ขณะที่ลู่โจวกำลังเขียนวิทยานิพนธ์ เขาไม่รู้เลยว่าคลิปวิดีโอที่เขากำลังเขียนบนไวท์บอร์ดกำลังเป็นกระแสในทวิตเตอร์ในหมู่นักศึกษาไอวีลีก
อย่างไรก็ตามมันเป็นกระแสท่ามกลางเด็กเนิร์ดมัธยมปลายด้วย
การบูชาความรู้’ไม่ได้มีอยู่ในวัฒนธรรมอเมริกา ทัศนคติของคนส่วนใหญ่ที่มีต่อความรู้นั้นแตกต่างกัน
ถ้ามีคนบอกว่า’ฉันไม่อยากปาร์ตี้ เพราะฉันต้องทำการบ้าน คนๆ นั้นก็จะถูกติดป้ายเด็กเนิร์ด
เด็กเนิร์ดอยู่ด้านล่างสุดของห่วงโซ่อาหารในมหาลัย พวกเขามักจะถูกข่มเหงโดยนักศึกษาที่เล่นกีฬา แม้แต่อาจารย์ก็ไม่ชอบนักศึกษาที่ไม่เข้าร่วมกิจกรรมนอกหลักสูตร
เพราะเหตุนี้พวกเขาจึงได้รับผลกระทบจากลู่โจว
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงปากกาแท่งเดียว
แม้ว่าจะไม่มีการแสดงที่งดงาม
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำประตู
แต่ลู่โจวก็ยังได้รับเกียรติจากสนามรบ
บรรทัดสุดท้ายที่เขาเขียนบนไวท์บอร์ด…
และ…
เสียงปรบมือสนั่นหวั่นไหวจากผู้ชม
มีเพียงคนที่เหมือนๆ กันเท่านั้นที่จะชื่นชมกันเอง เพราะพวกเขาเข้าใจความรู้สึกของกันและกัน
บนยูทูป ช่องคอมเมนต์
[คุณพระ! ฉันรู้สึกเหมือนดูแข่งบาสอยู่เลย!]
[ใช่ มันน่าตื่นเต้นกว่าซูเปอร์โบลว์ซะอีก lol]
[ผมเป็นนักเรียนมอปลาย แต่เพราะสีผิว เพศและการศึกษา ผมจึงถูกบีบออกจากสังคมในโรงเรียน ผมอยากเป็นเหมือนพวกเขา ผมอยากดื่มเหล้า ผมอยากสัก แต่ผมทำไม่ได้ ดังนั้นผมจึงอยากขอบคุณที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผม มอบความกล้าหาญในการเรียนให้ผมในตอนที่ผมกำลังจะยอมแพ้]
[ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นคนแก้ปัญหาคณิตศาสตร์บนยูทูป ฉันต้องเสียสติไปแล้วแน่เลย]
[ฉันอดปรบมือตามไม่ได้เลย]
[โปรดเพิ่มดนตรีประกอบคลิปวิดีโอนี้ด้วย]
แน่นอน นี่เป็นส่วนคอมเมนต์ ดังนั้นมันย่อมมีการด่าการเหยียดเป็นเรื่องธรรมดา
[เจ้าหมอนี่ไม่ได้มาจากประเทศที่บล็อกกูเกิ้ลเหรอ?]
[ทำไมทุกคนถึงปรบมือ? มันเป็นคนเอเชีย เห็นได้ชัดว่ามันเก่งคณิต]
ในอเมริกา พวกชอบเหยียดมักจะพูดกันว่าชาวเอเชียเก่งคณิตศาสตร์
แน่นอนมันย่อมมีการสวนกลับ
[แกทำได้อย่างเขาไหม?!]
[ใช่ ไอหน้าโง่!]
[แกอิจฉาเขาล่ะสิ!]
[เช็ดแม่ง!]
[…]
แถบคอมเมนต์กำลังเดือดพล่าน ซึ่งในทางกลับกันมันก็ทำให้คลิปวิดีโอเดือดไปด้วย อย่างไรก็ตามคุณภาพวิดีโอต่ำเกินไปจนไม่เห็นสิ่งที่เขียนบนไวท์บอร์ด ดังนั้นผู้คนจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ไม่มีใครรู้ว่าคนที่คลิปวิดีโอคือใคร
ในทางกลับกันลู่โจวกำลังเขียนวิทยานิพนธ์อยู่ในโรงแรม ดังนั้นเขาจึงไม่รู้เลยว่าเขากำลังเป็นกระแสบนยูทูป
วันต่อมา เมื่อลู่โจวจัดรูปแบบวิทยานิพนธ์เสร็จ เขาก็แนบมันลงในเมลแล้วส่งให้ศาสตราจารย์เดอลีงย์
เนื่องจากตัวศาสตราจารย์เดอลีงย์ก็เป็นบรรณาธิการของคณิตศาสตร์ประจำปี กระบวนการตรวจสอบจึงเร็วยิ่งกว่าผ่านช่องทางทางการ
ลู่โจวพลันสังเกตเห็นเมลที่ไม่ได้อ่านสี่เมลอยู่ในกล่องขาเข้า
มันเป็นเมลที่มาจากโมลิน่าทั้งหมด
[ฉันเดาว่าคุณคงไม่ไปปาร์ตี้…คุณอยากไปดื่มไหม?]
[ก็ได้ คุณอาจกำลังเขียนวิทยานิพนธ์อยู่ เมื่ออ่านเมลนี้ คุณก็ตอบฉันด้วยแล้วกัน]
[เฮ้ คุณยังหลับอยู่เหรอ? คุณรู้ไหมว่าการพรีเซนต์ของคุณถูกอัพโหลดขึ้นยูทูป! มันเป็นกระแส! รีบสมัครทวิตเตอร์เร็ว]
[…ก็ได้ๆ ฉันดาวน์โหลดวีแชทแล้ว อ่านเมลแล้วเอาหมายเลขวีแชทให้ฉันด้วย]
เชี่ย!
ลู่โจวไม่ได้มีนิสัยเข้าเช็คเมลบ่อยๆ
เขาตอบเมลก่อนจะปิดโน๊ตบุ๊ค จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนแล้ววางแผนจะไปหาอะไรกินที่จัตุรัสพาลเมอร์
ช่วงไม่กี่วันมานี้เขาอาศัยอยู่กับแซนวิชจากทางโรงแรม ช่วงแรกเบค่อนกับเนยที่ใส่ในแซนวิชก็รสชาติไม่เลวอยู่หรอก แต่ลู่โจวก็รู้สึกเบื่ออย่างรวดเร็ว
งานประชุมทางวิชาการจบลงแล้ว และเจ้าหน้าที่จากสมาคมคณิตศาสตร์สหรัฐก็ได้จากไปแล้ว กลับกันมีนักท่องเที่ยวมากมายมาที่โรงแรมแทน
ลู่โจวบังเอิญพบกับหลัวเหวินเซวียนที่ทางเข้าโรงแรม
เมื่อหลัวเหวินเซวียนเห็นลู่โจว เขาก็เบิกบานใจ เขารีบเดินมาหาแล้วยื่นมือออกมา
“ขอแสดงความยินดีด้วย” หลัวเหวินเซวียนกล่าวขณะจับมือลู่โจวอย่างขะมักเขม้น เขากล่าวเสริม “ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทำไมเฒ่าถังถึงประเมินเธอไว้สูง เธอเป็นอัจฉริยะ!”
ลู่โจวกระแอม “อย่าพูดเกินจริงเลย ผมแค่พิสูจน์ข้อคาดการณ์เดียวเอง…”
หลัวเหวินเซวียนตอบ “เลิกทำตัวสุภาพแบบนั้นเถอะ ฉันรู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์มาก!”
เห็นได้ชัดว่าเขาพูดเกินจริง เขากำลังเรียนปริญญาเอกที่พรินซ์ตัน ดังนั้นเขาก็เป็นอัจฉริยะเช่นกัน
ลู่โจวยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “จะว่าไป คุณไปไหนมา? ผมไม่เห็นคุณในพิธีปิด”
หลัวเหวินเซวียนถอนหายใจ “เราวิจัยมาถึงคอขวดแล้ว เนื่องจากหัวหน้าของฉันไปงานประชุมที่เบิร์กลีย์ ฉันจึงไปดูการแข่งขันฟุตบอลที่นิวยอร์กเป็นการพักใจ”
ลู่โจวไม่ค่อยเข้าใจกลศาสตร์ควอนตัมนัก
ดังนั้นเขาจึงช่วยอะไรไม่ได้
อย่างไรก็ตาม…
ลู่โจวพลันนึกถึงอะไรบางอย่าง เขากล่าว “เอ้อ”
หลัวเหวินเซวียนตอบ “หืม?”
ลู่โจว “ผมจำที่คุณพูดได้ว่า ลูกเต๋าหกด้านของพระเจ้าได้ผลลัพธ์เป็นเจ็ดได้ยังไง คุณคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ลูกเต๋าออกสองด้านไหม?”
“ลูกเต๋าออกสองด้าน? เธอหมายถึง…”
จู่ๆ หลัวเหวินเซวียนก็ขมวดคิ้วแล้วตกอยู่ในห้วงความคิด
ลู่โจวไม่อยากรบกวนเขา ดังนั้นเขาจึงเดินไปเงียบๆ
แรงบันดาลใจเป็นสิ่งที่อธิบายเป็นรายละเอียดได้ยาก
ถ้าเราคว้าไว้ไม่ทัน มันก็จะหายไป
นี่เป็นของขวัญสุดท้ายที่ลู่โจวมอบให้หลัวเหวินเซวียน
เพราะอีกสองวันเขาจะกลับประเทศจีนแล้ว
…………………………………..