ลู่โจวทำธุระส่วนตัวเสร็จ เขาก็ไปพบหลัวเหวินเซวียนที่หน้าประตู เมื่อพวกเขามาถึงร้านตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในฟิลาเดลเฟีย มันก็สิบโมงแล้ว
มันเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้นร้านจึงมีคนอยู่พลุกพล่าน
หลัวเหวินเซวียนลงจากรถแล้วหันมาคุยกับลู่โจว
“ฉันมาซื้อรถที่นี่แหละ ฉันได้ยินว่าเจ้าของเป็นคนรวยในตะวันออกกลาง แถมหลังการขายยังปรับเปลี่ยนเครื่องรถได้อย่างประหยัด แม้แต่ชิ้นส่วนยังปรับเปลี่ยนเองได้”
ลู่โจวอดถามไม่ได้ “เพื่อนเหรอ?”
หลัวเหวินเซวียนยิ้ม “เป็นไปได้ยังไง”
ลู่โจว “…”
ลู่โจวคิดว่าเขาจะได้ส่วนลดเสียอีก แต่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้
หลัวเหวินเซวียนกระแอม “นายชอบรถแบบไหน? ฉันจะได้แนะนำให้นาย รถที่นี่ค่อนข้างถูก โดยเฉพาะเมื่อมีส่วนลด รถระดับไฮเอนด์ประมาณหกหมื่นเหรียญเอง ฉันขอแนะนำปอร์เช่…”
เมื่อลู่โจวได้ยินแบบนั้น เขาก็ส่ายหน้า “ผมไม่อาจใช้เงินทั้งหมดกับการซื้อรถ ผมเอาแค่ขับได้ก็พอแล้ว มีถูกกว่านี้ไหม?”
หลัวเหวินเซวียนกล่าว “รถญี่ปุ่นกับรถมือสองทุกคันถูกมาก…แค่สามพันเหรียญนายก็ซื้อได้แล้ว แต่พูดตามตรงฉันไม่แนะนำให้ซื้อนอกจากว่านายอยากเสียเวลาซ่อม”
ลู่โจว “ผมไม่เอาแบบนั้น…”
แม้เขาจะไม่อยากใช้เงินกับรถมากเกินไป แต่เขาก็ไม่เอาความปลอดภัยของตัวเองมาเสี่ยงกับรถถูกๆ
เมื่อพิจารณาว่าเขายังเป็นมือใหม่หัดขับ เขาเอารถที่ปลอดภัยหน่อยดีกว่า
ลู่โจวเดินไปรอบๆ ไม่ช้าสายตาเขาก็ตกลงบนร่างที่ดูแข็งแรงใหญ่โต
สายตาเขายังคงจ้องมองมันไม่เบี่ยงไปไหน
หลัวเหวินเซวียนมองไปทางเดียวกับลู่โจวแล้วอึ้ง
“ฟอร์ด เอ็กพลอเลอร์ เอสยูวี เทอร์โบชาร์จสี่สูบ 2.3T รถออฟโรดขนาดกลาง…อย่าบอกฉันนะว่านายจะซื้อคันนี้?”
ลู่โจวถามทันที “มันเท่าไหร่เหรอครับ?”
“ประมาณสามหมื่น แต่ฉันไม่แนะนำ สามหมื่นซื้อเชฟโรเลตคาเมโล่ได้เลยนะ เพิ่มอีกสองหมื่น นายได้ปอร์เช่ คาเยนน์เลย แล้ว…” หลัวเหวินเซวียนหยุดชั่วครู่
ลู่โจวถาม “แล้วอะไรครับ?”
หลัวเหวินเซวียนพูดอย่างอายๆ “ไม่มีอะไร ฉันแคคิดว่ามันไม่เข้าสไตล์ของนาย…”
ลู่โจว “…”
บัดซบ!
ไม่เข้ากับสไตล์ฉันหมายความว่าไง!
มันไม่เข้ายังไง?
สุดท้ายลู่โจวก็ยืนยันตัวเลือกของตัวเองแล้วซื้อ SUV คันใหญ่นี้
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือสามหมื่นหนึ่งพันหนึ่งร้อยเจ็ดเหรียญ
หลังชำระเงินสด ลู่โจวก็รับกุญแจรถจากมือตัวแทน เขาลากหลัวเหวินเซวียนขึ้นรถแล้วลองขับอย่างตื่นเต้น
ลู่โจวได้ใบขับขี่ของนิวเจอร์ซีย์มาพักใหญ่แล้ว เขาได้ขับจริงอย่างเป็นทางการเสียที
หลังขับรถพักหนึ่ง ลู่โจวก็มาจอดรถแล้วให้หลัวเหวินเซวียนลง
เมื่อลู่โจวลงรถ เขาก็กล่าว “วันนี้ขอบคุณครับ! รุ่นพี่กลับพรินซ์ตันเถอะ ผมยังมีเรื่องต้องทำ”
หลัวเหวินเซวียนถาม “นายขับรถเองไม่เป็นไรแน่นะ?”
ลู่โจวยิ้ม “ผมจำทางได้ ยังไงผมก็มี GPS”
หลัวเหวินเซวียนกล่าว “ตกลง ไว้เจอกัน”
ลู่โจว “ครับ ไว้เจอกัน ไว้ผมจะหาวันพารุ่นพี่ไปเลี้ยงข้าว”
หลัวเหวินเซวียนกล่าว “ไม่จำเป็นหรอก แค่แนะนำให้ฉันรู้จักสาวๆสวยๆจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียก็พอแล้ว” จากนั้นเขาก็ขับรถจากไป
ลู่โจวมองไฟท้ายรถที่ลับสายตาไปแล้วส่ายหน้า
ชายคนนี้ฉลาด
เขาเดาได้ว่าฉันกำลังจะไปไหน
แต่เขากำลังเข้าใจอะไรผิดอยู่แน่นอน
…
ตอนที่ลู่โจวมาถึงฟิลาเดลเฟียครั้งแรก เขาสัญญากับเฉินยู่ซานว่าจะพาเธอไปเลี้ยงข้าว
ตอนนี้เขามีทั้งใบขับขี่มีทั้งรถ เขาจึงไม่มีข้ออ้างไม่ไปพบเธออีก
ลู่โจวใช้ GPS ขับไปหอพักโรงเรียนวอร์ตัน เมื่อเขาหาที่จอดรถได้ เขาก็โทรหาเฉินยู่ซาน
“รุ่นน้องตัวน้อย ในที่สุดนายก็โทรมาหาฉัน”
ลู่โจวไม่รู้ว่าทำไมน้ำเสียงเธอถึงฟังดูเคืองๆเล็กน้อย
ลู่โจวแสร้งทำเป็นไม่สังเกต “คุณอยู่ไหน? ผมอยู่ที่ทางเข้าหอพักของวอร์ตันแล้ว…แต่ผมไม่รู้ว่าคุณพักอยู่นี่ไหม”
“อะไรนะ? นายมามหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียแล้ว?” เฉินยู่ซานกล่าวด้วยน้ำเสียงแปลกใจ “ดูข้างนอก มีร้านกาแฟบลูไอซ์แลนด์อยู่ใกล้ๆ ใช่ไหม?”
ลู่โจวมองออกไปนอกหน้าต่างรถแล้วกล่าว “ผมคิดว่ามีนะ”
“ใช่ นายมาถูกที่แล้ว รอแปป ฉันจะลงไปเดี๋ยวนี้”
เฉินยู่ซานวางสาย
เธอพูดว่าจะมาเดี๋ยวนี้ แต่ลู่โจวก็รออยู่ในรถพักหนึ่ง เขากำลังจะผล็อยหลับ แต่แล้วในที่สุดเขาก็เห็นร่างที่คุ้นเคยเดินออกมาจากทางเข้าหอพัก
ตอนนี้ก็เดือนมีนาแล้ว สภาพอากาศจึงดีขึ้นมาก เฉินยู่ซานสวมชุดเดรสเปิดไหล่ข้างเดียว เธอรู้สึกอ่อนกว่าตอนที่เขาพบตอนมาฟิลาเดลเฟียครั้งแรกเสียอีก
โดยเฉพาะหน้าม้าของเธอ มันทำให้ลู่โจวรู้สึกเหมือนมันเป็นช่วงสองปีก่อนตอนที่เขาเจอเธอครั้งแรกที่โรงอาหาร เธอก็สวมชุดแนวนี้
เฉินยู่ซานเปิดประตูแล้วนั่งข้างคนขับ จากนั้นเธอก็มองไปรอบๆ อย่างสงสัย
“นายซื้อรถใหม่เหรอ?”
ลู่โจว “ครับ ผมเพิ่งซื้อมา เราไปกินไหนดี?”
เฉินยู่ซานยื่นมือออกมา “ฉันรู้จักร้านดีๆ ใกล้ๆ เอามือถือมาสิ ฉันจะกด GPS ให้”
…
พวกเขาไปที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนใกล้ๆ
ลู่โจวจอดรถใกล้ร้านอาหารแล้วเดินเข้าไปพร้อมกับเฉินยู่ซาน
ทั้งสองได้โต๊ะแล้วสั่งอาหาร
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ ทั้งสองก็ทานไปด้วยคุยกันไปด้วย
ท้ายที่สุดแล้วทั้งสองก็เป็นสหายที่เคยนั่งด้วยกันในห้องสมุด ตอนนี้พวกเขามาพบกันที่อีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิก พวกเขาย่อมมีเรื่องให้คุยกันมากมาย
“คุณยุ่งมากเลยเหรอ?”
ลู่โจวพยักหน้า “ครับ ค่อนข้างยุ่งเลย ผมเพิ่งวิจัยข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค แต่ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก”
เฉินยู่ซานมองลู่โจวด้วยความนับถือ “นายสุดยอด…”
แม้เธอจะไม่ได้ทำวิจัยเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ แต่เธอก็รู้จักข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค
ลู่โจวเขิน เขายิ้มแล้วเปลี่ยนหัวข้อ
“ไม่เท่าไหร่หรอก…แล้วคุณล่ะ?”
“ฉัน? ฉันก็ค่อนข้างยุ่งเหมือนกัน” เฉินยู่ซานกล่าวกล่าวขณะเล่นหลอดดูด จากนั้นเธอก็ถอนหายใจแล้วกล่าว “อาจารย์ที่ปรึกษาฉันมีโปรเจกต์วอลมาร์ตมันเกี่ยวกับโปรแกรมบริหารและฝึกอบรบของพนักงานอาวุโสในสาขาอินเดีย ฉันต้องอ่านงานวิจัยยี่สิบหน้าทุกวันและเขียนรายงานทุกอาทิตย์ พวกเขาทำให้ฉันทำงานหนักมาก”
เฉินยู่ซานแลบลิ้นออกมาอย่างซุกซน
เธอน่ารักเหมือนลูกหมาตัวน้อยๆ…แม้ว่าจะเอาเธอไปเทียบกับลูกหมาจะแย่ไปหน่อยก็ตาม
ลู่โจวไล่ความคิดสกปรกออกไปแล้วกล่าว “โปรเจกต์วอลมาร์ต อาจารย์ที่ปรึกษาของคุณต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่แน่”
แน่นอน ที่จริงเขากำลังคิดถึงเรื่องเงินที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือบริษัทใหญ่ๆ
“ไม่หรอก ไม่น่าประทับใจเท่านายหรอก คุณนักคณิตศาสตร์” เฉินยู่ซานกล่าวขณะมองดูลู่โจวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเธอก็เปลี่ยนหัวข้อ “จะว่าไป ทำไมนายถึงซื้อรถ SUV ล่ะ?”
“ไม่รู้สิ ผมแค่ชอบ มันใหญ่ แข็งแรง ทนทาน เซ็…ปลอดภัย” ลู่โจวกล่าวแล้วกระแอม “มันเข้ากับผู้ชายอย่างผม”
เกือบแล้ว! ฉันเกือบพูดว่าเซ็กซี่แล้ว ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันรู้ตัวทัน
เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่เมื่อเขาพูดประโยคสุดท้าย เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะ
“อุ๊บ…”
ลู่โจวงุนงง “ทำไม?”
เฉินยู่ซานตบต้นขาหัวเราะ “ไม่มีอะไร รุ่นน้องตัวน้อย…ขอแค่นายมีความสุขก็พอแล้ว”
ลู่โจว “???”
เมื่อเฉินยู่ซานหัวเราะเสร็จ เธอก็มองเขาแล้วหยอกล้อ “อีกอย่าง ฉันคิดว่านายเหมาะกับพวกมินิคูเปอร์มากกว่า…มันเป็นที่นิยมมาก”
เอิ่ม…
คุณกำลังบอกว่าผมรสนิยมดีเหรอ?
ขอบคุณที่ชม
ลู่โจวยิ้มเช่นกัน เพราะเขาไม่รู้จะพูดอะไร
………………………………