ลู่โจวทานมื้อเย็นที่จัตุรัสพาลเมอร์ พอถึงเวลาที่เขากลับมาโรงแรม หลัวเหวินเซวียนก็ไปแล้ว
ลู่โจวอวยพรให้เขาเงียบๆอยู่ในใจแล้วขึ้นลิฟต์กลับโรงแรม
พอเขาเปิดอีเมล เขาก็เห็นว่าศาสตราจารย์เดอลีงย์ตอบกลับมาแล้ว อีเมลเขามีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น
[ได้รับแล้ว]
คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่เข้มงวด และทุกคนที่อยู่ในตึกคณิตก็ต้องผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวด ผลลัพธ์จากวิทยานิพนธ์ผิดๆไม่ได้เรียบง่ายอย่างการถูกถอดออกจากวารสาร มันอาจส่งผลให้เกิดวิทยานิพนธ์ผิดๆเกิดขึ้นมาอีกมากมาย
โดยเฉพาะกระบวนการตรวจสอบข้อคาดการณ์ที่สำคัญๆมักจะใช้เวลานานมาก
แม้ว่าลู่โจวจะนำเสนอข้อพิสูจน์สดๆต่อหน้านักคณิตศาสตร์ทุกคน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าวิทยานิพนธ์ของเขาจะไร้ที่ติ
แม้แต่ศาสตราจารย์เดอลีงย์ก็จำเป็นต้องใช้เวลาในการพิจารณารายละเอียดของวิทยานิพนธ์และขอความเห็นจากเพื่อนร่วมงาน
อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่ได้กังวลเลย เขาเป็นคนรอบคอบ แถมเขายังตรวจสอบวิทยานิพนธ์หลายครั้งก่อนจะส่งไป
จะว่าไป ทำไมคณบดีฉินหรือคณบดีหลู่ยังไม่โทรหาเขาล่ะ?
ดูเหมือนศาสตราจารย์ถังจะไม่ได้แพร่กระจายเรื่องนี้อย่างผลีผลาม และวงการคณิตศาสตร์ต่างประเทศก็ไม่จริงจังกับเรื่องนี้เพียงเพราะคลิปวิดีโอจากยูทูป ท้ายที่สุดแล้วเสียงปรบมือในคลิปวิดีโอก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย
จริงๆ แล้วลู่โจวก็รู้สึกเสียใจอยู่บ้าง
คุณค่าทางวิชาการของข้อคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่แฝดสูงกว่าข้อคาดการณ์ของโจว ดังนั้นเขาก็ควรได้รับรางวัลอย่างน้อยก็อีกล้านหยวนใช่ไหม?
ลู่โจวเริ่มกดคีย์บอร์ด
[เสี่ยวไอ มาขอให้เจ้านายของแกได้รับเงินอีกล้านเถอะ จากนั้นฉันอาจซื้อบ้านใหม่ให้แกได้]
เสี่ยวไอ [เจ้านายรักฉันไหม?]
ห๊ะ? มันฉลาดขนาดนี้เชียว?
หรือมันก๊อปมาจากประวัติแชท?
[แน่นอน รักสิ]
ลู่โจวตอบอย่างรวดเร็ว
ได้คุยกับ AI จะมีใครบ้างที่ไม่ชอบ?
มันจะสมบูรณ์แบบมากขึ้นถ้ามันเต้นได้ด้วย!
เสี่ยวไอ [ลิงก์เถาเป่า : IBM server (Xeon 8 core SSD…) ราคา : 2.99 ล้าน]
ลู่โจว “…”
เชี่ย!
ตอนนี้แม้แต่ปัญญาอ่อนประดิษฐ์ก็กลายเป็นนักขุดทองแล้ว?
มีเพียงสิ่งเดียวที่ให้ความอบอุ่นบนโลกอันหนาวเหน็บนี้ก็คือความร้อนของ CPU
ลู่โจวถอนหายใจแล้วพับปิดโน๊ตบุ๊ค จากนั้นเขาก็นั่งบนเตียงแล้วเริ่มเก็บกระเป๋า
ทันใดนั้นเองเขาก็สังเกตเห็นจดหมายจากคุณก็อตเท็นดิ๊กที่แน่นิ่งอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
เขาเกือบลืมจดหมายนี้ไปแล้ว
เขาเปิดซองจดหมายด้วยความสงสัย
จดหมายถูกเขียนด้วยภาษาอังกฤษ
เขาค่อยๆอ่านจดหมาย
[ตอนที่เธออ่านจดหมายนี้ ฉันอาจลาโลกไปแล้ว
งานวิจัยของเธอที่เกี่ยวกับกฎการกระจายตัวของจำนวนเฉพาะของแมร์แซนทำให้ทุกคนตกใจ กระบวนการพิสูจน์นั้นสมบูรณ์แบบ ฉันหาข้อผิดพลาดไม่ได้เลย
พูดตามสัตย์ มันไม่เหมือนวิทยานิพนธ์ที่ถูกเขียนขึ้นโดยคนหนุ่ม
ในเรื่องของการพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของรีมัน ฉันมองในแง่ร้ายมาก พวกเราได้ใช้เวลากว่าสามศตวรรษครึ่งพยายามพิสูจน์ทฤษฎีของแฟร์มา และข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคก็อยู่รอดมากว่าสองศตวรรษครึ่งแล้ว ในทางตรงกันข้ามข้อคาดการณ์ของรีมันมีมาประมาณหนึ่งศตวรรษครึ่งเท่านั้น และมันก็มีความสำคัญเหนือกว่าทั้งสอง แม้ว่าสาธารณชนจะให้ความสนใจกับสองอันแรกมากกว่าก็ตาม
จากมุมมองของฉัน เราแค่วางแนวทางให้กับคนรุ่นต่อไปเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ปัญหาเหล่านี้จะค่อยๆถูกแก้ไขและถูกแทนที่ด้วยปัญหาใหม่…
อย่างไรก็ตามฉันก็เห็นจุดเปลี่ยนจากตัวเธอ
แน่นอนบางทีฉันอาจมองแง่ดีมากไปก็ได้
เนื่องจากวิทยานิพนธ์ของเธอทำให้ฉันประหลาดใจอย่างยิ่ง ฉันจึงอยากเขียนจดหมายให้ยาวหน่อย
ฉันอยู่คนเดียว ฉันไม่มีเงินมากนัก ดังนั้นฉันจึงมอบให้เธอมากไม่ได้ ฉันจะให้สิ่งที่น่าสนใจแก่เธอแทน
ฉันเอาผลงานของฉันเก็บไว้ในโบสถ์ของเซนต์ลิซิเออร์ บางส่วนก็เป็นผลงานที่ตีพิมพ์ไปแล้วแต่ถอนกลับมา บางส่วนก็เป็นผลงานที่ยังไม่ได้ตีพิมพ์ ฉันหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อเธอ
นำจดหมายนี้ไปให้นักบวชของโบสถ์เซนต์ลิซิเออร์ เขารู้ว่าต้องทำยังไง]
โบสถ์เซนต์ลิซิเออร์อยู่ไหนกัน?
ฉันต้องไปฝรั่งเศสงั้นเหรอ? ไม่นะ
เขายัดใส่ไฟล์ PDF มาไม่ได้เหรอ?
ลู่โจวถอนหายใจแล้วเอาจดหมายใส่กระเป๋าเดินทาง
ตอนนี้ฉันยังไปไม่ได้ บางทีอนาคตอาจได้ไป
ลู่โจวมีโอกาสได้ไปฝรั่งเศสแน่นอน เพราะปารีสเป็นศูนย์กลางของโลกคณิตศาสตร์ ตราบใดที่เขายังอยู่ในสาขาคณิตศาสตร์ เขาก็จะมีโอกาสได้รับเชิญเข้าร่วมงานประชุมที่ปารีส
นอกจากนี้ถ้าวันหนึ่งเขาจำเป็นต้องใช้ ‘สมบัติคณิตศาสตร์’ อันนี้จริงๆ ระบบก็คงเตือนเขาเอง
…
เวลาเดินทางนั้นสั้นเสมอ…
ในเช้าตรู่ของวันต่อมา ลู่โจวก็ลากกระเป๋าเดินทางแล้วเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม
เขายังเหลือเงินที่ได้จากมหาวิทยาลัยมากกว่าพันเหรียญ ไม่เพียงเท่านั้น แต่เขายังได้รับเช็คหมื่นเหรียญมาเพิ่มอีกด้วย จากที่คุณฟรานซิสบอก เช็คนี้ขึ้นเงินได้ที่ซิตี้แบงก์ทั่วโลก
ลู่โจวคิดถึงขั้นตอนที่ยุ่งยากในการขนเงินจำนวนมากผ่านศุลกากร ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจขึ้นเงินหลังกลับไปจีนแทน ส่วนเงินพันเหรียญ เขาตัดสินใจซื้อของขวัญกลับไป
ลู่โจวยืนอยู่หน้าทางเข้าโรงแรมพรินซ์ตันแล้วโทรหาหลัวเหวินเซวียน อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะรอมาสักพักใหญ่ๆแล้ว อีกฝ่ายก็ไม่รับสาย
“หรือเขาจะอยู่ห้องแล็บแล้ว?”
ยุ่งยากแล้วสิ
ลู่โจวลังเลเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจโทรอีกครั้ง แต่ในเวลานั้นเองก็มีคนบีบแตรใส่เขา
“ขึ้นรถมาสิ ฉันจะส่งคุณเอง” โมลิน่ากล่าวขณะลดหน้าต่างลง
เมื่อเห็นเธอ ลู่โจวก็ช็อก
เขาจำไม่เห็นได้เลยว่าเขาบอกเที่ยวบินขากลับเธอด้วย
บังเอิญ?
ลู่โจวถาม “คุณรู้ได้ยังไงว่าผมจะกลับเวลานี้?”
“จิตวิทยา พฤติกรรมสังคม บวกกับความน่าจะเป็นเล็กน้อย” โมลิน่ากล่าวพลางเคี้ยวหมากฝรั่งไปด้วย “ฉันโน้มน้าวให้ศาสตราจารย์ฉันเขียนจดหมายแนะนำให้คุณได้แล้ว คุณมาเรียนต่อปริญญาเอกที่นี่ได้เลย”
เรียนต่อที่พรินซ์ตัน?
ลู่โจวคิดเรื่องนี้มาหลายวันแล้วว่าเขาจำเป็นต้องมาเรียนที่นี่ไหม สภาพแวดล้อมในการวิจัยของที่นี่นั้นแข็งแกร่ง ท้ายที่สุดแล้วมันก็เป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขายังสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆจากมหาวิทยาลัยจินหลิง นอกจากนี้การใช้ชีวิตในจีนยังสะดวกมากกว่า
เขาวางแผนไว้อย่างน้อยก็ต้องจบปริญญาตรีก่อนเขาถึงจะพิจารณาเรื่องเรียนต่อต่างประเทศ
เมื่อโมลิน่าเห็นลู่โจวไม่ตอบ เธอก็ยิ้มแล้วใช้แขนเกาะพวงมาลัยรถ “เอาล่ะ มันเป็นแค่ข้อเสนอ คุณมีแผนของตัวเองใช่ไหม?”
ลู่โจวยิ้ม “ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจ แต่ผมต้องคิดก่อน”
“โอเค ข้อเสนอของฉันใช้ได้ตลอด” โมลิน่ากล่าวพร้อมกับยักไหล่ จากนั้นเธอก็พูดต่อ “ขึ้นรถ คุณคงไม่อยากไปสายหรอกนะ”
……………………………………..