ลู่โจวหยิบขนมปังสองชิ้นจากถาดอาหารก่อนจะรีบกลับเข้าห้อง พอเขาโยนสมุดสองเล่มลงบนโต๊ะ เขาก็เปิดกระเป๋าเดินทางแล้วหยิบเอากระดาษเปล่าออกมา
ทุกอย่างพร้อมแล้ว
เขาสูดลมหายใจแล้วเข้าสู่มิติของระบบ จากนั้นเขาก็เริ่มใช้ช่วงเวลาแห่งการเกิดแรงบันดาลใจ
มันรู้สึกแตกต่างจากจากห้วงเวลาแห่งสมาธิหรือแคปซูลสมาธิ เมื่อลู่โจวออกจากมิติของระบบ เขาก็รู้สึกว่าจิตใจเขาสงบราบเรียบและมีแต่เหตุผล
ความรู้สึกอุ่นแล่นจากกระดูกสันหลังขึ้นไปสู่สมอง มันเป็นเหมือนเปลวเพลิงที่จุดประกายความคิดของเขา
“รู้สึกแปลกๆ”
ลู่โจวกำหมัดก่อนจะขยี้ตา เขารู้สึกเหมือนทุกอย่างตรงหน้าสั่นเล็กน้อย
ในเวลาเดียวกันแรงบันดาลใจในใจของเขาก็เป็นเหมือนคลื่นสึนามิที่กวาดล้างเยื่อหุ้มสมองออกไป
มันยากที่จะอธิบายความรู้สึกนั้น
ทันใดนั้นเองมันก็เหมือนกับว่าปลายประสาททั้งหมดในร่างกายได้ขยายตัว มันเหมือนกับว่าร่างกายของเขากำลังเชื่อมต่อกับจักรวาลโดยตรง…
ห่วงผ้าม่านดูเหมือนแถบโมบิอุสที่ถูกยืดออก
พื้นผิวของผ้าปูที่นอนดูเหมือนกับลำดับฟีโบนัชชี
แก้วกระดาษบนโต๊ะ เตียงและโคมระย้าก่อตัวกลายเป็นสัดส่วนทองคำสามจุด
รายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้เด่นชัดสำหรับเขา
มันหยั่งกับว่าการมองเห็นของเขาลดลงไปเป็นภาพเลขาคณิตบริสุทธิ์ และเขาก็ได้แบ่งข้อมูลเป็นตัวเลขบริสุทธิ์และสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์
ความรู้สึกแบบนี้เป็นสรวงสวรรค์สำหรับศิลปินทุกคน
แน่นอนมันเป็นนรกสำหรับผู้ป่วยโรคย้ำคิดย้ำทำเช่นกัน…
ลู่โจวสูดลมหายใจแล้วพยายามไม่สนใจสิ่งรบกวนในห้องและรวมสมาธิกลับมาที่กระดาษ
นั่นก็คือจำนวนเฉพาะคู่แฝด (P, P+2) มีจำนวนเป็นอนันต์หรือไม่!
จำนวนเฉพาะคู่แฝดเช่น (5, 7), (11, 13), (17, 19), (29, 31), (41, 43), (59, 61)
…
ฟังก์ชันของระบบนั้นใช้งานง่ายมาก
แรงบันดาลใจมีทั้งหมดยี่สิบสี่ชั่วโมง มันเริ่มและหยุดได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามหลังจากหยุดไปแต่ละครั้ง มันจะมีอาการหมดแรงบันดาลใจอย่างคิดได้ช้าลง ความเร็วตอบสนองช้าลงเป็นต้น
หลังจากทดสอบหลายครั้ง ในที่สุดลู่โจวก็คุ้นชินกับการใช้ฟังก์ชันนี้
เขาติดอยู่กับปัญหาจำนวนเฉพาะคู่แฝดมากว่าครึ่งปีแล้ว ดังนั้นการปะทุของแรงบันดาลใจนี้จึงทำให้เขามีความสุขอย่างยิ่ง
ส่งผลให้ลู่โจวเกือบลืมไปเลยว่าเขามาพรินซ์ตันทำไม เขาลืมเรื่องการพรีเซนต์ของเขาในวันที่ห้า และก็ลืมแม้แต่ภารกิจของระบบ
เพื่อที่จะทำให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพทุกชั่วโมง เขาจึงใช้แรงบันดาลใจเพียงสี่ชั่วโมงต่อวันและแบ่งออกเป็นสี่ครั้ง เขาอยากใช้ประโยชน์สูงสุดทุกชั่วโมงและทุกนาที
เขาหมกมุ่นอยู่กับการค้นหาคำตอบ
มันราวกับว่าเขากลายเป็นนักสืบที่ค้นหาเบาะแสอย่างไม่คิดชีวิต
ทุกครั้งที่ลู่โจวพบเบาะแส เขาก็จะเข้าใกล้การแก้ปัญหาไปได้อีกขั้น
เขาไม่เคยมีประสบการณ์อะไรแบบนี้มาก่อน
ลู่โจวไม่ได้ออกจากห้องพักของโรงแรมมาสามวันแล้ว
เขาขังตัวเองอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมสิบตารางเมตรโดยสิ้นเชิง เขากระทั่งโทรเรียกอาหารจากรูมเซอร์วิส
บรรดากระดาษเปล่าที่ถูกใช้แล้วก็กองอยู่ที่มุมโต๊ะ ส่วนกระดาษที่ถูกขยำเป็นรูปกลมๆ ก็มีกระจายเต็มพื้น
คืนที่สี่…
ลู่โจวมองกระดาษเปล่าที่กองซ้อนกันเป็นภูเขาลูกเล็กๆ ขณะเปลี่ยนหมึกปากกา จากนั้นเขาก็อดหาวไม่ได้
“มีเหลือแค่สองชั่วโมง?”
ลู่โจวมองดูตัวจับเวลาบนโทรศัพท์ก่อนจะเข้ามิติของระบบเพื่อหยุดช่วงเวลาแห่งแรงบันดาลใจ
ในที่สุดก็ถึงเวลาพัก
อย่างไรก็ตามความรู้สึกของแรงบันดาลใจที่ยอดเยี่ยมนั้นก็หายไป
สมองที่กำลังเดือดพล่านของลู่โจวก็ค่อยๆ เย็นลง เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วถอนหายใจออกมา
งานประชุมทางวิชาการเสียเปล่าแล้ว เพราะเขาไม่ได้ออกห้องเลย
อย่างไรก็ตามกำไรอย่างอื่นที่เขาได้รับมาในช่วงสองสามวันมานี้ก็มีมากมายมหาศาล
เขารู้สึกอย่างชัดเจนว่า เขาเข้าใกล้การแก้ปัญหาข้อคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่แฝดขึ้นเรื่อยๆ
เขาใกล้มากแล้ว…
ลู่โจวบิดขี้เกียจแล้วลุกจากเก้าอี้
เขาวางแผนออกไปเดินเล่น อาบน้ำ จากนั้นก็นอนบนเตียงแล้วหลับให้เต็มอิ่มสักคืน เขาจะรอจนถึงวันพรุ่งนี้ค่อยทำต่อ
เขาเดินออกจากโรงแรม ผ่านจัตุรัสพาลเมอร์แล้วเดินไปตามถนนวิทยาเขตพรินซ์ตัน สายลมเย็นๆ พัดผ่านใบหน้าช่วยให้สมองที่ร้อนจัดของเขาผ่อนคลายขึ้น
ลู่โจวรู้สึกเหมือนมหาวิทยาลัยนี้ดูเหมือนปราสาทมากกว่ามหาวิทยาลัยเสียอีก นักศึกษาที่นี่กระตือรือร้นกันมาก พวกเขาจะมีปาร์ตี้กันทุกคืน อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลา พวกเขาจะใช้ความพยายามสองร้อยเปอร์เซ็นต์ในการเรียน
นี่เป็นสิ่งที่เขาสังเกตได้
ขณะที่ลู่โจวเดินไปตามสวนสาธารณะ จู่ๆ เขาก็ได้พบกับคนรู้จัก
ชายคนนั้นเดินมาหาลู่โจว
“เกิดอะไรขึ้นกับเธอ? ฉันกำลังไปหาเธออยู่เลย”
“มีอะไรเหรอครับ?”
“ไม่มีอะไร” หลัวเหวินเซวียนกล่าว เขามองลู่โจวด้วยสายตาแปลกๆแล้วถาม “เธอกำลังติดปัญหาคณิตอยู่งั้นเหรอ…”
“ใช่ครับ” ลู่โจวกล่าวแล้วยอมรับ “ผมติดปัญหาคณิตอยู่”
หลัวเหวินเซวียนถอนหายใจแล้วถาม “ปัญหาอะไร?”
“มันเกี่ยวกับจำนวนเฉพาะคู่ที่เป็นอนันต์”
หลัวเหวินเซวียนส่ายหน้าแล้วกล่าว “ขอโทษ ฉันช่วยอะไรเธอไม่ได้ มันไม่ใช่สาขาวิจัยของฉัน”
ลู่โจวถามลวกๆ “งานวิจัยของคุณไปถึงไหนแล้วครับ?”
หลัวเหวินเซวียนถอนหายใจ “พระเจ้าทอยลูกเต๋าหกด้านให้ได้ผลรวมเป็นเจ็ด นี่เป็นทั้งปัญหาคณิตศาสตร์และปัญหากลศาสตร์ควอนตัม นี่เป็นความยากลำบากที่สถาบันวิจัยของเรากำลังเผชิญอยู่”
ลู่โจวกล่าวอย่างเห็นใจ “นั่นมันค่อนข้างลำบากเลย…”
“ใช่ มันนรกเลยแหละ” หลัวเหวินเซวียนถอนหายใจ จากนั้นเขาก็กล่าวเสริม “เมื่อวานฉันได้คุยกับศาสตราจารย์หวังอี้ผิงเป็นเวลานานเกี่ยวกับการแก้ปัญหาฟิสิกส์นี้จากมุมมองคณิตศาสตร์ แต่ก็คิดอะไรไม่ออกเลย”
“ผลเจ็ดจากลูกเต๋าหกด้าน…” ลู่โจวกล่าว ขณะที่เขาพูดประโยคนี้ซ้ำ เขาก็เข้าสู่โหมดภวังค์
ไม่นานทั้งสองก็เดินกลับมาที่จัตุรัสพาลเมอร์โดยไม่รู้ตัว
ตอนกลางคืนของที่นี่จะมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ ผู้คนกำลังไปบาร์ราวกับพวกเขากำลังฉลองชัยชนะ…
เมื่อหลัวเหวินเซวียนเห็นว่าลู่โจวไม่ได้พูดอะไร เขาก็ถาม “มีอะไรงั้นเหรอ?”
“ไม่มีอะไรครับ…” ลู่โจวกล่าว ทันใดนั้นเขาก็หยุดเดินแล้วเงยหน้ามองฟ้า ม่านตาเขาขยายใหญ่ขึ้น เขากล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ “นั่นเป็นพิราบขาวรึเปล่า?”
หลัวเหวินเซวียนมองเขาแล้วกล่าว “ห๊ะ?”
“พิราบตรงนั้น!”
“ไหน?”
หลัวเหวินเซวียนพยายามหาพิราบบนท้องฟ้า
เขาไม่เจออะไรเลย และเมื่อเขาหันหน้ากลับมา ลู่โจวก็หายไปแล้ว…
……………………………………