ถ้าแนวคิดหลักของวิธีสร้างองค์ประกอบกรุปของลู่โจวในส่วนการประเมินส่วนที่ไม่เหลือของโมดูลาร์จำนวนเฉพาะมาจากวิธีตะแกรง งั้นการวิเคราะห์ฟูเรียร์ของฟังก์ชันบนเส้นรอบวงในวิทยานิพนธ์ของเฮลฟ์ก็อตก็คือหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่เหลืออยู่ใน’แนวคิดหลัก’ของเขา
ลู่โจวทำงานนี้เสร็จไปเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่แคลิฟอร์เนียแล้ว ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่เขาต้องการเป็นแรงบันดาลใจ
อย่างไรก็ตามปริศนาชิ้นสุดท้ายนี้อยู่ในมือของลู่โจวแล้ว
ลู่โจวไม่ได้รอให้การบรรยายของชาร์ลจบ เขาเก็บของแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว
ศาสตราจารย์บนเวทีสังเกตเห็นลู่โจวเดินไป อย่างไรก็ตามชาร์ลก็แค่เผยรอยยิ้มออกมาและแสร้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาพูดเรื่องเกี่ยวกับทฤษฎีจำนวนด้วยน้ำเสียงช้าๆ
ลู่โจวกลับมาที่หอ เขาหยิบปากกาออกมาก่อนจะเริ่มเขียนบนกระดาษ
ความคิดของเขาเชี่ยวกรากปานน้ำตก มันหยุดไม่ได้!
เขาเขียนไปห้าแผ่น…หกแผ่น…เจ็ดแผ่น…
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
นาฬิกาบนผนังเปลี่ยนจากเที่ยง บ่ายแล้วเป็นกลางคืน
ในที่สุดลู่โจวก็เขียนไปสิบหกแผ่น ในที่สุดเขาก็หยุดปากกาแล้วมองผลงานวิจัยของเขา
“…ด้วยการใช้ทฤษฎีของบอมเบเออร์และคำนวณที่เหลืออีกเล็กน้อย…เสร็จแล้ว!”
ลู่โจวสูดหายใจลึกๆแล้วเอนตัวพิงเก้าอี้ ในที่สุดบนใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้ม
ยิ่งกว่านั้นก็คือการแก้ข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค
จากนี้ไป ‘เรือ’ของเขากำลังจะไปดินแดนที่ไม่เป็นที่รู้จัก
อย่างไรก็ตามเขาเชื่อว่าเขาทำได้
นี่เป็นความเชื่อที่ไม่มีเหตุผล แต่ความเชื่อนี้เป็นเหมือนกับสิ่งที่ แอนดรูว์ ไวล์ส รู้สึกทันทีหลังเห็นการพิสูจน์ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา
เมื่อเครื่องมือถูกสร้างขึ้นมา ภารกิจของการใช้เครื่องมือนั้นเป็นเรื่องง่ายดายมาก
การรวบรวมการวิจัยกว่าสองศตวรรษ การศึกษาข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคมาหลายรุ่น ในที่สุดมันก็มาถึงขั้นตอนนี้แล้ว
แทนที่จะหยิ่งผยอง ลู่โจวรู้สึกเป็นเกียรติอยู่ในใจเท่านั้น
ลู่โจวหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วส่งข้อความหาเดอลีงย์และเพื่อนๆที่อยู่ในพรินซ์ตัน เขาบอกไปว่าโปรเจกต์วิจัยของเขามาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว เขาขอขังตัวเองพักหนึ่ง
จากนั้นเขาก็ปิดโทรศัพท์แล้วขังตัวเองอยู่ในห้องเล็กๆของตน…
ถ้ามันไปด้วยสวย มันน่าจะใช้เวลาไม่นานนัก
ไม่งั้น…
เขาจะไม่ออกจากห้อง!
…
การออกแบบของสถาบันขั้นสูงของพรินซ์ตันนั้นน่าสนใจยิ่ง โรงอาหารและห้องบรรยายถูกออกแบบร่วมกัน ระหว่างบรรยาย ผู้คนก็จะสามารถหยุดพักแล้วมาทานอาหารที่โรงอาหาร
นอกจากนี้ยังมีเครื่องชงกาแฟที่ใช้ได้ฟรี
เดอลีงย์นั่งอยู่มุมโรงอาหาร เขากำลังถือวิทยานิพนธ์
ในฐานะบรรณาธิการทางวิชาการของคณิตศาสตร์ประจำปี และ Mathematics Chronicle เขามักจะมีเวลาว่างน้อยมาก ดังนั้นเขาจึงใช้ช่วงพักกลางวันมาตรวจสอบวิทยานิพนธ์
เว้นแต่ว่าจะเป็นวิทยานิพนธ์ที่น่าสนใจเป็นพิเศษ เขาจะไม่นำกลับไปที่ออฟฟิศ
ที่นั่งอยู่ตรงข้ามเดอลีงย์คือเอ็ดเวิร์ด วิตเตน เอ็ดเวิร์ดถามด้วยรอยยิ้ม “ทำไมช่วงนี้ฉันไม่เห็นศิษย์ใหม่ของคุณเลยล่ะ?”
ในหมู่นักศึกษาปริญญาเอกในพรินซ์ตัน วิตเตนนับถือลู่โจวมากสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังพรสวรรค์ด้านฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์ของลู่โจวถูกใช้กับการรายงานของ CERN วิตเตนเหมือนเห็นตัวเองในตัวลู่โจว
วิตเตนอยากคุยเรื่องลักษณะสูงสุด 750 GeV กับชายหนุ่มมาเสมอ แต่น่าเสียดายเขาไม่เคยมีโอกาสเลย
ศาสตราจารย์เดอลีงย์กำลังอ่านวิทยานิพนธ์ เขาตอบไปง่ายๆ “เขาขอหยุด”
วิตเตน “หยุด?”
“ใช่” เดอลีงย์กล่าวพร้อมกับพยักหน้า “เขากำลังวิจัยข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค ฉันเลยอนุญาตให้เขาหยุดสองอาทิตย์”
“ข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค…” วิตเตนกล่าว เขาประหลาดใจเล็กน้อย “นี่เป็นข้อคาดการณ์ที่น่าสนใจ ฉันคิดว่าเขาศึกษาข้อคาดการณ์มาตรฐานกับกลุ่มวิจัยของคุณเสียอีก”
เดอลีงย์ทำเครื่องหมายบนวิทยานิพนธ์ขณะพูดไปด้วย “ฉันเชิญเขาแล้ว แต่เขาไม่สนใจ ฉันเลยไม่เซ้าซี้ สำหรับอัจฉริยะอย่างเขา ปล่อยให้เขาเป็นอิสระดีกว่ามาฝืนให้เขาทำอะไร”
ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์บนโต๊ะก็สั่น
เดอลีงย์อ่านข้อความแล้วคิ้วกระตุก
[เรียนศาสตราจารย์เดอลีงย์ ผม ลู่โจว เรื่องเป็นแบบนี้ งานวิจัยของผมมาถึงขั้นตอนสำคัญแล้ว ผมขอปิดตัวสักระยะ มันอาจใช้เวลาเป็นเดือน หรือ…ผมก็ไม่แน่ใจ สั้นๆก็คือ ก่อนสิ้นปี ผมจะมอบคำอธิบายที่น่าพอใจแก่ศาสตราจารย์]
แม้เอ็ดเวิร์ดจะไม่เห็นข้อความบนโทรศัพท์ แต่เขาก็บอกได้จากสีหน้าที่เปลี่ยนไปของสหายเฒ่า เขาจึงถาม “คุณคิดว่าเขาจะสำเร็จไหม?”
ศาสตราจารย์เดอลีงย์วางโทรศัพท์ลง เขาไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
หลังคิดอยู่ชั่วครู่ เขาก็ถอนหายใจแล้วส่ายหน้า
“ฉันไม่รู้ ฉันแค่ไม่เห็นด้วยกับวิธีวิจัยของเขา การปิดตัวไม่ใช่วิธีวิจัยที่ดี เพราะเขาอาจทำให้ตัวเองติดทางตันได้ ถ้าเขาไปงานประชุม ฉันจะสนับสนุนเขา ฉันอาจให้การสนับสนุนทางการเงินเขาด้วย แต่ตอนนี้ จากที่ฉันรู้ เขาคงขังตัวเองอยู่ในห้องแล้ว”
วิตเตนยิ้มแล้วกล่าว “แต่คุณก็ยังสนับสนุนการตัดสินใจของเขา?”
“ใช่ ฉันให้เวลาเขาหนึ่งปี” เดอลีงย์กล่าว เขายักไหล่แล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ “เพราะฉันอาจผิดก็ได้ การค้นพบข้อคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่แฝดของเขาที่พรินซ์ตันทำให้ฉันประหลาดใจจริงๆ มันกระทั่งสร้างภาพลวงตาให้ฉัน…”
วิตเตน “ภาพลวงตา?”
เดอลีงย์เงียบชั่วครู่ “ฉันรู้สึกเหมือนเห็นก็อตเทนดิ๊ก”
เอ็ดเวิร์ด วิตเตนตะลึง
ก็อตเทนดิ๊ก!
บิดาแห่งเรขาคณิตเชิงพีชคณิตสมัยใหม่ สังฆราชแห่งคณิตศาสตร์สมัยใหม่!
มีหลายคนชอบเทียบนักคณิตศาสตร์รุ่นใหม่กับฟาลติ้ง หรือแม้แต่จีน-ปิแอร์ เซิร์ล มีแค่น้อยนิดเท่านั้นที่จะเอานักคณิตศาสตร์ไปเทียบกับก็อตเทนดิ๊ก เพราะมันเกินจริงเกินไป
มีนักคณิตศาสตร์รุ่นใหม่ไม่เกินห้าคนที่เอามาเทียบกับก็อตเทนดิ๊กได้
หลังจากนั้นสักครู่ วิตเตนก็กล่าวช้าๆ “นั่นมัน…น่าสนใจจริงๆ”
……………………………..