Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 344 ผู้ชนะรางวัลโนเบลก็ไม่มั่นใจเช่นกัน

อีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติก ในการบรรยายเคมีผลึกที่มหาวิทยาลัยมิวนิก

ศาสตราจารย์แกร์ฮาร์ด แอร์ตัลไม่ได้มอบงานบรรยายให้ผู้ช่วย กลับกันเขายืนอยู่กลางห้องอธิบายความลึกลับของเคมีผลึกให้แก่เหล่านักศึกษา

สำหรับผู้ชนะรางวัลโนเบลแล้ว งานสอนวิชาพื้นฐานแบบนี้ดูไม่ค่อยปกตินัก อย่างไรก็ตามนักวิชาการชื่อดังมากมายมีความสุขกับการได้แบ่งปันความรู้ให้กับเหล่านักศึกษา

ศาสตราจารย์แอร์ตัลก็เหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อเขาเจอกับปัญหายากๆ

การสอนความรู้พื้นฐานมักให้แรงบันดาลใจเขาเสมอ

ตอนท้ายการบรรยาย นักศึกษาคนหนึ่งจู่ๆ ก็ยกมือขึ้น

“ศาสตราจารย์เห็นวิทยานิพนธ์เรื่องแบบจำลองเชิงทฤษฎีของพื้นผิวสัมผัสของเคมีไฟฟ้าบน JACS ไหม?”

ศาสตราจารย์แอร์ตัลหยุดไปสองวิ ก่อนจะปรับกรอบแว่นแล้วพยักหน้า

“ใช่ ฉันเคยเห็น มีคำถามไหม?”

นักศึกษาคนนั้นมองเขาแล้วเอ่ยถาม “มันถูกต้องไหม?”

แอร์ตัลคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “ด้วยความถูกต้องของวิทยาศาสตร์ ตอนนี้ฉันยังตอบคำถามนี้ไม่ได้”

นักศึกษาดูไม่พอใจกับคำตอบเขานัก “ถ้าเกิดมันถูกต้องล่ะ?”

“ในวิทยาศาสตร์ไม่มีคำว่าถ้า แต่ถ้าฉันต้องตอบ…”

แอร์ตัลขมวดคิ้วและเหมือนจะลังเลที่จะตอบ แต่สุดท้ายเขาก็กล่าว “ถ้ามันถูกต้อง งั้นมันจะปฏิวัติวงการเคมี”

ทั้งห้องเรียนอุทานด้วยความตกใจ

ปฏิวัติวงการเคมี!

มันน่าตกใจมาก!

ถ้าเป็นคนอื่นพูดแบบนี้ คนส่วนใหญ่ก็คงไม่สนใจ แต่คนที่กล่าวคือศาสตราจารย์อาร์ตัล ผู้ชนะรางวัลโนเบลปี 2007 และผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีพื้นผิวของแข็ง!

นอกจากตำแหน่งศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยมิวนิก เขายังเป็นผู้อำนวยการสถาบันฟลิทซ์ฮาร์เบอร์ที่สถาบันมักซ์พลังค์

ในสาขาเคมีไฟฟ้าจะมีความเห็นของใครที่สำคัญกว่านี้อีก?

ศาสตราจารย์แอร์ตัลยิ้มให้กับปฏิกิริยาของเหล่านักศึกษา

“ฉันมีความสุขที่เห็นพวกคุณมองการกำเนิดทฤษฎีใหม่ในแง่ดี พวกคุณพูดถูก วิธีเดียวที่ทำให้เราก้าวหน้าต่อไปคือการยอมรับทฤษฎีใหม่”

“อย่างไรก็ตามท่ามกลางความสนใจทฤษฎีใหม่ ฉันหวังว่าพวกคุณจะจำไว้ว่าต้องดูข้อสรุปทุกอย่างให้ละเอียดรอบคอบ”

“มันเป็นหน้าที่รับผิดชอบของนักวิทยาศาสตร์”

แอร์ตัลเคาะโพเดียม

“ฉันจะบอกให้ผู้ช่วยส่งการบ้านให้ทางอีเมล เลิกคลาส”

หลังออกจากห้องเรียน ศาสตราจารย์แอร์ตัลก็ไม่ได้กลับออฟฟิศ กลับกันเขาขึ้นรถและขับไปสถาบันฟลิทซ์ฮาร์เบอร์แห่งสมาคมมักซ์พลังค์

วิทยานิพนธ์ล่าสุดของ JACS ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในชุมชนเคมี สถาบันฟลิทซ์ฮาร์เบอร์มีหน้าที่ในการแสดงความเห็นต่อวิทยานิพนธ์นี้

แน่นอน การแสดงความเห็นนี้ต้องทำอย่างจริงจัง

เนื่องจากความสำคัญของแบบจำลองเชิงทฤษฎีในสาขาโครงสร้างพื้นผิวสัมผัสเคมีไฟฟ้า สมาคมมักซ์พลังค์ได้จัดตั้งทีมสหวิทยาการเพื่อรวบรวมนักวิชาการชั้นแนวหน้าในสาขาคณิตศาสตร์ เคมีและฟิสิกส์สสารควบแน่นเข้าด้วยกันเพื่อหารือเรื่องแบบจำลองเชิงทฤษฎีนี้

อาร์ตัลเป็นสมาชิกของกลุ่มวิจัยและผู้อำนวยการสถาบันเคมีเชิงฟิสิกส์ ความคิดเห็นของเขาก็หมายถึงตัวแทนของความคิดเห็นของสถาบันวิจัย

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงต้องจัดการโปรเจกต์วิจัยนี้อย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ

เขาเดินเข้าห้องประชุมแล้วเห็นฟาลติ้งส์นั่งอยู่ข้างในกำลังอ่านวิทยานิพนธ์อย่างระมัดระวัง

พูดตามตรง ชายคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญสาขาเรขาคณิตเชิงพีชคณิตและเรขาคณิตเชิงเลขคณิต การวิเคราะห์เชิงฟังก์ชันไม่ใช่สาขาวิจัยของเขา อย่างไรก็ตามเขาก็เป็นผู้ยิ่งใหญ่สาขาทฤษฎีจำนวน มันจึงไม่ใช่เรื่องที่หาได้ยากที่เขาจะค้นคว้านอกเหนือความเชี่ยวชาญของตน

นอกจากนี้เขายังเป็นนักคณิตศาสตร์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดหลังก็อตเทนดิก และเขายังเป็นผู้อำนวยการสถาบันมักซ์พลังค์เพื่อคณิตศาสตร์ด้วย ดังนั้นมันจึงจำเป็นที่เขาต้องเข้าใจงานวิจัยสาขาอื่น

ไม่งั้นเขาคงไม่ได้เป็นผู้อำนวยการสถาบันวิจัยหรอก

อย่างไรก็ตามชายชราชาวเยอรมันคนนี้มีนิสัยแย่ตอนอยู่พรินซ์ตัน และเมื่อกลับมาเยอรมนี ทัศนคติเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย อันที่จริงมันแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ

ฟาลติ้งส์พูดกับอาร์ตัลช้าๆ ราวกับกำลังเล่าเรื่อง

“มีแต่นักคณิตศาสตร์เกรดสองเท่านั้นที่สนใจจะใช้คณิตศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาโลกจริง ในความเห็นฉัน สิ่งนี้ไม่มีค่าเลย”

การดูถูกวิทยาศาสตร์ประยุกต์เป็นบรรทัดฐานของโรงเรียนคณิตศาสตร์บอร์บากิ แม้ว่านักคณิตศาสตร์รุ่นใหม่จะไม่ค่อยมีแนวคิดนี้ แต่ในหมู่นักคณิตศาสตร์รุ่นเก่ายังมีแนวคิดนี้ฝังหัวอยู่

ฮาร์ดี้เป็นตัวอย่าง นอกจากการวิจัยคณิตศาสตร์ สิ่งที่ฮาร์ดี้ชอบก็คือการชอบโอ้อวดต่อหน้าคนอื่น เขาชอบเรียนคณิตศาสตร์บริสุทธิ์และภูมิใจกับงานวิจัยที่นำไปใช้อะไรไม่ได้

อย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่ฮาร์ดี้ไม่คาดคิดเลยว่างานวิจัยของเขาจะถูกนำไปใช้กับวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิทยาการเข้ารหัสลับ

แน่นอน ฟาลติ้งส์ไม่ได้หมายความว่าลู่โจวเป็นนักคณิตศาสตร์เกรดสอง เขาแค่ดูถูกวิทยานิพนธ์ของลู่โจวเท่านั้น

ในพิธีมอบรางวัลคลอฟอร์ดปีแล้ว เขาบอกว่าบนโลกนี้มีนักคณิตศาสตร์เพียงสี่คนเท่านั้นที่ก้าวข้ามเขาไปได้ และลู่โจวเป็นคนที่มีโอกาสมากที่สุด

แต่ตอนนี้เขากำลังคิดเรื่องการเปลี่ยนตัวเลขสี่เป็นสาม

อาร์ตัลนั่งอยู่ตรงข้ามเขา “ฉันไม่เห็นด้วย”

ฟาลติ้งส์ตอบ “ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะไม่เห็นด้วย มันก็เหมือนกับที่คนทั่วไปไม่เข้าใจความงามของรูปปั้นกรีกโบราณ คุณก็แค่ไม่เข้าใจความงามของคณิตศาสตร์”

คิ้วอาร์ตัลกระตุก

ศาสตราจารย์คลัสส์ วอน คลิทซิ่งกระแอมแล้วพยายามหยุดกันโต้เถียงกันของทั้งสอง

“มิสเตอร์ฟาลติ้งส์ พอแล้ว ผมหวังว่าคุณจะให้ความเห็นที่สร้างสรรค์กว่านี้ เราไม่ได้มาฟังคุณเยาะเย้ยเรานะ”

ศาสตราจารย์คลัสส์ วอน คลิทซิ่งเป็นนักวิจัยของสถาบันมักซ์พลังค์เพื่อฟิสิกส์สสารควบแน่น เขาเป็นผู้ค้นพบปรากฏการณ์ฮอลล์ควอนตัมและเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบล

“ฉันไม่ได้เยาะเย้ยพวกคุณ” ฟาลติ้งส์มองดูวิทยานิพนธ์แล้วกล่าว “ฉันแค่พูดความจริง”

อาร์ตัลหันไปมองคลิทซิ่ง เขาตัดสินใจไม่ถกเถียงกับชายชราผู้ดื้อรั้นก่อนที่จะอ่านวิทยานิพนธ์จบ

โชคดีที่ฟาลติ่งส์มีจุดประสงค์เดียวกัน เขาจึงอ่านวิทยานิพนธ์ต่ออย่างพิถีพิถัน

หลังจากนั้นพักใหญ่ เขาก็โยนวิทยานิพนธ์ลงบนโต๊ะแล้วออกความเห็น

“จากมุมมองของนักคณิตศาสตร์ ขั้นตอนของเขาไม่เลว”

อาร์ตัลและคลิทซิ่งโล่งอก

ถ้าศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์บอกว่ามันถูกต้องในทางคณิตศาสตร์ งั้นในสาขาคณิตศาสตร์ มันก็ควรไม่เป็นไร

คลิทซิ่งหันไปมองอาร์ตัล “คุณคิดยังไงกับทฤษฎีนี้?”

อาร์ตัลคิดอยู่ชั่วครู่ “ในความเห็นของฉัน มันไม่เลวเลย อย่างไรก็ตามทฤษฎีของเขาเข้าใจได้ยาก แม้ว่าเราจะออกความเห็น แต่โลกเคมีคงไม่ยอมรับทฤษฎีนี้”

คลิทซิ่งกล่าว “สรุปคุณจะพูดอะไร?”

อาร์ตัลพยักหน้า “ไม่มีอะไรดีไปกว่าการบรรยายผลงานทางวิชาการ ยิ่งทฤษฎียากเท่าไหร่ ก็ต้องการผู้เขียนมากเท่านั้น”

คลิทซิ่งใช้นิ้วเคาะโต๊ะประชุมเบาๆแล้วเอ่ยถาม “คุณคิดว่ายังไงถึงจะเหมาะสม”

“เราสามารถส่งจดหมายเชิญไปพรินซ์ตันและเชิญตัวศาสตราจารย์ลู่มาเยี่ยมชมสถาบันฟลิทซ์ฮาร์เบอร์ เราสามารถมอบเวทีให้ขาอธิบายมุมมองของเขาต่อชุมชนเคมี”

นี่เป็นความคิดที่ดี

คลิทซิ่งพยักหน้าเห็นด้วย

“ฉันเห็นด้วย แต่ปัญหาคือควรเป็นสถาบันวิจัยไหนที่ส่งคำเชิญให้เขา?”

นี่เป็นคำถามสำคัญ

สถาบันมักซ์พลังค์ไม่ใช่องค์กรจากบนลงล่าง มันเป็นสถาบันวิจัยที่แต่ละแผนกเป็นอิสระต่อกัน

อย่างไรก็ตามคำถามนี้ตอบง่ายมาก

มีสองเสียงพูดออกมาขณะเดียวกัน

“ควรเป็นสถาบันเคมีเชิงฟิสิกส์แน่นอนอยู่แล้ว”

“มันควรเป็นสถาบันคณิตศาสตร์ของเรา”

ฟาลติ้งส์และอาร์ตัลมองหน้ากันเอง

ฟาลติ้งส์กล่าว “เขาเป็นนักคณิตศาสตร์”

อาร์ตัลมองดูเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ “แต่เรากำลังพูดถึงเคมี”

เมื่อเห็นว่าทั้งสองทะเลาะกันอีกแล้ว คลิทซิ่งก็ประนีประนอม

“เนื่องจากพวกคุณตัดสินใจไม่ได้ สถาบันฟิสิกส์สสารควบแน่นเป็นไง-…”

“เป็นไปไม่ได้”

“อย่าแม้แต่จะคิด!”

คลิทซิ่งกระแอมอย่างกระอักกระอ่วน “ผมแค่พูดเฉยๆ…ถ้างั้นเราควรแก้ปัญหานี้ด้วยวิธีดั้งเดิม”

ธรรมเนียมของนักฟิสิกส์

การเดิมพัน

“หัวคุณออก ก้อยคุณไปต่อ” คลิทซิ่งกล่าว เมื่อเขาเอาเหรียญวางไว้บนโต๊ะ เขาก็กล่าวเสริม “แน่นอน ฉันจะร่วมด้วย”

………………………………….

Scholar’s Advanced Technological System

Scholar’s Advanced Technological System

The Overachiever's Black Tech System, 学霸的黑科技系统
Score 6.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Scholar’s Advanced Technological Systemหลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล “ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?” “ไม่ได้” “เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?” “ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset