ลู่โจวคงหัวเราะแน่นอนถ้าเขารู้ว่าศาสตราจารย์สแตนลีย์กำลังคิดอะไร
พูดตามตรง ลู่โจวไม่ได้สนใจที่คุยกันเลย
เพราะเขาไม่จำเป็นต้องสนใจ เขามีเรื่องสำคัญกว่านั้นต้องทำ…
ลู่โจวอยู่ในห้องพักของโรงแรมทั้งคืน
วันต่อมา งานประชุมเคมีอินทรีย์ที่จัดโดยสมาคมเคมีสหรัฐก็เริ่มขึ้น
นักวิชาการจากทั่วทุกมุมโลกเข้าร่วมการประชุมนี้ บางคนก็มาจากอเมริกา บางคนก็มาจากจีน
ตอนเก้าโมงเช้า ห้องประชุมขนาดใหญ่ก็เต็มไปด้วยผู้คน
แม้ว่าจะยังมีเวลาอีกชั่วโมง กว่างานประชุมจะเริ่มอย่างเป็นทางการ แต่หลายคนก็มาถึงแล้ว และทุกคนต่างก็กำลังรออย่างอดทน
พิธีเปิดของรางวัลเคมีอดัมส์เป็นช่วงสำคัญของงานประชุมเคมีอินทรีย์ ไม่มีใครอยากพลาดไป
ลู่โจวเป็นนักวิชาการจีนคนแรกที่ได้รับเหรียญรางวัล เขาย่อมเป็นศูนย์กลางของความสนใจ
เมื่อลู่โจวกำลังเตรียมพร้อมอยู่หลังเวที เขาก็บังเอิญเจอกับนักข่าวของ CCTV
หญิงสาวกำลังถือไมโครโฟนอยู่ ลู่โจวรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเธอ ทันใดนั้นเขาก็นึกได้ว่าเธอเป็นนักข่าวที่เขาพบตอนรับรางวัลโคลที่สตอกโฮล์ม
โชคชะตาเป็นสิ่งมหัศจรรย์
นักข่าวยิ้มและพูดเสียงหวาน “สวัสดีค่ะศาสตราจารย์ลู่ ฉันขอเวลาคุณห้านาทีได้ไหม?”
มีเวลาอีกชั่วโมงกว่าที่พิธีเปิดจะเริ่ม และลู่โจวต้องใช้เวลาห้านาทีในการเตรียมตัว
เขากล่าว “แน่นอน”
หญิงสาวยื่นไมโครโฟนออกมา “คุณรู้สึกยังไงคะ?”
ลู่โจวตอบ “มันยังเร็วไปหน่อยที่จะตอบคำถามนี้เพราะเหรียญยังอยู่ในมือศาสตราจารย์เบอร์สไตน์อยู่เลย”
นักข่าวยิ้ม “งั้นฉันขอเปลี่ยนคำถาม เนื่องจากคุณเป็นนักวิชาการจีนคนแรกที่ได้รับเหรียญรางวัลนี้ คุณต้องตื่นเต้นมากเลยใช่มั้ยคะ?”
ลู่โจวยิ้มแล้วตอบ “ผมตื่นเต้นมาก แต่นั่นเป็นตอนสองเดือนก่อน ตอนที่ผมได้ยินว่าผมได้รับรางวัลนี้ครั้งแรก”
หญิงสาวถาม “คนส่วนใหญ่ได้ยินเรื่องของคุณตอนคุณแก้ข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคและตอนที่คุณชนะรางวัลคลอฟอร์ด ดังนั้นพวกเขาต้องประหลาดใจแน่เลยที่นักคณิตศาสตร์สามารถชนะรางวัลเคมีอดัมส์ งั้นฉันขอถามได้ไหมว่าอะไรที่ทำให้คุณจุดประกายมาสนใจเคมี?”
ลู่โจวไม่ได้ตอบคำถามนี้ตรงๆ กลับกันเขายิ้มแล้วกล่าว “จำสิ่งที่ผมพูดกับคุณที่สตอกโฮล์มได้ไหม?”
นักข่าวสาวยิ้ม “ฉันจำได้ว่า คุณบอกว่าจุดประสงค์ของคณิตศาสตร์คือการเปลี่ยนวิทยาศาสตร์”
“ใช่แล้ว จุดประสงค์ของคณิตศาสตร์คือเปลี่ยนวิทยาศาสตร์” ลู่โจวพยักหน้า “และตอนนี้ ผมกำลังเปลี่ยนวิทยาศาสตร์”
…
การสัมภาษณ์กินเวลาไปห้านาทีเท่านั้น
พิธีเปิดเริ่มแล้ว มันใกล้ถึงเวลามอบรางวัล
ลู่โจวเดินขึ้นไปบนเวที เขารับเหรียญทองและนาฬิกาเงินจากศาสตร์เบอร์สไตน์ ประธานสมาคมเคมีสหรัฐ
การมอบรางวัลที่ทำจากเงินให้เป็นธรรมเนียมของรางวัลเคมีอดัมส์ และรางวัลแต่ละปีจะแตกต่างกัน
นาฬิกาเงินเรือนนี้เล็กมาก มันมีสัญลักษณ์ของรางวัลเคมีอดัมส์ถูกสลักไว้ด้านหลัง เนื่องจากมันทำขึ้นอย่างประณีต ทำให้นาฬิกาเรือนนี้แพงมาก แต่เมื่อเทียบกับเกียรติยศของรางวัลเคมีอดัมส์ เงินไม่มีนัยสำคัญเลย
ศาสตราจารย์เบอร์สไตน์จับมือกับลู่โจวแล้วกล่าว “การพัฒนาพลังงานใหม่เกี่ยวข้องกับอนาคตของเรา ฉันขอขอบคุณสำหรับผลงานของคุณที่มีต่อโลกและทำให้เรามีเวลาวิจัยมากขึ้น”
ดูเหมือนนาฬิกาเรือนนี้จะมีความหมายซ่อนอยู่
ลู่โจวรับนาฬิกาจากมือศาสตราจารย์แล้วกล่าว “ขอบคุณครับ”
เสียงปรบมือดังขึ้นในสถานที่จัดงาน
ช่วงมอบรางวัลก็จบลงแล้ว
อย่างไรก็ตามพิธียังไม่เสร็จ
รางวัลเคมีอดัมส์มีธรรมเนียมที่ผู้ชนะรางวัลต้องกล่าวคำสุนทรพจน์เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงในระหว่างพิธี
นี่เป็นไฮไลท์ของพิธีมอบรางวัล
ลู่โจวปรับไมโครโฟนแล้วเริ่มพูด
“วัสดุ พลังงาน และเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสามเสาหลักของเทคโนโลยีสมัยใหม่ อย่างไรก็ตามนอกจากเทคโนโลยีสารสนเทศ งานวิจัยของเราในสาขาวัสดุและพลังงานนั้นก้าวหน้าไปอย่างเชื่องช้ามานับศตวรรษแล้ว”
“ชุมชนวิชาการเข้าใจผิด ทุกวันจะมีเทคโนโลยีใหม่กำเนิดขึ้นในห้องปฏิบัติการในมุมต่างๆ ของโลก ผมเชื่อว่าทุกท่านที่อยู่ตรงนี้ต่างก็รู้ว่าเราไม่ได้ขาดแคลนวัสดุใหม่ แต่เราขาดวัสดุที่มีประโยชน์ต่างหาก”
“ผมคิดว่าหนึ่งในเหตุผลก็คือเราไม่มีระบบเชิงทฤษฎีที่สามารถค้นหาวัสดุที่เป็นประโยชน์ต่อเรา เรากำลังอาศัยสัญชาตญาณทางวิทยาศาสตร์ของนักวิจัยเท่านั้น”
“นี่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมศึกษาวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณ” ลู่โจวหยุดชั่วครู่แล้วมองตรงไปยังฝูงชน “ผมเชื่อว่าด้วยการคำนวณที่แม่นยำ เราจะสามารถคำนวณวัสดุที่มีศักยภาพชนิดใหม่และช่วยลดเงินและเวลาลงได้บ้าง”
ศาสตราจารย์และนักวิชาการในห้องเริ่มกระวนกระวาย
พระเจ้า ชายคนนี้คิดวิธีพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์ได้อีกแล้วเหรอ?
“…การบรรยายของผมจะเป็นกึ่งวิชาการ”
นักวิชาการถอนหายใจอย่างโล่งอก โดยเฉพาะเหล่าศาสตราจารย์เคมีที่ไม่ค่อยเก่งคณิตศาสตร์
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณเป็นทิศทางวิจัยที่มีศักยภาพ และโลกวิชาการก็ตระหนักถึงคุณค่าของมัน อย่างไรก็ตามทฤษฎีของศาสตราจารย์ลู่เข้าใจได้ยากเกินไป
แม้ว่าศาสตราจารย์หลายท่านในสาขาอย่างเคมีคริสตัล และวัสดุนาโนจะเข้าใจเรขาคณิตและทอพอโลยี แต่ความรู้ของพวกเขาก็มีเพียงพื้นฐาน
ตอนนี้ดูเหมือนพวกเขาไม่ต้องกังวลอีกต่อไป
ลู่โจวบอกแล้วว่านี่จะเป็นสุนทรพจน์กึ่งวิชาการ เขาจะไม่พูดเรื่องที่มันยากเกินไป
“…ผมศึกษาผลของขนาดรูพรุนและเขตพื้นผิวของคาร์บอนนาโนสเฟียร์ต่ออัตราการแพร่กระจายของสารประกอบพอลิซัลไฟต์ โคพอลิเมอร์ของพอลิอะนิลีนฟลูออรีนพอลิไพรโรลถูกใช้เป็นสารตั้งต้น และพอลิไดแอลลิลไดเมทิลแอมโมเนียมถูกใช้เป็นสารที่เกิดจากกระบวนการเปลี่ยนของสารตั้งต้น”
ขณะที่พูด ลู่โจวก็หยิบชอล์กขึ้นมาจากโพเดียมแล้ววาดแบบจำลองโมเลกุลตัวอย่างบนกระดานดำที่อยู่ด้านหลัง เขาเขียนส่วนพื้นผิว รูพรุน และข้อมูลอย่างอื่นไว้หลังแบบจำลอง
จนถึงตอนนี้ ทุกอย่างเข้าใจได้ง่าย
ทุกคนลดความระวังลง แต่จู่ๆ ลู่โจวก็หยุดเขียนแล้วพูดต่อ “ตอนที่ผมศึกษาเรื่องเหล่านี้ ผมก็พบกับบางสิ่งที่น่าสนใจ”
ลู่โจวรีบเขียนสมการบรรทัดแรก
จากนั้นเขาก็หลุดออกจากการควบคุม…
วู้ดส์นั่งอยู่แถวหลังของห้องบรรยาย เขามองไปโดยรอบด้วยสีหน้ากังวล
ก่อนมาเป็นผู้บริหารของเอ็กซอนโมบิล เขาเป็นวิศวกรมาก่อน ดังนั้นเขาจึงเข้าใจวงการเคมี แม้ว่าเขาจะไม่เคยทำงานวิจัย แต่เขาก็ยังอ่านวิทยานิพนธ์ได้
แต่ตอนนี้เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เขียนบนกระดานดำเลย
วู้ดสูดหายใจลึกๆ เขาหันไปมองศาสตราจารย์สแตนลีย์ก่อนจะกระซิบเบาๆ “บรรยายกึ่งวิชาการทั้งหมดนี้ยากไหม?”
ศาสตราจารย์สแตนลีย์ลังเลชั่วครู่ก่อนจะตอบเขา
“ปกติแล้วมันไม่ใช่แบบนี้…”
เห็นได้ชัดเลยว่า…มันไม่ปกติ
…………………………………