ลู่โจวปิดแผงหน้าต่างคุณสมบัติแล้วเริ่มเสี่ยงโชคอย่างรวดเร็ว
ครั้งนี้ลู่โจวไม่อยากพูดอะไร
เขาพบว่าระบบไม่ได้สนใจกลวิธีเพิ่มดวงของเขาเลย
ฉันจะแค่ใจเย็นพอ
ฉันอาจไม่ได้รับพิมพ์เขียวหรือปลดล็อกสาขาเทคโนโลยี
ฉันยังไม่ได้ดื่มสไปรท์เลย แต่ครั้งนี้ฉันก็อาจจะได้แฟนต้าก็ได้
ลู่โจวเริ่มเสี่ยงโชคอย่างเงียบๆ
วงล้อรางวัลหมุนอย่างรวดเร็ว
“หยุด!”
วงล้อค่อยๆ ช้าลงแล้วก็หยุดลงในที่สุด
[ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านได้รับตัวอย่าง!]
ลู่โจว “?”
เชี่ย
น่าประหลาดใจมาก!
ฉันไม่ได้ขยะงั้นเหรอ?
เดี๋ยวนะ…มาดูก่อนว่ามันคืออะไร!
ลู่โจวจ้องมองหน้าจอข้อมูลกึ่งโปร่งใสอย่างเป็นกังวล
[ได้รับตัวอย่าง : แคปซูลสมาธิ (30)]
เมื่อลู่โจวเห็นข้อความ เขาก็โล่งอก เขารู้สึกเหมือนน้ำหนักที่ถ่วงอยู่ในอกถูกยกออกไป
แคปซูลสมาธินั้นดีกว่าโค้กหรือสไปรท์มากนัก
แถมบังเอิญเลย เทอมหน้าเขาวางแผนจะเรียนฟิสิกส์เป็นวิชารองอยู่พอดี
แต่ด้วยวิธีนี้ฉันคงต้องอ่านหนังสือโต้รุ่งอีกแล้ว…
ลู่โจวปิดหน้ารางวัลแล้วมองดูแผงภารกิจ เขากำลังจะกดเข้าไปดู แต่เขาก็ลังเลในวินาทีสุดท้าย
รอก่อนละกัน ฉันใกล้กลับจีนแล้ว ถ้าเกิดมันเป็นภารกิจที่เกี่ยวข้องกับพรินซ์ตันล่ะ?
โดยปกติแล้ว ภารกิจจากระบบต้องใช้เวลานานกว่าจะสำเร็จ
ลู่โจวลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจว่าจะเลือกภารกิจหลังจากกลับไปถึงจีนแล้ว
เพราะยังไงแล้วเขาก็ควรต้องพักสักหน่อย
ด้วยเหตุนี้เขาจึงออกจากมิติของระบบ
ลู่โจวหยิบโน๊ตบุ๊คออกมาจากกระเป๋าเดินทางแล้ววางมันไว้บนโต๊ะก่อนจะเริ่มแก้ไขวิทยานิพนธ์
ทฤษฎีจำนวนเป็นสาขาที่น่าสนใจ มันเป็นเหมือนกระดาษหลายชั้น มันมองผ่านยาก แต่ก็ทำลายง่าย
ลู่โจวได้ทำลายกระดาษไปแล้ว
ตอนนี้ไพ่อยู่ในมือเขาแล้ว
นิ้วเขาสั่นเล็กน้อยเมื่อหน้าจอกะพริบด้วยสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ มันเหมือนกับว่าเขากลับไปยังช่วงเวลาที่เขาพรีเซนต์…เหมือนเขากลับไปอยู่ตรงหน้าไวท์บอร์ดอีกครั้ง
เขาไม่เคยลืมช่วงเวลานั้นเลย
ลู่โจวสูดหายใจลึกๆแล้วเลิกพิมพ์ เขาลุกขึ้นยืนแล้วไปชงกาแฟมาหนึ่งแก้วก่อนจะเดินไปทางหน้าต่างแล้วมองออกไปนอกห้องเงียบๆ
ตอนกลางคืนจัตุรัสพาลเมอร์เต็มไปด้วยแสงไฟและความมีชีวิตชีวา มันแตกต่างจากพรินซ์ตันอันเงียบสงบอย่างชัดเจน
สายลมเย็นๆ พัดผ่านหน้าต่างไปและก็ทำให้สมองที่ทำงานหนักของเขาสงบลง
มันรู้สึกสบายมาก
ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของเขาก็เริ่มสั่น
เมื่อลู่โจวหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วมองดูบนหน้าจอ เขาก็เห็นว่ามันเป็นศาสตราจารย์ถังที่โทรมา
ลู่โจวรับสาย เขาไม่ได้มีโอกาสได้พูดด้วยซ้ำ เสียงศาสตราจารย์ถังก็ลอยมาแล้ว
“เธอแกข้อคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่งั้นเหรอ?”
ลู่โจวขยับโทรศัพท์ให้ออกห่างจากหู “ครับ”
ข่าวไปถึงจีนแล้ว?
เขายังไม่ได้ตีพิมพ์วิทยานิพนธ์เลย
ศาสตราจารย์ถังถาม “ตอนนี้เธออยู่ไหน?”
“ผมจะอยู่ที่ไหนอีก? ผมอยูที่โรงแรมที่งานประชุมจัดหาไว้ให้…ทำไมเหรอครับ?”
ศาสตราจารย์ถังถามทันที “เธอจะกลับมาไหม?”
ลู่โจวถามด้วยความสับสน “ผมกลับสิ ทำไมผมจะไม่กลับล่ะ?”
ศาสตราจารย์ถังกระแอมอย่างกระอักกระอ่วน “โอ้ อาจารย์หมายถึง เธอจะกลับมาตอนไหน?”
ลู่โจวคิด “น่าจะอีกสองวัน ผมกำลังจัดเรียงกระบวนการพิสูจน์ ศาสตราจารย์เดอลีงย์บอกให้ผมมอบสำเนาวิทยานิพนธ์ให้ เขาบอกว่าผมสามารถตีพิมพ์ลงในวารสารคณิตศาสตร์ประจำปี”
ปลายสายเงีบบ
ศาสตราจารย์ถังกล่าวลวกๆ “ไม่เลว อาจารย์จำได้ว่าตอนที่อาจารย์ตีพิมพ์วิทยานิพนธ์ในคณิตศาสตร์ประจำปี อาจารย์ก็สามสิบกลางๆ แล้ว”
ลู่โจวยิ้มแล้วตอบอย่างถ่อมตน “ทั้งหมดต้องขอบคุณคำชี้แนะของศาสตราจารย์!”
ได้ตีพิมพ์วิทยานิพนธ์ลงในคณิตศาสตร์ประจำปีได้ตอนอายุสามสิบกลางๆ ก็น่าประทับใจแล้ว ไม่ต้องพูดถึงศาสตราจารย์ถังได้ตีพิมพ์ในยุคที่เทคโนโลยีไม่ค่อยเข้าถึง
“อาจารย์ไม่ได้ชี้แนะอะไรมากเลย”
“ไม่ครับ ไม่ๆ อาจารย์เป็นคนพาผมเข้าสู่ประตูแห่งคณิตวิเคราะห์ การบรรยายเกี่ยวกับคณิตวิเคราะห์ของอาจารย์ช่วยผม…”
ศาสตราจารย์ถังขัดจังหวะลู่โจว “เอาล่ะ พอได้แล้ว บอกแผนของเธอมา”
ลู่โจวตอบ “แผน?”
“ใช่” ศาสตราจารย์ถังกล่าว เขาหยุดไปชั่วครู่ “เพื่อนเก่าอาจารย์พึ่งโทรมา เขาอยากแนะนำให้เธอเข้าร่วมโครงการหมื่นอัจฉริยะโดยกระทรวงของจีน”
ลู่โจวไม่รู้ว่าโครงการหมื่นอัจฉริยะคืออะไร
เขายังรู้สึกสนใจใคร่รู้เช่นกัน…
ลู่โจวพลันโพล่งออกมา “ได้เงินไหม?”
ศาสตราจารย์ถังถึงกับโกรธ
“เธอคิดแต่เรื่องเงิน!”
ศาสตราจารย์ถังเริ่มอธิบายเรื่องโครงการหมื่นอัจฉริยะให้เขาฟัง
โครงการหมื่นอัจฉริยะถูกจัดตั้งขึ้นในปี 2008 โดยรัฐบาลกลางของจีนเพื่อเพิ่มระดับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ นวัตกรรมและผู้ประกอบการของประเทศ
โครงการมีอยู่สามระดับ อัจฉริยะที่โดดเด่น อัจฉริยะชั้นนำและอัจฉริยะหนุ่มสาว เป้าหมายคือการคัดเลือกอัจฉริยะที่โดดเด่นหมื่นคนใน STEM ภายในสิบปี
ระดับแรกประกอบด้วยอัจฉริยะที่โดดเด่นหนึ่งร้อยคน และเหล่าคนที่มีโอกาสได้รับรางวัลโนเบล ระดับสองมีอัจฉริยะทั้งหมดแปดพันคน และส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นอาวุโส ส่วนระดับสามมีสองพันคน และส่วนใหญ่จะต่ำกว่าสามสิบห้า
นี่คล้ายกับ’โครงการร้อยอัจฉริยะ’จากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน และ’โครงการพันอัจฉริยะ’ที่ถูกริเริ่มโดยกระทรวงศึกษาธิการของจีน อย่างไรก็ตามทั้งสองนั้นส่วนใหญ่จะเป็นโครงการแนะนำอัจฉริยะที่เกิดต่างประเทศและคนที่ไม่ใช่คนจีนในประเทศ
โครงการหมื่นอัจฉริยะนั้นได้รับการสนับสนุนทางการเงินเพื่อโปรเจกต์วิจัยมากมาย
เงินทุนนี้่รับประกันโดยรัฐบาลจีน
ศาสตราจารย์ถังกล่าว “เงินรางวัลในส่วนของคณิตศาสตร์นั้นไม่มากนัก แต่อาจารย์มั่นใจว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่องานวิจัยในอนาคตของเธออย่างยาก”
ลู่โจวยิ้ม “ผมจะเข้าร่วมยังไง? ผมต้องเตรียมวัสดุอะไรไหม?”
ศาสตราจารย์ถังยิ้ม “วัสดุไม่ใช่ส่วนสำคัญ เดี๋ยวอาจารย์จะบอกเองว่าให้เธอเตรียมอะไร ปัญหาคือเธอยังเด็กเกินไป แต่อาจารย์มีเพื่อนที่เขียนจดหมายแนะนำให้เธอได้ ดังนั้นมันไม่น่ามีปัญหา”
ลู่โจวกล่าว “ขอบคุณครับศาสตราจารย์!”
“ไม่ต้องขอบคุณอาจารย์หรอก เป็นศาสตราจารย์หวังอี้ผิงที่บอกเรื่องนี้กับอาจารย์ ดังนั้นเธอควรไปขอบคุณเขา อาจารย์แค่ลงนามเท่านั้นเอง” ศาสตราจารย์ถังกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์เป็นแค่ศาสตราจารย์ อาจารย์ช่วยเธอวิจัยไม่ได้นัก แถมอาจารย์ยังสอนเธอไม่ได้มาก ดังนั้นเธอต้องพึ่งพาตนเอง”
ลู่โจวตอบ “ศาสตราจารย์จะเป็นอาจารย์ของผมตลอดชีวิต”
“ฮ่าๆ ฟังดูไม่เลว” ศาสตราจารย์ถังกล่าว “เอาล่ะ อาจารย์พูดกับเธอต่อไม่ได้แล้ว ไปแก้ไขวิทยานิพนธ์เถอะ อาจารย์มั่นใจว่าอนาคตเธอจะครอบครองสาขาคณิตศาสตร์ในต่างประเทศ!”
……………………………………