หวังไห่เฟิงเดาถูกเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็คือ HCS-1 มีศักยภาพในการพัฒนา
อย่างไรก็ตามเรื่องอื่นเขาเดาผิด
เหตุผลที่ทำไมลู่โจวถึงเผยแพร่ผลการวิจัยที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่งานวิจัยของลู่โจวที่มาถึงคอขวด มันเป็นเพราะลู่โจวไม่สนใจต่างหาก
แม้ว่าทฤษฎีของเขาจะมีบทบาทสำคัญในด้านการใช้งาน แต่ลู่โจวตระหนักว่าทฤษฎีนี้สามารถใช้งานได้เต็มศักยภาพผ่านการสื่อสารกับผู้อื่น
คนส่วนใหญ่ที่อ่านวารสารจะคิดว่าวิทยานิพนธ์ HCS-1 เป็นส่วนสำคัญที่สุดและมองข้ามวิทยานิพนธ์ที่เน้นทฤษฎี
อย่างไรก็ตามลู่โจวให้ความสำคัญกับทฤษฎีมากกว่า
นี่ก็เหมือนกับทฤษฎีไก่กับไข่
ถ้าเราเข้าใจทฤษฎีคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวกับวัสดุเชิงคำนวณของเขา แล้วคิดค้นนวัตกรรมใหม่โดยการใช้ทฤษฎีนี้ เขาจะไม่รู้สึกแปลกอะไรเลย เขาจะรู้สึกเป็นเกียรติด้วยซ้ำ
นี่เป็นเหตุผลเช่นกันว่าทำไมเขาถึงบอกให้ศิษย์ศึกษาข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์ด้วยวิธีการและแนวคิดเขา
เขาสามารถแก้ข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์ด้วยตัวเองอย่างง่ายดาย
ระดับคณิตศาสตร์ของเขาระดับหกแล้ว มันต่างจากตอนที่เขาอยู่ระดับห้าโดยสิ้นเชิง แม้ว่าคนรุ่นก่อนจะวางรางฐานของข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์ไว้ไม่สมบูรณ์เท่าข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค แต่มันไม่เหมือนข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค ข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับโลกคณิตศาสตร์มากว่าสองศตวรรษแบบนั้น
ถ้าเขาทุ่มสุดตัว เขาจะใช้เวลาอย่างน้อยหกเดือน อย่างมากที่สุดหนึ่งปีจะแก้ข้อคาดการณ์นี้ได้
…
ตอนเช้าตรู่ของปลายเดือนมีนา ลู่โจวมาถึงสถาบันขั้นสูงพรินซ์ตันทันเวลา
แต่มันต่างจากปกติ เขากำลังถือเอกสารสองฉบับอยู่ในมือ
ลู่โจวให้กระดาษข้อสอบแก่เจอริกกับเหว่ยเหวิน “ในกระดาษมีโจทย์สิบข้อ แก้โจทย์แล้วคืนกระดาษข้อสอบในสองชั่วโมง คุณจะใช้โทรศัพท์ก็ได้ แต่คุณไม่เจอคำตอบบนอินเทอร์เน็ตแน่นอน”
เช่นเดียวกับฉินเยว่ตอนต้นเทอม ลู่โจวให้ลิสต์หนังสือเจอริกกับเหว่ยเหวินไปอ่าน
ผ่านมาหนึ่งเดือน ลู่โจวรู้สึกว่ามันถึงเวลาดูความคืบหน้าของพวกเขาแล้ว
หลังแบ่งข้อสอบให้สองคน ทั้งสองก็หยิบปากกามาเขียนทันที
ข้อสอบของลู่โจวไม่ได้ยากอะไรเป็นพิเศษ แต่มันก็ไม่ได้ง่ายเช่นกัน
เหว่ยเหวินขมวดคิ้ว หลังจากนั้นพักใหญ่ ในที่สุดเขาก็แก้โจทย์ได้ข้อหนึ่ง
เจอริกเห็นว่าเหว่ยเหวินคิ้วขมวดเหมือนเขา เขาจึงรู้สึกโล่งอก
เวลาค่อยๆผ่านไป ประมาณสิบโมง ลู่โจวก็ประกาศจบการทดสอบ เขารับเอากระดาษข้อสอบมาแล้วอ่านคำตอบ
ทั้งคู่ตอบถูกเจ็ดข้อ แต่คำตอบที่ผิดของทั้งสองนั้นต่างกัน
ลู่โจววางกระดาษข้อสอบลงแล้วมองทั้งสองที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะทำงาน
“เหว่ยเหวิน ความเข้าใจของคุณที่มีต่อปริภูมิฮิลเบิร์ทนั้นไม่เลวเลย ฉันว่าคุณควรพัฒนาในทิศทางของฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์”
เหว่ยเหวินถาม “ฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์นับเป็นคณิตศาสตร์ประยุกต์ไหม?”
ลู่โจวยิ้ม “มันขึ้นอยู่กับคุณจะนิยามมันอย่างไร ส่วนฟิสิกส์คือทฤษฎี ส่วนคณิตศาสตร์คือประยุกต์ใช้ แน่นอนนี่เป็นเพียงคำแนะนำของฉันเท่านั้น คุณเลือกสาขาที่ต้องการเองได้”
เหว่ยเหวินครุ่นคิดหลังได้ยินคำแนะนำของอาจารย์ที่ปรึกษา
ลู่โจวมองนักศึกษาอีกคนแล้วกล่าว “เจอริก คุณเก่งเรื่องการแปลงผกผันฟูเรียร์ และนี่เป็นทิศทางที่มีอนาคต มันใช้งานได้อย่างหลากหลายทั้งในด้านทฤษฎีและในด้านอุตสาหกรรม ถ้าคุณสนใจสาขานี้ ฉันแนะนำให้คุณสนใจเรื่องนี้มากขึ้นและเลือกมันเป็นหัวข้อการศึกษา”
เจอริกถามทันที “ศาสตราจารย์ ผมเรียนวัสดุเชิงคำนวณได้ไหม?”
ลู่โจวกล่าวติดตลก “ได้สิ แต่อย่าคาดหวังว่าจะเข้าใจทฤษฎีของฉัน ถ้าทำแบบนั้น อย่างน้อยคุณต้องอ่านหนังสือนับสิบ”
นักศึกษาทั้งสองกลับไปนั่งที่เดิม
ลู่โจวบิดขี้เกียจและกำลังจะลุกไปชงกาแฟแก้ง่วง
ทันใดนั้นประตูออฟฟิศก็ถูกเปิดออก คอนนี่เดินเข้ามาพร้อมกับวารสารในมือ
“ศาสตราจารย์!”
ฮาร์ดี้ ฉินเยว่และเวร่าที่กำลังค้นคว้าเอกสาร พวกเขาเงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่พอใจเพราะโดนขัดจังหวะ
ลู่โจวพอเดาได้ว่าทำไมคอนนี่ถึงตื่นเต้นขนาดนี้
อย่างไรก็ตามเขาได้รับคำตอบจากกองบรรณาธิการของไซเอินซ์มานานแล้ว เขาไม่แปลกใจเลยที่วิทยานิพนธ์ของเขาจะอยู่ในวารสาร
ลู่โจวมองอีกฝ่ายแล้วกล่าว “ฉันจำได้ ฉันบอกคุณไปแล้วว่าให้งดใช้เสียงในออฟฟิศ จำไว้ว่าให้เคาะประตูก่อนเข้ามา”
“ยกโทษให้ผมด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมมั่นใจว่าเมื่อศาสตราจารย์ได้ข่าวนี้ ศาสตราจารย์จะตื่นเต้นเหมือนผมแน่นอน” คอนนี่ลดเสียงกล่าว “ลองเดาสิครับว่ามันคืออะไร? เนเจอร์เอาวิทยานิพนธ์ของเราขึ้นหน้าแรก!”
คอนนี่หยุดพูดด้วยท่าที่ภูมิใจและมองลู่โจวรอดูปฏิกิริยาของเขา
อย่างไรก็ตาม…
ลู่โจวไม่ขำเลย
ลู่โจวตื่นเต้นน้อยกว่าที่คอนนี่คิดไว้มาก
ออฟฟิศเงียบไปชั่วครู่
คอนนี่รู้สึกกระอักกระอ่วนและสงบใจลง
ลู่โจวกล่าว “มันก็แค่เกริ่นนำ ไม่จำเป็นต้องตื่นเต้นขนาดนั้น”
เวร่ากำลังวิจัยข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์ เธออดยิ้มไม่ได้ ฮาร์ดี้โหดร้ายมากกว่านั้นอีก เขากำหมัดทุบโต๊ะหัวเราะเสียงดัง
เหว่ยเหวินก็อดยิ้มไม่ได้เหมือนกัน
คอนนี่หน้าแดง เขาเกาหัวแกรกๆ “ศาสตราจารย์ไม่ตื่นเต้นเลยเหรอครับ? นี่เป็นไฮไลท์ของเนเจอร์เลยนะ!”
ลู่โจวถอนหายใจ “ฉันรู้ว่ามันเป็นไฮไลท์เนเจอร์ แต่ครึ่งปีก่อน ฉันถูกไฮไลท์ทั้งของไซเอินซ์และเนเจอร์ ถ้าคุณเป็นฉัน คุณคงไม่สนใจเกียรติยศเล็กน้อยแบบนี้เช่นกัน”
วารสารชั้นนำส่วนมากมีส่วน’ไฮไลท์’ที่แสดงส่วนที่ดีที่สุดของวิทยานิพนธ์และเพิ่มสรุปเนื้อหา
ตอนที่เขาถูกไฮไลท์ครั้งแรกโดยวารสารทั้งสอง เขาค่อนข้างตื่นเต้นทีเดียว
แต่ตอนนี้เขาแทบจะไม่ดีใจด้วยซ้ำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่นานมานี้ ฟิล์มพีดีเอ็มเอสดัดแปลงได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในท็อปสิบวิทยานิพนธ์วิจัยวิทยาศาสตร์ปีสองศูนย์หนึ่งหก
สำหรับเขาแล้ว ไฮไลท์ไม่ได้มีอะไรเลย
สายตาของคอนนี่เบิกกว้าง เขาพูดไม่ออก
คุณพระ มีคนที่คิดว่าไฮไลท์ของเนเจอร์เป็นเรื่องเล็กน้อยด้วย?
คนปกติทั่วไปต้องทำงานหลายปีเพียงเพื่อตีพิมพ์วิทยานิพนธ์ฉบับเดียว
คนส่วนใหญ่ไม่ฝันถึงการได้ขึ้นไฮไลท์ด้วยซ้ำ
ถ้าเรื่องนี้ไม่ทำให้คุณตื่นเต้น แล้วเรื่องไหนจะทำให้คุณตื่นเต้นล่ะ?
รางวัลโนเบล?
ลู่โจวไม่สนใจความคิดของคอนนี่ เขาหยิบวารสารเนเจอร์ฉบับล่าสุดจากคอนนี่แล้วพลิกดูอย่างหยาบๆ
เป็นไปตามคาด วิทยานิพนธ์ HCS-1 เป็นวิทยานิพนธ์ในไฮไลท์
ส่วนวิทยานิพนธ์วัสดุศาสตร์เชิงคำนวณ มันพูดถึงการศึกษา’ผลของเขตพื้นผิวและขนาดรูพรุนต่ออัตราการแพร่กระจายของสารประกอบพอลิซัลไฟต์’แบบสั้นๆ
ลู่โจวยิ้มและส่ายหน้า
ดูเหมือนจะไม่มีใครรู้ว่าสมบัติที่แท้จริงคืออะไร
………………………………….