พวกเขาดวลเหล้ากันนานกว่ายี่สิบนาที
ลู่โจวยอมรับเลยว่าคู่ต่อสู้เขาแข็งแกร่งมาก
อย่างไรก็ตามเขาแข็งแกร่งกว่า
“บาร์เทนเดอร์ ฉันขออีกแก้ว…ไม่สิ สองแก้ว…”
เธอเอื้อมมือไปหยิบเงินในกระเป๋าด้วยใบหน้าแดงก่ำ เธอพูดได้ไม่ชัดด้วยซ้ำ
ลู่โจวอยู่ในสภาพดีกว่านั้นหน่อย แต่เขาก็ยังฝืนตั้งสติไว้อยู่
“น้ำสองแก้ว”
“ไม่ ฉันยังไหว”
ลู่โจวพูดเสียงแผ่ว “เอาน้ำให้เรา”
มันเห็นได้ชัดว่าใครชนะ ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์ที่จะดื่มต่อ
“ครับ”
บาร์เทนเดอร์รินน้ำเปล่าสองแก้วแล้วมอบให้ลู่โจว
“น้ำเปล่าสองแก้วครับ”
ลู่โจวเอาแก้วไปวางไว้หน้าผู้หญิงบ้าแล้วกล่าว “ดื่ม”
แววตาของเคอเรลล่าเบิกกว้างขณะเอื้อมมือไปจับแก้ว เธอเห็นว่าอีกฝ่ายยกหมดแก้วแล้ว เธอจึงยกตามเช่นกัน
เป็นผลให้เธอสำลักจนแทบจะน้ำตาล่วง
เคอเรลล่ากระแทกแก้วเปล่าลงบนโต๊ะและไอไม่หยุด จากนั้นเธอก็หันไปมองลู่โจวด้วยสภาพเมามาย
” มันไม่ใช่เหล้า คุณโกหก?”
“มันเป็นเหล้านะ หรือคุณเมาเกินไป?…ขอน้ำเปล่าอีกสองแก้วครับ”
จู่ๆ ลู่โจวก็ได้ยินเสียง’ปัง’ เขาเห็นเคอเรลล่าฟุบอยู่บนโต๊ะแล้ว
ถ้าไหล่เธอไม่ขยับ เขาคงเรียกรถพยาบาลมาแล้ว
“น้ำอีกไหมครับ?” บาร์เทนเดอร์ถามอย่างเรียบเฉย
“ไม่เป็นไรครับ…”
เขารู้สึกว่าหัวเขากำลังหมุนติ้วๆ
ด้านหนึ่งเขาก็เมา ด้านหนึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้พักอยู่ไหน
เขาไม่อาจปล่อยเธอไปแบบนี้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น มันคงเป็นความผิดของเขา
เขาคิดสักพักใหญ่ๆ แต่ก็คิดอะไรดีๆ ไม่ออก แต่แล้วลู่โจวก็พลันนึกได้ว่าหลัวเหวินเซวียนอยู่ใกล้ๆ เขาจึงไปขอคำแนะนำจากเขา
“…ในสถานการณ์แบบนี้ คุณจะทำยังไง?”
หลัวเหวินเซวียนมองลู่โจวแล้วตอบ “มีห้องอยู่ชั้นบน…”
ลู่โจววางธนบัตรสองใบบนบาร์แล้วรับกุญแจห้องมาจากมือบาร์เทนเดอร์ จากนั้นเขาก็มองหลัวเหวินเซวียนแล้วขอร้อง “ช่วยด้วย”
หลัวเหวินเซวียนไม่เคลื่อนไหว
จากนั้นสักครู่ จู่ๆเขาก็ถอนหายใจ “ฉันไม่มีอะไรจะสอนนายแล้ว”
เขาตบไหล่ลู่โจวเป็นการให้กำลังใจ
“นายทำได้!”
หลัวเหวินเซวียนหันหลังแล้วหายไปท่ามกลางฝูงชน
ลู่โจว “???”
…
ลู่โจวนั่งอยู่ข้างเธอสักครู่ แต่ดูแล้วเธอไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย
กว่าเธอจะตื่นคงเป็นรุ่งเช้าแน่ๆ
ลู่โจวมองผู้หญิงคนนี้สักครู่ สุดท้ายเขาก็แบกเธอขึ้นบันไดแล้วเข้าห้อง
พอเข้ามาในห้อง เขาก็นั่งพักบนเก้าอี้ เขาหอบหายใจและมีเหงื่อท่วมตัว
บัดซบ ผู้หญิงคนนี้แบกมายากกว่าหลิวรุ่ยอีก
มันไม่ใช่แค่เรื่องน้ำหนัก ตอนหลิวรุ่ยเมา เขายังพอเดินได้ แต่พอผู้หญิงคนนี้เมา เธอทิ้งน้ำหนักเต็มที่เลย
ลู่โจวมองเคอเรลล่าที่นอนแผ่หลาบนเตียงแล้วตัดสินใจ
เหล้าแบบนี้ เขาไม่มีทางดื่มกับเธออีก
หลังได้พักอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็รู้สึกดีขึ้น
เหงื่อออกทำให้เขาสร่างเมา
เขาเห็นท้องฟ้าอันมืดมิดนอกหน้าต่าง มันเริ่มดึกแล้ว เขาจึงลุกขึ้นยืนแล้วปิดม่าน
จากนั้นเขาก็วางกุญแจไว้บนโต๊ะแล้วเดินออกนอกห้องไป
…
วันต่อมา แสงอาทิตย์ส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างห้องลู่โจว เขาขยี้ตาพลางลงจากเตียง
เมื่อวานหลังจากเขากลับมาโรงแรม เขาก็ผล็อยหลับไปทันที ดังนั้นเขาจึงยังใส่เสื้อผ้าของเมื่อวานอยู่
ลู่โจวไปอาบน้ำ เขายังรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย เมื่อเขามองกระจก เขาก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ไม่เลว
ฉันรู้สึกดีขึ้นมาก
บางทีอาจเป็นเพราะยาที่ได้รับจากระบบก่อนหน้านี้ปรับปรุงระบบการเผาผลาญของเขา อาการปวดหัวของเขาจึงไม่ได้แย่นัก ลู่โจวเดินลงไปที่โรงอาหารแล้วทานอาหารเช้า จากนั้นเขาก็เดินไปตามทางเดินไปที่ห้องบรรยายใกล้ๆ
เนื่องจากรายงานได้รับการยอมรับแล้ว ทีมวิจัยศาสตราจารย์หรูจึงไม่มีงานใหม่ในเดือนนี้
ดังนั้นลู่โจวจึงผ่อนคลายมาก เขาไม่มีอะไรให้ทำนัก
อย่างไรก็ตามเขายังไม่หยุดพัก
มีศาสตราจารย์ฟิสิกส์เชิงทฤษฎีและคณิตศาสตร์ระดับโลกมารวมตัวกันอยู่ในที่แห่งนี้
ลู่โจวจึงใช้โอกาสนี้มาฟังการบรรยายของผู้มีโอกาสได้รับเหรียญฟิลด์สและรางวัลโนเบล
ลู่โจวไม่พลาดโอกาสเพิ่มพูนความรู้ เขาจึงทำตารางเวลาก่อนงานประชุมจะเสร็จเสียอีก
การบรรยายแรกในตารางเวลาเขาเป็นของที่ปรึกษาหลัวเหวินเซวียน เอ็ดเวิร์ด วิตเตน
ตัดสินจากหัวข้อการบรรยาย มันอาจเกี่ยวกับทฤษฎีมอร์สและผลรวมในคณิตศาสตร์บริสุทธิ์
ลู่โจวประทับใจทักษะการพูดในที่สาธารณะของชายชรามาก ชายชราพูดทฤษฎีที่ซับซ้อนได้อย่างเชี่ยวชาญด้วยภาษาที่เรียบง่ายและชัดเจน
นอกจากนี้ชายชรายังโปรโมททฤษฎี M ของตนเองและคาดการณ์อนาคตของฟิสิกส์เชิงทฤษฎี
แม้ว่าชายชรายังคงเปี่ยมไปด้วยพลังงาน แต่เมื่อชายชราพูดต่อไป พลังงานของผู้ชมก็ค่อยๆหมดลง
หลังจบการบรรยาย ลู่โจวก็เก็บข้าวของแล้วออกจากห้องไป จากนั้นเขาก็เดินไปโรงอาหาร
เมื่อเขาได้อาหาร เขาก็บังเอิญเจอกับเคอเรลล่า
ลู่โจวกำลังพูดทักทายเธอ แต่ดอกเตอร์สาวพูดอย่างหยาบคายว่า “สารเลว!” ก่อนจะเดินไปพร้อมกับอาหารในมือ
ลู่โจวสับสน เขาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการอะไร
สารเลว!
เมื่อวานฉันไม่ควรดูแลเธอเลย
………………………………..