สิ่งที่ลู่โจวได้มาช่วงไม่กี่วันมานี้มีมากมายมหาศาล
มันไม่ใช่แค่วิชาการ แต่มันเป็นเชิงเส้นสายทางสังคมมากกว่า
ลู่โจวได้พบคนมากมายที่เขาได้อ่านเจอในหนังสือเรียน หนังสือพิมพ์และบทความ ความรู้สึกนั้นไม่ธรรมดา
ยกตัวอย่าง เฮม เบรนซี นักวิชาการจากสถาบันวิทยาศาสตร์ฝรั่งเศส ลู่โจวได้อ่านหนังสือเรียน’การวิเคราะห์เชิงฟังก์ชัน’ของเบรนซี ซึ่งคำอธิบายปริภูมิโซโบเลฟของเบรนซีทำให้ลู่โจวประทับใจไม่รู้ลืม
ผู้อาวุโสจากฝรั่งเศสท่านนี้เป็นคนตลกและกระตือรือร้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเขาได้ยินว่าลู่โจวอ่านผลงานของเขา เขาก็เป็นมิตรกับลู่โจวมากขึ้นด้วยซ้ำ เขาพูดซ้ำๆ ว่าถ้าลู่โจวไปฝรั่งเศส ลู่โจวไปพบเขาได้
เบรนซีได้สะสมต้นฉบับที่น่าสนใจ ซึ่งรวมถึงผลงานของออยเลอร์ด้วย
นอกจากผู้อาวุโสที่อบอุ่นและร่าเริงท่านนี้แล้ว ลู่โจวยังได้พบกับนักคณิตศาสตร์อัจฉริยะชาวจีน เถาเจ๋อเซวียน
ลู่โจวรู้สึกว่าเถาเจ๋อเซวียนไม่เหมือนที่คิดไว้ เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนตลกและเป็นมิตร
นอกจากนี้เขายังดูเด็กกว่าที่ลู่โจวจินตนาการไว้ ลู่โจวดูไม่ออกเลยว่าอีกฝ่ายสี่สิบแล้ว
เนื่องจากเขาเกิดที่ออสเตรเลีย เขาจึงพูดภาษาจีนกลางไม่ได้ อย่างไรก็ตามเขาพูดภาษากว้างตุ้งได้ แต่โชคไม่ดีลู่โจวฟังไม่เข้าใจเลย ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ภาษาอังกฤษคุยกันแทน
งานประชุมวันที่สี่ หลังบรรยายหนึ่งชั่วโมงจบลง เถาเจ๋อเซวียนก็เชิญลู่โจวมาที่ออฟฟิศ
ทั้งสองเริ่มคุยกันถึงปัญหาทางวิชาการ
หลังคุยกันได้สองสามคำ ลู่โจวก็อดคิดไม่ได้
ฉันต้องยอมรับเลย ชายคนนี้เป็นนักคณิตศาสตร์อัจฉริยะของจริง! สาขาที่เขาศึกษาล้วนเป็นคณิตศาสตร์ เขาอาจไม่เก่งทุกเรื่อง แต่เขาก็ไม่ค่อยมีอะไรที่เขาไม่รู้
เดือนกันยาปีนี้ เขาได้พิชิตปัญหาของเออร์ดอสที่แก้ไม่ได้ของปี 1980 นี่เป็นปัญหาทฤษฎีจำนวนคลาสสิค และเป็นปัญหาที่อยู่นอกสาขาวิจัยของเถาเจ๋อเซวียน
อย่างไรก็ตามมันไม่ได้สำคัญเท่าข้อคาดการณ์ของปอลิญัก ดังนั้นเขาจึงถูกลู่โจวแย่งเอาความโดดเด่นไป
“คุณกำลังศึกษาข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคงั้นเหรอ?”
ลู่โจวถาม “ครับ คุณเคยศึกษามาก่อนเหรอครับ?”
เถาเจ๋อเซวียนยิ้มและยอมรับถึงความบกพร่องตัวเอง “ผมลองตอนต้นปี แต่ผมก็ตระหนักอย่างรวดเร็วว่าผมแก้ไม่ได้ ผมศึกษาสมการเชิงอนุพันธ์ย่อยกับการวิเคราะห์เชิงฮาร์มอนิกดีกว่า”
จากนั้นเขาก็กล่าวต่อ “ผมเห็นวิทยานิพนธ์ของคุณในคณิตศาสตร์ประจำปี ผมได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากวิธีตะแกรงทอพอโลยีที่คุณใช้ ผมคิดว่ามันอาจแก้ทฤษฎีของเฉินได้…อย่างไรก็ตามผลลัพธ์น่าผิดหวัง”
ลู่โจวถาม “วิธีตะแกรงไม่ได้ผลหรือ?”
เถาเจ๋อเซวียนตอบด้วยน้ำเสียงฟังดูแง่ร้าย “ไม่ได้ผล…อย่างน้อยผมก็ทำให้มันไม่ได้ผล”
เถาเจ๋อเซวียนส่ายหน้าแล้วเริ่มเขียนบนกระดาษ
[∑|S(αm)|2≤∆∑|αn|2…]
[S(α)=∑ane(αn),e(x)=e^(2πxi).M,N∈Z,a1…]
[…]
ลู่โจวดูสูตรบนกระดาษแล้วลูบคาง จากนั้นเขาก็เข้าสู่ภวังค์
เถาเจ๋อเซวียนหยุดเขียน “ผมอ่านมาแค่วิธีนี้ คุณเป็นคนคิดวิธีนี้หนิ”
“ไม่ครับ ตอนแรกศาสตราจารย์เซลเบิร์กเป็นคนที่แนะนำให้ใช้วิธีทอพอโลยีเข้ากับวิธีตะแกรง ผมแค่ทำการปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ และคุณก็ทำให้เกิดการปรับปรุงก้าวใหญ่อย่างเห็นได้ชัด” ลู่โจวกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะมองดูแผ่นกระดาษ “เนื่องจาก am กระจายตัวอย่างดี ทำไมไม่ทำให้ R^(-1)·∑|S(αm)|2 เป็น ∫|S(α )|2dα Riemann ล่ะ”
แววตาของเถาเจ๋อเซวียนเปล่งประกาย “จากนั้นล่ะ?”
“ค่าของ R = 1 เราสามารถหาได้จากอสมการโคชี-ชวาร์ซ…” ลู่โจวกล่าว เขาอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงหยิบปากกาขึ้นมาแล้วเริ่มเขียนบนกระดาษ
[|S(α1)|2≤N∑|an|2]
เถาเจ๋อเซวียนกล่าว “ความคิดคุณน่าสนใจ…เราต้องหาค่าของ N(δ) แล้วเราจะหา ∆ ได้”
ลู่โจวพยักหน้า “ใช่ แต่ ∆ จะไม่มีค่ามากไปกว่า N δ^(-1) ปัญหาอยู่ที่ N”
ทั้งสองเงยหน้าแล้วมองหน้ากันก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา
อย่างไรก็ตามรอยยิ้มของพวกเขาดูขมขื่นเล็กน้อย เพราะวิธีนี้มันไม่ได้ผล!
เถาเจ๋อเซวียนโยนปากกาลงบนโต๊ะแล้วถอนหายใจ “วิธีทรงกลมยากเกินไป มันอาจใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะแก้ได้ บางทีคุณอาจลองใช้วิธีทรงกลมดู พูดตามตรง วิธีตะแกรงอาจไม่ได้ผล”
ลู่โจวส่ายหน้า “ผมจะลองวิจัยดูตอนว่างๆ แต่ผมยังมีความหวังกับวิธีตะแกรง บางทีมันอาจเป็นไปได้”
“คุณมาสอนที่เบิร์กลีย์ไหม? สภาพแวดล้อมที่นี่ไม่เลว แถมเรายังวิจัยโปรเจกต์ด้วยกันได้…ถ้าคุณไม่คิดว่าผมโง่นะ” เถาเจ๋อเซวียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ลู่โจว “…”
คนโง่ไอคิวสองร้อยสามสิบ ถ้าคุณโง่ แล้วพวกที่มีไอคิวร้อย ล่ะคือไร?
เป็นครั้งแรกเลยที่ลู่โจวตระหนักว่ามันเจ็บปวดมากที่ได้คุยกับคนที่ถ่อมตนเกินไป
ลู่โจวกล่าว “ผมยังไม่จบปริญญาเอกเลย ผมอาจจะไปเอาปริญญาเอกที่พรินซ์ตันตอนปีหน้า”
“คุณยังเรียนไม่จบ?” เถาเจ๋อเซวียนกล่าวขณะมองดูลู่โจว “เอาล่ะ…มหาลัยจีนเข้มงวดมาก”
ลู่โจวกล่าว “ผมเริ่มปริญญาโทตอนต้นปี”
“เอาล่ะ ถ้าแบบนั้นก็พอเข้าใจได้” เถาเจ๋อเซวียนกล่าวแล้วยิ้ม “ตอนที่ผมเรียนปริญญาโท ผมก็มีเรื่องคล้ายๆกัน อาจารย์ที่ปรึกษาให้ผมอยู่ปีนึง ผมถึงจบการศึกษาได้”
เถาเจ๋อเซวียนเขียนอีเมลลงบนกระดาษแล้วส่งมาให้ลู่โจว “มาติดต่อกันเถอะ ผมจะติดต่อหาคุณถ้าคุณมีการค้นพบใหม่ๆ”
“โอเคครับ”
ลู่โจวพยักหน้าแล้วหยิบกระดาษออกมา เขาเขียนเมลลงบนกระดาษ จากนั้นก็แยกย้ายกันไป
ขณะที่เดินกลับโรงแรม ลู่โจวก็ยังคิดถึงปัญหานี้
หลังคิดสักพัก เขาก็รู้สึกหิวขึ้นมา
ลู่โจวมองดูเวลาบนโทรศัพท์ มันยังเร็วเกินไปที่จะกินมื้อค่ำ เขาเลยหันหลังกลับแล้วเดินเข้าร้านบาร์บีคิว
เขาสั่งซี่โครงมาเซ็ตนึง จากนั้นก็หยิบเงินออกมาสิบเก้าเหรียญแล้ววางบนเคาน์เตอร์ พอเขาจ่ายเสร็จ เขาก็ไปหาที่นั่ง
มีคนกล่าวกันว่าอเมริกาถูก แต่เขาไม่คิดแบบนั้นเลย
สิบเก้าเหรียญก็ประมาณหนึ่งร้อยสิบหยวน
ขณะที่เขากำลังคิดอยู่ พนักงานเสิร์ฟสาวตัวเล็กๆ ก็มาวางอาหารจานใหญ่บนโต๊ะลู่โจว
เมื่อลู่โจวมองของบนโต๊ะ คิ้วเขาก็กระตุก
คุณพระ เขาคิดว่ามันเป็นซี่โครงอย่างที่เห็นบนโทรทัศน์ เขาไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นซี่โครงทั้งดุ้นเลย! มันพอกินกันสามคนด้วยซ้ำ!
บนจานยังมีมันอบกับครีมซอส ถั่วเม็กซิกันและซุปลึกลับ
ฉันว่ามันค่อนข้างคุ้มกับราคา
แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่ของไว้กินคนเดียว
ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าทำไมคนอเมริกาถึงได้อ้วน
“คุณคะ คุณพอใจกับอาหารไหม?”
จู่ๆ ลู่โจวก็นึกได้ว่าเขายังไม่ได้ให้ทิปพนักงานเสิร์ฟ จากนั้นเขาก็หยิบเหรียญดอลล่าจากกระเป๋ามาสองเหรียญ
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นหน้าพนักงานเสิร์ฟ เขาก็เห็นว่าเธอดูคุ้นๆ
ลู่โจวเอาทิปใส่มือเธอแล้วถาม “คุณทำงานที่นี่?”
“ค่ะ” เวร่าพยักหน้าอย่างเขินๆ
“คุณไม่มีทุนการศึกษาเหรอ?”
ลู่โจวก็ทำงานพาร์ทไทม์เพื่อจ่ายค่าเรียนกับค่ากินค่าอยู่เหมือนกัน เขาจึงไม่ได้คิดว่ามันแปลก
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ เขาคิดว่าทุนการศึกษาของอเมริกาได้รับง่ายมาก โดยเฉพาะคนที่ได้เหรียญทอง IMO มันควรเป็นเรื่องง่ายที่เธอจะได้เรียนฟรีอยู่ฟรี
เวร่าไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับลู่โจวที่นี่ เธอยิ้มอย่างเก้ๆ กังๆ “มีทุนค่ะ…”
ถ้าเวร่าทำงานเก็บประสบการณ์หรือเก็บเงินเที่ยว เธอคงบอกเขาแน่นอน
ลู่โจวเห็นว่าเธอไม่ได้อธิบายเพิ่มเติม เขาจึงเดาว่าเหตุผลส่วนใหญ่ของเธอคงคล้ายกับเหตุผลของเขา
“คุณเป็นชาวรัสเซียหรือ?”
เวร่าส่ายหน้า
เมื่อลู่โจวเห็นสีหน้าอึดอัดของเธอ เขาจึงรู้สึกว่าเขาไม่ควรถาม
ทันใดนั้นเองเชฟในครัวก็ตะโกนชื่อเธอ
เวร่ารีบหันไปตอบอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็โค้งให้ลู่โจวก่อนจะรีบกลับไปในครัว
……………………………