้าผมไม่ได้ดื่มผมจะคอแห้ง”
หวังเผิงยิ้มและพูด
“คุณดื่มอะไรที่มันดีต่อสุขภาพกว่านี้ได้ไหม”
ลู่โจวเช็ดปากด้วยทิชชู่และพูด “เลิกบุหรี่ให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาบอกผมนะ”
หวังเผิงถอนหายใจและพูด “ผมก็แค่อยากให้คุณมีสุขภาพที่ดีกว่านี้ สำหรับคนแบบผมอยู่ถึงแค่อายุ 60 หรือ 70 ปีก็มากพอแล้ว ผมสูบบุหรี่ก็ไม่มีผลอะไรหรอก”
“ผมไม่ชอบเลย คนทุกคนเท่าเทียมกันหมด”
หวังเผิงยักไหล่ แน่นอนว่าหวังเผิงไม่ได้เถียงลู่โจว
บางทีเขาอาจจะไม่ได้ฉลาดหรือเห็นแจ้งเหมือนนักวิชาการลู่ แต่ไม่ว่าเขาจะมองอย่างไร คำพูดของนักวิชาการลู่ก็ดูเพ้อฝันเกินไป
จะเป็นไปได้อย่างไรที่ทุกคนจะเท่าเทียมกัน
ฉันนึกภาพสังคมแบบนั้นไม่ออกเลย…
………………………