สิ่งที่เรียกว่าทุนเฟลโลชิปนั้นต่างจากทุนสกอล่าชิป มันไม่เพียงแต่จะครอบคลุมค่าที่พักและค่าเล่าเรียนเท่านั้น แต่มันยังเป็นค่าใช้จ่ายชีวิตส่วนตัวของนักศึกษาด้วย
ดังนั้นการแข่งขันของทุนเฟลโลชิปจึงดุเดือดมาก นอกจากนี้มันยังต้องการเกรดการเรียนสูงมาก ผู้สมัครต่างชาติยังต้องแสดงใบรับรองผลการเรียน หนังสือแนะนำ และเรียงความส่วนตัวอีก
ต่างมหาวิทยาลัยและต่างบุคคลก็จะได้เงินรางวัลต่างกัน วิธีรับเงินจะแบ่งเป็นรายปี รายเดือน หรือทุกสามเดือน
รางวัลทุนเฟลโลชิปของพรินซ์ตันนั้นเป็นหนึ่งในทุนที่สมัครได้ยากที่สุด โดยเฉพาะตำแหน่งปริญญาเอก อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ชนะรางวัลโคลสาขาทฤษฎีจำนวน มันไม่ใช่ปัญหาเลย
ท้ายที่สุดแล้วตัวลู่โจวเองก็มีคุณสมบัติพอที่จะเขียนจดหมายแนะนำให้ผู้อื่น ไม่ต้องพูดถึงอาจารย์ที่ปรึกษาของเขาคือศาสตราจารย์เดอลีงย์
ทุนการศึกษาของลู่โจวรวมทั้งค่าเรียน ประกันสุขภาพ จ่ายครั้งเดียวเป็นเงินสี่หมื่นเหรียญดอลล่าสหรัฐ
เมื่อลู่โจวเปิดบัญชีธนาคาร เขาก็ขึ้นเช็ครางวัลโคลและเช็คทุนการศึกษาของพรินซ์ตัน เมื่อเขามองดูเลขศูนย์ในบัญชี เขาก็อดคิดไม่ได้
คนอื่นต้องจ่ายเงินมากมายเพื่อเรียนต่างประเทศ ส่วนฉันดันได้เงินตอนมาเรียนต่างประเทศ
ความรู้สึกนี้ค่อนข้างพิเศษเลย
…
หลังทำธุระที่ธนาคารเสร็จ ลู่โจวก็เริ่มชินกับชีวิตที่พรินซ์ตัน
สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี แรงกดดันด้านวิชาการจะสูงมาก แต่สำหรับนักศึกษาปริญญาเอก มันผ่อนคลายมากกว่ามาก โดยเฉพาะถ้าอาจารย์ที่ปรึกษาไม่เร่งคุณ
แม้ว่าศาสตราจารย์เดอลีงย์จะจัดงานสอนให้ลู่โจว แต่คาบแรกของลู่โจวเป็นตอนเดือนเมษา มันยังเหลือเวลาอีกเดือน ลู่โจวยังมีเวลาไปทำใบขับขี่มาด้วยซ้ำ
นอกจากศึกษาข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค งานของเขาส่วนใหญ่เป็นการศึกษาเรขาคณิตเชิงพีชคณิต
สิ่งที่ทำให้ลู่โจวมีความสุขก็คือเดอลีงย์มีต้นฉบับดั้งเดิมผลงานของก็อตเทนดิก Esquisse d’un Programme ผลงานเหล่านี้ได้รับการแปลภาษาเป็นภาษาอังกฤษโดยนักศึกษาชาวฝรั่งเศส
Esquisse d’un Programme ของก็อตเทนดิกหลายจุดยังคงไม่เข้าใจอย่างเต็มที่จนถึงทุกวันนี้
ลู่โจวไม่เคยไปฝรั่งเศสเพื่อค้นหาผลงานของก็อตเทนดิกที่เกี่ยวกับเรขาคณิตเชิงพีชคณิตสมัยใหม่ อย่างแรกเลยเพราะเขาไม่เข้าใจภาษาฝรั่งเศส อย่างที่สองเขาไม่ได้ศึกษาผลงานของก็อตเทนดิกอย่างลึกซึ้ง
Esquisse d’un Programme ฉบับแปลอังกฤษได้ช่วยเหลือลู่โจวอย่างมาก ควบคู่ไปกับการชี้แนะส่วนตัวจากศาสตราจารย์เดอลีงย์ มันจึงทำให้เขาเข้าใจได้ง่ายขึ้น
การมีอาจารย์ที่ปรึกษาดีช่วยลดเวลาไปมากจริงๆ นั่นแหละ
นอกจากศึกษาเรขาคณิตเชิงพีชคณิตภายใต้การแนะนำของศาสตราจารย์เดอลีงย์ ลู่โจวก็ใช้เวลาว่างทั้งหมดไปกับข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่จู่ๆ เขาก็ได้แรงบันดาลใจแล้วไม่ออกจากห้องทั้งวัน เขาขังตัวเองอยู่ในห้องนอนเล็กๆ และคิดถึงการสร้างกรอบแนวคิดทฤษฎีที่สมบูรณ์แบบ รวมถึงสร้างวิธีสร้างองค์ประกอบกรุปขึ้นมาใหม่เพื่อแก้ข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค
ส่งผลให้เขาพลาดคลาสที่เขาควรไปสอน
ด้วยเหตุนี้ศาสตราจารย์เดอลีงย์จึงโทรหาเขาแล้วถามเขาว่ามันเกิดอะไรขึ้น
อย่างไรก็ตามหลังจากศาสตราจารย์เดอลีงย์รู้ว่าลู่โจวไม่ได้ไปเที่ยวนิวยอร์กหรือฟิลาเดลเฟีย แต่กำลังวิจัยข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคอยู่ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับการขาดงานของลู่โจว
“การวิจัยคณิตศาสตร์จำเป็นต้องทำงานหนัก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอต้องขังตัวเอง ถ้าเธอรู้สึกว่างานวิจัยมาถึงคอขวด ฉันขอแนะนำให้เธอพักช่วงสั้นๆ ไปเล่นฟุตบอลก็ได้หรือจะไปดูหนังก็ได้…เธอต้องค้นหาแรงบันดาลใจแทนที่จะรอให้แรงบันดาลใจมาค้นหาเธอ”
ลู่โจว “ผมจะเก็บคำแนะนำของศาสตราจารย์มาพิจารณา…แล้วผมหยุดได้ไหม?”
เดอลีงย์ “นานเท่าไหร่?”
ลู่โจวกล่าว “สองสัปดาห์”
เดอลีงย์ “ไม่จำเป็นต้องถามฉัน เธอจัดการเวลาตัวเองได้เลย ถ้าผ่านไปปีหนึ่งแล้วยังไม่มีความคืบหน้า ฉันจะมอบงานอื่นให้ทำ เธอมีช่วงปีทองของการวิจัยคณิตศาสตร์แค่ไม่กี่ปีเท่านั้น ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเสียเวลามากกว่าหนึ่งปีกับแค่ปัญหาเดียว”
จากนั้นศาสตราจารย์ก็วางสาย
ลู่โจววางโทรศัพท์ลงแล้วเผยรอยยิ้มออกมาขณะควงปากกาในมือเล่น
ฉันมีเวลาปีเดียวเท่านั้น?
แม้ศาสตราจารย์เดอลีงย์จะไม่ได้พูดออกมา แต่เขาก็ไม่คิดว่าลู่โจวจะทำงานนี้สำเร็จ
อย่างไรก็ตามนี่หมายความว่าศาสตราจารย์ใส่ใจลู่โจว ถ้าเป็นคนอื่น ต่อให้เขาเปลี่ยนไปเป็นนักแสดงแทน ศาสตราจารย์อาวุโสท่านนี้ก็คงไม่พูดอะไรมาก
“ฉันจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ไม่ได้” ลู่โจวกล่าวแล้วส่ายหน้า เขาหยิบปากกาที่ตกลงพื้นแล้วเริ่มเขียนสูตรคำนวณบนกระดาษ
…
แม้เขาจะบอกว่าเขาจะไม่ยอมเสียเวลาไปมากกว่านี้ แต่การเสียเวลาก็เป็นนิสัยเขาไปแล้ว
อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่คิดว่านิสัยของตนมีอะไรผิด
ในโลกคณิตศาสตร์ มีนักคณิตศาสตร์อยู่หลายประเภท บางคนก็เป็นเหมือนเฉินจิ่งรุ่นที่เก็บตัวมากและไม่ยอมรับรางวัลใดๆ หรือคนอย่างคอลโมโกรอฟที่ชอบชกมวยและกิจกรรมกลางแจ้ง
ลู่โจวรู้สึกว่าเขาไม่ใช่นักวิจัยที่เก็บตัว เพราะเขาจะไปฟังบรรยายเมื่อจำเป็น อย่างไรก็ตามเวลาส่วนใหญ่ เขาชอบวิจัยคนเดียว
ไม่กี่วันต่อมา
มันเป็นเช้าวันเสาร์ที่สว่างสดใส
ลู่โจวไม่รู้ว่าเขาผล็อยหลับคาโต๊ะได้ไง เขาตื่นขึ้นมาแล้วบิดขี้เกียจ
“บางทีฉันควรจ้างแม่บ้าน…”
ฉันสงสัยว่าหุ่นยนต์แม่บ้านในซิลิคอนแวลลีย์จะเป็นยังไง
ตามหลักทฤษฎี ลู่โจวสามารถมอบร่างหุ่นยนต์ให้เสี่ยวไอ บางทีปัญญาอ่อนประดิษฐ์อาจจะมีประโยชน์ในที่สุด
อย่างการเอาขยะไปทิ้ง
เขาไม่ได้หวังสูงกับงานที่ซับซ้อนกว่านี้
ลู่โจวลูบหัวแล้วมองแผ่นกระดาษเป็นสิบๆที่กระจายเต็มโต๊ะ เขาหยิบแผ่นที่ไร้ประโยชน์ขึ้นมาขยำเป็นลูกบอลแล้วทิ้งลงถังขยะ
เขารู้สึกหิวเล็กน้อย เขาจึงลุกขึ้นไปห้องครัว
เขาหยิบเบคอนกับผักออกมาจากตู้เย็น หลังทอดเบคอน เขาก็หยิบขนมปังออกมาสองแผ่นแล้วเอาใส่เครื่องปิ้งขนมปัง
น่าเสียดายที่การทำอาหารไม่ใช่เรื่องปกติในอเมริกา บางครั้งพวกเขาก็จะมีปาร์ตี้บาร์บีคิวกลางแจ้ง เนื่องจากครัวเล็กๆ ของลู่โจวไม่มีเตาแก๊ส ทักษะทำอาหารของเขาจึงไม่ได้ใช้ประโยชน์
ลู่โจวถามผู้จัดการหอพักว่าเขาติดเตาแก๊สได้ไหม แต่เขาก็ถูกปฏิเสธด้วยสายตาแปลกๆ
อย่างไรก็ตามมันก็สมเหตุสมผล หอพักเขาอายุมากกว่า 90 ปี มีนักวิชาการที่มีชื่อเสียงหลายคนอาศัยอยู่ แม้แต่บ้านของไอสไตน์ก็อยู่ใกล้ๆ
ถ้าเขาทำให้เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ มันคงเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่
ลู่โจวเข้าใจการตัดสินของผู้จัดการหอพัก
ไม่ว่ายังไงส่วนใหญ่เขาก็ไปกินที่ชมรม ที่ห้องเขาจะทำแค่อาหารเช้าเท่านั้น
หลังทานเสร็จ ลู่โจวก็ชงกาแฟให้ตัวเอง เขายืนดื่มกาแฟอย่างช้าๆ อยู่ข้างตู้เย็นและจ้องมองเข็มนาฬิกาเดินขณะจัดระเบียบความคิดตัวเอง
ทันใดนั้นหลัวเหวินเซวียนก็โทรมา
“เฮ้ วันนี้นายบอกว่าเราจะไปดูรถกันไม่ใช่เหรอ? ฉันอยู่หน้าประตูมหาวิทยาลัยแล้ว นายจะไปตอนไหน? อย่าบอกฉันนะว่านายยังอยู่บนเตียง?”
ลู่โจวตระหนักว่าเขาขังตัวเองอยู่ในห้องนานเกินไปแล้ว
………………………………..