สถาบันวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณจินหลิงต้องการนักวิจัยที่มีความสามารถ แม้ว่าพวกเขาจะสามารถดึงดูดนักวิจัยได้ด้วยสัญญาระยะสั้นที่มีผลตอบแทนสูง แต่พวกเขาต้องการฝึกฝนนักวิจัยที่ดีให้อยู่ได้ในระยะยาวมากกว่า
นอกจากนี้ลู่โจวยังต้องการใช้กลุ่มนักวิจัยและอุปกรณ์เพื่อฝึกฝนอัจฉริยะรุ่นใหม่ด้วย
แม้เขาจะรับประกันไม่ได้ว่าเด็กฝึกงานทุกคนที่มาทำงานที่นี่จะมาทำงานให้หลังจบการศึกษา แต่ตราบใดที่มีคนสักหนึ่งในสามที่เลือกจะอยู่ มันก็คุ้มค่าแล้ว
ลู่โจวไม่ได้กังวลเรื่องนี้นัก
ไม่เหมือนกับบริษัทส่วนใหญ่ ลู่โจวไม่ได้ทำเพื่อเงินหรือเหตุผลอันสูงส่ง แม้ว่าเขาจะได้รับเงินจากเรื่องนี้ แต่มันก็เป็นแค่ผลพลอยได้
เป้าหมายเดียวของเขาคือการทำวิจัยตามที่ต้องการ และอยากเปิดเผยความลับที่ซ่อนอยู่ในระบบไฮเทคที่คาดหวังในอนาคต
และการทำทั้งหมดนี้ด้วยตัวคนเดียวมันก็เป็นไปไม่ได้
ดังนั้นตอนที่คุยกับคณบดีหลี ลู่โจวจึงร้องขอบุคคลที่มีความสามารถ เขาไม่เพียงแต่จะอยากจ้างนักศึกษาปริญญาเอกมาวิจัยเท่านั้น แต่เขายังอยากจ้างนักศึกษาปริญญาโทและปริญญาตรีมาเป็นเด็กฝึกงานด้วย
คณบดีหลีบอกนักวิชาการสวี่ถึงความคิดของลู่โจว และนักวิชาการสวี่ก็เห็นด้วยทันที
นักวิชาการเป็น’นักปฏิรูป’ เขามุ่งมั่นที่จะพัฒนาชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยจินหลิง
จากข้อตกลงระหว่างสถาบันวัสดุเชิงคำนวณจินหลิงและมหาวิทยาลัยจินหลิง ทุกๆ ปีสาขาเคมีจะส่งนักศึกษาปริญญาตรีสามสิบคน ปริญญาโทสิบคน และปริญญาเอกหนึ่งถึงสามคนมาเป็นเด็กฝึกงานที่สถาบันวิจัย พวกเขาจะได้ทำงานเป็นผู้ช่วยพื้นฐาน
ถ้าวิธีนี้พิสูจน์ว่าได้ผล พวกเขาก็จะเพิ่มจำนวนเด็กฝึกงาน
ตำแหน่งของเด็กฝึกงานเหล่านี้จะไม่ทำให้การศึกษาของนักศึกษาล่าช้าไป และมันจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ทำงานให้พวกเขาด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักศึกษาปริญญาตรี โอกาสที่จะได้รับประสบการณ์วิจัยนั้นมีจำกัด
ด้วยเหตุนี้ นักศึกษาเอกเคมีระดับปริญญาตรีจึงเข้าร่วมงานนี้อย่างแข็งขัน
โดยเฉพาะนักศึกษาปีสามปีสี่ที่วางแผนจะเข้าสู่การวิจัย อัตราการการสมัครนั้นสูงมาก พวกเขาจึงต้องคัดเลือกจากเกรดของนักศึกษา
ลู่โจวยังจัดสรรตำแหน่งฝึกงานให้เด็กปีหนึ่งปีสองด้วยส่วนหนึ่ง
แม้ว่าพวกเขาจะมีความรู้น้อย แต่พวกเขาก็มักจะมีศักยภาพมากกว่า ทั้งยังสั่งสอนได้ง่ายกว่า
แม้แต่เหล่าคนที่ทำการทดลองไม่ได้และทำได้แต่การทำความสะอาดห้องแล็บ พวกเขาก็ยังสามารถฟังผู้เชี่ยวชาญและเรียนรู้เรื่องสารเคมีได้
“นักศึกษาชั้นยอดทุกคนในสาขาเคมีอยู่ในรายชื่อนี้” นักวิชาการหลีมีรายชื่ออยู่ในมือ “จำข้อตกลงแล้วด้วย ฝึกฝนอัจฉริยะได้ตามต้องการ แต่คุณอย่าเปลี่ยนนักศึกษาที่มีค่าของเราเป็นเอกคณิตศาสตร์”
ลู่โจวยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ผมสัญญาว่าคืนนักศึกษาให้คุณครบทุกคน”
แม้ว่าวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณจะต้องใช้คณิตศาสตร์ แต่ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่เคมีอยู่ดี อย่างไรก็ตามในการวิจัยที่ทันสมัย ความแตกต่างระหว่างสาขาวิชานั้นไม่ได้ชัดเจนอะไรนัก ถ้านักศึกษาอยากย้ายไปเรียนคณิตศาสตร์ พวกเขาก็ทำได้
“เอาล่ะ ฉันจะจำคำพูดของคุณไว้” คณบดีหลียิ้มแล้วส่งรายชื่อให้ลู่โจว “งั้นฉันก็ฝากด้วย!”
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องรายชื่อเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงตึกวิจัยที่ว่างด้วย
อาคารวิจัยใหม่มีจุดประสงค์ดั้งเดิมเป็นห้องวิจัยกลศาสตร์วัสดุเพื่อวิเคราะห์วัสดุเชิงกลแบบไดนามิก เครื่องทดสอบแรงดึงอิเล็กทรอนิกส์ ควอตซ์คริสตัลระดับไมโคร และอุปกรณ์ใหม่ๆ อย่างอื่น
อาคารถูกสร้างเสร็จแล้ว แต่อุปกรณ์ยังมาไม่ถึง ดังนั้นลู่โจวจึงต้องยืมสำนักงานจากคนฝ่ายวิชาการมาก่อน
ช่วงนี้ลู่โจวจะอยู่ที่มหาวิทยาลัยจินหลิง สำนักงานเขาอยู่ในวิทยาเขต ทานข้าวที่โรงอาหารมหาวิทยาลัย และโรงแรมก็อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยจินหลิง
แม้ว่าเขาจะมีบ้านใกล้มหาวิทยาลัย แต่ถ้าเขาไปอยู่มันคงยุ่งยากไป จะทำความสะอาดมันก็ลำบากเกิน แล้วที่บ้านก็เต็มไปด้วยกลิ่นเครื่องของเสี่ยวไออีก
ทุกครั้งที่เขาโทรไปขอให้คนจากร้านคอมพิวเตอร์ช่วยเขาซ่อมบำรุงฮาร์ดแวร์ คนจากร้านคอมพิวเตอร์ก็มักจะถามว่าเขาไม่ได้อยู่บ้านนานแค่ไหน บ้านถึงฝุ่นเกาะขนาดนี้
เพื่อสถาบันวัสดุเชิงคำนวณจินหลิง ลู่โจวยังได้ส่งเมลไปหาเวร่า บอกให้เธอเขียนใบสมัครเพิ่มวันหยุดครึ่งเดือนที่พรินซ์ตัน
แม้ว่าลู่โจวจะไม่ได้สนใจเงินเดือนศาสตราจารย์ แต่งานนี้ก็ยังทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจในงานวิจัย นอกจากนี้มันยังสะท้อนให้เห็นปัญหาง่ายๆ ที่เขามองข้ามไป
ในเรื่องนี้เขากับแฟร์มีเหมือนกัน นั่นก็คือเรียนรู้และสั่งสอนศิษย์ไปด้วยกัน
นอกจากนี้การดูลูกศิษย์เติบโตเป็นนักวิชาการชั้นนำก็เป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจมาก
โชคดีที่คลาสทฤษฎีจำนวนของเขาจะเริ่มปลายเดือนกุมภา และการสัมภาษณ์รับศิษย์ช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็ทำได้ผ่านอินเทอร์เน็ต ดังนั้นเขาจะขยายวันหยุดเพิ่มอีกครึ่งเดือนก็ไม่เป็นไร
…
เมื่อคัดเลือกคนเสร็จ ขั้นต่อไปคือมอบหมายงานให้กับคนเหล่านี้
เด็กฝึกงานสามารถรอไปจนกว่าโปรเจกต์จะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ นักวิจัยเป็นทางการควรได้รับมอบหมายงานโดยเร็วที่สุด
ภายในสำนักงานอาคารห้องปฏิบัติการ ลู่โจวได้พบกับหลิวโปและรุ่นพี่เฉียน
ลู่โจวถาม “ศาสตราจารย์หลี่ว่าผมงั้นเหรอ?”
หลิวโปกล่าวอย่างจนปัญญา “ไม่ เขาแค่ไล่พวกเราออกมา”
ลู่โจวยิ้มอย่างอายๆ
ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขโมยตัวอัจฉริยะมาจากศาสตราจารย์หลี่ ห้องแล็บที่ซิลิคอนแวลลีย์เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น เขาไม่อาจเอาบุคคลที่มีความสามารถมาจากที่นั่นได้ ดังนั้นจึงต้องพึ่งพาสหายทั้งสองคนนี้
โดยเฉพาะเฉียนจ้งหมิง แม้ว่าเขาจะมีแค่ปริญญาโท แต่ประสบการณ์ของเขาในสาขาวัสดุศาสตร์เป็นระดับปริญญาเอกอย่างไม่ต้องสงสัย แม้แต่ในสาขาการวิจัย ผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาเอกส่วนใหญ่ก็ยังมีประสบการณ์วิจัยมากไม่เท่าเขา
นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมศาสตราจารย์หลี่ถึงให้ความสำคัญกับเขามากขนาดนี้
รุ่นพี่เฉียนสวมชุดกาวน์สีขาว เขายิ้มแล้วกล่าว “อย่าเรียกฉันว่ารุ่นพี่เลย ฉันมาก็เพื่อเรียนรู้จากนาย ฉันต้องเรียกนายว่าอาจารย์แล้ว”
“ผมก็ยังเรียนรู้จากรุ่นพี่ได้ เรามาเรียนรู้จากกันและกันเถอะ ไม่จำเป็นต้องเรียกผมอาจารย์” ลู่โจวยิ้ม
เฉียนจ้งหมิงส่ายหน้าแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฉันแทบสอนอะไรนายไม่ได้เลย ยิ่งสาขาวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณ ฉันได้แต่ต้องเรียนรู้จากนายเท่านั้น”
ลู่โจวเห็นว่ารุ่นพี่เฉียนจริงจังขนาดนี้ เขาจึงได้แต่ยิ้มอย่างจนปัญญา
เขากระแอมแล้วเปลี่ยนหัวข้อ
“ตอนนี้โปรเจกต์ของเราเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของโปรเจกต์วิจัยพลังงานทางวิทยาศาสตร์ระดับชาติ พูดให้เจาะจงก็คือ เราต้องแก้ปัญหาปรากฏการณ์ชัตเติลในแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์ ผมเชื่อว่าพวกคุณคงรู้อยู่แล้ว”
รุ่นพี่เฉียนพยักหน้า “แล้วนายมีความคิดอะไรไหม?”
“มีอยู่บ้าง แต่มันยังกำกวมมาก” ลู่โจวส่ายหน้า “แต่เรามีปัญหาอื่นต้องแก้ มันคือปัญหาเรื่องอุปกรณ์”
เฉียนจ้งหมิงและหลิวโปต่างพยักหน้า
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทดลองโดยไม่มีอุปกรณ์ แม้ว่าเราจะทำแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของการทดลอง แต่เราก็ยังต้องทดสอบทฤษฎีผ่านการทดลองจริง
ลู่โจวหยุดชั่วครู่ “ผมติดต่อกับยูมิคอร์เพื่อสั่งชุดอุปกรณ์ผ่านสัญญา แม้ว่าผมจะจ้างคนจากสตาร์สกายเทคโนโลยีไปดูการสั่งซื้อ แต่ผมก็ยังต้องการคนที่น่าเชื่อถือไปเซ็นสัญญาอยู่ดี ดังนั้นคุณอาจต้องไปทำธุระที่ยุโรป”
“ไม่มีปัญหา” เฉียนจ้งหมิงยิ้ม “ฉันเคยช่วยศาสตราจารย์หลี่ซื้ออุปกรณ์เหมือนกัน มันไม่ใช่แค่เรื่องของเงิน แต่อุปกรณ์ต้องเชื่อถือได้ด้วย”
ลู่โจวพยักหน้า “ใช่ ขอบคุณครับ”
หลิวโปเห็นว่าเขาไม่ได้รับมอบหมายอะไรจึงยกมือถาม “แล้วฉันล่ะ?”
“ผมหวังว่าคุณจะไปกับรุ่นพี่เฉียน” ลู่โจวมองหลิวโปด้วยรอยยิ้ม “ถ้าเขาไปคนเดียว ผมเป็นห่วง”
…………………………………