ภายในห้องทดลอง
นักวิชาการเสวี่ยมองรอบๆ อย่างประหม่า
ใจหนึ่งเขาอยากรู้ อีกใจเขาก็กังวลว่าจะเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น สิ่งที่เป็นความลับสุดยอด
ลู่โจวให้เขาเข้ามาด้านในห้องทดลองและพูดด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย ราวกับว่าเขารู้ว่านักวิชาการคนนี้กำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่
“ไม่ต้องประหม่าหรอกครับ คุณเองก็เป็นคนใน ถ้าคุณเห็นสิ่งเหล่านี้ก็ไม่เป็นอะไรหรอก”
ถ้าที่นี่เป็นห้องทดลองใต้ดินชั้นสามก็ว่าไปอย่าง แต่อุปกรณ์พวกนี้อยู่ในห้องทดลองที่สูงกว่านั้น ถ้าคนในได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
หลังจากได้ยินสิ่งที่ลู่โจวพูด นักวิชาการเสวี่ยก็รู้สึกโล่งใจ สีหน้าของเขาดูดสบายใจขณะที่มองรอบๆ ห้องทดลองด้วยความสงสัย
ห้องทดลองนี้แตกต่างจากห้องทดลองส่วนใหญ่ที่เขาเคยเห็น แทนที่จะเป็นห้องทดลองรกๆ ที่นี่ดูโล่งและสบายตามากกว่า
ขณะที่นักวิชาการเสวี่ยมองคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกับเครื่องจักร เขาพูดด้วยท่าทีสบายๆ
“นี่มันคืออะไรเหรอครับ?”
“ระบบการพิมพ์เลเซอร์หลอมละลาย 3 มิติ มันถูกใช้ในส่วนของโลหะและพลาสติก แล้วการสั่งชิ้นส่วนเหล่านี้จากโรงงานวัสดุก็น่ารำคาญ ผมไม่อยากเสียเวลารอ”
นักวิชาการเสวี่ยประหลาดใจ
“คุณรู้วิธีการใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติด้วยเหรอ”
ลู่โจวตอบด้วยท่าทีสบายๆ “จริงๆ แล้วมันควบคุมด้วยเสียง ต้องขอบคุณเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์น่ะ”
นักวิชาการเสวี่ยอ้าปากค้าง
ควบคุมด้วยเสียงเหรอ
ปัญญาประดิษฐ์เหรอ
เป็นไปได้อย่างไร
เขารู้ว่าระบบการทำงานอัตโนมัติของเครื่องจักรคืออะไร แต่โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์เข้าใจได้อย่างไรว่าผู้ใช้ต้องการแบบจำลองแบบไหน ปัญหานี้ดูไม่เหมือนสิ่งที่ปัญญาประดิษฐ์จะสามารถแก้ไขได้
แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านนี้ เขาจึงไม่ได้อยู่ในจุดที่จะพูดอะไรได้มาก เขาจึงสลัดปัญหานี้ออกไปและมองไปที่เครื่องจักรรูปร่างแปลกตาอีกเครื่อง
“แล้วนี่คืออะไร” นักวิชาการเสวี่ยชี้ไปที่ท่อโลหะสีเงินขาวด้านในห้องทดลอง “มีไว้เพื่ออะไร”
“มันคือท่อโฟตอนเดี่ยวหลายสาย นี่คือสิ่งที่ผมอยากให้คุณดู” ลู่โจวหยิบถุงมือจากโต๊ะทดลองใกล้ๆ เขาและสวมมันอย่างระมัดระวัง เขาหยิบวัตถุทรงกระบอกด้านในห้องกันแก๊สออกมา
ส่วนที่ตัดของกระบอกเป็นรูปทรงเหมือนรังผึ้ง กระบอกนั้นสร้างมาจากท่อลักษณะเหมือนแก้วใส
นักวิชาการเสวี่ยรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นมนุษย์ถ้ำที่กำลังมองดูเทคโนโลยีใหม่ๆ
แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยากถามอะไรต่อแล้ว แต่ก็อดถามไม่ได้อยู่ดี
“นี่มันอะไรกัน?”
“อุปกรณ์ระบบห้องสุญญากาศสามมิติพร้อมโครงสร้างแบบมัลติโหมด วัสดุหลักคือโลหะผสมอิตเทอร์เบียม โมลิบดินัมได และวัสดุอื่นๆ มันทำให้ความฝันของเราเกี่ยวกับโลกควอนตัมเป็นจริง…” ลู่โจวคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูด “อย่างน้อยก็แค่ตอนนี้”
นักวิชาการเสวี่ยอ้าปากค้าง
เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเจออะไรแบบนี้
สัญชาตญาณบอกเขาว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามีพลังมหาศาลเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้ แต่เขาไม่รู้ว่าสัญชาตญาณนั้นมาจากไหน
เขาเกือบลืมเหตุผลเดิมที่เขามาที่นี่แล้ว
“ผมรู้ว่าคุณมีคำถามมากมาย ผมจะตอบคำถามเหล่านั้นอีกไม่นาน”
ลู่โจวหันหลังและวางกระบอกลึกลับในช่องที่พอดีด้วยความระมัดระวัง
กระบอกนั้นเคลื่อนที่ลงช่องอย่างช้าๆ ลู่โจวก้าวถอยหลังและยืนใกล้ๆ คอมพิวเตอร์ รอยยิ้มแห้งความพอใจปรากฏบนหน้าของเขา
“สมบูรณ์แบบ”
นักวิชาการเสวี่ย “…ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่”
“มันคือเครื่องขยายความพัวพันทางควอนตัม คุณจะมองว่ามันเป็นแว่นขยายก็ได้ แต่ว่ามันไม่ขยายคลื่นแสง มันขยายสิ่งที่เล็กกว่าคลื่นแสง”
นักวิชาการเสวี่ยมีความคิดพิเรนทร์ในหัว
“…โฟตอนเดี่ยวเหรอ”
“ถูก แต่ก็ไม่ทั้งหมด ถ้าจะให้พูดชัดๆ ก็คือมันพันคู่โฟตอน”
ตอนที่ลู่โจวดีดนิ้ว สัญญาณไฟบนเครื่องจักรที่อยู่ด้านหลังของเขาสว่างขึ้น ปลายท่อสีเงินขาวเริ่มสั่น
ถึงแม้ว่าศาสตราจารย์เสวี่ยจะตกใจแค่ไหน ลู่โจวก็ยังอธิบายต่อด้วยท่าทีสบายๆ
“…การสร้างโครงสร้างห้องสุญญากาศสามมิติทำให้อะตอมอิตเทอร์เบียมอิสระที่เจือปนอยู่จะเข้าสู่สภาพที่คงทน หลังจากนั้นก็ใช้วิธีการแยกตัวออกมาจากการแทรกแซงในสภาพแวดล้อมและจับภาพของการเคลื่อนไหม หลังจากนั้นสภาพพัวพันถูกส่งไปยังเครื่องทวนสัญญาณผ่านตัวส่งสัญญาณโฟตอนเดี่ยวและกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้ง”
นักวิชาการเสวี่ยอ้าปากค้าง
“แค่นี้เองเหรอ”
“ใช่ คุณพูดถูก” ลู่โจวยิ้มแล้วพยักหน้า เขาพูด “การสื่อสารเชิงควอนตัม”
ในขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน การเตรียมการทดลองเสร็จสิ้น
แสง 64 คู่ถูกส่งออกจากช่อง A และมันถูกขยายด้วยเครื่องทวนสัญญาณขณะที่กำลังเคลื่อนตัวผ่านท่อ มันยังคงเคลื่อนตัวไปยังช่องทางถัดไป และในที่สุดก็เขาสู่ช่องรับ B
ลู่โจวมองไปที่ตัวเลขบนหน้าจอแล้วยิ้มมุมปาก
โฟตอน 64 คู่
ได้รับทั้งหมด
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการทดลองนี้ประสบผลสำเร็จ
นักวิชาการเสวี่ยมองดูสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าเขา หลังจากที่ลู่โจวป้อนผลลัพธ์การทดลองในฐานข้อมูล ในที่สุดเขาก็พูดขึ้น
“จบแล้วเหรอ”
ลู่โจว ที่นั่งอยู่ตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์ ตอบ “มันจบแล้ว การทดลองสำเร็จแล้ว”
นักวิชาการเสวี่ย “คุณเอาสิ่งนี้มาให้ผมดูทำไม”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งที่เขาเพิ่งจะได้เห็นมันเป็นความลับยิ่งกว่าอัลกอริทึมการเข้ารหัสควอนตัมเสียอีก
เขาไม่รู้ว่าทำไมลู่โจวจึงให้เขาดูสิ่งนี้
“เพราะว่ามันยังไม่สมบูรณ์แบบเลย และผมเพิ่งจะแก้ปัญหาไปได้แค่บางส่วนเท่านั้น ยังมีปัญหาอื่นๆ อีกที่ผมยังไม่ได้แก้ ผมไม่ค่อยเชี่ยวชาญในด้านนี้…” ลู่โจวมองไปที่นาฬิกาบนผนังและพูดพร้อมรอยยิ้ม “ในเมื่อการทดลองสิ้นสุดแล้ว เราก็ควรจะไปคุยกันที่อื่น”
ลู่โจวพิมพ์บางอย่างบนแป้นคีย์บอร์ดและปิดเครื่องมือทดลอง
เขามองนักวิชาการเสวี่ยและพูด “ไปออฟฟิศผมกัน”
“เราไปหาอะไรดื่มและคุยถึงปัญหาที่น่าสนใจกันดีกว่า”
………………………