ที่ท่าเรือทางตะวันออกของชานเมืองเซี่ยงไฮ้ ถ้าที่นี่ไม่มีรถไฟใต้ดิน ที่นี่ก็คงจะเรียกว่าเป็นเซี่ยงไฮ้ไม่ได้ด้วยซ้ำ
ในความเป็นจริงแล้วชาวเซี่ยงไฮ้ท้องถิ่นจำนวนมากไม่ได้จดจำว่าที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของเซี่ยงไฮ้อีกต่อไป
แต่ก็มีแผนการแบ่งเขตมากมายที่นี่ อย่างเช่น เขตการผลิตอัจฉริยะ เขตพัฒนาแบบผสมผสาน เขตระบบนิเวศอัจฉริยะ และศูนย์กลางวิทยาศาสตร์ทางทะเลและเทคโนโลยี และอื่นๆ… เนื่องด้วยสถานที่ที่อยู่ห่างไกลในพื้นที่และรากฐานทางอุตสาหกรรมที่ยังไม่แข็งแรงจึงไม่ได้มีการพัฒนาขนานใหญ่โดยเฉพาะในพื้นที่นี้เลยตลอดหลายปี
มันเกือบจะเรียกได้ว่า…
ที่แห่งนี้ถูกทิ้งร้าง
อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้หลายสิ่งหลายอย่างก็กำลังเปลี่ยนไป
ราวสองเดือนที่ผ่านมา กลุ่มบุคคลที่ท่าทางมีความสำคัญได้มาที่นี่ พวกเขาเดินไปรอบๆ พร้อมกับมีพิมพ์เขียวอยู่ในมือและมีการวงลงไปบนแผนที่พิมพ์เขียวด้วย
หลังจากนั้นไม่นานทีมก่อสร้างก็มาถึงที่ชานเมือง พวกเขาเริ่มทำการก่อสร้างในที่ดินที่วงไว้โดยกลุ่มคนสำคัญที่เข้ามาก่อนหน้านี้
สำหรับผู้อยู่อาศัยและเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กในพื้นที่ย่านท่าเรือฝั่งตะวันออกนี้ นี่เป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้ว่าพวกเขากำลังสร้างอะไร หากพิจารณาจากพื้นที่ที่กั้นรั้ว มันดูเหมือนว่านี่อาจจะเป็นโปรเจกต์ใหญ่
บางคนบอกว่าพวกเขากำลังสร้างย่านธุรกิจใหม่ อีกคนบอกว่าพวกเขากำลังพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่บางคนก็เดาว่าผู้ผลิตสารกึ่งตัวนำกำลังจะย้ายโรงงานของพวกเขามาที่เซี่ยงไฮ้ จึงประมาณการได้ว่ามูลค่าอสังหาริมทรัพย์น่าจะสูงขึ้นเพราะโปรเจกต์นี้
มีข่าวลือต่างๆ แพร่กระจายออกมาเป็นเวลามากกว่า 2 เดือน จนกระทั่งได้มีการประกาศเรื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัม ‘สตาร์โวยาจวัน’ ที่สร้างโดยสตาร์สกายเทคโนโลยี ในที่สุดผู้คนก็ได้ตระหนักว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่นี่
ผลปรากฏว่าที่นี่ไม่ใช่ศูนย์การค้า ไม่ใช่อาคารขนาดใหญ่หรือสนามกีฬา จริงๆ แล้วมันคือคอมพิวเตอร์ควอนตัมอันทรงประสิทธิภาพ
น่าเสียดายที่ศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เป็นอุตสาหกรรมที่ไม่ได้ใช้แรงงานมาก มันจึงอาจจะไม่ได้ก่อให้เกิดการสร้างงานและอาจจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อราคาอสังหาริมทรัพย์…
…
รถยนต์อาวดี้ เอ 6 จอดอยู่ริมถนนหลักในเขตการผลิตอัจฉริยะและมีชายใส่สูทสองคนลงมาจากรถ
ชายร่างอ้วนสวมแว่นตากรอบทองหรี่ตามองขณะที่เขามองไปยังไซต์ก่อสร้าง เขาถามขึ้นด้วยความอยากรู้ว่า “เกิดอะไรขึ้นตรงนั้น?”
ชื่อของเขาคือติงหรง และเขาเป็นนายทุนที่ค่อนข้างร่ำรวย เขาคลุกคลีอยู่ในการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเพื่อการส่งออก
เดิมแล้วโรงงานของเขาตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมซูโจว เนื่องจากเขาได้ยินว่ามีการเปลี่ยนแปลงนโยบายในพื้นที่ท่าเรือฝั่งตะวันออก เขาจึงมาที่นี่เพื่อตรวจสอบพื้นที่เพื่อที่จะดูว่ามูลค่าใดที่จะเกิดขึ้นได้บ้างหากจะเปิดร้านที่นี่
ด้วยความสัตย์จริง เขาค่อนข้างพอใจกับเงื่อนไขทั้งหมดของที่นี่ ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือที่ตั้งอยู่ไกลเกินไป และมันอาจจะยุ่งยากในการว่าจ้างแรงงานที่นี่
หัวหน้าเขตชานเมืองหลิว ผู้ซึ่งรับผิดชอบในการสร้างแรงจูงใจในการลงทุนในเขต พูดขึ้นทันทีว่า “นั่นคือที่ดินที่สตาร์สกายเทคโนโลยีซื้อไปครับ อย่างที่เห็นก็คือเป็นที่ตั้งสำหรับศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์”
เมื่อสองเดือนก่อนข่าวนี้ยังเป็นความลับ แม้แต่ผู้บริหารอาวุโสของคณะกรรมการบริหารชานเมืองยังไม่รู้ความจริงด้วยซ้ำ
แต่ในตอนนี้ เรื่องนี้ได้เป็นความลับที่รู้กันทั่วไปแล้ว ทุกคนรู้ว่าที่ดินส่วนนี้เป็นของสตาร์สกายเทคโนโลยี
“สตาร์สกายเทคโนโลยีเหรอ? ศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์?”
ติงหรงนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของสองสิ่งนี้
หัวหน้าเขตชานเมืองหลิวยิ้มออกมาและพูดทันทีว่า “มันคือสตาร์โวยาจวัน คอมพิวเตอร์ควอนตัมเครื่องแรกในโลกซึ่งได้รับการเปิดเผยออกมาเมื่อไม่นานนี้! เห็นได้ชัดว่าประสิทธิภาพการประมวลผลนั้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับสุดยอดอื่นๆ รวมกันทั้งหมด นี่จะกลายเป็นคอมพิวเตอร์ควอนตัมในประเทศเครื่องแรกที่ให้บริการการประมวลผลด้วยคลาวด์คอมพิวติง และที่แห่งนี้จะเทียบได้กับโซนไฮเทคในจินหลิง!”
หัวหน้าเขตชานเมืองหลิวอวดอ้างเขตพัฒนานี้อย่างจงใจ
หลังจากได้ฟังคำอธิบาย ติงหรงก็รู้สึกตกตะลึง เขามีสีหน้าประหลาดใจ
“นั่นมันน่าอัศจรรย์ไปเลยว่าไหม?”
เมื่อไม่นานมานี้เขายุ่งอยู่กับเรื่องโรงงานใหม่ เขาทำงานแม้แต่ตอนพักเที่ยง เขาไม่มีเวลามาให้ความสนใจกับสิ่งกำลังเกิดขึ้นในวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เขาไม่ได้คาดคิดว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมจะเกิดขึ้นมาจริงในชั่วพริบตา
เขาคิดย้อนกลับไปตอนที่เขาพูดคุยเรื่องเทรนด์ของสารสนเทศทางอุตสาหกรรมกับพวกวิศวกรที่โรงงานของเขาในช่วงมื้อเที่ยง เห็นได้เลยว่าในอนาคตนั้นหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ในโรงงาน
แล้วทำไมสตาร์สกายเทคโนโลยีถึงสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมของพวกเขาขึ้นที่นี่?
ทำไมไม่สร้างที่จินหลิง?
ยิ่งเขาคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น
นี่จึงเป็นเหมือนเหมืองทองที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเขา
เขายื่นมือออกไปโดยไม่ลังเล ชี้ไปตรงพื้นที่เปิดโล่งข้างพื้นที่ก่อสร้าง แล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้น ผมจะตั้งโรงงานของผมตรงนั้น”
“โอ้ ตรงนั้นเลยเหรอครับ?”
“ใช่ การคมนาคมขนส่งของที่นี่สะดวก ผมวางแผนที่จะลงทุน 200 ล้านหยวนเพื่อเปิดธุรกิจสายการผลิตใหม่ที่นี่เพื่อผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะไฟฟ้า…” ติงหรงสังเกตเห็นสีหน้าที่ดูกระอักกระอ่วนใจของหัวหน้าเขตชานเมืองหลิวได้ในทันที เขาอดที่จะขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นไม่ได้ว่า “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”
หัวหน้าเขตชานเมืองหลิวมองหน้าติงหรงแล้วยิ้มอย่างประหม่า
“นั่น… ผมเกรงว่ามันอาจจะมีเรื่องยุ่งยากนิดหน่อย เมื่อสองเดือนก่อนที่ดินทั้งหมดรอบๆ นี้ถูกขายทอดตลาดไปแล้ว”
“ทั้งหมดเลยเหรอ?” ติงหรงรู้สึกตกใจและสับสนไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาอาจจะตกเทรนด์ไป ดังนั้นเขาจึงรีบพูดว่า “เมื่อสองเดือนที่แล้วมีใครรู้หรือยังครับว่าสตาร์สกายเทคโนโลยีกำลังจะมาสร้างศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่นี่?”
หัวหน้าเขตชานเมืองหลิวตอบอย่างรวดเร็ว
“ไม่มีทางครับ แม้แต่นายกเทศมนตรียังไม่รู้เลย!”
ติงหรงพูดว่า “ถ้าอย่างงั้นมันเป็นไปได้ยังไง…”
หัวหน้าเขตชานเมืองหลิวถอนหายใจแล้วพูดว่า “มันไม่ได้เกี่ยวกับศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์หรอกครับ พอมีคนได้ยินว่าทีมก่อสร้างพวกนี้กำลังทำงานให้สตาร์สกายเทคโนโลยี คณะกรรมการบริหารเขตพัฒนาของเราก็ได้รับการติดต่อจากบริษัทต่างๆ อย่างน้อยก็สองสามร้อยแห่งต่อสัปดาห์ พวกเขาทั้งหมดถามถึงที่ดินในบริเวณใกล้เคียง ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์หรือเชิงอุตสาหกรรม ทั้งหมดก็ถูกขายทอดตลาดไปหมดแล้วครับ”
แม้ว่าติงหรงจะสามารถซื้อที่ดินมาจากบริษัทพวกนั้นได้ แต่หัวหน้าเขตชานเมืองหลิวก็คิดว่านี่ไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก
อย่างไรก็ตามการจัดการธุรกิจในบริษัทไฮเทคไม่ได้มีแค่ภารกิจในเรื่องการทำธุรกิจอย่างเดียว แต่ยังมีภารกิจในเรื่องการเมืองด้วย เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐทั้งหมดกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิด จุดประสงค์หลักของเขตพัฒนานี้คือสร้างขึ้นเพื่อดึงดูดการลงทุน ไม่ใช่การเพิ่มมูลค่าที่ดิน
ถ้ามีการใช้เงินทุนมากเกินไปในการครอบครองที่ดิน ก็อาจจะไม่มีเงินสำหรับการผลิตและการขยายเขตพัฒนา
ติงหรงรู้สึกไม่เชื่อ
“…ไม่มีเหลือแม้แต่แปลงเดียวเลยเหรอ?”
หัวหน้าเขตชานเมืองหลิวตอบว่า “มีที่ดินแปลงหนึ่งอยู่ห่างออกไปหน่อยครับ แต่ไม่ได้อยู่ในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร”
ไม่ได้อยู่ในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร…
นี่มันบ้าไปแล้ว!
ติงหรงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้
แม้ว่ามันจะน่าเสียดายที่เขาไม่ได้ซื้อที่ดินหลังจากได้ยินว่าพื้นที่เขตนี้ได้รับความนิยมเพียงใด แต่เขาก็ตัดสินใจมาอย่างแน่วแน่แล้วก่อนที่คิดจะย้ายโรงงานของเขามาที่นี่
การผลิตทางอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เป็นเรื่องสำคัญเสมอ ตราบเท่าที่มีสภาพการจราจรที่ดี สวนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ก็มีความน่าสนใจมากกว่าเขตพัฒนาเศรษฐกิจขนาดเล็ก
แม้ว่าโรงงานใหม่จะไปไม่รอดและทำให้เขาล้มละลาย เขาก็สามารถขายที่ดินเพื่อรับผลตอบแทนได้ การลงทุนและการจัดตั้งโรงงานใหม่ของเขาที่นี่เป็นสถานการณ์ที่ได้ประโยชน์ทั้งคู่
……………….