ศาสตราจารย์หม่าอึ้ง เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะถูกเด็กหนุ่มคนนี้ปฏิเสธ
แม้ว่าใบหน้าของเขายังมีรอยยิ้ม แต่แววตาเขาดูเย็นชา
ศาสตราจารย์หม่ากล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ทำไม? เธอคิดว่าฉันแก่แล้ว ฉันคงตามกระบวนการคิดของเธอไม่ทันใช่ไหม? หรือเธอคิดว่าฉันดีไม่พอ?”
ลู่โจวยิ้มแล้วตอบอย่างนิ่งเฉย “ไม่ครับ ไม่ใช่แน่นอน มันเป็นแค่นิสัยส่วนตัว”
ศาสตราจารย์หม่าจ้องมองลู่โจวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมา “อ่า มหาวิทยาลัยจินหลิงมีอัจฉริยะอยู่บ้าง เอาล่ะ เธอไม่สนใจก็ไม่เป็นไร ฉันไม่รบกวนเวลาเธอแล้ว”
จากนั้นชายชราก็เดินจากไป
เว่ยซื่อหยางอับอายเล็กน้อย เขาอยากเป็นเพื่อนกับลู่โจว แต่เขาก็ไม่อยากล่วงเกินศาสตราจารย์ของตัวเอง หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็จากไป
ลู่โจวอึ้ง
เขารู้สึกว่าศาสตราจารย์ไม่พอใจเล็กน้อย
นี่มันแปลกๆนะ ทำไมศาสตราจารย์คนนี้ถึงสนใจความเห็นของฉันมากขนาดนั้น?
เป็นคนที่แปลกจริงๆ
เมื่อลู่โจวเห็นแผ่นหลังของหม่าฉางอันที่เดินจากไป เขาก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
…
วันต่อมา งานประชุมทางวิชาการแห่งชาติครั้งที่สิบสองและงานประชุมทางวิชาการครบรอบ 80 ปีสมาคมคณิตศาสตร์จีนก็เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
ในห้องประชุมอันใหญ่โต ผู้คนเริ่มแออัดอยู่บนพรมแดง
แม้ว่างานประชุมยังไม่เริ่ม แต่ผู้คนก็เริ่มคุยโวกันทั้งซ้ายและขวา
งานประชุมในประเทศนั้นต่างจากงานประชุมต่างประเทศ เป้าหมายหลักของงานประชุมในประเทศไม่ใช่เพื่อแลกเปลี่ยนทางวิชาการ กลับกันมันเป็นโอกาสหาเพื่อนแทน
น่าเสียดายก่อนงานประชุมจะเริ่มขึ้น ลู่โจวก็ล่วงเกินคนใหญ่คนโตไปแล้ว
อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่าเขาปฏิเสธได้ไม่เลวแล้ว เขาจึงไม่คิดมากนัก
บางทีครั้งหน้าเขาควรโกหกและแสร้งพูดไปว่าเขาไม่มีความคืบหน้าในข้อคาดการณ์ของปอลิญักเลย?
ลู่โจวที่เดินเข้ามาในงานกับศาสตราจารย์หรูขอตัวไปห้องน้ำ เมื่อเขากลับมา ศาสตราจารย์หรูก็ไปไหนไม่รู้แล้ว
เขามองไปรอบๆ งาน แต่ก็ไม่เจอศาสตราจารย์หรู เขากลับพบกับเหยียนซินเจวี๋ยแทน
เหยียนซินเจวี๋ยกำลังคุยกับหนุ่มหล่อสวมแว่น
ขณะที่ลู่โจวกำลังจะเดินเข้าไปทักทาย เหยียนซินเจวี๋ยก็ก้าวเข้ามาหาเขาแล้ว “มา ฉันจะแนะนำให้นายรู้จักกับศาสตราจารย์หยางจื้อกว่าง ศิษย์เก่าที่โดดเด่นจากมหาวิทยาลัยจินหลิงของเรา!”
เมื่อลู่โจวได้ยินชื่อนี้ เขาก็อึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นเขาก็กล่าว “ศาสตราจารย์หยางจื้อกว่าง ยินดีที่ได้พบ!”
หยางจื้อกว่างน่าประทับใจมาก ลู่โจวเห็นชื่อเขาบนหอแห่งเกียรติยศของมหาวิทยาลัยจินหลิง
จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจินหลิงในปี 1985 เขาได้ปริญญาโทจากสถาบันวิทยาศาสตร์จีนตอนปี 1989 ก่อนจะไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยเอาก์สบูร์กในเยอรมัน หลังได้ปริญญาเอก จากนั้นเขาก็ทำวิจัยสองปีที่มหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งมิวนิค
เมื่อเขากลับมาจีนในปี 1994 เขาก็ทำงานในสถาบันคณิตศาสตร์ของสถาบันวิทยาศาสตร์จีน เขาถูกเลือกให้เข้าสู่’โครงการหมื่นอัจฉริยะ’ของสถาบันวิทยาศาสตร์จีน และได้รับรางวัลสำคัญๆอย่าง’รางวัลวิทยาการเชิงคอมพิวเตอร์เฝิงคัง’ และ ‘รางวัลรองชนะเลิศวิทยาศาสตร์ธรรมชาติระดับประเทศ’
แน่นอนส่วนที่สุดยอดที่สุดก็คือ คนๆ นี้ได้ไปบรรยายเป็นเวลาสี่สิบห้านาทีที่งานประชุมนักคณิตศาสตร์นานาชาติในประเทศสเปนตอนปี 2006
เขาเป็นผู้บรรยายคนเดียวจากประเทศจีนในงานประชุมนั้น!
อย่างไรก็ตามสาขาวิจัยของเขาแตกต่างจากลู่โจว เขาจึงไม่รู้อะไรนักว่าอีกฝ่ายศึกษาเรื่องอะไร เขารู้แค่ว่าศาสตราจารย์มีส่วนร่วมในการวิเคราะห์เชิงตัวเลขและวิทยาการเชิงคอมพิวเตอร์
ทิศทางของเขาไม่ใช่คณิตศาสตร์บริสุทธิ์ แต่มันเป็นคณิตศาสตร์ประยุกต์มากกว่าและมันก็เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมอย่างใกล้ชิด
ลู่โจวไม่แปลกใจเลยที่เห็นเขาที่นี่
สิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงก็คือศาสตราจารย์หยางจื้อกว่างดูหนุ่มมาก ถ้าเหยียนซินเจวี๋ยไม่แนะนำให้ลู่โจวรู้จัก เขาคงคิดว่าศาสตราจารย์อายุราวๆ สามสิบแต่ความจริงก็คือหยางจื้อกว่างอายุห้าสิบกว่าแล้ว
เมื่อเทียบกันแล้ว เหยียนซินเจวี๋ยที่อายุสามสิบกว่าผมก็เริ่มร่วงแล้ว
“สวัสดี” เหยียนซินเจวี๋ยกล่าวแล้วจับมือกับลู่โจว เขาพูดค่อนข้างกระตือรือร้นทีเดียว “ฉันพึ่งพูดถึงการกระทำอันยอดเยี่ยมของเธออยู่เลย ฉันไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับเธอเร็วขนาดนี้ น่ายินดีอย่างยิ่ง ยินดีที่ได้พบ”
ลู่โจวยิ้มแล้วตอบอย่างถ่อมตน “การกระทำที่ยอดเยี่ยมอะไรกัน…ผลการวิจัยของคุณเป็นประโยชน์ต่อทั้งประเทศ งานวิจัยของผมล้วนเป็นไปตามหลักทฤษฎี มันไม่คู่ควรแก่การกล่าวถึงด้วยซ้ำ!”
ในฐานะนักฟิสิกส์ เหยียนซินเจวี๋ยอาจร่วมการสนทนากับทั้งสองไม่ได้เลย
หยางจื้อกว่างจับมือลู่โจวแล้วกล่าวอย่างถ่อมตน “อย่าถ่อมตนเลย วิธีการคำนวณของเธอเป็นระดับเดียวกับหนังสือเรียน ทั้งประเทศจะต้องใช้มัน! ศาสตราจารย์หลิวจากสถาบันวัสดุพอลิเมอร์ของสถาบันวิทยาศาสตร์จีนภาคภูมิใจกับความสำเร็จของเธอมาก! ทุกครั้งที่ฉันพูดถึงเธอ เขาก็จะชื่นชมผลงานของเธอ เขาบอกว่ามันได้อุดช่องว่างระหว่างวัสดุศาสตร์และคณิตศาสตร์รวมทั้งจุดประกายไฟของดวงดาราในวัสดุศาสตร์การคำนวณ ไม่ต้องพูดถึง ผลงานของเธอในทฤษฎีจำนวน…แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญนานาชาติยังยกย่องเธอเลย”
เชี่ย นี่มันพูดเกินจริงเกินไปแล้ว!
ฉันเพิ่งเขียนวิทยานิพนธ์วัสดุการคำนวณ คุณหมายความว่าไงที่ว่าอุดช่องว่าง?
ลู่โจวไม่รู้พูดอะไร
โชคดีที่ศาสตราจารย์หรูมาพอดี เขาจึงถูกช่วยไว้โดยเสียงระฆัง
“เอาล่ะ เลิกโม้ได้แล้วทั้งสองคน ผมจะไม่ฟังแล้ว!”
เมื่อศาสตราจารย์หยางจื้อกว่างเห็นศาสตราจารย์หรู เขาก็ยิ้มแล้วกล่าวอย่างอายๆ “โม้อะไรกัน? ฉันกำลังพูดความจริง”
หยางจื้อกว่างอายุห้าสิบกว่าแล้ว ดังนั้นเขาจึงยังหนุ่มเมื่อเทียบกับศาสตราจารย์หรูที่อายุเจ็ดสิบกว่าแล้ว
ไม่ต้องพูดถึง หยางจื้อกว่างเคยเรียนคลาสฟิสิกส์ของศาสตราจารย์หรู
ความสัมพันธ์ของพวกเขาคืออาจารย์กับศิษย์
เมื่อศาสตราจารย์หรูมองดูศิษย์ที่เคยสอนในอดีต เขาก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขากล่าว “การประเมินวิชาการของเธอจะมาแล้วใช่ไหม?”
หยางจื้อกว่างยิ้ม “ไม่แน่ใจครับ มันขึ้นอยู่กับองค์กร”
“เอาล่ะ มหาวิทยาลัยจินหลิงของเราไม่ได้สร้างอัจฉริยะคณิตศาสตร์มากนัก เธอเป็นคนเดียวตั้งแต่ยุค 80 ส่วนยุค 2010 มันขึ้นอยู่กับเด็กคนนี้” ศาสตราจารย์หรูกล่าวพลางตบบ่าลู่โจว “เธอสองคนควรทำให้ดีที่สุด อนาคตของประเทศนี้ขึ้นอยู่กับคนหนุ่มอย่างพวกเธอ”
เหยียนซินเจวี๋ยพลันเอ่ยถามขึ้นมา “อาจารย์ แล้วผมล่ะ?”
“เธอ?” ศาสตราจารย์หรูกล่าว เขามองเหยียนซินเจวี๋ยแล้วกล่าว “เธอ…เธอก็ควรพยายามให้ถึงที่สุดเหมือนกัน”
เหยียนซินเจวี๋ย “…?”
ลู่โจวแทบหัวเราะออกมาเสียงดัง
…
ไม่นานก็ถึงเวลาเก้าโมง และพิธีเปิดของงานประชุมก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
ศาสตราจารย์หวังชื่อเฉิงจากสมาคมคณิตศาสตร์จีนเป็นคนพูดเปิดงาน
จากนั้นก็ตามมาด้วยประธานสภาคณิตศาสตร์นานาชาติ เซินฉงเหวิน รวมไปถึงเฮอกิ ฮอร์ตันและนักคณิตศาสตร์ต่างชาติคนอื่น พวกเขาต่างก็มาฉลองวันคล้ายวันเกิดแปดสิบปีของสมาคมคณิตศาสตร์จีน
นักวิชาการเหล่านี้วิจัยมาตั้งแต่ยุค 80 แล้ว และพวกเขาก็มาจากทั่วทุกมุมโลก
หลังจากศาสตราจารย์เหวินหลันประกาศเปิดงานประชุมด้วยคำพูด’ไม่ลืมความตั้งใจแรกเริ่ม ถึงจะประสบความสำเร็จได้ในที่สุด’ เสียงปรบมือก็ดังก้องในห้องประชุม
ตอนจบพิธีเปิดเป็นไฮไลท์ของงานประชุม ไม่นานมันก็ถึงพิธีมอบรางวัลคณิตศาสตร์ฮั่วหลัวเกิงและรางวัลคณิตศาสตร์เฉินเสิ่งเซิน!
รางวัลแรกมุ่งเน้นไปที่ศาสตราจารย์ที่อายุกว่าห้าสิบ ส่วนรางวัลหลังมุ่งให้นักวิชาการหนุ่มที่อายุต่ำกว่าห้าสิบ มีผู้ได้รับรางวัลสองคนต่อรางวัล
เงินรางวัลเพียงแสนหยวนเท่านั้น แต่ความหมายมันสำคัญ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรางวัลคณิตศาสตร์เฉินเสิ่งเซิน มันถือเป็นเหรียญฟิลด์ในประเทศ
ผู้ชนะรางวัลคณิตศาสตร์ฮั่วหลัวเกิงคือนักวิชาการหลินจากสถาบันวิทยาศาสตร์จีนและนักวิชาการหลิวจากมหาวิทยาลัยเสฉวน พวกเขาได้รับรางวัลด้วยการมีส่วนร่วมอันโดดเด่นในวิชาคณิตศาสตร์เชิงคำนวณและทอพอโลยีตามลำดับ
จากนั้นไม่นานก็มาถึงช่วงที่น่าตื่นเต้นที่สุด
ศาสตราจารย์ชิวเฉิงถงยืนบนโพเดียมด้วยรอยยิ้ม เขาจับมือกับศาสตราจารย์หวังชื่อเฉิงก่อนจะรับไมโครโฟนมา
รางวัลแก่นักวิชาการหนุ่มรางวัลคณิตศาสตร์เฉินเสิ่งเซินจะถูกมอบโดยผู้อาวุโสท่านนี้
เสียงปรบมือก็ค่อยๆเบาลง
ชายชรากระแอมแล้วกล่าวช้าๆ “ผู้ชนะคนแรกคือศาสตราจารย์หยางจื้อกว่างจากสถาบันคณิตศาสตร์ของสถาบันวิทยาศาสตร์จีน ผลการวิจัยหลักของเขาเป็นการวิจัยอย่างเป็นระบบเกี่ยวกับวิธีการจับคู่เลเยอร์สมบูรณ์ของปัญหาการกระเจิงของคลื่นและอัลกอริทึม… เขาได้สร้างรากฐานคณิตศาสตร์โมเดลเครื่องพีชแมนที่โด่งดังในโลกวิศวกรรม…”
“ผู้ชนะรางวัลคนที่สองคือ…”
ศาสตราจารย์ชิวพลิกไปอีกหน้า เขาปรับแว่นตาก่อนจะประกาศเสียงดัง
“ลู่โจว!”
………………………………….