“ผู้ชนะคนที่สอง…ลู่โจว!”
เมื่อผู้ชมได้ยินชื่อนี้ ก็ไม่มีใครส่งเสียงอะไร
ไม่มีใครไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้
แต่ถึงกระนั้นเมื่อทุกคนได้ยินชื่อนี้ ทุกคนก็มีสีหน้าแปลกใจอยู่ดี
เหตุผลก็คือคนๆนี้เด็กเกินไป เขาเพิ่งอายุยี่สิบเอ็ดปี อันที่จริงลู่โจวอายุไม่ถึงครึ่งของคนอื่นในงานด้วยซ้ำ!
โลกวิชาการเป็นสถานที่ที่คุยกันเรื่องคุณสมบัติ
ไม่มีใครสงสัยคุณสมบัติของเขา
อย่างไรก็ตามมันก็ยังน่าแปลกใจที่เด็กคนนี้ได้รับรางวัล
ศาสตราจารย์ชิวดันกรอบแว่นแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงมั่นคง
“…ผลวิจัยหลักๆของลู่โจวคือทฤษฎีของโจว ข้อคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่แฝดและใช้วิธีทอพอโลยีเพื่อเสริมทฤษฎีตะแกรง เขาสร้างข้อมูลเชิงลึกที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองที่ไม่ได้อยู่ในสาขาคณิตศาสตร์บริสุทธิ์เท่านั้น แต่ยังอยู่ในสาขาคณิตศาสตร์ประยุกต์อีกด้วย ผลการวิจัยของเขาได้รับการยกย่องอย่างสูงจากศาสตราจารย์บาเวนดิ สำหรับนักวิชาการหนุ่มแบบนี้ ความสำเร็จทั้งหมดช่างน่ายกย่อง”
สำหรับนักวิชาการหนุ่ม มันน่าประทับใจมาก เพราะแม้แต่นักวิชาการอาวุโสที่วิจัยมานับทศวรรษก็อาจไม่สามารถบรรลุถึงระดับนี้
ส่วนคุณสมบัติ…
เนื่องจากลู่โจวได้รับการยอมรับจากศาสตราจารย์ชิว จึงไม่มีใครคัดค้านอะไร
เสียงปรบมือดังขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ช้ามันก็เป็นพายุฝนฟ้าคะนอง มันดังตั้งแต่แถวหน้าไล่ไปจนถึงแถวหลังของห้องประชุม
ลู่โจวจ้องมองโพเดียมด้วยแววตาเบิกกว้าง
ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าศาสตราจารย์หรูซ่อนอะไรไว้ แล้วทำไมเหยียนซินเจวี๋ยกับศาสตราจารย์หลิวถึงแสดงความยินดีกับเขา
เขาไม่คิดเลยว่าสมาคมคณิตศาสตร์จีนจะมอบเกียรติแบบนี้แก่เขา
แม้ว่ารางวัลคณิตศาสตร์เฉินเสิ่งเซินจะเป็นของนักวิชาการหนุ่ม แต่มันก็ไม่เคยถูกมอบให้เด็กหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปีมาก่อน
ศาสตราจารย์หยางจื้อกว่างไม่ได้ตกใจอะไร รอยยิ้มอ้วนๆเขาเป็นธรรมชาติมาก
เขาคาดไว้แล้ว
เขาตบบ่าลู่โจวแล้วกล่าว “ไปสิลู่โจว ขึ้นไปรับรางวัลบนเวที”
“โอ้…” ลู่โจวพยักหน้าอย่างงงๆ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินบนพรมแดง
ขณะที่เขาเดินเข้าใกล้เวทีอย่างช้าๆ หัวใจเขาก็เต้นเร็วมากจนแทบกระดอนออกมาจากหน้าอก
อย่างไรก็ตามวินาทีที่เขาก้าวขึ้นไปบนเวที หัวใจเขาก็สงบลง
เมื่อลู่โจวรับเหรียญทองและประกาศนียบัตรจากศาสตราจารย์ชิว เขาก็กล่าวอย่างสุภาพ “ขอบคุณครับ”
ศาสตราจารย์ชิวยิ้ม “ยินดีด้วย เธอสมควรได้รับเกียรตินี้!”
ศาสตราจารย์ชิวพยักหน้าให้ศาสตราจารย์หยางจื้อกว่างแล้วกล่าว “ผู้ชนะทั้งสองคน พูดอะไรหน่อยสิ”
หยางจื้อกว่างยิ้ม “ฉันจะปล่อยให้คนหนุ่มพูดก่อน”
ลู่โจวยังไม่ได้เตรียมตัวเลย แต่ศาสตราจารย์ชิวก็ส่งไมโครโฟนให้เขาแล้ว
เขารับไมโครโฟนมา จากนั้นเขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะหันไปมองผู้ชมแล้วกล่าวอย่างมั่นคง แต่น้ำเสียงค่อนข้างตื่นเต้น “ขอบคุณมหาวิทยาลัยจินหลิงที่ขัดเกลาผมมา ขอบคุณสมาคมคณิตศาสตร์จีนที่มอบรางวัลนี้ให้ผม ผมจะพยายามต่อไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในวิชาคณิตศาสตร์ให้มากขึ้น!”
“ขอบคุณครับ!”
คำพูดของเขาสั้นมาก
มันมีเพียงสามประโยคเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเขาพูดอย่างจริงใจ ไม่ได้พูดเกินจริงเลย
แปะๆ…
เสียงปรบมือดังกึกก้องในห้องประชุม
ศาสตราจารย์หรูมองไปบนโพเดียมแล้วปรบมือเบาๆ
เหยียนซินเจวี๋ยตื่นเต้นมากกว่าอีก เขาปรบมือจนมือแดง เขาถึงขั้นตะโกนเสียงดัง “เชี่ย โจว นายเจ๋งมาก!”
ได้รับรางวัลคณิตศาสตร์เฉินเสิ่งเซินตอนอายุยี่สิบเอ็ดปี…ถ้าเป็นเขานะ เขาคงเอาเรื่องนี้ไปโม้ชั่วชีวิต
“สุภาพหน่อย!”
แม้ว่าศาสตราจารย์หรูจะตำหนิเหยียนซินเจวี๋ย แต่ใบหน้าเขาก็เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
มันไม่ใช่แค่นักคณิตศาสตร์เท่านั้นที่กำลังปรบมือ แม้แต่นักศึกษาปริญญาตรีจากสภามหาวิทยาลัยปักกิ่งที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าห้องประชุมก็ร่วมปรบมือด้วย
คนที่กำลังยืนอยู่บนเวทีอายุเท่าๆกับพวกเขา บางทีอาจเด็กกว่าด้วยซ้ำ…
นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาปรบมือ
ลู่โจวเป็นแบบอย่างแก่พวกเขา
…
แน่นอนบางคนก็ไม่พอใจผู้ชนะหนุ่มคนนี้
ยกตัวอย่างคนที่เกือบได้รางวัลนี้…
เว่ยซื่อหยางนั่งอยู่หลังห้องจัดประชุม เขาดูอึดอัด มือเขาวางไว้บนตัก ไม่ได้ปรบมือเลย
เหตุผลเป็นเพราะอาจารย์เขานั่งอยู่ข้างๆ สีหน้าของอาจารย์เป็นสีแดง ถ้าเขาปรบมือ เขาเกรงว่าเขาจะเรียนไม่จบ
ศาสตราจารย์หม่าฉางอันจ้องมองบุคคลบนเวที อารมณ์เขามืดมนมาก
เขาไม่ได้โกรธเพราะลู่โจวปฏิเสธเขาเมื่อกี้ แต่เป็นเพราะเกียรตินี้สมควรเป็นของเขา
ส่วนสาเหตุ เรื่องมันยาว
ชุมชนคณิตศาสตร์ในประเทศไม่ได้ใหญ่นัก แต่มีชุมชนแยกย่อยมากมาย
ในปี 1952 ประเทศจีนได้เปลี่ยนระบบมหาวิทยาลัยแห่งชาติ ทางการขอให้มหาวิทยาลัยในประเทศเอาอย่างระบบประเทศอังกฤษ เป็นผลให้สาขาคณิตศาสตร์ของทั้งของมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่และมหาวิทยาลัยจื่อถูกตัดทิ้ง กลับกันประเทศได้สร้างมหาวิทยาลัยเยี่ยนและมหาวิทยาลัยออโรร่าแทน
ตอนนี้ชุมชนคณิตศาสตร์ในประเทศสามารถแบ่งออกเป็นมหาวิทยาลัยเยี่ยน สถาบันวิทยาศาสตร์จีน และมหาวิทยาลัยออโรร่า
บางคนก็บอกว่าการเปลี่ยนระบบเป็นการสูญเสียทรัพยากรทางวิชาการโดยสูญเปล่า
คนที่มีชื่อเสียงที่สุดบางทีอาจเป็นศาสตราจารย์เฟิง เขาไม่สามารถเป็นนักวิชาการได้เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนี้
สุดท้ายเขาก็ถูกจ้างไปเป็นคณบดีคณิตศาสตร์ที่สถาบันวิทยาศาสตร์จีน อย่างไรก็ตามเขาก็ยังเป็นนักวิชาการไม่ได้
เห็นได้ชัดว่ากระบวนการเลือกนักวิชาการนั้นไม่’สมบูรณ์’
แน่นอน ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็เป็นได้ อย่างน้อยต้องมีประวัติทางวิชาการบ้าง
ศาสตราจารย์หม่าฉางอันเป็นสมาชิกมหาวิทยาลัยออโรร่า เขาเตรียมตัวเพื่อคัดเลือกนักวิชาการปี 2017 มานานแล้ว เขาใช้เวลาทำงานหนักมายี่สิบปีที่สาขาคณิตศาสตร์ของออโรร่า
อย่างไรก็ตาม เงินทุนที่เขาได้รับนั้นน้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับศาสตราจารย์ที่วิจัยเพียงอย่างเดียว เขาไม่ได้เขียนวิทยานิพนธ์วิจัยสำคัญๆเลยด้วยซ้ำ
แน่นอน วิทยานิพนธ์เกรดสองเกรดสามเขามีมาก แต่ส่วนใหญ่เป็นแบบร่วมมือกับผู้อื่น
ส่วนที่ยากที่สุดในประเทศจีนก็คือ มีเพียงผู้เขียนคนแรกเท่านั้นที่สำคัญ
ดังนั้นเขาจึงมุ่งเป้าไปที่รางวัลคณิตศาสตร์เฉินเสิ่งเซิน
ถ้าเขาได้รับรางวัลคณิตศาสตร์เฉินเสิ่งเซิน สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มคุณสมบัติให้เขา แล้วเขาก็อาจจะได้เป็นนักวิชาการ
เขาเตรียมตัวมานานหลายปี
จนถึงกระทั่งเตรียมบทพูดตอนรับรางวัลแล้ว
อย่างไรก็ตามเด็กคนนี้เพิ่งขโมยรางวัลจากเขาไป!
………………………………..