มันก็เดือนหนึ่งแล้วนับตั้งแต่ที่วิทยานิพนธ์ของลู่โจวตีพิมพ์ในวารสาร [JACS] การถกเถียงเกี่ยวกับแบบจำลองเชิงทฤษฎีของพื้นผิวสัมผัสเคมีไฟฟ้านั้นเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
เนื่องจากข้อถกเถียงนี้ วิทยานิพนธ์จึงได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ
แม้ว่าเขาจะไม่ได้เลือกส่งไปยังวารสารไซเอินซ์อันโด่งดัง แต่ไซเอินซ์ก็ยังทำ’ไฮไลท์’วิทยานิพนธ์เขา
ไม่เพียงแค่นั้น นักเคมีเชิงทฤษฎีชื่อดังและผู้ชนะรางวัลโนเบลปี 2013 ศาสตราจารย์มาร์ติน คาร์พลัสแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้เชิญผู้เขียนรีวิวทางวิทยาศาสตร์มาแสดงความเห็นเกี่ยวกับผลการวิจัย
“…ฉันได้ให้ความสนใจกับทฤษฎีของเขา แต่ฉันไม่คิดเลยว่าผลลัพธ์จะออกมาเร็วขนาดนี้ นี่เป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย ฉันค่อนข้างมองในแง่ดีเกี่ยวกับความถูกต้องของผลลัพธ์ อย่างไรก็ตามมันได้ตอบคำถามมากมายเกี่ยวกับพื้นผิวสัมผัสเคมีไฟฟ้า ดังนั้นฉันจึงมีคำถามที่ไม่ได้รับคำตอบอยู่บ้าง”
“จนถึงตอนนี้รางวัลโนเบลได้ถูกมอบให้สาขาเคมีเชิงคำนวณสองครั้งเท่านั้น ฉันเชื่อว่ารางวัลโนเบลจะกลับมาสนใจสาขานี้อีกครั้งในอนาคตอันใกล้”
ก่อนหน้านี้มาร์ติน คาร์พลัสได้มีผลงานอันโดดเด่นในการจำลองหลายขนาดของการออกแบบระบบโมเลกุลเชิงซ้อนด้วยการเสนอสมการของคาร์พลัสที่มีความสัมพันธ์ระหว่างค่าคงที่ควบคู่และมุมสองหน้า นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้รางวัลโนเบลสาขาเคมีในปี 2013
เขาเป็นนักเคมีเชิงทฤษฎีที่เชี่ยวชาญคณิตศาสตร์เช่นกัน คาร์พลัสมีผลงานที่โดดเด่นมากมายในสาขาอย่างเคมีควอนตัม ชีวโมเลกุล หรือแบบจำลองพลวัตเชิงโมเลกุล
ด้วยเหตุนี้การตรวจสอบวิทยานิพนธ์ของลู่โจวจึงได้รับการสนใจอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งไซเอินซ์เป็นหนึ่งในสองวารสารชั้นนำของโลก นักวิชาการหลายท่านที่อยู่นอกสาขาเคมีจึงอ่านบทสรุปของวิทยานิพนธ์ได้
ในขณะเดียวกันก็มีภาพหนึ่งวนเวียนอยู่บนทวิตเตอร์ของเหล่านักศึกษามหาวิทยาลัยโคลัมเบีย
มันเป็นรูปของชายคนหนึ่งที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้านักคิด
แคปชั่นมีเพียงบรรทัดเดียว
[มนุษย์ธรรมดามองเห็นจักรวาลผ่านรูปปั้นทองสัมฤทธิ์]
รูปนี้ถูกถ่ายเมื่อเดือนที่แล้ว
มันเป็นรูปที่ถูกถ่ายโดยผู้ถือวุฒิปริญญาเอกสาขาปริญญาที่กำลังเดินกลับหอพัก
ผู้ถือวุฒิปริญญาเอกคนนี้คิดว่ามันน่าสนใจที่ได้เห็นคนยืนอยู่หน้ารูปปั้น’ครุ่นคิด’อยู่พักใหญ่ๆ ดังนั้นเขาจึงถ่ายรูปมาด้วย
หลังกลับมาถึงหอพัก เขาก็ได้ดื่มเหล้านิดหน่อยแล้วคิดแคปชั่นเอาไปโพสต์บนทวิตเตอร์ได้
เขาไม่คิดเลยว่าทวิตของเขาจะถูกค้นพบในหนึ่งเดือนต่อมา
อันที่จริงทวิตนี้ไม่ได้ดึงดูดความสนใจอะไรเป็นพิเศษจนกระทั่งผู้ชนะรางวัลโนเบลปี 2013 ได้สื่อความหมายภาพนี้ในความหมายที่ต่างกันมาก
มันนำมาซึ่งตำนานและสีสัน
แม้ทุกคนจะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่แอปเปิลจะสอนกฎการแรงโน้มถ่วงของตัน เป็นเรื่องรางราวที่นำความโรแมนติกมาสู่สาธารณะ มันง่ายกว่ามากที่จะให้คนมากระจายของ
การยืนอยู่หน้ารูปปั้น’ครุ่นคิด’ขณะคิดทฤษฎีเคมีแบบใหม่
อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่รู้เลยว่ามีเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นบนทวิตเตอร์ เขาพึ่งตระหนักว่าในวิทยาเขตโคลัมเบียเขาเป็นที่จำได้มากกว่าเคย บางคนก็กระทั่งมาถ่ายรูปกับเขา
เขาสับสนกับความกระตือรือร้นของคนเหล่านี้ แต่เนื่องจากเขาเป็นคนง่ายๆ เขาจึงมักจะยอมทำตามคำขอของแฟนคลับ
ส่วนพวกคนที่กระตือรือร้นและซนเกินไป…
ลู่โจวย่อมปฏิเสธพวกเขาไป
สิ่งที่น่าสนใจก็คือลู่โจวไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับความนิยมในวิทยาเขตโคลัมเบีย
แม้แต่รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ก็กลายเป็นจุดสนใจ
มีผู้คนมายืนอยู่ตรงหน้ารูปปั้นมากขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งศาสตราจารย์และนักศึกษา
มันเป็นเรื่องยากจะพูดได้ว่ามันเป็นเรื่องดีต่อรูปปั้นหรือไม่…
…
ช่วงเวลาแห่งความสุขมักสั้นเสมอ
มันถึงเวลาที่ลู่โจวต้องบอกลามหาวิทยาลัยนี้แล้ว
ก่อนไป ประธานมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ศาสตราจารย์ ลี คาร์โรลล์ โบลินเจอร์ ได้มาส่งลู่โจวที่หน้ามหาวิทยาลัยด้วยตนเอง
“ฉันบอกได้ว่านักศึกษาโคลัมเบียชอบคุณมาก คุณมั่นใจเหรอว่าจะไม่อยู่ต่อ?”
ลู่โจวยิ้ม “ถ้าทำแบบนั้น ผมไม่คิดว่าคุณไอสกรูเบอร์จะพอใจนะครับ”
ไอสกรูเบอร์เป็นประธานมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน แม้ลู่โจวจะไม่สนิทกับอีกฝ่าย แต่เขาก็ถือว่าพอรู้จักกัน
“โอ้ อย่าทำแบบนั้น ฉันแค่คิดถึงพวกลูกศิษย์ของฉัน” โบลินเจอร์ยิ้ม “ถ้าทำได้ ฝากทักทายไอสกรูเบอร์ด้วย นอกจากนี้ประตูมหาวิทยาลัยโคลัมเบียจะต้อนรับคุณเสมอ”
ลู่โจวยิ้ม “ขอบคุณครับ”
ศาสตราจารย์โบลินเจอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ที่จริงเราเตรียมของขวัญให้คุณด้วย แต่ของขวัญชิ้นนี้พิเศษเล็กน้อย มันต้องขอความเห็นของคุณก่อน…”
ลู่โจวถาม “ผมขอถามได้ไหมว่าของขวัญชิ้นนี้คืออะไร?”
“ตำแหน่งศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ขออภัยด้วยที่มันไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อตัวคุณ” โบลินเจอร์ยิ้ม “ฉันไม่รู้ว่าคุณจะยอมรับของขวัญชิ้นนี้ไหม?”
ลู่โจวยิ้ม “มันเป็นเกียรติอย่างยิ่ง”
ศาสตราจารย์โบลินเจอร์ “นี่เป็นเกียรติต่อมหาวิทยาลัยโคลัมเบียเช่นกัน”
คนๆ หนึ่งมีตำแหน่งศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ได้หลายตำแหน่ง ก่อนหน้านี้ลู่โจวมีตำแหน่งศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัยจินหลิงที่เดียวเท่านั้น
ตำแหน่งนี้หมายถึงการได้รับการยอมรับความสามารถทางวิชาการของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียและมันยังแสดงถึงมิตรภาพระหว่างเขากับมหาวิทยาลัยโคลัมเบียอีกด้วย
นักวิชาการทุกคนมีความสุขมากกับการได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ให้มากที่สุด
ลู่โจวเดินออกนอกวิทยาเขตโคลัมเบียและขึ้นไปนั่งบนรถฟอร์ดของตน
เจอริกนั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับ เมื่อเขาได้ยินว่าศาสตราจารย์กำลังจะกลับ เขาจึงอาสามารับลู่โจว
แม้ว่าลู่โจวจะวางแผนขึ้นรถไฟกลับ แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอของเจอริก
“ศาสตราจารย์ เรากลับมหาวิทยาลัยเลยไหม?”
ลู่โจวคาดเข็มขัดนิรภัยแล้วกล่าว “แน่นอน ถ้าเราไปถึงเร็ว เราคงไปกินข้าวเที่ยงทัน”
เจอริกพยักหน้า “ครับศาสตราจารย์”
เขากำลังจะสตาร์ทรถ แต่ทันใดนั้นเองก็มีชายสวมชุดสูทล้มลงตรงหน้ารถ
ลู่โจวอึ้ง
นี่คือ…
การฉ้อฉลด้านประกันในตำนาน?
แม้แต่ในจินหลิง เขาก็ไม่เคยเห็นเหตุการณ์นี้ แต่ทำไมมันถึงเกิดขึ้นที่นี่ล่ะ?
เจอริกก็งงเหมือนกัน เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน เขายกเท้าออกจากคันเร่งแล้วดับเครื่องยนต์
ชายในชุดสูทตะเกียกตะกายขึ้นมาแล้วเดินมาที่ข้างรถ เมื่อเขาเห็นลู่โจว เขาก็โวยวายพร้อมกับน้ำตาไหลอาบแก้ม
“ได้โปรด ด้วยนามของพระเจ้า โปรดยกโทษให้ผมด้วย”
ลู่โจวงุนงง เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“พูดช้าๆลงหน่อย คุณคือใคร?”
พูดตามตรง ลู่โจวไม่เคยเห็นชายคนนี้มาก่อน
มันเหมือนกับว่าเขาเคยข่มเหงรังแกคนๆนี้ยังไงไม่รู้
ถ้าเรื่องนี้หลุดไป ภาพลักษณ์ของฉันคงดูไม่ดี…
ลู่โจวมองไปรอบๆ แล้วเห็นนักศึกษาหลายคนจ้องมองมายังความวุ่นวายนี้
ยามรักษาความปลอดภัยที่ทางเข้าวิทยาเขตโคลัมเบียเอามือจับกระบองจ้องมองมา
ช่วงไม่กี่ปีมานี้มีเหตุการณ์ยิ่งกันเพิ่มขึ้นบ่อยครั้ง แม้นิวยอร์กจะมีกฎหมายควบคุมปืนที่เข้มงวดที่สุดในอเมริกา แต่พวกเขาก็ยังต้องดูแลความปลอดภัยอย่างจริงจังมาก
เรื่องนี้บอกได้จากอุปกรณ์ป้องกันที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมีอยู่
“ผม…” ชายในชุดสูทกระอักกระอ่วนระคนลังเล “ผมริคาร์โด้…ผมเคยทำงานที่สถาบันวิจัยของคุณ”
เมื่อลู่โจวได้ยินชื่อนี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ลู่โจวยิ้มแล้วกล่าว “ไม่ต้องห่วง ฉันถอนฟ้องคุณแล้ว”
แม้ลู่โจวจะโกรธเล็กน้อยตอนที่ถูกเล่นงานก็ตาม…
แต่มันก็ผ่านมานานแล้ว…นอกจากนี้เนื่องจากสหายคนนี้ช่วยเหลือเขาอย่างมาก ลู่โจวจึงปล่อยเรื่องนี้ไปนานแล้ว
อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่คิดเลยว่าริคาร์โด้จะเศร้าใจมากกว่าเดิมอีก
“ไม่ โปรดอย่าทำแบบนั้น! ฟ้องผมเถอะ! ขอร้อง!”
ลู่โจว “…?”
อะไรนะ?
………………………………….