ลู่โจวยืนอยู่ในมิติสีขาวล้วน เขาเดินไปอยู่หน้าแผงโฮโลแกรมโปร่งแสงแล้วเห็นคำพูดของระบบ
[ยินดีด้วย โฮสต์ ภารกิจด่วน ‘เสียงเพรียกจากเดอะวอยด์’ สำเร็จแล้ว]
[สถานะภารกิจ: หนทางสู่ความจริงไม่ได้ราบรื่นเสมอไป ในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ ยังมีสิ่งลึกลับและไร้ขอบเขตอีกมากมายที่เราไม่อาจเข้าใจได้ มีเพียงผู้ที่ยังยืนหยัดฝ่าฟันเท่านั้น จึงจะสามารถผ่านบททดสอบไปสู่ดินแดนยูโทเปียในตำนานได้…]
[ประเมินความยากของภารกิจ: S+]
[รางวัล: ค่าประสบการณ์ฟิสิกส์หนึ่งล้านแต้ม เหรียญนักสำรวจแห่งวอยด์ ของขวัญจากวอยด์ (โบนัสการประเมินระดับ S) วัตถุนิยม+10]
ค่าประสบการณ์หนึ่งล้านแต้มนับว่าเยอะพอสมควร
ลู่โจวเห็นประกายแสงสีทองซีดร่วงลงมาจากแผงภารกิจลงไปที่แถบค่าประสบการณ์ในแถบลักษณะเฉพาะของเขา เขาเผยรอยยิ้มอันอบอุ่น
มันผ่านมานานแค่ไหนแล้วนะ?
เขาเกือบจะลืมความสุขแบบนี้ไปแล้ว
ภารกิจนี้ให้ผลตอบแทนมากจริงๆ ระดับฟิสิกส์ของเขาติดอยู่ที่เลเวล 8 มานานแล้ว นี่เป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่มากที่สามารถไปยังเลเวล 9 ได้สำเร็จ
สิ่งที่ทำให้ลู่โจวสงสัยก็คือเหรียญนักสำรวจแห่งวอยด์มันคืออะไรล่ะ
“ครั้งที่แล้วก็เป็นเหรียญผู้กอบกู้อารยธรรม…เก็บของพวกนี้ไปแล้วจะได้ประโยชน์อะไรไหมนะ?? “
ถ้าฉันเก็บเหรียญพวกนี้มามากพอ พวกอารยธรรมวอยด์จะให้วีซ่า หรือสัญชาติเป็นรางวัล หรืออะไรอย่างอื่นหรือเปล่า?
ในมือขวาของลู่โจวถือเหรียญทองแดงส่องแสงแวววาวไว้ เขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในฝ่ามือของตัวเอง
เมื่อเปรียบเทียบกับเหรียญผู้กอบกู้อารยธรรมแล้ว เหรียญ ‘นักสำรวจแห่งวอยด์’ มีน้ำหนักที่เบามาก ที่ตัวเหรียญมีปุ่มขนาดเท่าธัมบ์เนลที่สามารถใช้ติดเหรียญกับเสื้อได้ เหรียญส่วนที่เหลือเป็นเพียงภาพฉายเท่านั้น มันใช้เทคโนโลยีโฮโลแกรมบางอย่างเป็นภาพมายาที่ช่างสวยงามเหมือนกับตัวเดอะวอยด์เอง
แต่เทคโนโลยีโฮโลแกรมที่ใช้ในเหรียญนี้เป็นแบบที่พัฒนามากกว่าโฮโลแกรมที่มีบนโลกเสียอีก มันไม่ต้องใช้โมเลกุลน้ำในอากาศเป็นสื่อกลางและไม่ต้องใช้ปรากฏการณ์ทินดอลล์เลย เหมือนกับว่าเหรียญนี้ฉายภาพมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้โดยตรง ลู่โจวไม่รู้เลยว่าเทคโนโลยีประเภทนี้เป็นเทคโนโลยีประเภทใด
ลู่โจวมองเหรียญรางวัลในมือที่กำลังเปลี่ยนรูปทรงตัวเอง เขาเอามันไปใส่ไว้ในช่องเก็บของ ข้างๆ กับเหรียญผู้กอบกู้อารยธรรม
บางทีในอนาคตข้างหน้า หลังจากที่เขาสามารถตามหาความจริงของพวกเดอะวอยด์ได้สำเร็จ เขาอาจจะโชคดีพอที่จะได้รู้ความจริงเบื้องหลังเหรียญพวกนี้ก็ได้ แต่ในตอนนี้เขาจะเก็บมันไว้ในช่องเก็บของเฉยๆ ก่อนก็แล้วกัน
นอกจากเหรียญแล้ว ระบบยังให้รางวัลพิเศษจากความยากระดับ S+ อีกด้วย
ลู่โจวรู้สึกว่าเขาไม่ได้ทำภารกิจที่ประเมินผลว่าเป็นระดับ S มานานแล้ว
เขามองข้อความบนแผงโฮโลแกรม มันเขียนว่า [คุณต้องการเปิดของขวัญจากเดอะวอยด์หรือไม่?] เขากระแอมในลำคอแล้วจึงออกคำสั่ง “เปิด!”
ลำแสงสีม่วงแผ่ออกมาจากแผงโฮโลแกรม มันพุ่งมาหาลู่โจวในระยะครึ่งนิ้ว
ลู่โจวมองลำแสงสีม่วงที่ลอยอยู่ตรงหน้า เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายเขาก็เอื้อมมือขวาออกไปแตะตรงกลางลำแสงนั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดคิดไว้เลย
สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้วอยด์เมมโมรี่ทำงาน แต่กลับมีกระแสลมอันอบอุ่นครอบนิ้วเขาไว้แทน
ลู่โจวชะงักไปนิดหนึ่ง ใบหน้าของเขามีแววฉงน
“นี่เป็นมิติในมิติอีกทีเหรอ? หรือว่าจะเป็น…เศษชิ้นส่วนมิติระดับสูงอะไรทำนองนั้นกันแน่? “
“น่าทึ่งมาก…”
มือทั้งมือของเขาไม่ได้ทะลุลำแสงนั้นเลย แต่มันกลับถูกลำแสงกลืนกินเข้าไป มือของเขาเข้าไปอยู่ในมิติที่แตกต่างจากเดิม มันนุ่มและเหนอะๆ เป็นมิติที่ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด และมันใหญ่มากกว่าระดับของอนุภาคแสงที่มันส่องประกายอยู่ในตอนนี้เสียอีก
ลู่โจวขยับแขนเข้าไปทั้งแขน เขาสงสัยว่าเดอะวอยด์ต้องการจะให้ของขวัญอะไรเขา ทันใดนั้นเอง มือขวาของเขาก็จับเข้ากับอะไรแข็งๆ ได้
เขาคว้าสิ่งนั้นมาและดึงมันออกมาจากลำแสงสีม่วง
หลังจากที่เขาดึงมันออกมาได้แล้ว ลำแสงสีม่วงก็หดอย่างรวดเร็วและหายไปในอากาศ
ลู่โจวสัมผัสได้ถึงวัตถุที่ทั้งแข็งและเย็นเฉียบในมือ
“มันคืออะไร…”
เขามองท่อโลหะขนาดเท่าปากกาในมือด้วยความสงสัย
ข้างหนึ่งของท่อโลหะมีกระจกใสที่มีเครื่องหมายประทับไว้ เขามองเห็นของเหลวสีเขียวเข้มจำนวนหนึ่งในท่อโลหะผ่านแท่งกระจกใส
เขาเขย่าท่อโลหะเบาๆ และมองของเหลวหนืดๆ ในนั้นกระเพื่อมไปมาช้าๆ เขาเริ่มสงสัยมากขึ้นทุกทีๆ
“พวกอาหารเสริมเหรอ? ไม่ ไม่น่าเป็นอะไรไร้ประโยชน์แบบนั้นหรอก”
ลางสังหรณ์กำลังบอกเขาว่า มันเป็นชีวมวลหรือสารเคมีพิเศษสักประเภทที่จะให้ประโยชน์สักอย่างกับสิ่งมีชีวิต
และก็แน่นอน ว่ามันอาจจะเป็นบางสิ่งที่อันตรายได้เหมือนกัน
ถึงแม้ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ผู้สังเกตการณ์จะใจดีกับเขาทุกครั้งก็ตาม แต่ป้องกันไว้ก่อนก็ไม่เสียหายอะไร
“เดี๋ยวเอากลับไปตรวจที่แล็บก่อนดีกว่า”
ลู่โจวออกจากมิติระบบแล้วลงจากเตียง จากนั้นเขาโทรหาหวังเผิง
“มารับผมที่ข้างล่างหน่อย”
“รับทราบครับ”
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็ได้ยินเสียงรถยนต์ดังมาจากนอกประตูรั้ว และเห็นแสงไฟรถส่องผ่านต้นไม้เข้ามา
ลู่โจวบอกให้เสี่ยวไอเฝ้าบ้านไว้ จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกจากบ้าน
รถอิเล็กทริคเพอร์เพิลจอดอยู่นอกประตูรั้ว
หวังเผิงเปิดประตูให้ลู่โจว หลังจากที่ลู่โจวขึ้นมาบนรถได้แล้ว เขาก็ถามอีกฝ่ายว่า “ตอนนี้ก็ดึกแล้ว พวกเรายังจะไปสถาบันวิจัยอีกเหรอครับ?”
“ใช่” ลู่โจวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วเชื่อมต่อเข้ากับฐานข้อมูลของสถาบันการศึกษาขั้นสูง เขาเช็กตารางการใช้งานของแล็บชีววิทยาหลายห้องแล้วตอบคำถามหวังเผิงอย่างสบายๆ ว่า “มีเรื่องที่ผมต้องหาคำตอบให้ได้ตอนนี้เลย”
ต้องหาคำตอบให้ได้ตอนนี้เลยเหรอ?
ถึงจะรู้สึกสงสัยว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่ แต่หวังเผิงก็รู้ดีว่าเขาก็ไม่เข้าใจเรื่องที่ลู่โจวอธิบายมาอยู่ดี เขาจึงพุ่งความสนใจไปที่การขับรถไปยังลานจอดรถของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง
เขาดับเครื่องแล้วมองไปทางลู่โจว
“จะให้ผมรอไหมครับ?”
ลู่โจวปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วตอบว่า “ไม่ต้องหรอก กลับไปได้เลย”
หวังเผิงถามย้ำ “แน่ใจนะครับ? ผมรอได้ ไม่มีปัญหาอะไรหรอก”
“ผมแน่ใจ” ลู่โจวพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในสถาบัน “ผมว่าผมอาจจะได้อยู่ที่นี่ทั้งคืนนั่นแหละ”
……………………