ณ สถาบันสารกึ่งตัวนำที่สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง
ชายสูงวัยยืนอยู่ในห้องทดลองด้วยท่าทางสง่างาม
คนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาก็บรรดาแขกพิเศษ อย่างผู้อำนวยการหลี่ รวมไปถึงผู้นำจากหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ
สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่อุปกรณ์ทรงกระบอกที่เป็นเอกลักษณ์ และรอให้ลู่โจวทำการพัวพันทรานสมิตเตอร์คู่โฟตอน
ลู่โจวมองเวลาบนนาฬิกา หลังจากนั้นเขามองไปที่นักวิจัยที่ยืนตรงคอมพิวเตอร์และพยักหน้า
“เราเริ่มกันได้เลย”
“ครับ”
นักวิจัยที่ยืนตรงคอมพิวเตอร์กดปุ่ม
สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกับสิ่งที่นักวิชาการเสวี่ยเห็นเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน คู่โฟตอนพัวพันถูกปล่อยออกมาด้วยคลื่นความถี่สูง ทำให้เกิดกระแสข้อมูลที่ประกอบด้วยคู่โฟตอนเดี่ยว สัญญาณไฟบนเครื่องทวนสัญญาณควอนตัมสว่างขึ้นขณะที่มันเริ่มขยายและส่งข้อมูลสู่ผู้รับที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตรจากห้องทดลองนั้น
ในเวลาเดียวกัน ช่องทางการสื่อสารดั้งเดิมที่กำลังวิ่งคู่ขนานกับช่องทางการสื่อสารเชิงควอนตัมก็ส่งข้อมูลจำนวนมหาศาลสู่ปลายทางเช่นกัน การใช้กุญแจควอนตัมที่ได้รับมา ข้อมูลนี้ถูกถอดรหัสโดยอุปกรณ์ถอดรหัสโดยเฉพาะ
ขั้นตอนทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับฟิสิกส์ซับซ้อนและเทคโนโลยีวิทยาการสารสนเทศ และทุกอย่างก็เกิดขึ้นด้วยตัวของมันเอง
ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนต่างก็ตกตะลึง ผู้นำจากหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐที่ยืนรอบๆ ประธานาธิบดีไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการทดลองสิ้นสุดลงแล้ว
ความสับสนและตกตะลึงปรากฏบนใบหน้าของพวกเขา จนกระทั่งลู่โจวบอกกับพวกเขาว่าการทดลองสำเร็จแล้ว
ผู้อำนวยการหลี่เป็นคนแรกที่กลับมาสู่โลกแห่งความจริง เขาเดินตรงไปที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญและถามทันที “การทดลองสำเร็จไหม”
นักวิชาการเกาจุนเหวินจากสถาบันวิศวกรรมสารสนเทศกะพริบตาและสบตากับเพื่อนร่วมงานที่ยืนข้างเขา เขามองไปที่ผู้อำนวยการหลี่และพยักหน้า
“เรื่องนั้นไม่ต้องสงสัยเลย ทรานสมิตเตอร์ส่งข้อความว่าสวัสดีชาวโลกผ่านช่องทางดั้งเดิมและช่องทางควอนตัมในเวลาเดียวกัน ดังนั้นถ้ากุญแจทรานสมิตเตอร์ไม่ประสบความสำเร็จ แม้แต่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เองก็ถอดรหัสข้อความนี้ไม่ได้”
“แม้แต่พวกแฮกเกอร์ที่มีพลังคอมพิวเตอร์ไร้ขีดจำกัด พวกนั้นก็ถอดรหัสข้อความของเราไม่ได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือเทคโนโลยีการสื่อสารที่ไม่สามารถทำลายได้ที่เราต้องการ”
นักวิชาการเกาจุนเหวินดูเหมือนเขากำลังฝันไปขณะที่อุทานออกมา “ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นระบบการสื่อสารที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ด้วยตาตัวเองในชีวิตนี้”
“นี่มันอย่างกับความฝัน”
นักวิชาการเกาพูดด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง
ผู้อำนวยการหลี่ไม่ใช่คนเดียวที่ได้ยิน
ประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงที่ยืนรอบๆ ต่างก็ดูประหลาดใจหลังจากได้ยินสิ่งที่นักวิชาการพูด
หลังจากนั้นสักพักประธานาธิบดีพูด “ดังนั้นแล้ว นี่คือเทคโนโลยีการสื่อสารเชิงควอนตัมใช่ไหม”
“ครับท่าน” ลู่โจวพยักหน้าและพยายามอธิบายเทคโนโลยีด้วยภาษาทั่วไป “ก็อย่างที่นักวิชาการเกาบอกไว้ ในทางทฤษฎีไม่มีใครสามารถขัดขวางข้อมูลที่ส่งผ่านช่องทางนี้ได้ เทคโนโลยีเชื่อถือได้สำหรับการสื่อสารระยะปานกลางและระยะไกล”
ประธานาธิบดีพยักหน้าและคิดอะไรออก เขาพูดขึ้นทันที “แล้วถ้าใครควบคุมเครื่องทวนสัญญาณล่ะ อย่างเช่น เคลื่อนย้ายเรือดำน้ำนิวเคลียร์ในมหาสมุทร”
ลู่โจวส่ายหัวและพูด “นั่นไม่ใช่เรื่องดีเลย สิ่งเดียวที่เรือดำน้ำนิวเคลียร์ทำได้ก็คือทำลายเครื่องทวนสัญญาณควอนตัมหรือตัดใยแก้วควอนตัม ทันทีที่ช่องทางถูกทำลาย การรับส่งกุญแจควอนตัมก็สิ้นสุดลง การรับส่งข้อมูลผ่านใยแก้วดั้งเดิมจะไม่สามารถใช่การได้ มันจะกลายเป็นข้อมูลขณะที่ไม่สามารถถอดรหัสได้ทันที”
กุญแจควอนตัมที่สมบูรณ์ไม่เพียงแค่แสดงให้เห็นโดยคู่โฟตอนพัวพันเดี่ยวเท่านั้น เมื่อคู่โฟตอนพัวพันคู่หนึ่งเสียหายจากการสังเกตจากภายนอก สัญญาณที่ตามมาก็จะเสียหายไปด้วย
ดังนั้นเทคโนโลยีการสื่อสารประเภทนี้ปลอดภัยแน่นอน ประโยชน์เดียวที่ได้ก็คือถ้ามีใครก็ตามสามารถสังเกตคู่โฟตอนพัวพันโดยไม่สร้างความเสียหายได้
แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในมุมมองฟิสิกส์
อย่างน้อยก็จากที่คนรู้ว่าฟิสิกส์คืออะไร
ขณะที่ประธานาธิบดีมองอุปกรณ์รูปทรงเป็นเอกลักษณ์ที่อยู่ตรงหน้า เขาเงียบไปเป็นเวลานาน จู่ๆ เขาก็พูดด้วยความปลื้มปีติ
“มันเหมือนเวทมนตร์เลย”
ลู่โจวยิ้มและพูด “ถ้าคุณดูแค่ผลลัพธ์สุดท้ายอย่างเดียว งานวิจัยวิทยาศาสตร์ไหนก็ดูเหมือนเวทมนตร์ทั้งนั้น โดยเฉพาะตอนที่ค้นพบครั้งแรก”
ชายสูงวัยพูดด้วยท่าทีจริงจังกับลู่โจว
“ความปลอดภัยของข้อมูลเป็นอุปสรรคที่เราเผชิญในยุคการปฏิวัติเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ควอนตัม เทคโนโลยีการสื่อสารเชิงควอนตัม ผลกระทบของเรื่องนี้ต่อสังคมของเรามีความเกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ฟิวชั่น”
“ผมอยากจะขอบคุณคุณแทนคนทั้งประเทศ”
ลู่โจวพยักหน้าและพูดอย่างสุภาพ
“ด้วยความยินดีครับ
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สัมผัสกับช่วงเวลานี้ไปพร้อมกับคุณ”
…
ณ ปักกิ่ง
อำเภอซีเฉิง ถนนทางการเงิน
ชายสวมสูทใส่รองเท้าหนังยืนตรงหน้าอาคาร เขาเอื้อมมือออกไปจัดเนคไทก่อนจะเดินเข้าไปในอาคารด้วยความมั่นใจ
ชื่อของเขาคือโทนี่ อาซอฟ เขาเป็นผู้จัดการบริษัท SubCom จากสหรัฐอเมริกา
บริษัท SubCom เป็นอุตสาหกรรมเคเบิลออปติกใต้น้ำยักษ์ใหญ่ระดับโลก บริษัท SubCom บริษัท NEC และบริษัทอัลคาเทล-ลูเซ่นมีตลาดหุ้นผูกขาดกว่า 90% ของตลาดเคเบิลออปติกใต้น้ำ
แล้วเขามาที่นี่ทำไมกัน
เพราะเขาคงได้กลิ่นเงินจากที่นี่…
อาซอฟยิ้มอย่างมั่นใจขณะพูดภาษาจีนกับพนักงานต้อนรับอย่างคล่องแคล่ว
“คุณช่วยติดต่อซีอีโอหวังให้ผมทีได้ไหม ผมมีนัด”
“ครับ ได้ครับ รอสักครู่ครับ”
หลังจากที่รออย่างใจเย็นอยู่ครึ่งนาที ชายที่ดูเหมือนจะเป็นผู้ช่วยเดินออกมาจากลิฟต์
“คุณคงจะเป็นคุณอาซอฟ ซีอีโอหวังรอคุณอยู่ในห้องประชุม ตามผมมาเลยครับ”
ผู้ช่วยแสดงท่าทางเชื้อเชิญและนำเขาเข้าไปในลิฟต์ พวกเขามาถึงห้องประชุมชั้นสอง
ตอนที่เขามาถึงห้องประชุม ชายวัยกลางคนแต่งตัวภูมิฐานก็ลุกขึ้นจากโต๊ะประชุม เขายิ้มและยื่นมือออกมาจับ
“ขอต้อนรับสู่ประเทศจีน คุณอาซอฟ คุณมาที่นี่เพื่อโปรเจกต์เคเบิลใต้น้ำเอเชีย-แปซิฟิกหมายเลข 3 ใช่ไหม คุณคงเดินทางมาไกลมากเลยสินะครับ”
“ขอบคุณครับ” อาซอฟนั่งลงที่โต๊ะประชุมและหยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋าเอกสาร เขามองซีอีโอหวังและพูด “ดูเหมือนว่าคุณทำการบ้านมาแล้วนะ เรามาเริ่มกันเลย”
เนื่อจากความต้องการการสื่อสารข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกเพิ่มมากขึ้น เคเบิลออปติกเอเชีย-แปซิฟิกใต้น้ำจึงมีไม่เพียงพอ การก่อสร้างเคเบิลเอเชีย-แปซิฟิกหมายเลข 3 (APCN3) กลายเป็นเรื่องที่ต้องทำเร่งด่วน
ก่อนที่เขาจะมาประเทศจีน เขาได้บรรลุเป้าหมายในการติดต่อกับบริษัทการสื่อสารจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย และประเทศอื่นๆ พวกเขาตั้งใจจะจัดตั้งคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นโดยประเทศหลายประเทศเพื่อสร้าง APCN3
เหตุผลที่เขาเดินทางมาประเทศจีนก็เพื่อโน้มน้าวทางฝั่งจีนให้เข้าร่วมโปรเจกต์นี้ เขาต้องการทำธุรกิจกับบริษัทเคเบิลออปติกใต้น้ำยักษ์ใหญ่ทั้งสามบริษัท
เพราะท้ายที่สุดแล้ว จีน สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกก็มีความต้องการเคเบิลออปติกใต้น้ำแบนด์วิธอย่างเร่งด่วน อาซอฟคิดไม่ออกว่าเหตุผลที่ประเทศจีนอาจจะปฏิเสธการร่วมมือคืออะไร
ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องสนใจก็คือวิธีการใช้ศาสตร์แห่งการเจรจาอย่างฉลาด เขาจะต้องใช้สถานีการต่อสายเคเบิลและการสื่อสารมาช่วยอีกแรงเพื่อลูกค้าจีนจะได้จ่ายเงินสูงขึ้นในการใช้เคเบิลออปติกใต้น้ำ
การเจรจาเป็นไปด้วยความราบรื่น
ถ้าพูดถึงเรื่องบริษัทสื่อสารแล้วล่ะก็ เคเบิลออปติกใต้น้ำนับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น พวกเขาไม่มีทางเลือกมากนัก อาซอฟสามารถทำให้ซีอีโอหวังประทับใจโดยไม่ต้องพยายามอะไรมากมาย
จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ซีอีโอหวังดูสายที่โทรเข้ามาบนหน้าจอและดูรู้สึกผิด เขาไม่อยากขัดจังหวะการประชุม แต่เขาต้องรับสายนี้จริงๆ
“ผมต้องขอโทษจริงๆ ผมต้องรับสายนี้” ซีอีโอหวังพูดกับผู้จัดการบริษัท SubCom พลางลุกขึ้นจากโต๊ะประชุม
“ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้”
อาซอฟไม่ได้รีบร้อนอะไร เขามองชายคนจีนเดินออกจากห้องประชุมขณะจิบกาแฟและรอเงียบๆ
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
อาซอฟอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย
เขาคิดว่าโทรศัพท์สายนั้นคงใช้เวลาไม่นาน แต่สิบนาทีผ่านไปก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เขาสงสัยว่าเขาควรออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นด้านนอกหรือเปล่า แต่ซีอีโอหวังก็เดินเข้ามาในห้องประชุมเสียก่อน
ซีอีโอแสดงสีหน้าที่จริงจัง
ทำให้อาซอฟรู้สึกทำตัวไม่ถูก
ซีอีโอหวังพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
“ต้องขอโทษด้วยนะครับ เพราะโปรเจกต์เคเบิลเอเชีย-แปซิฟิกหมายเลข 3 เราก็เลยไม่สนใจ”
ดวงตาของอาซอฟเบิกกว้าง เขาแทบจะกระโดดจากเก้าอี้
“เดี๋ยวนะ หมายความว่าอย่างไรครับที่คุณบอกว่าไม่สนใจ”
“เราไม่สนใจ” ซีอีโอหวังพูด “เราไม่มีแผนการที่จะเพิ่มเคเบิลออปติกใต้น้ำในตอนนี้ คุณทิ้งนามบัตรเอาไว้ดีไหม ถ้าผมเปลี่ยนใจผมจะติดต่อกลับไปเอง”
อาซอฟแทบจะอ้วกออกมา
หมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าถ้าเปลี่ยนใจ
ผมซื้อสัญญามาแล้วนะ!
ผมมาที่นี่วันนี้ก็เพื่อทำสัญญาหรืออย่างน้อยก็ทำหนังสือแสดงเจตจำนง
“ผมขอแนะนำให้คุณลองกลับไปคิดดูใหม่นะครับ เพราะดูจากอัตราของความต้องการแบนด์วิธการสื่อสารที่สูงขึ้น เคเบิลออปติกใต้น้ำเอเชีย-แปซิฟิกหมายเลข 2 คงไม่มีประสิทธิภาพมากพอต่อความต้องการของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”
ซีอีโอหวังพยักหน้าให้อาซอฟ แต่สีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนจากเดิม
“เราจะลองคิดดูก็แล้วกันนะครับ”
การประชุมสิ้นสุดลงทั้งอย่างนั้น
หลังจากนั้นอาซอฟได้พูดคุยกับไชน่ายูนิคอมและไชน่าโมบาย สองยักษ์ใหญ่แห่งวงการสื่อสารของจีน แต่คำตอบที่เขาได้ก็แทบจะเหมือนกัน
การประชุมออกมาแย่กว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับไชน่าเทเลคอมเสียอีก อีกสองบริษัทไม่ได้อยากจะคุยกับเขาเลยแม้แต่น้อย ซึ่งทำให้การประชุมจบลงภายในห้านาที
สัญชาตญาณบอกเขาว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะโทรศัพท์นั้น
แต่เขาไม่รู้ว่าใครกันที่มีอำนาจมากพอที่จะสามารถเปลี่ยนอุตสาหกรรมสื่อสารทั้งหมดได้
ตอนที่อาซอฟออกมาจากอาคารสำนักงานใหญ่ไชน่าโมบาย เขาบ่นพึมพำ
บริษัท NEC และบริษัทอัลคาเทล-ลูเซ่นขโมยธุรกิจของเราเหรอ
ไม่น่าจะเป็นแบบนั้นนะ
สิ่งเดียวที่เขากังวลตอนนี้ก็คือเขาจะรายงานเรื่องนี้กับหัวหน้าอย่างไร เขาอยากทำให้การเจรจาที่ล้มเหลวถึงสามครั้งดูน่าอายน้อยกว่านี้…
……………………