เช้าวันที่สองของงานประชุม วูล์ฟได้โทรหาลู่โจว
“บริษัทจัดหาคนของเราพบผู้จัดการที่เหมาะสมตามความต้องการของท่านแล้ว ผู้จัดการคนนี้มีประสบการณ์ทำงานห้าปีในฝ่ายทรัพย์สินทางปัญญาของเวอไรซอน ประวัติการทำงานสะอาด ท่านอยากพบเขาตอนไหนดีครับ?”
ลู่โจวกำลังนั่งทานมื้อเช้าอยู่ในโรงแรม เขาคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบ “เดี๋ยวอีกสองสามวันค่อยนัดก็ได้ ฉันอยากจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนมกรา บอกให้เขามาซานฟรานซิสโก และจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินให้เขาด้วย”
“รับทราบครับศาสตราจารย์” วูล์ฟกล่าวด้วยความเคารพ “เขาอยู่ในแคลิฟอร์เนีย ผมจะบอกให้เขาติดต่อท่านโดยเร็วที่สุด”
ยิ่งเอเอ็มทำงานนี้เสร็จเร็วเท่าไหร่ ลู่โจวก็จะจ่ายค่าจ้างให้พวกเขาเร็วเท่านั้น แล้ววูล์ฟก็จะได้รับเงินพิเศษเร็วขึ้น
ดังนั้นวูล์ฟจึงทำงานกระตือรือร้นมากกว่าลู่โจวเสียอีก
ไม่นานหลังลู่โจววางสายวูล์ฟ เขาก็ได้รับสายจากอดีตผู้บริหารเวอไรซอน พวกเขานัดเจอกันตอนบ่ายสองที่ร้านกาแฟใกล้เบิร์กลีย์…
…
[ไวท์ เชอร์รีแดน อายุสามสิบห้าปี เพศชาย ปริญญาเอกสาขาบริหารจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกทรัพย์สินทางปัญญาที่เวอไรซอน ประสบการณ์ทำงานห้าปี…]
ลู่โจววางประวัติส่วนตัวลง แล้วมองดูคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“ประวัติการทำงานของคุณเลิศมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เข้าใจก็คือเวอไรซอนเสนอเงินเดือนให้คุณสองแสนเหรียญต่อปีเชียวนะ ทำไมคุณถึงตัดสินใจลาออกล่ะ?”
ไวท์ยักไหล่ “หัวหน้าฝ่ายทรัพย์สินทางปัญญาเป็นตำแหน่งที่ดี แต่มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกถึงความสำเร็จของอาชีพ มันไม่มีความก้าวหน้าเลย ถ้าเทียบกับผู้บริหารท่านอื่น ผมเป็นเหมือนนักกฎหมายมากกว่า”
ลู่โจว “แล้วตอนนี้ล่ะ? ธุรกิจหลักของสตาร์สกายเทคโนโลยีก็คือจัดการสิทธิบัตร งั้นงานของคุณก็ต้องเหมือนเดิม มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากหรอก”
ไวท์ไม่ได้ซ่อนเจตนาตนเอง ทั้งยังยิ้มและกล่าวว่า “คุณพูดถูก สตาร์สกายเทคโนโลยีให้เงินเดือนผมสามแสนเหรียญต่อปี เวอไรซอนเทียบไม่ได้เลย แย่จังความจริงเปิดเผย”
เงินเดือนสามแสนเหรียญต่อปีย่อมถือเป็นชนชั้นสูงในอเมริกา จากสถิติของกลาสดอร์ แม้แต่หัวหน้าแผนกพัฒนาของไมโครซอฟต์ยังได้เงินเดือนเพียง 294,000 ต่อปี
นั่นเป็นเพียงการประมาณ ซึ่งยังไม่ได้นับรวมผลประโยชน์และเงินพิเศษ
พูดสั้นๆ ก็คือเงินเดือนสามแสนเหรียญต่อปีเป็นข้อเสนอที่ไวท์ไม่ควรปฏิเสธ
ความฝันนั้นก็สำคัญ แต่เงินสำคัญกว่า
ลู่โจวพึงพอใจกับคำตอบที่ซื่อสัตย์ของไวท์
แม้ว่ามันจะดีกว่าถ้าไวท์พูดถึงแผนพัฒนาที่มีศักยภาพเพื่อบริษัทและวัฒนธรรมขององค์กร แต่ไวท์ไม่ได้ทำแบบนั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือประวัติที่น่าประทับใจของไวท์และประสบการณ์ที่กว้างขวางของเขาในด้านการจัดการสิทธิบัตร
ลู่โจวยิ้มและยื่นมือออกมา
“ขอแสดงความยินดีกับงานใหม่ ผมหวังว่าเราจะสร้างสตาร์สกายเทคโนโลยีที่ดีขึ้นภายใต้การบริหารของคุณ”
ไวท์ยิ้มและจับมือกับลู่โจว
“ผมสัญญาว่าคุณจะได้เห็นมันแน่นอน”
…
ตอนแรกลู่โจวอยากให้สตาร์สกายเทคโนโลยีเป็นบริษัทที่คล้ายกับควอลคอมม์[1]ซึ่งมุ่งเน้นที่การวิจัยและพัฒนา จนกลายเป็นบิดาแห่งอุตสาหกรรมรวมถึงลงทุนผลกำไรทั้งหมดให้กับการวิจัยวิทยาศาสตร์ด้วย
หลังอธิบายกลยุทธ์การพัฒนาสตาร์สกายเทคโนโลยีให้ไวท์พอสังเขป ลู่โจวก็จบการประชุมนี้
ส่วนที่เหลือสามารถคุยกันได้ผ่านอีเมล
หลังลู่โจวทำธุระเรื่องบริษัทเสร็จ เขาก็ให้ความสนใจกับงานประชุมวิชาการอีกครั้ง
อาจเป็นเพราะหนึ่งในปัญหาทฤษฎีจำนวนเพิ่มเติมที่ใหญ่ที่สุด ข้อคาดการณ์ก็อลท์บัคถูกแก้ ช่วงนี้จึงมีวิทยานิพนธ์งานวิจัยทฤษฎีเชิงจำนวนผุดขึ้นมาเหมือนดอกเห็ด
นักวิชาการหลายคนได้ทำการวิจัยข้อคาดการณ์ของวอลิ่งโดยใช้วิธีสร้างองค์ประกอบกรุปและประสบความสำเร็จได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม
ตัวอย่างเช่น นักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยคอลัมเบียได้เผยแพร่ผลการวิจัยที่งานประชุม เขาใช้วิธีสร้างองค์ประกอบกรุปวิจัยเกี่ยวกับช่วงค่า g(6)
แม้ว่าเขาจะยังอยู่ไกลจากการแก้ปัญหา แต่ผลการวิจัยของเขาก็ยังสามารถนำมาเป็นแรงบันดาลใจได้ จึงได้รับเสียงปรบมือดังสนั่นจากผู้ชม
ลู่โจวมีความสุขกับเรื่องนี้มาก
การแก้ข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคไม่ได้มีประโยชน์ในตัวมากนัก
ถ้าเครื่องมือที่ลู่โจวสร้างตอนที่แก้ข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค ถูกนำไปให้ผู้อื่นใช้ วิทยานิพนธ์ของเขาในวันคณิตศาสตร์ประจำปีก็คงจะอยู่ในหนังสือเรียนให้คนรุ่นต่อไปเรียนรู้แล้ว
ในชั่วพริบตา หนึ่งสัปดาห์ก็ผ่านไป และงานประชุมวิชาการก็จบลงแล้ว
ฟรานซิสยืนอยู่บนโพเดียม เขาใช้น้ำเสียงอ่อนโยนมั่นคงเพื่อแนะนำตัวให้กับนักวิชาการรุ่นใหม่ในงาน
“ขอบคุณทุกท่านที่มางานประชุมคณิตศาสตร์ครั้งนี้ ขอบคุณ ปาร์คเกอร์ เทสล่า…ที่ให้การสนับสนุน” คุณฟรานซิสดันกรอบแว่นแล้วมองดูนักวิชาการรุ่นใหม่ก่อนจะกล่าว “ถึงเวลาอันสมควรที่จะมอบรางวัลให้กับผู้บรรยายยอดเยี่ยมแล้วล่ะ ถ้าไม่ให้ตอนนี้เกรงว่าเดี๋ยวจะไม่ได้ให้ เพราะช่วงนี้ยิ่งเป็นคนแก่ขี้หลงขี้ลืมอยู่ด้วยสิ”
ฝูงชนยิ้มและปรบมือให้ฟรานซิส
ฟรานซิสกระแอม “ผู้บรรยายรุ่นใหม่ยอดเยี่ยมของงานประชุมวิชาการครั้งนี้คือ…”
“เวร่า พุลยุย จากพรินซ์ตัน!”
ฝูงชนปรบมือเสียงดัง
เวร่ายืนอยู่ข้างลู่โจว แก้มขาวเนียนของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ
เธอไม่ได้เตรียมใจไว้ จนกระทั่งลู่โจวตบหลังเธอเบาๆ จึงทำให้ได้สติกลับมา “ขึ้นไปสิ”
เขายิ้มและพยักหน้าให้กำลังใจ “นี่คือเกียรติยศของคุณ”
“…ค่ะ!”
เวร่ามองลู่โจวด้วยความรู้สึกขอบคุณ เธอเดินผ่านฝูงชนแล้วก้าวขึ้นบนเวที
ลู่โจวมองร่างเล็กๆ ของเธอแล้วก็อดคิดไม่ได้
เป็นหนุ่มสาวนี่ดีจริงๆ…
ลู่โจวยังจำตอนที่เขาชนะรางวัลนี้ได้ เขาตื่นเต้นมากจนนอนไม่หลับหลายวัน มหาวิทยาลัยจินหลิงและมหาวิทยาลัยเยี่ยนต่างก็มาแสดงความยินดีกับเขา
นอกจากเกียรติยศแล้วยังได้รับเงินรางวัลหมื่นเหรียญด้วย
ในตอนนั้น เงินรางวัลหมื่นเหรียญถือเป็นเงินก้อนใหญ่สำหรับเขา
ลู่โจวไม่ได้ตระหนักเลยว่าท่ามกลางนักวิชาการเหล่านี้ เขาก็เป็นหนึ่งในคนที่อายุน้อยที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่มีสิทธิ์เรียกเวร่าว่าเด็ก…
เวร่ายืนอยู่บนเวที แม้ว่าจะดูกังวลเล็กน้อย แต่เธอก็ยังทำได้ดีกว่าตอนบรรยายครั้งแรกมาก
ผู้มอบรางวัลคือศาสตราจารย์คณิตศาสตร์ของเบิร์กลีย์ ผู้ชนะรางวัลคลอฟอร์ด เถาเจ๋อเซวียน เวร่าเคยเรียนคลาสสมการเชิงอนุพันธ์ย่อยของเถาเจ๋อเซวียนมาก่อน
เถาเจ๋อเซวียนส่งประกาศนียบัตรให้เวร่าแล้วกล่าว “ขอแสดงความยินดีด้วย มิสเวร่า”
เวร่าพยักหน้าอย่างกระวนกระวาย “ขอบคุณค่ะ”
เถาเจ๋อเซวียนพยักหน้าเหมือนกัน
จู่ๆ เขาก็นึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ จึงพูดต่อว่า “ฉันจำได้ว่าปีก่อนคุณเคยบอกว่าชื่นชมผลงานของศาสตราจารย์ลู่ และหวังว่าฉันจะเขียนจดหมายแนะนำให้ เวลานั้น ฉันคิดว่าฉันตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว และตอนนี้ฉันก็ยังคิดแบบนั้น แต่ฉันหวังว่าคุณจะไม่ทำให้ฉันรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจครั้งนั้นนะ”
เวร่าอึ้ง เธอมีสีหน้าสับสน
“ศาสตราจารย์? ฉันไม่แน่ใจว่าคุณพยายามพูดเรื่องอะไร”
เถาเจ๋อเซวียนส่ายหน้า “ไม่มีอะไร ฉันแค่หวังว่าคุณจะชื่นชมแค่ความรู้ของเขาเท่านั้น อันที่จริงฉันก็ชื่นชมเขาเหมือนกัน เขาเป็นคนหนึ่งที่มีความสามารถในด้านคณิตศาสตร์บริสุทธิ์และคณิตศาสตร์ประยุกต์สูงที่สุดที่เคยเห็นมา แต่สุดท้ายความเยาว์วัยของเขาเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดที่เขามี”
“ชื่อของเขาอาจจะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์”
“แต่ความบุ่มบ่ามของคุณอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้าย”
“หวังว่า…ฉันจะเข้าใจผิดไปเองนะ แต่ถ้าไม่ได้คิดไปเอง ฉันหวังว่าไม่ว่าคุณจะรู้สึกยังไงกับเขา คุณก็ควรรอจนกว่าคุณจะเรียนจบ คุณค่อยแสดงความรู้สึกเหล่านั้น”
[1] ควอลคอมม์ (Qualcomm) คือเป็นบริษัทผลิตสารกึ่งตัวนำสัญชาติอเมริกันโดยผลิตเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์