ช่วงนี้หวังไห่เฟิงรู้สึกไม่พอใจมาก
พูดให้ถูกก็คือ ช่วงหกเดือนมานี้ เขาไม่พอใจมาตลอด
อย่างแรกเลย เขาจำเป็นต้องทำโปรเจกต์วิจัยซ้ำเนื่องจากเหตุผลหลายประการ แถมนักวิจัยของเขายังถูกสถาบันวัสดุเชิงคำนวณจินหลิงแย่งตัวไป
พูดตามตรง เขาไม่เคยคิดเลยว่าเสี่ยวหลิวที่ดูซื่อสัตย์จะทรยศเขา
ตอนแรกเลย เขาไม่ได้มีลูกศิษย์ที่มีความสามารถอยู่ในห้องแล็บมากนัก และตอนนี้ลูกศิษย์ที่มีความสามารถที่สุดก็ไปแล้ว เขาเคยมอบหมายงานหลายเรื่องให้หลิวรุ่ยทำ แต่ตอนนี้เขาต้องทำด้วยตัวเอง
ในที่สุดโปรเจกต์วิจัยของเขาก็ได้รับการอนุมัติ และเขาได้รับเงินทุนวิจัย
อย่างไรก็ตามภายในไม่กี่วัน เขาก็ได้รับข่าวร้ายจากอีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิก สถาบันวิจัยวัสดุศาสตร์มหาวิทยาลัยบิงแฮมตันได้รับการสนับสนุนโดยเอ็กซอนโมบิล ได้พัฒนาโมเลกุลคาร์บอนเหมือนกรงที่ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาชัตเติลเอฟเฟกต์ของแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์
วิทยานิพนธ์นี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร JACS โดยมีเอ็กซอนโมบิลเป็นผู้โปรโมท ทั้งชุมชนวิชาการต่างก็จับจ้องไปที่ศาสตราจารย์สแตนลีย์และวิทยานิพนธ์ที่เขาเขียน
มีทีมวิจัยและพัฒนาของจีนหลายทีมที่กำลังวิจัยปัญหาชัตเติลเอฟเฟกต์เช่นกัน
โดยเฉพาะบริษัทที่ลงทุนในโปรเจกต์วิจัย พวกเขาตัดเงินทุนไปครึ่งหนึ่งแล้ว
ทีมวิจัยกำลังเผชิญกับความเสี่ยงถูกถอนทุน
ในทางตรงกันข้ามหวังไห่เฟิงค่อนข้างโชคดี
กองทุนวิจัยของเขามาจากกองทุนวิจัยแห่งชาติ
กองทุนวิจัยแห่งชาติไม่ได้สนใจเรื่องผลกำไรและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในตลาดมากนัก
อย่างน้อยที่สุด พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้กับโปรเจกต์วิจัยที่ทำไปครึ่งทาง
ไม่ว่ายังไง เอ็กซอนโมบิลก็ได้จัดตั้งอุปสรรคทางสิทธิบัตรของแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์แล้ว แถมยังควบคุมการกำหนดราคาของวัสดุแคโทดแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์อย่างเต็มที่ นี่เป็นข่าวร้ายของอุตสาหกรรมพลังงานโลก
หวังไห่เฟิงรู้สึกเสียใจกับบริษัทพลังงานในประเทศ แต่เขาก็รู้สึกสบายใจเหมือนกัน
ส่วนเหตุผลที่ทำไมเขาถึงรู้สึกสบายใจก็คือ…
เหตุผลก็คือลู่โจวไม่ใช่ผู้ชนะการต่อสู้ของแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์
ท้ายที่สุดแล้ว ศาสตราจารย์สแตนลีย์ก็เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ลิเธียม ศาสตราจารย์สแตนลีย์เป็นหนึ่งในผู้สร้างแบตเตอรี่ลิเธียมรุ่นแรก ดังนั้นการแพ้อีกฝ่ายไม่ได้ทำให้เขาเสียหน้า
อย่างไรก็ตามถ้าหวังไห่เฟิงแพ้ลู่โจว เขาคงรู้สึกอับอายเป็นอย่างยิ่ง
ศาสตราจารย์หวังไห่เฟิงบรรยายเสร็จแล้ว และกำลังจะเดินไปตึกวิจัย
ทันใดนั้นเองก็มีคนสวมชุดสูทและผู้ช่วยเดินมาทักทาย
หวังไห่เฟิงมองดูคนแปลกหน้าแล้วเอ่ยถาม “คุณคือใคร?”
ชายสวมชุดสูทยิ้มอย่างเป็นมิตรและส่งนามบัตรให้หวังไห่เฟิง
“สวัสดีครับ ผมเป็นนักข่าวของวารสารวิทยาศาสตร์ คุณจะเรียกผมว่าเสี่ยวหลี่ก็ได้”
“นักข่าววารสาร?” หวังไห่เฟิงขมวดคิ้ว “คุณต้องการอะไร?”
เสี่ยวหลี่กล่าว “คือแบบนี้ ผมรู้มาจากหลายแหล่งว่าคุณเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ ผมอยากถามคำถามเกี่ยวกับแบตเตอรี่ไม่กี่ข้อ คุณว่างไหม?”
หวังไห่เฟิงไม่อยากนสัมภาษณ์ แต่เขามีความสุขกับการถูกเรียกว่า’ผู้ยิ่งใหญ่’
“ฉันยุ่งมาก ฉันให้เวลาคุณได้แค่สิบนาที เชิญถามมาได้เลย”
“ตกลงครับศาสตราจารย์หวัง” เสี่ยวหลี่ยิ้มและส่งสัญญาณให้ผู้ช่วยบันทึกการสนทนาก่อนจะเอ่ยถาม “คุณคิดยังไงเกี่ยวกับวิทยานิพนธ์ของศาสตราจารย์สแตนลีย์ที่ตีพิมพ์ใน JACS เมื่อเร็วๆนี้?”
หวังไห่เฟิงกล่าว “ชุมชนวิชาการยังไม่ได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตามผู้เขียนคือศาสตราจารย์สแตนลีย์ เขาค่อนข้างมีชื่อเสียงในโลกวิชาการ”
เสี่ยวหลี่ถาม “ถ้างั้น คุณคิดว่าโมเลกุลคาร์บอนเหมือนกรงใช้งานได้มากกว่า HCS-1 ของลู่โจวไหม?”
“HCS-1?” หวังไห่เฟิงหัวเราะ “ทั้งสองเทียบกันไม่ได้เลย ถ้าโมเลกุลคาร์บอนเป็นหลอดนีออน งั้น HCS-1 คงเป็นแสงเทียน ช่องว่างมันใหญ่มาก”
หวังไห่เฟิงอยากหัวเราะ
ทำไมทุกคนถึงเชื่อในตัวศาสตราจารย์ที่อายุยี่สิบกว่าปีกัน?
สุดท้ายลู่โจวก็แพ้
เสี่ยวหลี่ถาม “คุณไม่คิดว่าพูดเกินไปหน่อยเหรอ?”
หวังไห่เฟิงกล่าวโดยปราศจากความลังเล “ไม่เลย อันที่จริงฉันพูดค่อนข้างเบาแล้ว คุณไม่ได้อยู่ในสาขานี้ คุณจึงไม่รู้เรื่องอุตสาหกรรมวัสดุศาสตร์มากนัก อุตสาหกรรมวัสดุศาสตร์ได้สร้างผลงานที่น่าอัศจรรย์อยู่เป็นประจำ แต่มีผลการวิจัยน้อยกว่าสิบเปอร์เซ็นต์เสียอีกที่มีการใช้งานในอุตสาหกรรม วัสดุ HCS-1 เป็นความสำเร็จที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ จากมุมมองวิชาการ ผลลัพธ์ของมันไม่เลว อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีนี้ไร้ค่าในตลาด คุณคิดว่าจะมีคนสนใจสิทธิบัตรของเขาเหรอ?”
เสี่ยวหลี่พยักหน้า “คุณมั่นใจได้อย่างไรว่าโมเลกุลคาร์บอนเหมือนกรงของศาสตราจารย์สแตนลีย์จะนำมาใช้ได้ในโลกจริง? คุณเห็นข้อมูลของวิทยานิพนธ์ไหม?”
“จุดมุ่งเน้นไม่ได้อยู่บนวิทยานิพนธ์ แต่เป็นเอ็กซอนโมบิล พวกเขาเป็นยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่มุ่งมั่นในความสำเร็จ ขนาดพวกเขายังให้ทุนงานวิจัยนี้เลย”
จากนั้นหวังไห่เฟิงก็กล่าวอย่างสะเทือนอารมณ์ “ฉันต้องพูดเลยว่าคาร์บอนทรงกลมแบบกลวงเป็นทิศทางการวิจัยที่ดี แต่ทีมวิจัยหลายทีมรวมถึงฉันต่างก็กำลังวิจัยในทิศทางนี้”
“ฉันเชื่อว่าศาสตราจารย์ลู่พูดแนวคิดของตนเองผิดไปตอนการประชุม เขาควรเก็บมุมมองในแง่ดีเกี่ยวกับคาร์บอนทรงกลมไว้กับตัว ด้วยวิธีนี้จะไม่มีใครคัดลอกความคิดเขาไป”
“แต่ฉันก็เข้าใจ เขายังหนุ่ม เขามีพลังงานเหลือล้น บางทีพอเขาโตขึ้น เขาอาจมีเหตุผลกว่านี้”
ศาสตราจารย์หวังพูดด้วยสีหน้าเศร้าเล็กน้อย
มันหยั่งกับว่าที่เอ็กซอนโมบิลชนะเป็นเพราะลู่โจวทำความลับรั่วไหล
แต่ที่จริงแล้วความผิดไม่ได้อยู่ที่ลู่โจว
ก่อนการประชุม มีทีมวิจัยไม่มากนักที่มุ่งเน้นไปที่คาร์บอนนาโนสเฟียร์
นี่รวมถึงตัวหวังไห่เฟิงด้วย แม้ว่าเขาจะรู้เรื่องคาร์บอนทรงกลมแบบกลวงมานานแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยทำการทดลองในสาขานี้เลย
นอกจากนี้มันยังเป็นผู้จัดงานประชุมที่เผยแพร่เนื้อหาของการประชุม ไม่ใช่ลู่โจว
อย่างไรก็ตามลู่โจวยังเป็นคนพูดคำพวกนั้นอยู่ดี
แววตาของเสี่ยวหลี่เปล่งประกาย เขาได้กลิ่นข่าวจากหวังไห่เฟิง เขาจึงเอ่ยถามทันที “คุณคิดยังไงกับศาสตราจารย์ลู่?”
หวังไห่เฟิงยิ้ม “เขามีความสามารถในการวิจัยวิทยาศาสตร์ แต่เขาไม่ได้มองภาพรวมเลย มันค่อนข้างน่าลำบากใจ”
เสี่ยวหลี่ถาม “ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้นล่ะ?”
ศาสตราจารย์หวังหัวเราะ “ลองดูสถาบันวัสดุเชิงคำนวณจินหลิงสิ เงินหลายร้อยล้านเหรียญถูกลงทุนในสถาบันนี้ แต่พวกเขามีผลงานอะไรบ้าง?”
หวังไห่เฟิงไม่ได้กลัวที่จะพูดตามที่ตัวเองคิด
ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนต่างก็รู้ว่า HCS-1 นำไปใช้ได้อย่างจำกัด…
หวังไห่เฟิงหลอกล่อนักข่าวได้สำเร็จ เขาจึงรู้สึกพอใจมาก
เขากลับห้องแล็บแล้วนั่งลงบนเก้าอี้
ทันใดนั้นเองผู้ช่วยของเขาเดินเข้ามาในห้องแล็บพร้อมกับวารสารในมือ
“ศาสตราจารย์ นี่เป็นวารสารไซเอินซ์เล่มใหม่ ศาสตราจารย์บอกให้ผมเอามาให้เอง ผมเลยเอามาให้ครับ”
“ใช่ เอาวางไว้” หวังไห่เฟิงสังเกตเห็นสีหน้าแปลกไปของผู้ช่วย เขาจึงถาม “คุณเป็นอะไร?”
“ไม่มีอะไรครับ” ผู้ช่วยยิ้มแล้ววางวารสารไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินออกไป
หวังไห่เฟิงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาเอื้อมมือหยิบวารสารไซเอินซ์เล่มใหม่
เขากำลังจะพลิกอ่าน แต่จู่ๆ มือของเขาก็ชะงักกลางอากาศ
เขาหยุดหายใจยืนแน่นิ่งราวกับเป็นรูปปั้น
บนหน้าปกวารสารไซเอินซ์ มีข้อความประโยคหนึ่งตรงส่วน’ไฮไลท์’
[วัสดุ HCS-2 : จุดสิ้นสุดของชัตเติลเอฟเฟกต์]
………………………………….