ตลอดสองวันมานี้ เฉินยู่ซานรู้สึกตื่นตระหนกมาก
นับตั้งแต่ที่เธอมอบกราฟงานให้อาจารย์ที่ปรึกษา เธอก็ไม่ได้รับงานใหม่ๆ เลย
แม้ว่าความผ่อนคลายแบบนี้จะไม่เลว แต่เธอก็เริ่มเป็นกังวล และสงสัยว่าทำอะไรให้ศาสตราจารย์พาร์ซิสขุ่นเคืองรึเปล่า
นักศึกษาจะแพ้ทางอาจารย์ที่ปรึกษา ถ้าพวกเขาบังเอิญล่วงเกินอาจารย์ที่ปรึกษา นักศึกษาจะต้องอยู่มหาลัยอย่างยากลำบากถึงสองปี บางทีก็อาจไม่จบด้วยซ้ำ
เฉินยู่ซานกังวลมาก เพราะศาสตราจารย์พาร์ซิสจะเหลือบมองเธอเป็นครั้งคราวจนทำให้รู้สึกขนหัวลุก
เฉินยู่ซานกำลังคิดว่าควรเอ่ยถามดีไหม แต่สุดท้ายพาร์ซิสก็เป็นคนทำลายความเงียบ “คุณบอกว่าปีใหม่จีนวันที่ยี่สอบแปด ใช่ไหม?”
นี่…
กำลังคุยกับฉันงั้นเหรอ?
เฉินยู่ซานกลืนน้ำลาย “ปีใหม่ทุกปีจะต่างกัน แต่ปีนี้คือวันที่ยี่สิบแปด… ทำไมเหรอคะ?”
ศาสตราจารย์มิเชลล์ พาร์ซิสมองเธอด้วยสีหน้าเฉยเมย
ทันใดนั้นเองพาร์ซิสก็หรี่ตาและยิ้มมุมปาก
รอยยิ้มนี้น่ากลัวจนทำให้เฉินยู่ซานหวาดกลัว
โชคดีที่เธอไม่ได้สะดุ้งจนผุดลุกจากเก้าอี้ ไม่งั้นเธอคงทำให้ผู้หญิงวัยทองโกรธจริงๆ
ศาสตราจารย์พาร์ซิสหยุดชั่วครู่แล้วดูปฏิทินบนโต๊ะ “คุณทำงานหนักมาตลอดไม่กี่เดือนมานี้ ปีใหม่จีนกำลังจะจัดขึ้นภายในอีกสองสัปดาห์ งั้นตั้งแต่วันนี้ คุณก็หยุดพักสักหน่อยเถอะ”
เฉินยู่ซาน “…”
คือ…
เธอให้วันหยุดกับฉัน?
ความโชคดีนี้เข้ามากะทันหัน จนเฉินยู่ซานเริ่มสงสัยว่าตนเองได้ยินผิดไปรึเปล่า
เธอเพิ่งโทรหาครอบครัวเมื่อวาน ว่าปีนี้เธอกลับไปไม่ได้
นักศึกษาปริญญาโท ปริญญาเอกหลายคนในออฟฟิศมองเธอด้วยความอิจฉา
ศาสตราจารย์พาร์ซิสไม่เคยใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับลูกศิษย์มาก่อน สำหรับผู้หญิงที่เข้มงวดอย่างเธอ ลูกศิษย์ของเธอก็เป็นเหมือนพนักงานคนหนึ่งที่ได้เงินเดือน สามร้อยเหรียญ
ยิ่งนักศึกษาสวย และมีความเยาว์วัยมากเท่าไหร่ เธอก็จะเย็นชามากเท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้…
ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกชัดๆ !
มิเชลล์ พาร์ซิสหยุดชั่วครู่ จากนั้นเธอก็กล่าวด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ “โอ้อีกเรื่อง ฉันได้พิจารณารายงานวิจัยในวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับตลาดค้าปลีกของอินเดียแล้ว ผลงานในวิทยานิพนธ์ของเธอมีประโยชน์มาก ดังนั้นฉันจะย้ายตำแหน่งชื่อผู้เขียนจากอันดับสี่เป็นอันดับแรก”
เฉินยู่ซานยังคงตกตะลึง เธอมองศาสตราจารย์แล้วกล่าว “แต่ศาสตราจารย์ ฉันทำแค่ช่วยรวบรวมเอกสารกับกราฟเท่านั้น…”
“เท่านั้น?” มิเชลล์ พาร์ซิสมองเธอด้วยสีหน้าจริงจัง “มิสเฉิน ฉันต้องบอกคุณเลยว่างานช่วยรวบรวมเอกสาร และกราฟมีความสำคัญเท่ากับการเขียนวิทยานิพนธ์ งานนี้ไม่สามารถอธิบายด้วยคำว่าเท่านั้น ทุกอย่างเท่าเทียมกันหมด เพราะฉะนั้นฉันจะยึดการตัดสินใจของฉันเอง และใส่ชื่อคุณเป็นผู้เขียนคนแรก”
เฉินยู่ซาน “อะไร?”
…
อาทิตย์ที่สามหลังวันปีใหม่ ลู่โจวก็ขึ้นเครื่องไปแถบชายฝั่งตะวันตก
ลู่โจวไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะมีชื่อศิษย์ของเขาอยู่ในรายชื่องานประชุมด้วยรึเปล่า เพราะลูกศิษย์ของลู่โจวได้รับเชิญจากคุณฟรานซิส ประธานสมาคมคณิตศาสตร์สหรัฐ ให้เข้าร่วมงานประชุมคณิตศาสตร์เบิร์กลีย์อีกด้วย
ตอนแรกลู่โจวไม่ได้วางแผนเข้าร่วมงานประชุมนี้แม้แต่น้อย
แต่ฟรานซิสกระตือรือร้นเหลือเกิน และเนื่องจากลู่โจวต้องไปซานฟรานซิสโกอยู่แล้ว เขาจึงตอบรับคำเชิญ พร้อมกับสัญญาว่าจะเข้าร่วมงานประชุม แล้วถือว่าเป็นโอกาสในการเข้าไปดูแลลูกศิษย์ตนเองด้วย
ท้ายที่สุดแล้วนี่ก็เป็นบรรยายแรกของเธอ และลู่โจวก็เป็นห่วงเธอเล็กน้อย
เขาลงที่สนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโก และมีศาสตราจารย์เถาเจ๋อเซวียนมารับ
นับตั้งแต่งานประชุมวิชาการปีที่แล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ดีขึ้นมาก
เนื่องจากทิศทางวิจัยของศาสตราจารย์เถานั้นกว้างขวาง เมื่อไหร่ที่เขาพบปัญหาในทฤษฎีจำนวน และการวิเคราะห์เชิงฟังก์ชัน ทั้งสองก็จะคุยเรื่องปัญหาทางแชทออนไลน์ เมื่อศาสตราจารย์เถาได้ยินว่าลู่โจวจะเข้าร่วมงานประชุมเบิร์กลีย์ เขาก็บอกจะมารับลู่โจวที่สนามบินทันที
ศาสตราจารย์เถานั่งอยู่ในรถ พร้อมกับเอ่ยถามว่า “ฉันได้ยินว่าช่วงนี้คุณกำลังศึกษาข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์งั้นเหรอ?”
ลู่โจวยิ้มแล้วตอบ “ครับ คุณก็สนใจเหรอ?”
“ไม่สนใจได้ไง ฉันเคยวิจัยมันมานานแล้ว แต่น่าเสียดาย ฉันทำไม่สำเร็จ สัญชาตญาณบอกฉันว่านี่คือปัญหาการวิเคราะห์เชิงซ้อน แต่หลังจากวิจัยลงลึกไปอีก ฉันก็พบว่าตัวเองคิดผิด มันเกี่ยวโยงกับโปรแกรมของแลงแลนด์ต่างหาก” เถาเจ๋อเซวียนกล่าว เขายิ้มเขินๆ ขณะขับรถอยู่ “แต่คุณควรแก้ปัญหานี้ได้ด้วยความสามารถของคุณเอง ตอนนี้คุณเป็นถึงบุคคลชั้นนำในสาขาทฤษฎีจำนวนแล้ว ถ้าแม้แต่คุณยังแก้ไม่ได้ มันก็คงอาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายร้อยปีกว่านักคณิตศาสตร์คนถัดไปจะแก้ได้”
แม้ว่าคำพูดของเถาเจ๋อเซวียนจะเกินจริงไปนิด แต่มันก็ไม่ได้มากมายนัก มีคนไม่มากที่อยู่ในสาขาทฤษฎีจำนวนเพิ่มเติม ปัญหาทฤษฎีจำนวนคลาสสิก ก็คือข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคกับข้อคาดการณ์ของวอลลิ่ง
ตอนนี้ลู่โจวแก้ข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคไปแล้ว เว้นแต่ว่าจะมีคนสร้างความคืบหน้าที่สำคัญให้ข้อคาดการณ์ของวอลลิ่ง ลู่โจวก็จะเป็นนักคณิตศาสตร์สาขาทฤษฎีจำนวนชั้นแนวหน้าที่สุด
ลู่โจวยิ้มและอธิบาย “คุณพูดเกินจริงไปมาก… อันที่จริงผมไม่ได้เป็นคนทำโปรเจคนี้ ส่วนใหญ่เป็นศิษย์ของผมทำ ผมแค่ให้คำแนะนำเท่านั้น ผมก็ไม่รู้ว่าผลสุดท้ายจะเป็นยังไงด้วยซ้ำ”
“โอ้ เข้าใจแล้ว ฉันคิดว่าคุณเป็นคนวิจัยปัญหานี้เสียอีก” เถาเจ๋อเซวียนกล่าวด้วยสีหน้าผิดหวัง
ถ้าลู่โจวเป็นคนแก้ปัญหานี้ เขาคงคาดหวังกับมัน
ดูเหมือนตอนนี้เขาไม่ควรตั้งความคาดหวังไว้สูงนัก
…
สมาคมคณิตศาสตร์สหรัฐได้จัดโรงแรมสำหรับงานประชุมวิชาการนี้เพื่อให้อยู่ใกล้กับเบิร์กลีย์ ในฐานะนักวิชาการที่ได้รับเชิญ คุณฟรานซิสได้จองห้องให้ลู่โจวแล้ว เขาแค่ต้องไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์โรงแรมเท่านั้น
ศาสตราจารย์เถาส่งลู่โจวที่โรงแรม เนื่องจากเขายังมีคลาสต้องไปสอน เขาจึงเชิญลู่โจวไปเยี่ยมเยือนตอนว่าง แล้วก็จากไปทันที
ลู่โจววางกระเป๋าไว้ในห้อง จากนั้นก็เดินลงมาชั้นล่างแล้วเรียกแท็กซี่
สถาบันวิจัยของศาสตราจารย์ซารอทอยู่ทางตอนใต้ของย่านอ่าวซานฟรานซิสโก มันไม่ไกลจากโรงแรม เขาจึงอยากแก้ปัญหานี้ให้เร็วที่สุด
หลังลู่โจวลงจากแท็กซี่ เขาก็โทรหาวูล์ฟแล้วนัดเวลามาพบกันที่สถาบันอย่างรวดเร็ว
ลู่โจวคิดว่าเขาคงมาถึงก่อน
อย่างไรก็ตามเมื่อเขามาถึง วูล์ฟก็มารอเขาอยู่หน้าทางเข้าแล้ว
วูล์ฟทักทายลู่โจวแล้วกล่าว “ผมไม่คิดเลยว่าท่านจะมาวันนี้ ถ้าท่านบอกผมก่อน ผมคงไปรับท่านได้”
ลู่โจวตอบ “มีเรื่องนิดหน่อย ฉันเลยเปลี่ยนกำหนดการ อย่าสนใจเลย เรามาจัดการเรื่องนี้กันก่อนเถอะ”
ลู่โจวให้วูล์ฟนำทางไปสถาบัน
เมื่อเทียบกับสถาบันวิจัยขนาดใหญ่เหล่านั้น สถาบันวิจัยเอกชนแห่งนี้เล็กกว่ามากอย่างไม่ต้องสงสัย มันมีเพียงสามชั้นเท่านั้น แถมตำแหน่งก็ไม่เหมาะสม การเดินทางก็ค่อนข้างยาก
ถึงกระนั้น สิ่งที่จำเป็นก็ต่างมีครบครัน
ห้องแล็บนี้มีอุปกรณ์ทุกอย่างที่ลู่โจวต้องการใช้ในการทดลอง
ลู่โจวขึ้นไปที่ออฟฟิศชั้นสาม และเตรียมทักทายผู้ดูแล ทันใดนั้นเขาก็เห็นศาสตราจารย์ซารอทกำลังนั่งอยู่บนโซฟา
ทั้งสองสบตากัน
ศาสตราจารย์ซารอทไม่คิดเลยว่าคนที่จะซื้อทีมวิจัยของเขาเป็นลู่โจว ดังนั้นเขาจึงประหลาดใจ
ลู่โจวไม่คิดเลยว่าศาสตราจารย์ซารอทเป็นคนบรรยายแบตเตอรี่ลิเธียมแอร์ จากงานประชุมเอ็มอาร์เอส เขาก็ว่าอยู่ว่าทำไมชื่อของอีกฝ่ายถึงฟังดูคุ้นหู…
ลู่โจวยืนยันได้ว่าเขาจำซารอทได้ไม่ผิด
จากนั้น…
เขาจึงหันหลังเดินจากไปโดยไม่ลังเล
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ลู่โจวจะก้าวเท้า ศาสตราจารย์ซารอทก็ร้องตะโกนเสียงดัง
“เดี๋ยวก่อน! ฉันจะขายให้คุณแปดล้านเหรียญ ไม่สิ ห้าล้านเหรียญ! โปรดอย่าเพิ่งไป!”
……………………………