วอชิงตันไทม์ไม่ได้เป็นสื่อกระแสหลัก แต่มันกำลังเดือดอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ตแล้ว
จะมีหัวข้ออะไรที่สะดุดตามากกว่า’การเหยียดสีผิว’อีก?
มีการสนทนาอยู่ทุกที่บนเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์
นักศึกษาชาวจีนและกลุ่มชาวจีนย่อมอยู่ข้างเดียวกับลู่โจว ในขณะที่กลุ่มคนผิวดำและกลุ่มคนผิวขาวที่เคลื่อนไหวให้กลุ่มคนผิวดำต่างเปี่ยมไปด้วยความไม่พอใจ
อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่ได้เดือดร้อนอะไรนัก
เขาไม่ได้เล่นเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ แถมเขายังยุ่งอยู่กับเรื่องของตน เขาไม่มีเวลามาสนใจคอมเมนต์บนอินเทอร์เน็ตหรอก
อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นอย่างที่เขาพูดไว้ เนื่องจากอีกฝ่ายเชิญเขา เขาก็ต้องไป
ไม่นานมันก็ถึงวันเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
ยังมีเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก่อนการบรรยายจะเริ่ม เมื่อลู่โจวมาถึงจัตุรัสพาลเมอร์ เขาก็ตั้งใจจะหาอะไรกินสักหน่อย
มันคงสายเกินไปถ้าจะไปไอวี่คลับ เพราะเขาเดินทางจากวิทยาเขตพรินซ์ตันมาครึ่งทางแล้ว
ลู่โจวเจอร้านเบอร์เกอร์เท็กซัสใกล้กับจัตุรัสพาลเมอร์ เขาผลักประตูแล้วเดินเข้าไปในร้าน แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงโต้แย้งจากด้านใน
เขาเห็นชายผิวดำยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ กำลังพูดด้วยน้ำเสียงอาวุโสกว่า “เซตเบอร์เกอร์ไก่ราคาหกเหรียญ เซตเบอร์เกอร์เนื้อเท็กซัสเจ็ดเหรียญ ราคาเบอร์เกอร์ของทั้งสองเซ็ตคือสามจุดห้าเหรียญกับสี่เหรียญ และฉันสังเกตเห็นว่าโค้กในเมนูคือหนึ่งเหรียญ”
“ในเซ็ตประกอบด้วยบาร์บีคิวเคบับกับโค้ก ราคาเคบับของทั้งสองเซ็ตคือหนึ่งจุดห้าเหรียญกับสองเหรียญ คุณอธิบายได้ไหม ทำไมถึงมีจำนวนจินตภาพปรากฏอยู่ในเมนูของคุณ?”
ชายผิวขาวยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ เขาแคะหูแล้วกล่าวอย่างหมดความอดทน “แล้วไง?”
“นี่มันยอมรับไม่ได้” ศาสตราจารย์อีนอชกล่าวอย่างมั่นใจ เขากล่าวเสริม “ในไนจีเรีย เด็กมัธยมก็แก้สมการนี้ได้ คุณขายเบอร์เกอร์ที่พรินซ์ตัน คุณไม่รู้เรื่องนี้ได้ไง?”
เด็กบ้านนอกหลังเคาน์เตอร์รู้สึกรำคาญอย่างเห็นได้ชัด “ฉันไม่สนตัวเลขของคุณ คุณจะซื้อไหม? ไม่ซื้อก็ออกไป”
แม้ว่าเด็กบ้านนอกอยากบอกให้อีกฝ่ายไสหัวไป แต่เขาก็ข่มกลั้นความโกรธเอาไว้
อีนอชมองไอ้เด็กบ้านนอกตรงหน้าแล้วอดรู้สึกเหนือกว่าไม่ได้
เขารู้สึกถึงความเหนือกว่าแบบเดียวกับตอนที่เขาสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเอกกิติ
กลุ่มคนโง่ผิวดำนั่งอยู่ในห้องเรียน และเขาเป็นพระเจ้าผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จ เขามีความสุขที่ได้ยืนอยู่ตรงหน้าผู้อ่อนแอกว่า
ความรู้สึกแบบนี้เป็นเหมือนยาเสพติด
อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์อีนอชไม่ได้ตระหนักเลยว่าสถานการณ์ในอเมริกาต่างจากไนจีเรีย เขาไม่ได้สังเกตเลยว่าตัวเองกลายเป็นตัวตลก
เด็กบ้านนอกตรงหน้าไม่ใช่คนผิวดำที่หวังจะเรียนรู้อะไรบางอย่างจากเขา และอยากเปลี่ยนชะตากรรมของตัวเองเพื่อให้หนีออกจากทวีปแอฟริกา พวกเขาไม่ได้สนใจการสอนของเขา
เด็กบ้านนอกม้วนแขนเสื้อขึ้นแล้วหันไปมองพนักงานเสิร์ฟ ทันใดนั้นเองก็มีเสียงดังมาจากทางเข้าร้านเบอร์เกอร์
“สมการไม่ยากเลย โรงเรียนมัธยมในจีนทุกโรงเรียนก็สอน…ผมขอแซนวิชเบคอนกับกาแฟ เดี๋ยวผมมีบรรยาย โปรดรีบหน่อย” ลู่โจวกล่าวและแซงคิวมาก่อนจะวางเงินบนเคาน์เตอร์
เมื่อเด็กบ้านนอกเห็นเงิน เขาก็ยิ้ม
“เข้าใจแล้วครับ”
ศาสตราจารย์อีนอชได้ยินอีกฝ่ายพูดถึงบรรยายจะเริ่ม แล้วเหมือนจะเดาตัวตนของอีกฝ่ายได้ เขายิ้มด้วยความสนใจ
เขาถามทันที “งั้นคุณจะอธิบายราคาบนเมนูได้ยังไง?”
“ง่ายมาก คุณแค่ใส่มันในสมการ ในกรณีนี้ ปกติเราจะพิจารณาการเพิ่มค่าสัมประสิทธิ์ตรงหน้าค่าที่ไม่รู้ คุณทำเหมือนมันเป็นส่วนลดพิเศษก็ได้” ลู่โจวกล่าวพร้อมกับยักไหล่ “แน่นอน คุณไม่สามารถเพิ่มวงเล็บสองตัวพร้อมกันในสมการ และใช้หนึ่งในนั้นคำนวณจำนวนจินตภาพ ผมสงสัยว่าคุณทำได้ไง ศิษย์คุณไม่สอนคุณเหรอ?”
พวกนักศึกษาที่นั่งกินอยู่ใกล้ๆก็หัวเราะ
พวกเขารอดูเรื่องสนุกมาตั้งแต่เริ่มแล้ว พวกเขาเขาอยากเห็นชาวจีนคนนี้สอนบทเรียนให้อีกฝ่าย
ในคณิตศาสตร์ จำนวนจินตภาพคือจำนวนที่อยู่ในรูปแบบของ a+bi โดยที่ a และ b เป็นจำนวนจริง และ b ไม่ใช่ 0 , i^2 is -1 และ a เป็นส่วนจริง b เป็นส่วนจินตภาพ เขาไม่กล้าบอกว่านักเรียนทุกคนรู้เรื่องจำนวนจินตภาพ แต่นักเรียนเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์รู้แน่นอน
ปกติแล้ว ส่วนจินตภาพคือรากที่สองของจำนวนลบ เมื่อคุณใส่จำนวนจริงลงไป มันจะกลายเป็นจำนวนเชิงซ้อน
นี่ไม่ใช่เรื่องยากหรือลึกซึ้ง ขอแค่สำเร็จการศึกษาภาคบังคับ เราก็จะเรียนรู้มันได้อย่างง่ายดาย
“เขาพูดถูก…ฉันจะขายอะไรไม่ใช่ธุระกงการของคุณ” เด็กบ้านนอกกล่าวอย่างหงุดหงิด เขาเคาะโต๊ะแล้วพูด “ถ้าคุณไม่ซื้อก็ออกไป คนข้างหลังกำลังรออยู่”
บรรยากาศเปี่ยมไปด้วยความยินดี
อีนอชหน้าแดง “คุณรู้ได้ยังไงว่าไม่มีจำนวนจินตภาพในสมการเชิงเส้น? คุณรู้ไหมว่าในฟังก์ชันสาทิสสัณฐาน และคอนจูเกทคลาสไม่มีจำนวนจินตภาพ…”
ลู่โจวพูดไม่ออก
เขาอยากถามอีนอชว่าคุณรู้ไหมว่าคำพวกนั้นหมายถึงอะไร แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก
ประเด็นหลักคือ…
“ไม่ต้องถามแล้ว สมการเชิงเส้นไม่จำเป็นต้องหารากที่สอง!”
…
สำหรับลู่โจว สิ่งที่เกิดขึ้นในร้านเบอร์เกอร์เป็นแค่เรื่องเล็กๆ เท่านั้น
เขาสงสัยว่าชายผิวดำเรียนคณิตศาสตร์มาจากไหน สุดท้ายชายผิวดำก็หน้าแดงแล้วหัวเราะพร้อมเดินออกจากร้าน
ลู่โจวสลัดเรื่องนี้ทิ้งไปแล้วทานอาหารจนเสร็จ จากนั้นเขาก็เดินกลับโรงแรมที่อยู่ตรงข้ามจัตุรัสพาลเมอร์อย่างสงบ
ลาเตอร์ยืนอยู่หน้าประตูและต้อนรับแขกทุกคน เมื่อเขาเห็นลู่โจว เขาก็อึ้ง อย่างไรก็ตามเขารีบเผยรอยยิ้มออกมา
รอยยิ้มนั้นเป็นรอยยิ้มมุ่งร้าย
“ยินดีต้อนรับ นักคณิตศาสตร์จีนจากพรินซ์ตัน ผมไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นคุณที่นี่”
ลู่โจวมองไปที่ห้องบรรยายที่คนเกือบเต็มห้องแล้วหัวเราะ “ผมน่าจะไม่ถูกนับเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญใช่มั้ย?”
“คุณหัวเราะงั้นเหรอ?” ลาเตอร์ยิ้มเยาะ จากนั้นเขาก็ลดเสียงลง “หวังว่าชั่วโมงต่อมาคุณจะยังหัวเราะออกนะ”
ลู่โจวยิ้มแล้วกล่าว “ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?”
ลาเตอร์ “ถามเรื่อง?”
ลู่โจวถามอย่างจริงจัง “ใครให้ความคิดโง่ๆแบบนี้กับคุณ?”
ลาเตอร์ชะงัก เขาไม่ได้เปลี่ยนรอยยิ้มจอมปลอม “ความคิดอะไร? ขอโทษ ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร”
ลู่โจวยิ้มแล้วกล่าวเสียงเบา “ไม่มีอะไร ไม่เป็นไร ทำเหมือนผมไม่ได้ถามก็แล้วกัน”
เห็นได้ชัดว่าลู่โจวไม่ได้คาดหวังอะไรจากคำถามนี้
จิตใต้สำนึกของคนไม่อาจควบคุมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีปัจจัยภายนอกด้วย
ลาเตอร์ไม่เสียเวลากับลู่โจว กลับกันเขาหันหน้าไปแล้วทักทายตัวแทนทางกฎหมายขององค์กรปกป้องสิทธิชาวผิวดำ
คนส่วนใหญ่ที่กำลังนั่งอยู่ในงานไม่ได้เข้าใจคณิตศาสตร์ เป็นอย่างบทความนิวยอร์กเกอร์ที่เขียนข่าวความสำเร็จของชิวเฉิงถงผิดไป สื่อไม่ได้สนใจความจริง
นี่เป็นที่ๆประชานิยมอาละวาด
เหตุผลที่ทำไมพวกเขาถึงมานั่งอยู่ที่นี่ในวันนี้ก็เพราะสหายชาวไนจีเรียได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากชุมชนวิชาการอเมริกา พวกเขามาเพื่อความถูกต้องทางการเมืองเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม…
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับลู่โจวยังไง?
งานแลกเปลี่ยนทางวิชาการไม่อาจทำโดยคนที่ไม่รู้เรื่องคณิตศาสตร์ การให้ศาสตราจารย์อีนอชมาพูดบนเวทีก็เหมือนการสีซอให้ควายฟัง
อย่างไรก็ตามบางอย่างก็สามารถถ่ายทอดได้ผ่านภาษาธรรมดา
ลู่โจวปรับเนคไทเบาๆ
สำหรับเขาแล้ว นี่มันไม่มีอะไรยากเลย
…………………………