หลังโพสต์ไปสามนาที ก็มีคนคอมเมนต์เต็มไปหมด
[โนเบล?]
[รางวัลคลาฟอร์ด รางวัลโนเบลขนาดเล็กในตำนาน! มันออกโดยราชบัณฑิตยสถานวิทยาศาสตร์แห่งสวีเดน รางวัลส่วนใหญ่จะเป็นของสาขาที่รางวัลโนเบลไม่ครอบคลุม ไม่เคยมีนักวิชาการชาวจีนที่เคยได้รับรางวัลมาก่อน…กราบเทพลู่]
[ผมยังทำการบ้านคณิตวิเคราะห์อยู่เลย ผมอยากร้องไห้]
[เทพลู่! คุณยังมีแจกรางวัลอีกไหม? คุณช่วยวิทยานิพนธ์ของผมหน่อยได้ไหม? ผมเขียนชื่อคุณลงในผู้เขียนร่วมของวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกผมได้นะ? ได้โปรด!]
[คนที่บอกว่าลู่โจวไม่แสร้งถ่อมตน…ออกมา! ฉันจะทุบแก!]
[เรื่องที่น่าเศร้าที่สุดก็คือ ฉันอายุเท่าคุณ แต่ยังอยู่ปริญญาตรีอยู่เลย (ร้องไห้)(ร้องไห้)]
ลู่โจวอ่านคอมเมนต์ของแฟนคลับแล้วยิ้ม
เป็นไปตามคาด การแบ่งปันความสุขให้คนอื่นเป็นเรื่องที่ดี
ลู่โจวรู้สึกพึงพอใจ เขาวางโทรศัพท์ไว้โต๊ะข้างเตียงแล้วเอาหัวมุดหมอน
เช้าวันต่อมา ธงชาติสวีเดน จีน อเมริกาและนิวซีแลนด์กำลังโบกสะบัดอยู่หน้าประตูราชบัณฑิตยสถานวิทยาศาสตร์แห่งสวีเดน
มีแถวยาวเหยียดตั้งแต่สองชั่วโมงก่อนการบรรยายจะเริ่ม ทันทีที่ประตูเปิด ห้องประชุมก็เต็มไปด้วยผู้คนหลายพันคนในเวลาไม่ถึงสิบนาที
ลู่โจวที่อยู่ในชุดสูทขึ้นเวทีเป็นคนแรก เขาเริ่มบรรยายหนึ่งชั่วโมงเกี่ยวกับการพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคของเขา
เนื้อหาการบรรยายคล้ายกับที่เขาบรรยายที่พรินซ์ตัน ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือจำนวนผู้ชมอยู่คนละระดับกันเลย
ท้ายที่สุดแล้วห้องบรรยาย 1 ของสถาบันขั้นสูงพรินซ์ตันก็ไม่อาจเทียบได้กับห้องประชุมที่บรรจุคนได้หลายพันคน
ลู่โจวกวาดสายตาไปทั่วห้องประชุม ไม่เพียงแต่จะมีหลายพันคนกำลังนั่งอยู่ที่นี่เท่านั้น แต่ยังมีหลายคนยืนอยู่แถวหลังสุดอีกด้วย
เขากระแอมแล้วรับไมโครโฟนก่อนจะพูด “ผมจะพยายามบรรยายให้สั้นๆและใช้เวลาในส่วนถามตอบให้มากขึ้น”
“เกี่ยวกับข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค ผมต้องเริ่มจากวิธีสร้างองค์ประกอบกรุป…”
…
หลังบรรยายและแลกเปลี่ยนทางวิชาการ การบรรยายวันที่สามก็จบลง ส่วนสุดท้ายของพิธีฉลองรางวัลคลอฟอร์ดจบลงแล้ว
อย่างไรก็ตามงานประชุมนี้ ลู่โจวมีส่วนร่วมไม่สูงนัก
นอกจากพรีเซนต์ของตัวเองกับการบรรยายคณิตศาสตร์สองครั้ง เขาก็ไปฟังบรรยายดาราศาสตร์สองครั้งและฟิสิกส์ดาราศาสตร์อีกหนึ่งครั้ง
ลู่โจวไม่มีความรู้เรื่องดาราศาสตร์เลย เขาเข้าใจในส่วนของฟิสิกส์เชิงทฤษฎีเท่านั้น
อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์โรเจอร์ แบรนฟอร์ด ผู้ชนะรางวัลสาขาดาราศาสตร์ก็รู้เช่นกันว่าสาขาวิจัยของเขานั้นไม่เป็นที่นิยม เขาจึงอธิบายของตนเองในภาษาที่เข้าใจได้ง่ายเพื่อให้ผู้ชมเข้าใจ
ลู่โจวใช้เวลาที่เหลือไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในสต็อกโฮล์ม
ตลอดหกเดือนมานี้ เขาแทบไม่ได้พักเลย ตอนนี้ในที่สุดเขาก็ได้พัก ถ้าไม่ใช้ให้คุ้ม มันคงน่าเสียดายแย่
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่า ด้วยโรงแรมห้าดาวที่เขาพักอยู่ฟรีๆ การมาสต็อกโฮล์มครั้งนี้จึงเกือบสมบูรณ์แบบ
สามวันหลังงานประชุม ผู้จัดงานก็เลือกรางวัลผู้บรรยายดีเด่นและรางวัลวิทยานิพนธ์ดีเด่น
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการบรรยายข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคสะดุดตาและโดดเด่นที่สุด
อย่างไรก็ตามรางวัลประเภทนี้ย่อมไม่มอบให้ลู่โจวหรือนักวิชาการที่ได้รับเชิญ
เพราะยังไงเสียคนอื่นก็ควรได้รับรางวัลบ้าง
ดังนั้นตอนที่ลู่โจวยืนอยู่บนเวที เขาจึงไม่ได้รับรางวัล
ลู่โจวถือประกาศนียบัตรและเช็คเงินหนึ่งแสนโครนา ราวหนึ่งหมื่นเหรียญ จากนั้นเขาก็ส่งมอบให้กับนักคณิตศาสตร์จากบลาซิลเป็นการยอมรับการบรรยายที่โดดเด่น
แม้ลู่โจวจะรู้สึกว่านักวิชาการคนนี้น่าจะแก่กว่าเขาไปมาก แต่ลู่โจวก็รู้สึกแปลกๆ ที่มอบเกียรตินี้ให้อีกฝ่าย จากนั้นเขาก็จำได้ว่านักคณิตศาสตร์ทุกคนที่อายุน้อยกว่าสี่สิบปีจะถือเป็นนักคณิตศาสตร์รุ่นใหม่ เขาจึงเมินสถานการณ์แปลกๆ นี้ไป
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าผู้ชนะรางวัลไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย
ชาวบลาซิลคนนี้ไม่ได้รู้สึกไม่พอใจที่รับรางวัลจากคนที่เด็กกว่า เขาจับมือกับลู่โจวด้วยความตื่นเต้นไปพักใหญ่กว่าจะปล่อยมือ
…
ช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะสั้น
งานประชุมจบลงในวันที่สี่ของทริปมาสต็อกโฮล์มของลู่โจว มันถึงเวลาบอกลาเมืองที่สวยงามเมืองนี้แล้ว
ตอนกลางคืน นักวิชาการสเตฟานขับรถมาส่งลู่โจวที่สนามบินสต็อกโฮล์มด้วยตัวเอง
“ห้องของคุณยังเหลืออีกสองวัน คุณไม่อยากอยู่อีกสักหน่อยหรือ?”
ลู่โจวยิ้ม “ไว้ครั้งหน้าครับ คนในประเทศบ้านเกิดกำลังรอผมอยู่”
สเตฟานกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ครั้งหน้าถ้าคุณกลับมา อย่าลืมโทรหาผมนะ”
ลู่โจว “ครับ”
ลู่โจวลากกระเป๋าเข้าสนามบินและดูข้อมูลเที่ยวบิน ยังมีเวลาอีกชั่วโมงก่อนเครื่องจะออก ดังนั้นเขาจึงไปหาที่นั่ง
ที่เก้าอี้ตรงข้ามเขา มีผู้หญิงจีนอายุราวสามสิบกว่า เธอกำลังอุ้มเด็กน้อยที่กำลังหัดพูด
เด็กน้อยในอ้อมแขนเธอมองไปรอบๆ แล้วจู่ๆ ก็สบตาเข้ากับลู่โจว
“แม่ พี่ใหญ่คนนี้ดูเหมือนคนในหนังสือเลย!”
เด็กคนนี้น่ารักมาก
ลู่โจวยิ้มแล้วเอามือล้วงกระเป๋าสะพาย จากนั้นเขาก็หยิบเอาเหรียญทองที่ทำจากช็อกโกแลตออกมา
เหรียญทองช็อกโกแลตที่นักฟิสิกส์ใช้เป็น’เหรียญ’เดิมพนันในงานเลี้ยงอาหารค่ำรางวัลโนเบล
รางวัลคลอฟอร์ดคล้ายกับรางวัลโนเบล มันมีเหรียญทองเช่นกัน มันมีบรรจุภัณฑ์แตกต่างกัน แต่ลู่โจวบอกไม่ได้เลยว่ารสชาติมันต่างกันอย่างไร
เขาไม่ได้มอบช็อกโกแลตให้ในทันที
แม่ลูบหลังเด็กผู้หญิงตัวน้อยแล้วเอ่ย “ลูกเรียกผิดแล้ว เขาแก่กว่ามาก เรียกเขาว่าคุณลุงสิ!”
เด็กน้อยเอียงคอ “คุณลุง?”
“ดีมาก เด็กดี! และนั่นเรียกว่านิตยสารไม่ใช่หนังสือ…”
รอยยิ้มของลู่โจวค่อยๆ หายไป เขายัดช็อกโกแลตกลับเข้าใส่ในกระเป๋า
บัดซบ!
ฉันไม่ให้แล้ว!
อย่างไรก็ตามคำพูดที่ไม่ได้เจตนาของเด็กน้อยทำให้เขารู้สึกสนใจ
หลังจากคนแม่จากไป ลู่โจวจึงเดินไปหยิบนิตยสารจากร้านใกล้ๆ
เขาไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นรูปตัวเองบนปก รูปดูหล่อไม่เบาเลย
ฉากหลังเหมือนเป็นตอนเขากำลังบรรยาย…อย่างไรก็ตามเขาจำไม่ได้เลยว่าเขาถ่ายรูปไปตอนไหน
“[บุคคล]?”
ลู่โจวรู้สึกสนใจ จากนั้นเขาก็พลิกดูนิตยสาร
ไวล์สก็เคยอยู่ในนิตยสารนี้เช่นกัน แม้ว่านิตยสารนี้จะไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์ แต่เขาก็รู้สึกสนใจเหมือนกันว่าผู้คนจะพูดถึงเขายังไง
เมื่อลู่โจวอ่านประโยคนี้ เขาก็เผยรอยยิ้มขึ้นมาฉับพลัน
น่าอายเกินไปไหม…
[25 บุคคลที่มีเสน่ห์ที่สุดของปี 2016]
ในบรรดายี่สิบห้าคน มีนักกีฬา นักร้อง แพทย์ ตำรวจและแม้แต่เจ้าหญิง…แต่มีศาสตราจารย์เพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือเขา
แม้เขาจะไม่รู้ว่าคำว่าเสน่ห์จะแปลว่าหล่อไหม แต่ลู่โจวคิดว่ามันน่าจะใช่
ไม่สิ มันต้องใช่แน่นอน!
ไม่งั้นทำไมเขาถึงขึ้นปกล่ะ? ทำไมไม่ใช่คนอื่น!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความคิดเขาสมเหตุสมผล!
………………………………….