ห้องประชุมเงียบสนิท
บรรยากาศดูแปลกๆ…
กระอักกระอ่วน?
หม่าฉางอันขมวดคิ้ว เขาคิดว่าจะมีคนเห็นด้วยกับเขา แต่มันตรงกันข้ามเลย
จากปฏิกิริยาของผู้ชม ดูเหมือนจะไม่มีใครเห็นด้วยกับคำถามของเขาเลย
อย่างไรก็ตามนั่นมันไม่สำคัญ เพราะเขาวางแผนจะโค่นเด็กคนนี้ด้วยตัวเอง
ศาสตราจารย์คนอื่นๆ ไม่อยากสร้างศัตรู ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้พูดอะไร
แม้แต่ศาสตราจารย์ชิวเฉิงถงก็อยู่เงียบๆ
อย่างไรก็ตาม…ศาสตราจารย์อาวุโสที่นั่งอยู่ฝั่งซ้ายเขากระแอมก่อนจะพูดเสียงดังและชัดเจน “อะแฮ่ม หม่าฉางอัน คุณนั่งก่อนไหม? คุณไว้ถามหลังบรรยายจบลงดีกว่า การบรรยายนี้มีไว้ถามคำถามเชิงวิชาการ”
หม่าฉางอันอึ้ง เพราะเขาไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาตอกหน้าเขา
เว่ยชื่อหยางที่นั่งข้างอาจารย์ของตนหันหน้ามามอง เมื่อเขาเห็นศาสตราจารย์อาวุโสท่านนั้น เขาก็ช็อก
มันเป็นนักวิชาการกัว!
เขาเป็นบุคคลสำคัญสาขาสมการไม่เชิงเส้น!
แต่…
ไม่ใช่ว่าเขาเป็นศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยออโรร่าเหรอ?
หม่าฉางอันดูไม่พอใจ แม้ว่าเขาจะเคารพศาสตราจารย์กัว แต่เขาก็ไม่ได้เกรงกลัว
เขาต้องยึดมั่นในจุดยืน
พวกเขามาจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงต้องพูดให้นุ่มนวลหน่อย “ศาสตราจารย์กัว ฉันไม่เห็นด้วยกับที่คุณพูด ฉันเป็นห่วงเงินทุนวิจัยของรัฐ ทำไมฉันถึงพูดเรื่องนี้ในการประชุมทางวิชาการไม่ได้ล่ะ?”
ศาสตราจารย์หม่าฉางอันหยุดไปชั่วครู่ก่อนจะกล่าวต่อ “พวกเรารู้ว่าการทดลองเป็นวิธีเดียวในการทดสอบความจริง ถ้าไม่ทดลอง เราจะรู้ได้ไงว่าวิธีนี้มีประโยชน์?”
“…ไม่งั้นวิธีใหม่จะไม่มีพื้นฐานสนับสนุน มันไม่น่าหัวร่อหน่อยเหรอ?”
“ฮ่าๆ” ศาสตราจารย์กัวพยักหน้า เพราะเขาไม่อยากลดตัวไปอยู่ระดับเดียวกับหม่าฉางอัน เขานั่งลงอย่างเรียบเฉย
เขาแค่อยากเตือนศาสตราจารย์หม่าฉางอันเท่านั้น ไม่ได้อยากเริ่มการต่อเถียง
โชคร้าย…
ลู่โจวยืนอยู่บนเวทีแล้วมองศาสตราจารย์หม่าฉางอันด้วยสายตาแปลกๆ เขาคิด ‘คุณไม่ได้เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของฉัน ทำไมฉันต้องรายงานความคืบหน้าคุณด้วย?’
คุณกำลังพูดเรื่องวิธีการวิทยาศาสตร์กับฉันเหรอ?
ฉันดูเหมือนนักการเมืองสำหรับคุณเหรอ?
ลู่โจวกำลังจะพูด แต่ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากฝูงชนเสียก่อน
“ฉันขอพูดอะไรหน่อยสิ”
ชายชราจากหลังห้องประชุมค่อยๆลุกขึ้นยืน เขาถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “ฉันไม่รู้ว่าหม่าฉางอันได้อ่านคณิตศาสตร์ประจำปีไหม?”
เมื่อลู่โจวเห็นชายชรา เขาก็ประหลาดใจ
นี่…
เขาไม่ใช่นักวิชาการเซี่ยงหัวหนานจากสถาบันวิทยาศาสตร์จีนเหรอ? เขาเป็นหนึ่งในผู้ตัดสินจากการพรีเซนต์ปริญญาตรีฉัน!
เขาไม่ได้เห็นชายชรามาสักพักแล้ว
เมื่อศาสตราจารย์หม่าได้ยินคำถามนี้ หัวใจเขาก็หนักอึ้ง
นักคณิตศาสตร์ที่ไม่สมัครสมาชิกคณิตศาสตร์ประจำปีก็เหมือนนักศึกษาปริญญาตรีที่เข้าเรียนโดยไม่ได้พกหนังรือเรียนมาด้วย
ศาสตราจารย์หม่าฉางอันยิ้มแล้วกล่าว “นักวิชาการเซี่ยง คุณนี่ตลกจริงๆ ออฟฟิศคณิตศาสตร์ทุกแห่งในมหาวิทยาลัยออโรร่ามีสำเนาอยู่”
“งั้นคุณยังไม่ได้อ่านงั้นเหรอ?” ศาสตราจารย์เซี่ยงหัวหนานถาม จากนั้นเขาก็กล่าว “อาจอ่านฉบับล่าสุดแล้ว มันอาจตอบคำถามของคุณได้นะ”
หม่าฉางอันไม่เข้าใจ เขาจึงถาม “คุณหมายความว่าไง?”
ศาสตราจารย์เซี่ยงยิ้มแล้วกล่าวอย่างใจเย็น “ในคณิตศาสตร์ประจำปีฉบับล่าสุด วิทยานิพนธ์พิสูจน์ข้อคาดการณ์ของปอลิญักได้ถูกตีพิมพ์ ผู้เขียนเป็นคนที่กำลังยืนอยู่บนเวทีตอนนี้ วิธีที่เขาใช้แก้ข้อคาดการณ์ของปอลิญักเรียกว่า’วิธีสร้างองค์ประกอบกรุป’”
ห้องประชุมตกอยู่ในความเงียบ
คนบางส่วนไม่ได้แสดงสีหน้าแปลกใจอะไร
อย่างนักวิชาการกัว เขาได้อ่านวารสารคณิตศาสตร์ประจำปีฉบับล่าสุดแล้ว
อย่างไรก็ตามพวกเขาเป็นส่วนน้อย
คนส่วนใหญ่ดูแปลกใจ…พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ!
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่าชายหนุ่มที่แก้ข้อคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่แฝดตอนต้นปีได้ขยายรูปแบบ K=1 ไปจนถึงอนันต์ และแก้ข้อคาดการณ์ของปอลิญักได้สำเร็จ!
บางคนไม่รู้ว่าทำไมสมาคมคณิตศาสตร์จีนถึงได้มอบรางวัลคณิตศาสตร์เฉินเสิ่งเซินให้คนหนุ่มแบบนี้
ตอนนี้ทุกอย่างชัดเจนแล้ว
เขาสมควรได้รับรางวัลนี้แน่นอน!
เมื่อศาสตราจารย์หม่าฉางอันได้ยินข่าวนี้ เขาก็แข็งทื่อ เขาหมดคำพูด
ไม่อยากจะเชื่อเลย!
อย่างไรก็ตามเขารู้เช่นกันว่าศาสตราจารย์เซี่ยงไม่ได้โกหก เพราะเรื่องนี้ตรวจสอบได้ง่ายเพียงแค่เปิดหน้าวารสารอ่าน
ใบหน้าเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่เขาไม่รู้จะพูดอะไร เขาอยากนั่งลง แต่เขาขยับขาของตนไม่ได้
ในเวลานี้เขากลายเป็นที่หัวเราะเยาะ
ศาสตราจารย์กัวที่นั่งอยู่ข้างๆได้แต่ส่ายหน้า
การถามคำถามในงานประชุมทางวิชาการไม่ได้มีอะไรผิด อย่างไรก็ตามถ้าจะถามคำถามอย่างหม่าฉางอัน เขาควรทำให้แน่ใจว่าคำถามของตนมีหลักฐานไหม ไม่งั้นเขาจะสูญเสียความน่าเชื่อถือไปทั้งหมด
งานประชุมทางวิชาการไม่มีที่ให้เล่นลิ้น
ไม่ต้องพูดถึงมันต่อหน้าผู้คนมากมาย
แม้ว่าศาสตราจารย์หงจะเป็นเพื่อน แต่เขาก็ไม่ช่วยศาสตราจารย์หม่าฉางอัน
ไม่มีทางที่ศาสตราจารย์หงจะช่วยเพื่อนเข้าชิงตำแหน่งนักวิชาการได้อีก
ดูเหมือนว่าศาสตราจารย์หม่าฉางอันจะเป็นนักวิชาการแล้ว
อย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะมีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สักอย่าง…
ศาสตราจารย์กัวอดมองดูคนบนเวทีไม่ได้
ชายหนุ่มคนนี้ใจเย็นมาก เขาไม่ได้พูดถึงการตีพิมพ์วิทยานิพนธ์ที่สำคัญของตนเลย
ในขณะเดียวกันศาสตราจารย์หม่าฉางอันได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างโง่งม เขาแทบอยากขุดหลุมฝังตัวเอง
การวางแผนและความอดทนแบบนี้ไม่เหมือนคนหนุ่มสาวเลยจริงๆ!
………………………………….