วันแรกของเดือนพฤษภาคม
กำลังแรงงานในประเทศจีนกำลังเฉลิมฉลองวันแรงงาน
ในทางกลับกันก็เกิดการสั่นสะเทือนในวงการอุตสาหกรรมการสื่อสาร
โปรเจกต์เคเบิลเอเชีย-แปซิฟิกหมายเลข 3 ที่เดิมทีนับว่าเป็นความคิดที่ดี แต่ต้องหยุดกลางคันเพราะบริษัทการสื่อสารหลักทั้งสามบริษัทของประเภทจีนปฏิเสธที่จะร่วมมือ ในเมื่อออเดอร์มูลค่าหลายหมื่นล้านหยวนไม่ได้รับการเติมเต็ม นั่นทำให้หุ้นของบริษัท SubCom เริ่มดิ่งลง
ไม่มีใครเข้าใจสาเหตุว่าทำไมบริษัทการสื่อสารทั้งสามจึงทำเรื่องแบบนี้
พนักงานส่วนใหญ่จากบริษัทการสื่อสารเองก็ไม่รู้เรื่องนี้เช่นกัน…
ณ สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง
ลู่โจวนั่งอยู่ในออฟฟิศของเขา เขากำลังตั้งใจวาดอะไรบางอย่างลงบนกระดาษ
จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตู
ลู่โจวหยุดเขียนและใส่รูปที่ยังวาดไม่เสร็จลงลิ้นชัก เขามองไปที่ประตูและพูด
“มันไม่ได้ล็อก เข้ามาได้เลยครับ”
ตอนที่ประตูถูกเปิด หน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ปรากฏที่ประตู
“นักวิชาการลู่ คุณยังทำงานอย่างหนักอยู่เลยนะ” หวังเจิ้งเฟยพูดพร้อมรอยยิ้มขณะที่เดินเข้าไปในออฟฟิศ “คุณจะไม่พักหน่อยเหรอ”
“เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมไม่ยุ่ง ทุกวันก็คือวันพักผ่อน แต่ถ้าผมยุ่งผมคงพักไม่ได้หรอกครับ” ลู่โจวมองไปที่หวังเจิ้งเฟยที่นั่งบนโซฟาและพูด “คุณก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
หวังเจิ้งเฟยโบกมือ
“ผมเนี่ยนะ? ผมสนุกกับชีวิตมากกว่าคุณเยอะ ผมเครียดลงน้อยกว่าเมื่อก่อนแล้ว ผมอาจจะได้เกษียณในอีกไม่กี่ปี”
เมื่อเทียบกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่กี่ปีก่อนแล้ว หัวเหว่ยอยู่ในจุดที่ดีกว่าเดิมเยอะเลย
จากชิปคาร์บอนเป็นหมวก HV-1 เป็นเครือข่าย 5G ที่ได้รับความนิยม แผนกลยุทธ์ของหัวเหว่ยสร้างกำไรมากมาย พวกเขาควบคุมอุตสาหกรรมทั้งหมด ไม่มีอะไรที่สามารถหยุดการเจริญเติบโตของยักษ์ใหญ่แห่งวงการสารกึ่งตัวนำได้
แล้วถ้าเกิดหวังเจิ้งเฟยถอยหลังออกมา หัวเหว่ยก็ยังคงสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง บางทีหลังจากที่เขาออกมาแล้วบริษัทอาจจะพัฒนาได้เร็วกว่าเดิมก็ได้
เพราะแบบนี้เขาจึงวางแผนและหาเวลาที่เหมาะสมที่จะเกษียณออกมา
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาให้เกียรตินักวิชาการลู่ เขาคงจะขอคนที่รับช่วงต่อที่เขาเลือกมาวันนี้แทน
“เดิมทีผมตั้งใจว่าจะไปเที่ยวพักผ่อน แต่ผมได้ยินมาจากผู้ช่วยว่าคุณมีเรื่องจะคุยกับผม ผมก็เลยนั่งรถไฟจากเซี่ยงไฮ้และรีบตรงมาที่นี่เลย” หวังเจิ้งเฟยรินชาให้ตัวเองและพูดพร้อมรอยยิ้ม “ปกติแล้วคุณจะไม่ค่อยสนใจเรื่องของธุรกิจเท่าไหร่นัก ผมก็เลยสงสัยว่าโปรเจกต์อะไรที่ทำให้คุณสนใจได้ขนาดนี้”
ลู่โจวแสดงสีหน้าไม่แยแส
จริงๆ แล้วเขาก็ยังไม่สนใจเรื่องของธุรกิจเหมือนเดิม เขาไม่อยากมีส่วนร่วมในโปรเจกต์นี้
แต่ประธานาธิบดีขอให้เขาจัดการโปรเจกต์นี้ด้วยตัวเอง เขาก็เลยไม่มีทางเลือกอื่น
จากที่ดูสีหน้าท่าทีอิจฉาของคนอื่นแล้ว ลู่โจวก็รู้ทันทีว่างานนี้ไม่ใช่งานทั่วๆ ไป มันสามารถทำเงินให้เขาได้อย่างมหาศาล
อีกแง่หนึ่งก็คือมันเป็นรางวัลจากรัฐ ก็เหมือนหุ้นอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้
อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับรัฐแล้ว เงินก็แค่ตัวเลข การพัฒนาสังคมไม่สามารถวัดได้จากสัญลักษณ์ดอลลาร์ ใครก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการล้วนแต่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ดังนั้นมันจึงดีกว่าที่จะมอบสิ่งนี้ให้กับคนที่คู่ควรจริงๆ
ลู่โจวไม่ได้มีความทะเยอทะยานที่จะหาเงิน เพราะท้ายที่สุดแล้วเงินจากสิทธิบัตรจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมและเทคโนโลยีการสื่อสารเชิงควอนตัมมันก็มากเกินพอแล้ว ธุรกิจเคเบิลออปติคอลใต้น้ำนั้นไม่ได้น่าสนใจสำหรับเขาเลย
ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะประนีประนอมด้วยการร่วมงานกับคนอื่น
วิธีนี้เขาจะได้แบ่งเบาหน้าที่ที่ยุ่งยากให้คนอื่นบ้าง
และเขาสามารถเลี่ยงจากการถูกกล่าวหาว่าได้ประโยชน์ทั้งหมดคนเดียว
เพราะสุดท้ายแล้วมันก็คือเคเบิลออปติคอลใต้น้ำข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก มันจะเป็นสิ่งจำเป็นของเครือข่ายข้อมูลระดับโลกในอนาคต
มันอันตรายเกินไปกับการที่คนคนเดียวจะได้พลังแบบนี้…
“ซีอีโอหวัง คุณสนใจโปรเจกต์เคเบิลออปติคอลใต้น้ำไหม”
“เคเบิลออปติคอลใต้น้ำเหรอ”
หวังเจิ้งเฟยนิ่งไปครู่หนึ่ง เขายังงงๆ นิดหน่อย
แต่เขาก็คิดได้ว่ามันต้องมีอะไรมากกว่าแค่ประโยคทั่วไป เขามองลู่โจวและถามด้วยความสงสัย “มันมีอะไรมากกว่านี้หรือเปล่า”
ลู่โจวไตร่ตรองอยู่สักพักก่อนจะพูด
“เราวางแผนจะสร้างเคเบิลออปติคอลใต้น้ำ”
หวังเจิ้งเฟยขมวดคิ้ว
“ผมคิดว่าจะไม่มีการสร้างเสียอีก”
“ก็ไม่เชิงหรอก” ลู่โจวส่ายหัวและพูด “ถ้าจะให้พูดชัดๆ ก็คือเราจะไม่สร้างเคเบิลเดิม แต่เราจะสร้างเคเบิลที่ล้ำสมัยมากกว่าเดิม”
หวังเจิ้งเฟยลูบคางตัวเองและพูด
“ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร คุณช่วยพูดให้ชัดเจนกว่านี้ได้ไหม คุณอยากให้เราทำอะไร”
ลู่โจวรู้สึกปวดหัวแล้ว เขาไม่รู้ว่าเขาควรอธิบายหรือเปล่า
แต่จู่ๆ เขาก็นึกอะไรออก
เดี๋ยวนะ ทำไมฉันต้องทำเหมือนกำลังขอให้เขาช่วยด้วย
นี่มันเงินเปล่าๆ เลยนะ
ฉันเป็นคนที่ให้โอกาสทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมนี้กับเขา
ลู่โจวไม่อยากจะเสียเวลาในการอธิบายทุกอย่าง เขาจึงพูดออกไปตรงๆ
“ในช่วงปีที่ผ่านมาประเทศของเราเสนอกลยุทธ์ในการพัฒนาในฐานะมหาอำนาจทางเศรษฐกิจทางทะเล การพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมเคเบิลออปติคอลใต้น้ำมีบทบาทที่สำคัญในเรื่องนี้
หวังเจิ้งเฟย “???”
ลู่โจวไม่สนใจท่าทีสับสนบนหน้าของชายสูงวัย เขาพูดต่อ “แต่เพราะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมระดับสูงและความต้องการในการลงทุน ตลาดเคเบิลใต้น้ำระดับโลกตอนนี้จึงเป็นเอกสิทธิ์ของสามบริษัทคือ SubCom ของสหรัฐอเมริกา NEC ของญี่ปุ่น และอัลคาเทล-ลูเซ่นของยุโรป มีบริษัทในประเทศเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่แข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ ถ้าสิ่งนี้ยังคงเป็นกระแสมันก็ยิ่งยากสำหรับเราในการสร้างประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศนี้”
“ดังนั้นทางพรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงอยากให้บริษัทเอกชนที่โดดเด่นอย่างเรามาเป็นตัวอย่าง”
“ผมเข้าใจ” หวังเจิ้งเฟยพูดแทรกลู่โจว “มันใช้เงินเท่าไหร่”
หลังจากที่ลู่โจวเห็นชายสูงวัยประหม่า เขาอึ้งไป
สัญชาตญาณบอกเขาว่าชายสูงวัยคนนี้เข้าใจคำพูดของเขาพูด แต่ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตามเขาก็ไม่ได้อยากอธิบายตัวเอง…
ลู่โจวจึงตัดสินใจแต่งเรื่องขึ้นมา
“ยังไม่มีการจัดสรรงบประมาณ ทางพรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องการให้เราใช้เงินตัวเองและชักชวนบริษัทเล็กๆ ให้เข้าร่วมธุรกิจเคเบิลออปติคอลใต้น้ำและสร้างเคเบิลออปติคอลใต้น้ำจากฝั่งตะวันออกของจีนไปฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา”
ลู่โจวคิดว่ามันคงเป็นเรื่องยากที่จะโน้มน้าวหวังเจิ้งเฟยให้ร่วมมือกับเขาโดยไม่เปิดเผยเรื่องเทคโนโลยีควอนตัม
แต่น่าแปลกใจที่หวังเจิ้งเฟยโบกมือและพูดออกมาอย่างไม่ลังเล
“ไม่ต้องห่วง เงินไม่ใช่ปัญหา! มีอะไรอีกไหมครับ?”
ใช่ คนคนนี้…
เข้าใจฉันผิดใหญ่แล้ว
“เอ่อ อีกเรื่องหนึ่ง ผมมั่นใจว่าคุณต้องรู้จักนักลงทุนที่เก่งๆ หลายคน ยิ่งมีคนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นเท่าไหร่ แต่ละคนก็จ่ายน้อยลงเท่านั้น”
“ไม่ต้องห่วง ผมจัดการเอง ผมจะติดต่อบริษัทอื่นๆ “
หลังจากที่เห็นว่าหวังเจิ้งเฟยตื่นเต้นขนาดไหน ลู่โจวก็อดขำไม่ได้
ฉันกำลังจะทำให้คนพวกนี้รวย แต่รู้สึกเหมือนกำลังหลอกลวงพวกเขาเลย
แต่ฉันจะพูดเรื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมตอนนี้ไม่ได้
ส่วนการสื่อสารเชิงควอนตัมก็อีกเรื่องหนึ่ง มันอาจจะออกสู่สาธารณะในอีกไม่กี่วัน แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัม และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับความยากลำบากของความปลอดภัยของข้อมูลเครือข่าย
ถ้าไม่มีการคุกคามคอมพิวเตอร์ควอนตัม การสื่อสารเชิงควอนตัมก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็น
แม้ว่าลู่โจวจะไม่สามารถอธิบายทุกอย่างได้ แต่เขาก็พยายามปลอบใจหวังเจิ้งเฟย
“ไม่ต้องห่วง โปรเจกต์จะประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น เทคโนโลยีและการเริ่มต้นอยู่ในมือเราแล้ว ผมรับรองได้ว่ามันจะเป็นธุรกิจที่มั่นคง”
หวังเจิ้งเฟยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของลู่โจวขนาดนั้น
เขาไม่สนใจถ้าจะเสียเงินเล็กน้อย เขาทำเงินได้ตั้งมากมาย เขาจึงยอมช่วยเหลือประเทศ
เขาเป็นกังวลว่าจะสามารถสร้างเคเบิลออปติคอลข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกได้หรือเปล่ามากกว่า
หัวเหว่ยเคยพยายามเข้าสู่วงการอุตสาหกรรมเคเบิลออปติคอลใต้น้ำมาแล้ว เขาจึงรู้ดีว่ามันต้องใช้เงินเท่าไหร่
ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ขายธุรกิจเคเบิลออปติคอลใต้น้ำของหัวเหว่ยเมื่อไม่กี่ปีก่อน
“คุณช่วยบอกรายละเอียดหน่อยได้ไหม… คุณมั่นใจมากขนาดไหน”
ลู่โจวชูนิ้วขึ้นสองนิ้ว
หวังเจิ้งเฟยแสดงสีหน้าจริงจัง
“แค่ 20% เองเหรอ”
ลู่โจวส่ายหัว
“ไม่ ผมหมายถึงเรื่องของเทคโนโลยี…
“เรานำหน้าไปสองชั่วอายุคน”
ทั้งออฟฟิศเงียบไป…
…………………………….