เจ้าของธุรกิจนับไม่ถ้วนที่รู้สึกสนใจคอมพิวเตอร์ควอนตัมใหม่ในพื้นที่บริเวณท่าเรือฝั่งตะวันออกต่างมีความคิดเหมือนๆ กับหัวหน้าติง
เมื่อสตาร์สกายเทคโนโลยีประกาศออกมาในครั้งแรกว่าสตาร์โวยาจวันจะอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ บริษัทนับไม่ถ้วนก็ส่งตัวแทนมาที่เมืองเพื่อสำรวจศักยภาพในการลงทุนในเขตพัฒนานี้
โดยพื้นฐานแล้วเขตพื้นที่ไฮเทคของจินหลิงอิ่มตัวแล้ว แต่ที่แห่งนี้เป็นดินแดนที่ยังไม่ได้รับการสำรวจ
หัวหน้าติงกำลังกังวลถึงเรื่องที่ว่าจะซื้อที่ดินแปลงไหนและธนาคารไหนที่เขาจะไปกู้ยืมเงินมา ในทางกลับกันกลุ่มคนในชุดลำลองและสวมหมวกก่อสร้างยืนอยู่ที่ไซต์ก่อสร้างของทางเข้าศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สตาร์โวยาจวัน
ในกลุ่มของพวกเขามีบุคคลที่เป็นผู้รับผิดชอบอยู่ในคณะกรรมการบริหารเขตพัฒนาด้วย ผู้นำของคณะกรรมการการลงทุนของสภาเทศบาลเมืองก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน ซึ่งก็รวมไปถึงผู้อำนวยการหลี่และลู่โจว
“นี่มันเหลือเชื่อ…”
ขณะที่ผู้อำนวยการหลี่มองไปที่โครงสร้างเหล็กสูงตระหง่านและโครงสร้างคอนกรีต เขาก็พูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “ตอนนี้ผ่านมาแค่สองเดือน แต่มันดูเหมือนเกือบจะเสร็จแล้ว นี่คือ…”
เขาไม่สามารถจะบรรยายความรู้สึกในใจของเขาได้
ลู่โจวยิ้มและพูดว่า “ดูเหมือนว่ามันโผล่ขึ้นมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ใช่ไหมล่ะครับ?”
ผู้อำนวยการหลี่พยักหน้าและพูดว่า
“ใช่ นั่นแหละตรงกับที่ผมรู้สึกเป๊ะเลย”
มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะสร้างตึกสักตักหนึ่งในเวลาสองเดือน แต่ตึกนี้มีความพิเศษ
“มันใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างแบบโมดูลาร์”
ลู่โจวหรี่ตาและพูดต่อไปพร้อมกับยิ้ม “จริงๆ แล้ว ผมก็ไม่ได้เข้าใจมันดีนักหรอกครับ ผมเพิ่งจะได้ยินคนในสถาบันของเราพูดเรื่องที่ว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการก่อสร้างบนพื้นผิวดวงจันทร์จากเซี่ยงไฮ้เฮฟวี่อินดัสตรีกรุ๊ปได้อย่างไร มุมมองด้านวิศวกรรมได้รับการดัดแปลงเล็กน้อยด้วยเหตุผลด้านสภาพแวดล้อมของแรงดึงดูดของโลก เทคโนโลยีนี้ช่วยลดเวลาของเราในการก่อสร้างได้มากเลยครับ”
ผู้อำนวยการหลี่พูดว่า
“แน่นอนล่ะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นแรงขับเคลื่อนของผลิตภาพ”
ลู่โจวยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ถูกต้องครับ”
“อันที่จริง ผมยังมีคำถามอีกคำถามหนึ่ง…” ผู้อำนวยการหลี่พูด เขาเห็นว่าลู่โจวกำลังมองเขาอยู่ ดังนั้นเขาจึงรีบพูดว่า “อย่ามองผมแบบนั้น ผมสาบานได้ว่านี่เป็นแค่คำถาม”
ลู่โจวตอบว่า “…ว่ามาเถอะครับ”
“การทดสอบคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่ผมลองครั้งล่าสุด ขนาดของมันใหญ่แค่เท่ากับฝ่ามือผมไม่ใช่เหรอ?” หลังจากทำท่าทางประกอบด้วยนิ้วชี้ ผู้อำนวยการหลี่ก็พูดต่อไปด้วยสีหน้าที่งุนงงว่า “แล้วทำไมที่นี่ถึงสร้างเป็นตึกใหญ่เลยล่ะ?”
“คุณบอกเหตุผลด้วยตัวคุณเอง สิ่งนั้นเป็นแค่สินค้าทดลองครับและมันก็สามารถแสดงได้แค่การคำนวณแบบเฉพาะที่ใช้กับปัญหาที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้น ถ้าเราต้องการจัดการปัญหาซับซ้อนที่แตกต่างกันและใช้มันเหมือนกับเป็นคอมพิวเตอร์อเนกประสงค์ เราต้องวิเคราะห์ประตูสัญญาณตรรกะควอนตัมและออกแบบโครงสร้างระบบรวมถึงระบบปฏิบัติการแล้วก็รวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน มันเหมือน…”
หลังจากครุ่นคิดว่าจะบรรยายแนวคิดนี้ว่าอย่างไร ลู่โจวก็พูดว่า “มันเหมือนการจัดกลุ่มทหารที่ได้รับการฝึกแบบรายบุคคลมาเป็นอย่างดีให้เข้าไปอยู่ในกองทัพ”
ผู้อำนวยการหลี่พูดว่า “รอบหน้าคุณช่วยหาคำเปรียบเปรยที่ดีกว่านี้ได้ไหม?”
ลู่โจวพูดว่า “ไม่ ผมทำไม่ได้ครับ ทุกคำเปรียบเปรยมันไม่มีความถูกต้องอยู่แล้ว”
ผู้อำนวยการหลี่พูดว่า “…ผมคิดว่าถ้าใช้คำเปรียบเปรยที่ผมจะเข้าใจได้มันก็จะดีกว่า”
ลู่โจว “…”
…
ลู่โจวเชื่อเสมอว่าเส้นทางของแต่ละคนนั้นไม่สามารถแบ่งแยกออกมาจากโชคชะตาของสังคมทั้งหมดได้
เหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงสามารถสร้างเครื่องชนอนุภาคบนดวงจันทร์ได้นั้นก็ด้วยเพราะได้รับสนับสนุนจากรัฐ รวมทั้งปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ที่สนับสนุนเขา
อย่างไรก็ตามหากปราศจากความช่วยเหลือจากวงการวิทยาศาสตร์อื่นๆ เขาก็คงจะไม่สามารถประสบผลสำเร็จได้ถึงระดับนี้
ถ้าคนคนหนึ่งไม่สามารถแม้แต่จะหาเงินมาจ่ายค่าอาหารได้ก็ไม่มีทางที่คนคนนั้นจะสามารถมุ่งความสนใจไปที่การทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
การสร้างเทคโนโลยีฟิวชั่นที่ควบคุมได้กระตุ้นให้เกิดผลิตภาพของมนุษย์อย่างมาก สิ่งนี้สร้างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในหลายสาขาวิชา ตั้งแต่ด้านพลังงานไปจนถึงวัสดุศาสตร์และเคมี มันได้เปลี่ยนจินตนาการให้กลายเป็นเรื่องจริง
อีกประการคือกิจกรรมด้านอวกาศต่างๆ ซึ่งรวมถึงโปรเจกต์ส่งคนไปดวงจันทร์แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของมันในเรื่องนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีทีละน้อย ซึ่งมากกว่าที่จะเป็นแค่การใช้ทรัพยากรทางสังคมให้หมดไป
ลู่โจวและคณะกรรมการการโคจรของดวงจันทร์กำลังเตรียมการสำหรับโปรเจกต์ที่ใหญ่ขึ้น
ซึ่งก็คือรางอวกาศบนดวงจันทร์
ถ้าพวกเขาสามารถสร้างรางอวกาศบนดวงจันทร์ได้ พวกเขาก็สามารถจะส่งแร่ธาตุจากพื้นผิวดวงจันทร์ไปยังวงโคจรขนย้ายรอบดวงจันทร์ได้อย่างง่ายดาย
ด้วยเหตุนี้การส่งแร่ธาตุจากพื้นผิวของดวงจันทร์มายังโลกไม่ได้แค่ทำให้เกิดมูลค่าทางการทดลอง แต่ยังทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจอีกด้วย นี่เป็นเรื่องจริงอย่างยิ่งสำหรับทรัพยากรที่หาได้ยากยิ่งบนโลก อย่างเช่น ฮีเลียม 3
หลังจากการสร้างพลังงานแบบไม่สิ้นสุดโดยใช้นิวเคลียร์ฟิวชั่นอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว พวกเขาก็กำลังจะแก้ปัญหาเรื่องวัตถุดิบขาดแคลนด้วย
อย่างไรก็ตามทรัพยากรเพียงอย่างเดียวก็คงไม่เพียงพอ
เศรษฐกิจของจีนหยุดชะงักมาเป็นเวลานานในการพึ่งพาการส่งออกทรัพยากรเพียงอย่างเดียว พวกเขาไม่ได้เป็นผู้จำหน่ายวัตถุดิบระดับล่างในห่วงโซ่อุตสาหกรรมระดับโลกอีกต่อไป
พวกเขาต้องหาทางที่จะบรรลุผลในการมีความสามารถในการผลิตที่สูงขึ้นให้ได้
จนถึงตอนนี้ เขตไฮเทคจินหลิงได้บรรลุผลสำเร็จในขั้นต้นแล้ว
เขตไฮเทคจินหลิงเป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมจีนด้วยการพึ่งพาการวิจัยและการพัฒนาจากสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง พวกเขายึดครองส่วนแบ่งในตลาดส่วนใหญ่ของวัตถุดิบที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบและยานยนต์ไฟฟ้า
ในส่วนของเขตท่าเรือฝั่งตะวันออกนั้นเป็นความพยายามที่ชัดเจนในการขยาย ‘เขตไฮเทคจินหลิงโมเดล’ ไปทั่วประเทศ
โดยใช้บริษัทที่มุ่งเน้นเรื่องเทคโนโลยีเป็นกระดูกสันหลัง และบริษัทที่มุ่งเน้นเรื่องการผลิตเป็นลำตัว เพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางการผลิต พวกเขาสามารถสร้างระบบการผลิตซึ่งได้รับการผลักดันด้วยกำลังในการวิจัยและการพัฒนาทั้งหมด
แน่นอนว่าแม้สิ่งเหล่านี้จะฟังดูง่ายในทางทฤษฎี แต่จริงๆ มันได้ง่ายเลยที่จะทำ
ไม่ว่ากระดูกสันหลังของพวกเขาจะแข็งแรงแค่ไหน แต่พวกเขาก็ไม่สามารถต้านลมมรสุมจากตลาดนานาชาติได้
นั่นคือปัญหา
มีนักวิชาการลู่เพียงคนเดียวเท่านั้น คนเดียวของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง
เขตไฮเทคจินหลิงสามารถพึ่งพาความแข็งแกร่งในการวิจัยและการพัฒนาของสถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงได้ แต่เขตพัฒนาท่าเรือฝั่งตะวันออกในเซี่ยงไฮ้ไม่ได้โชคดีขนาดนั้น
เพื่อขอบเขตขนาดใหญ่ เหตุผลที่ว่าทำไมศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ควอนตัมสตาร์โวยาจวันถูกเลือกให้ตั้งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้แทนที่จะเป็นจินหลิงก็เพราะเรื่องนี้นี่เอง
ลู่โจวหวังที่จะใช้สตาร์โวยาจวันในการบ่มเพาะกลุ่มบริษัทที่เน้นเทคโนโลยีโดยโฟกัสที่ Ru0026D เป็นพิเศษ เหมือนอย่างสตาร์สกายเทคโนโลยีและการมุ่งเน้นที่การพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญา
แม้ว่าจะดูเหลวไหลที่จะคาดหวังให้พวกเขาทำซ้ำรอยสตาร์สกายเทคโนโลยี แต่บางทีปริมาณก็เยอะเกินกว่าคุณภาพ
กระดูกสันหลังทางอุตสาหกรรมนี้ไม่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเพียงแค่บริษัทเดียว…
……………