จากปฏิกิริยาของเด็กสาว ลู่โจวพอเดาความจริงได้
เขาหั่นซี่โครงแล้วยัดเข้าปาก
“เด็กจน…”
โลกใบนี้ไม่ยุติธรรม
ลู่โจวโชคดีที่เกิดในประเทศที่สงบสุข
เขาพยายามยัดเนื้อเข้าปากเท่าที่จะทำได้ แต่เขาก็กินได้ไม่หมด สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้
เมื่อเขาเห็นซี่โครงที่เหลือ เขาก็พูดในใจ
ถ้าฉันรู้ว่ามันเยอะขนาดนี้ ฉันคงชวนหลัวเหวินเซวียนมาด้วยแล้ว
แต่รสชาติ…
มันไม่เลวเลย
ลู่โจวออกจากร้านบาร์บีคิวแล้วกลับไปโรงแรม
เมื่อเขากลับมาถึงโรงแรม เขาก็เริ่มจัดระเบียบโน้ตของวันนี้
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
เมื่อลู่โจวรับสาย เขาก็ได้ยินเสียงของศาสตราจารย์ถัง
“เธอจะกลับมาจีนตอนไหน? ปีนี้เธอจะยังกลับมาที่มหาวิทยาลัยจินหลิงไหม?”
ลู่โจวอึ้ง แต่เขาก็เข้าใจอย่างรวดเร็วว่าทำไมศาสตราจารย์ถังถึงถามเขาแบบนี้ “มันใกล้ปีใหม่แล้ว ผมวางแผนจะกลับบ้านเลยครับ”
ศาสตราจารย์ถังไม่ได้แปลกใจกับคำตอบของลู่โจว เขายิ้มแล้วกล่าว “เธอไม่กลับมางั้นเหรอ? ยังมีรางวัลรอเธออยู่นะ”
ลู่โจว “รางวัล?”
เฒ่าถังยิ้มแล้วกล่าว “เธอเป็นนักศึกษาปริญญาโทแล้วใช่ไหม? ดังนั้นเธอจะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบุคคลยอดเยี่ยมแห่งปี เธอไม่ต้องพรีเซนต์เหมือนปีที่แล้ว แค่มารับรางวัลบนเวทีก็พอ”
ลู่โจวยิ้มแล้วกล่าว “เอ่อ…ผมมอบให้กับคนที่ต้องการมันดีกว่า ผมเคยได้ไปแล้ว! ผมจะปล่อยให้คนอื่นมีโอกาสบ้าง”
รางวัลบุคคลยอดเยี่ยมแห่งปีของมหาวิทยาลัยจินหลิงมีค่ามากในจีน
มันเป็นเหมือนตัวการันตีได้งาน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทไหนก็อยากรับคนที่ได้รางวัลนี้
อย่างไรก็ตามเนื่องจากลู่โจวได้รางวัลโคลแล้ว เขาจึงไม่สนใจรางวัลเล็กน้อยแบบนี้
ศาสตราจารย์ถังถาม “เธอไม่อยากได้จริงๆ ?”
ลู่โจว “ครับ!”
เฒ่าถังยิ้มแล้วไม่ได้เซ้าซี้อะไรอีก กลับกันเขาพูดแทน “ตกลง…มหาวิทยาลัยจะได้ไม่ต้องมอบเงินล้านหยวนให้เธอ! เธอไม่อยากได้ก็ไม่เป็นไร”
“แค่กๆ !”
ลู่โจวเกือบสำลักน้ำลาย
เขากระแอมแล้วกล่าว “เท่าไหร่นะครับ?”
เฒ่าถังยิ้ม “เท่าไหร่หมายความว่าไง? เธอไม่อยากได้รางวัลหนิ”
ลู่โจวถาม “ไม่ใช่วางรางวัลมีเพียงหมื่นหยวนเหรอครับ? ทำไมถึงเป็นล้านหยวน?”
“คนอื่นได้หมื่นหยวน แต่เธอได้ล้านหยวน” ศาสตราจารย์ถังกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นการตัดสินใจของมหาวิทยาลัย อาจารย์ได้ยินจากคณบดีฉิน”
ลู่โจว “…”
เมื่อเห็นว่าลู่โจวเงียบ ศาสตราจารย์ถังก็ยิ้มแล้ววางขวดสุญญากาศลง
จากนั้นสักครู่เขาก็ถอนหายใจ “ไม่กี่ปีมานี้เธอเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่อย่างหนึ่งที่เธอไม่ได้เปลี่ยนไปเลยก็คือความรักเงินของเธอ! รักเงินไม่ใช่เรื่องแย่ เพราะเธอจะทำวิจัยโดยไม่มีเงินก็คงไม่ได้ แถมเธอจะหาแฟนไม่ได้เอา…แต่จำไว้ อย่าให้ความสำคัญกับมันมากไป ไม่งั้นสักวันหนึ่งเธอจะเสียใจเพราะมัน”
“ผมเข้าใจครับ!” ลู่โจวกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “งานประชุมจบวันที่ยี่สิบสามถ้ามหาวิทยาลัยต้องการผม ผมก็จะบินกลับไปทันที!”
ศาสตราจารย์ถังยิ้มแล้วส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ใช้เวลากับงานประชุมเถอะ พิธีมอบรางวัลบุคคลดีเด่นแห่งปีเลื่อนได้ อาจารย์แค่ไปคุยกับอาจารย์ใหญ่สวี่ก็จบแล้ว”
ลู่โจวยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นอาจารย์…เงินล้านหยวนยังอยู่ใช่ไหมครับ?”
“อยู่!”
สถานการณ์แตกต่างจากปีที่แล้ว
เมื่อชนะรางวัลคณิตศาสตร์เฉินเสิ่งเซินและรางวัลโคล ลู่โจวก็ไม่ได้รับรางวัลบุคคลดีเด่นแห่งปีเพื่อตัวเองแล้ว เขาทำไปเพื่อเป็นเกียรติยศของมหาวิทยาลัยจินหลิง!
เช่นเดียวกับไอน์สไตน์ที่ชนะรางวัลโนเบล มันไม่ได้เป็นเกียรติแก่ไอน์สไตน์เท่านั้น แต่มันยังเป็นเกียรติแก่รางวัลโนเบลเช่นกัน
เกียรติยศระดับมหาวิทยาลัยนั้นไม่ได้สำคัญกับลู่โจวนัก ดังนั้นเพื่อให้ลู่โจวกลับมามหาวิทยาลัย ทางมหาวิทยาลัยจึงเพิ่มจำนวนรางวัล’เล็กน้อย’
มหาวิทยาลัยถึงขั้นเต็มใจกำหนดวันพิธีมอบรางวัลให้เข้ากับกำหนดการของลู่โจว
…
ลู่โจวอยู่แคลิฟอร์เนียหนึ่งอาทิตย์ สองวันก่อนคริสต์มาส งานประชุมทางวิชาการก็จบลง
งานประชุมทางวิชาการนี้ก็มอบรางวัลผู้บรรยายรุ่นใหม่ยอดเยี่ยม
ผู้ชนะรางวัลเป็นศาสตราจารย์ฝรั่งเศสอายุราวสามสิบ การบรรยายของเขาคือความก้าวหน้าของสมการเชิงอนุพันธ์ย่อย
เนื่องจากตารางงานชนกัน ลู่โจวจึงพลาดบรรยายนี้ไป อย่างไรก็ตามลู่โจวก็ได้อ่านวิทยานิพนธ์ของเขา ระดับการบรรยายของเขาคู่ควรกับรางวัลนี้แล้ว
นอกจากนี้ยังมีรางวัลผู้บรรยายยอดเยี่ยมประเภทภาพรวมเช่นกัน
รางวัลนี้ถูกมอบให้ศาสตราจารย์เฮลฟ์ก็อตโดยไม่ต้องสงสัย
งานวิจัยข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคจะเป็นผลการวิจัยที่โดดเด่นที่สุดของปี
ถ้าผู้อาวุโสท่านนี้ไม่ได้รับรางวัลโคลไปแล้ว ลู่โจวอาจมีคู่แข่งด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามชายชราไม่ได้สนใจเรื่องรางวัลนัก เขาแค่พอใจที่ได้เห็นผู้คนยอมรับงานวิจัยของเขา
แน่นอน เขาก็พอใจกับเงินรางวัลสองหมื่นเหรียญเช่นกัน
หลังพิธีปิด ลู่โจวก็ซื้อตั๋วกลับบ้าน
ตอนแรกเขาวางแผนจะไปเปลี่ยนเครื่องที่เซี่ยงไฮ้ แล้วบินไปเจียงเฉิง
อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัยได้เชิญเขากลับไป แล้วเขาก็ยอมรับไปแล้ว
ขณะที่เขาใช้ความรู้ทางเรขาคณิตเพื่อเก็บกระเป๋า จู่ๆ เสี่ยวถงก็โทรหาเขาผ่านวีแชท
ลู่โจวรับสายแล้วเปิดโหมดลำโพง
เสี่ยวถงในชุดนอนกำลังอยู่บนเตียง เธอหาวออกมาแล้วถาม “พี่คะ พี่จะกลับมาตอนไหน?”
มันเป็นตอนกลางคืนในประเทศจีน และดูเหมือนเด็กน้อยคนนี้กำลังจะเข้านอนแล้ว
ลู่โจวห่อช็อกโกแลตที่ซื้อมาให้น้องสาวแล้วตอบอย่างลวกๆ “พี่กลับก่อนปีใหม่ ทำไมเหรอ?”
เสี่ยวถงกล่าว “มีข่าวดีสองอย่าง พี่อยากฟังเรื่องไหน?”
“น้องสอบประจำเดือนได้ที่หนึ่ง?”
เสี่ยวถงเบิกตากว้าง “พี่เป็นพระเจ้า!”
ไม่ว่ายังไงเสี่ยวถงก็เป็นน้องสาวของลู่โจว เธอจึงฉลาดได้ครึ่งของเขา
ลู่โจวยิ้ม “มันจะเป็นเรื่องอะไรไปได้? อีกอันล่ะ เป็นข่าวดีเรื่องอะไร?”
เสี่ยวถงยิ้ม “เฒ่าหม่าบอกให้หนูมาถามพี่ว่า พี่อยากไปกล่าวสุนทรพจน์ที่โรงเรียนเก่าไหม?”
ลู่โจวพูดไม่ออก “มันเป็นข่าวดีตรงไหน?”
เสี่ยวถง “ข่าวดีนะ! พี่ไม่ไปเหรอ?”
ลู่โจวขี้เกียจเกินกว่าที่จะไป แต่เขาก็ยังถาม “น้องอยากให้พี่ไปไหม?”
เสี่ยวถงแววตาเปล่งประกาย “อยากให้ไป!”
ลู่โจวถอนหายใจ “งั้นพี่ไปก็ได้”
เสี่ยวถงดีใจ “เย้! พี่ชาย พี่ดีที่สุด!”
ลู่โจวส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม
ทำไมเธอถึงอยากให้ฉันไปนะ?
ถ้าน้องฉันเอาแรงเหลือๆ นี้ไปใช้กับการเรียนล่ะก็นะ
…………………………………