ช่วงสัมภาษณ์ ลู่โจวยุ่งอยู่กับงานที่สถาบันวัสดุเชิงคำนวณจินหลิง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจผู้สัมภาษณ์นัก
นอกจากนี้การได้เห็นตัวจริงของคนๆนึงมันแตกต่างจากการได้เห็นผ่านกล้องอย่างสิ้นเชิง
ลู่โจวไม่รู้ว่าทำไม แต่นักศึกษาคนนี้ดูคุ้นๆ
แต่เขาก็จำไม่ได้ว่าได้เจอกับอีกฝ่ายที่ไหน
เหวยเหวิ่นตอบอย่างกระอักกระอ่วน “เราพบกันตอนสัมภาษณ์…และการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์”
พวกเขาย่อมได้พบกันตอนสัมภาษณ์อยู่แล้ว
ส่วนประโยคสอง…มันน่ากระอักกระอ่วนจริงๆ
ช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน เหว่ยเหวินได้เข้ามาหาลู่โจวด้วยท่าทีหยิ่งผยองแล้วกล่าวกับเขาว่า “วิทยานิพนธ์ของคุณไม่เลว แต่แชมป์เป็นของฉัน”
สุดท้ายลู่โจวก็เป็นคนที่ชนะรางวัล Higher Education Society Cup
ตั้งแต่นั้นมาเหว่ยเหวินก็พยายามไล่ตามลู่โจว
อย่างไรก็ตามความแตกต่างของพวกเขาก็มีแต่จะกว้างขึ้น เหว่ยเหวินไม่เห็นแม้แต่แผ่นหลังของลู่โจว
เมื่อเหว่ยเหวินเข้าร่วมงานประชุมที่มหาลัยครูปักกิ่ง เขาก็เห็นลู่โจวชนะรางวัลคณิตศาสตร์เฉินเสิ่งเซิน เหว่ยเหวินอยากยอมแพ้ แต่เขาก็ยังมุ่งมั่นที่จะไล่ตามลู่โจวอย่างดื้อรั้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเหว่ยเหวินจะตั้งเป้าหมายไว้เกินจริง แต่เขาก็ยังประสบความสำเร็จมากมายได้
เหว่ยเหวินจบปริญญาตรีและได้รับข้อเสนอจากศาสตราจารย์ลู่ที่พรินซ์ตัน เขาเป็นเทพในสายตาของเหล่านักศึกษา และกลายเป็น’ลูกตัวอย่าง’ในสายตาสหายของพ่อแม่
อย่างไรก็ตามเหว่ยเหวินยังห่างไกลจากที่เขาต้องการ
อันที่จริงมันเป็นการตัดสินใจของเขาที่เลือกลู่โจวเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
เหตุผลเรียบง่ายมาก เหว่ยเหวินอยากเก่งขึ้น
ลู่โจวยังไม่รู้ว่าศิษย์ทั้งสองของเขานิสัยเป็นยังไง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มอบหมายงานให้ทั้งสอง เขาแค่ให้หนังสือพวกเขาคนละเล่มแล้วบอกให้พวกเขาเขียนสรุป
การศึกษาขั้นพื้นฐานจะเริ่มจากหนังสือเรียน เพื่อค้นหาหัวข้อที่น่าสนใจเพื่อทำการวิจัย เราต้องมีความเข้าใจที่ครอบคลุมในสาขานั้นๆ
หลังจากนั้นก็จะเป็นการศึกษาขั้นสูง
เพื่อลงลึกในหัวข้อนั้นๆ การศึกษาขั้นสูงจะต้องอ่านวิทยานิพนธ์และเอกสาร
ต่อให้ใช้วิทยานิพนธ์เหล่านี้เป็นแหล่งอ้างอิงและทำให้เกิดความคืบหน้าเล็กน้อย มันก็คู่ควรกับวิทยานิพนธ์สำเร็จการศึกษาแล้ว
นักศึกษาปริญญาโททั้งสองยังอยู่ห่างไกลจากการตีพิมพ์วิทยานิพนธ์
ตอนนี้พวกเขาจำเป็นต้องวางรากฐานก่อน
มันไม่มีหนทางลัดใดๆ
เมื่อลู่โจวกลับมา ออฟฟิศของเขาก็กลับมาเป็นปกติ
แม้แต่ฮาร์ดี้ที่พลังงานเหลือล้นก็สงบลงและทำการวิจัยอยู่เงียบๆ
เวลาผ่านไป
ประมาณหกโมงเย็น นักศึกษาบางคนก็ออกจากออฟฟิศแล้วลงไปกินข้าวที่ชั้นล่าง
มีเพียงสองคนเท่านั้นที่อยู่ในออฟฟิศ
เวร่ามองไปโดยรอบ
เธอตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีคนอื่นอยู่ในออฟฟิศอีกก่อนจะหยิบเอาวิทยานิพนธ์ฉบับร่างออกมาและเดินมาที่โต๊ะทำงานลู่โจว
ลู่โจวเงยหน้ามองเวร่าแล้วนึกถึงเมลเธอ เขาวางปากกาลงแล้วเอ่ยถาม “คุณจะบอกการค้นพบของคุณให้ฉันฟังไหม?”
เวร่าดูเขินอาย ในขณะที่ส่งวิทยานิพนธ์ให้เขา
“…โปรดดูให้หน่อยค่ะ”
ลู่โจวรับวิทยานิพนธ์มาและพลิกอ่าน จากนั้นสักครู่เขาก็พยักหน้า
ไม่เลว
ในบรรดาลูกศิษย์ทั้งสามของเขา เวร่าเป็นคนเดียวที่เข้าใจวิธีการสร้างองค์ประกอบกรุปจริงๆ เธอเป็นคนเดียวที่ใช้มันในงานวิจัยของตนเอง
ไม่เพียงแค่นั้น แต่ความคืบหน้าของเธอยังคล้ายกับลู่โจว
พูดตามตรง ข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์เป็นปัญหาทฤษฎีจำนวนเพิ่มเติม แต่มันดูเหมือนปัญหาการวิเคราะห์เชิงซ้อนเช่นกัน อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เข้ากับวิธีสร้างองค์ประกอบกรุปอย่างเต็มที่นัก
สิ่งที่เวร่าทำก็คือการแปลงวิธีสร้างองค์ประกอบกรุปเพื่อให้เข้ากับจำนวนธรรมชาติทั้งหมดแทนที่จะใช้กับจำนวนเฉพาะ
แน่นอนนี่ไม่ใช่งานง่าย เธอทำได้แค่วิเคราะห์ปัญหาจำเพาะเท่านั้น และข้อบกพร่องในงานของเธอก็เห็นได้อย่างชัดเจน
ลู่โจวอ่านวิทยานิพนธ์แล้วเขียนเครื่องหมายคำถามสองตัว “ฉันมีคำถาม”
เวร่ากล่าว “เชิญเลยค่ะศาสตราจารย์”
ลู่โจว “บรรทัดที่สิบสามหน้าที่สี่ ฉันสังเกตเห็นว่าคุณกำหนดแผน K: →△ เท่ากับ πog = f คุณบอกฉันได้ไหมว่าส่วนนี้หมายถึงอะไร?”
เวร่าดูวิทยานิพนธ์แล้วอธิบาย “K(x) เป็นขอบเขตฟังก์ชันฮอลอมอร์ฟิกบนระนาบเชิงซ้อน ด้วยการใช้ทฤษฎีบทของหลิวเหว่ย เราพิสูจน์ได้ว่า Q(x) เป็นฟังก์ชันค่า เราจึงพิสูจน์ได้ว่าสมการ(7)ถูกสร้างขึ้น”
“ขั้นตอนนี้ไม่เป็นไร” ลู่โจวประทับใจเหตุผลเชิงตรรกะของเวร่า “แต่บรรทัดที่สิบเอ็ดหน้าที่เจ็ด ฉันสังเกตเห็นว่าคุณใช้สมการ (7) และ (8) ข้อสรุปของคุณคือแต่ละสาขาของ D ของ Φ(g) ที่มีจำนวนเต็มบวกมี z0∈D แต่ขั้นตอนนี้ผิด”
เวร่าดูวิทยานิพนธ์ชั่วครู่
เธออายเล็กน้อย เธอจึงก้มหัวลง
“ศาสตราจารย์พูดถูก…ฉันจะไปคิดใหม่”
“ไม่ต้องท้อไป งานของคุณดีแล้ว” ลู่โจวกล่าว “ถ้าคุณแก้ปัญหานี้ วิทยานิพนธ์ฉบับนี้จะถือเป็นความสำเร็จที่โดดเด่น”
เวร่าขบริมฝีปากส่ายหน้า ผมบลอนด์สลวยของเธอแกว่งเบาๆ
“แต่ฉันก็ยังผิดอยู่”
ลู่โจวมองดูลูกศิษย์ของตัวเองแล้วคิดอยู่ชั่วครู่ “ฉันมีสอนทฤษฎีจำนวนคลาสแรกวันพุธ คุณควรมาด้วย”
ลู่โจว “แม้คลาสระดับปริญญาตรีจะไม่เป็นประโยชน์ต่อคุณ แต่คุณยังเป็นผู้ช่วยของฉัน คุณต้องมาช่วยฉันตอนที่ฉันยุ่ง”
เวร่าพลันเป็นกังวล เธอถาม “ฉันต้องบรรยายไหม?”
“แน่นอน การบรรยายเป็นส่วนนึงของการเป็นผู้ช่วย ฉันบอกคุณแล้วหนิ”
ลู่โจวยิ้มแล้วพูดต่อ “นอกจากนี้ การคิดถึงปัญหาที่เห็นได้ชัดเป็นครั้งคราวจะเป็นประโยชน์ต่อการวิจัยของคุณมาก มันอาจเป็นแรงบันดาลใจให้คุณได้ ตอนที่ฉันแก้ข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค ฉันก็ได้แรงบันดาลใจจากคลาสทฤษฎีจำนวนของเฟฟเฟอร์แมน แม้ว่าคลาสของเขาจะไม่เกี่ยวข้องการข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคเลยก็ตาม”
เวร่าอ้าปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ลู่โจวตบหลังเธอเบาๆขัดจังหวะเธอ
“ผ่อนคลาย คุณเคยบรรยายที่เบิร์กลีย์แล้ว ทำไมคุณถึงกลัวการบรรยายที่พรินซ์ตันล่ะ?”
เวร่าหน้าแดง
“ค่ะ”
…
ลู่โจวรู้สึกเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยหิว
เขาบอกให้เวร่าซื้อแซนวิชเบคอนมาให้ จากนั้นเขาก็หยุดทำงานแล้วเรียงจดหมาย
ส่วนใหญ่เป็นสัญญาที่ไวท์ส่งมา
ใต้กองจดหมาย ลู่โจวหยิบเอาจดหมายที่บรรจุอย่างดีออกมาด้วยความรู้สึกประหลาดใจ
เขาดูชื่อผู้ส่งแล้วรู้สึกอึ้งๆ
ลู่โจวเปิดซองจดหมาย
“เรียนศาสตราจารย์ลู่ ฉันประธานสมาคมเคมีสหรัฐ…”
ลู่โจวข้ามช่วงกลางแล้วอ่านบรรทัดสุดท้าย
จากประสบการณ์เขา ส่วนสำคัญของจดหมายมักจะอยู่ข้างล่างเสมอ
เขาช็อก
………………………………..