ไม่ใช่ผู้เข้าร่วมงานประชุมทุกคนจะวิจัยเคมีเชิงทฤษฎี นอกจากนักวิชาการเคมีแล้ว ยังมีอีกหลายคนที่วิจัยคณิตศาสตร์ประยุกต์ ฟิสิกส์สสารควบแน่นและแม้แต่วัสดุศาสตร์
ศาสตราจารย์สแตนลีย์จากมหาวิทยาลัยบิงแฮมตันก็เป็นหนึ่งในนั้น
เขาสวมโค้ทยาวนั่งอยู่ที่มุมห้องอยู่เงียบๆ เขาสวมหมวกคลุมใบหน้าเอาไว้ ดูเหมือนเขาจะไม่อยากให้คนอื่นจำได้
แต่ต่อให้เขาไม่แต่งตัวแบบนี้ ก็มีไม่กี่คนเท่านั้นที่จำเขาได้
ตั้งแต่วันนั้น เขาดูเหมือนแก่ขึ้นไปอีกสิบปี ใบหน้าเขาไม่ได้เปล่งปลั่งด้วยพลังงานเต็มเปี่ยมอีกแล้ว
ศาสตราจารย์สแตนลีย์ไม่รู้ว่าเขาควรรู้สึกยังไงดี
เขาซื้อตั๋วมาเบอร์ลินแล้วมาที่สถานที่จัดงาน เขาไม่มั่นใจว่าเขาควรคาดหวังอะไรจากการบรรยายนี้
“เอาสิ…”
“ฉันขอดูหน่อยเถอะว่าคุณชนะฉันยังไง”
ศาสตราจารย์สแตนลีย์จ้องมองหน้าจอโปรเจคเตอร์ด้วยริมฝีปากอันสั่นเทา
เขากระซิบกับตัวเอง “ฉันขอดูหน่อยเถอะว่าคุณกำลังวิจัยอะไร…”
ในที่สุดก็ถึงเวลาสิบนาฬิกา
เสียงกระซิบกระซาบทั่วห้องประชุมก็เงียบหายไป
ราวกับถูกพลังลึกลับบังคับให้เงียบ
ไม่มีใครต้องรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของห้องประชุม ไม่มีใครต้องประกาศเริ่มการบรรยาย
เพราะจู่ๆ พาวเวอร์พอยนต์ก็เปลี่ยนไปหน้าแรก แสดงให้เห็นถึงชื่อเรื่อง
[แบบจำลองเชิงทฤษฎีของโครงสร้างพื้นผิวสัมผัสเคมีไฟฟ้า]
ลู่โจวมองไปยังฝูงชนและปรับไมโครโฟน จากนั้นเขาก็กระแอมแล้วพูด
“แบบจำลองเชิงทฤษฎีของโครงสร้างพื้นผิวสัมผัสเคมีไฟฟ้าเป็นปัญหาในชุมชนเคมีเชิงทฤษฎีมานานหลายปี”
“เว้นแต่ว่าเราจะเข้าใจธรรมชาติของพื้นผิวสัมผัส เราคงไม่สามารถอธิบายสาระสำคัญของกระบวนการทางเคมีไฟฟ้าที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าได้อย่างละเอียด”
“จากมุมมองของคณิตศาสตร์ ผมพยายามสร้างแบบจำลองเชิงทฤษฎีจากข้อมูลที่รวบรวมมาและปรากฏการณ์ที่สังเกตมาได้ แบบจำลองเชิงคณิตศาสตร์นี้ได้รับการทดสอบจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์แอนตัน”
“ตอนนี้ ผมจะอธิบายแบบจำลองเชิงทฤษฎีที่ผมเสนออย่างละเอียด”
“ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ผมหวังว่าผมจะแก้ไขมันให้ถูกต้องได้”
ลู่โจวค่อยๆพูด
เขาเตรียมการบรรยายนี้มาสองเดือนแล้ว
ตอนที่เขาออกแบบพาวเวอร์พอยนต์ เขาไม่เพียงแต่จะอธิบายส่วนยากๆของแบบจำลองเชิงทฤษฎีอย่างละเอียดเท่านั้น เขายังอธิบายทฤษฎีที่ซับซ้อนด้วยภาษาทีเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อีกด้วย
แน่นอน เขาไม่ได้ทำให้ตัวทฤษฎีเรียบง่ายเกินไป
เหตุผลของงานประชุมทางวิชาการก็คือการเผยแพร่ความรู้ อย่างไรก็ตามการบรรยายทางวิชาการไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ มันไม่ใช่หน้าที่ของลู่โจวที่จะทำให้คนอื่นๆ เข้าใจการบรรยายของเขา
มันไม่มีที่ให้ประนีประนอม
ทุกคนในห้องประชุมฟังอย่างตั้งใจ
แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจทุกอย่าง แต่ก็ไม่มีใครอยากพลาดแม้แต่รายละเอียดเดียว
การพลาดเพียงรายละเอียดเดียวอาจหมายถึงการพลาดทุกสิ่ง
“คุณสมบัติทั้งหมดของสถานะพื้นของระบบหลายอนุภาคเป็นฟังก์ชันความหนาแน่นเท่านั้น ด้วยสิ่งนี้เราสามารถคำนวณพลังงานทั้งหมดของระบบหลายอนุภาคเป็นผลรวมของพลังงานจลน์ พลังงานคูลอมบ์ทั่วไปและปรากฏการณ์มัลติบอดี้…”
“ค่าของพลังงานทั้งสามนี้สามารถคำนวณได้”
ขณะที่พูด ลู่โจวก็ทำเครื่องหมายบนไวท์บอร์ด
ส่วนทฤษฎีได้มาจากทฤษฎีของโฮเฮนเบิร์ก-โคห์น มันไม่ได้ยากอะไรนัก
ส่วนถัดไปคือการคำนวณ ซึ่งเป็นส่วนหลักของแบบจำลองเชิงทฤษฎี
มีสมการปรากฏบนไวท์บอร์ดมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนก็นั่งเอ๋อ เพราะตามความเร็วของลู่โจวไม่ทัน
ศาสตราจารย์สแตนลีย์จ้องมองไวท์บอร์ดและบ่นพึมพำ “เขากำลังเขียนอะไรเนี่ย?”
แม้ว่าสแตนลีย์จะทำการบ้านมาแล้ว และอ่านวิทยานิพนธ์ไปหลายรอบ แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจการบรรยายนี้เลย
อย่างไรก็ตามเขาก็ยังเป็นนักวิชาการที่โดดเด่น
แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างจากรางวัลโนเบล แต่เขาก็ยังแข็งแกร่งกว่านักวิชาการทั่วไป
ศาสตราจารย์สแตนลีย์เอาปลายปากกาเคาะสมุดเบาๆ
ทันใดนั้นเองสมองของเขาก็ทำการเชื่อมโยง…
เชื่อมโยงอะไร?
เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน
เขาไม่เข้าใจ…
ผู้ชมบางคนก็เริ่มให้ความสนใจกับการบรรยายขึ้นเรื่อยๆ
ศาสตราจารย์อาร์ตัลเป็นหนึ่งในนั้น
ในฐานะผู้ชนะรางวัลโนเบล เขามีความเข้าใจในเคมีเชิงคำนวณอย่างล้ำลึก
แม้ว่าเขาจะมีคำถามมากมายเกี่ยวกับแบบจำลองเชิงทฤษฎีของลู่โจว แต่คำถามส่วนใหญ่เป็นด้านคณิตศาสตร์
แต่ตอนนี้ลู่โจวอธิบายที่มาและสมการทุกจุดอย่างละเอียด
ความสงสัยตอนแรกของเขาจึงหายไป
น้ำเสียงของลู่โจวดังก้องกังวานไปทั่วห้องประชุมที่เงียบสงัด
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ลู่โจวเขียนไวท์บอร์ดไปห้ากระดานแล้วโดยไม่รู้ตัว เขาหันไปสนใจไวท์บอร์ดอันถัดไปแล้วเขียนต่อ
ลู่โจวเขียนไวท์บอร์ดเสร็จไปหกกระดานแล้วก้าวถอยหลังออกมาสองก้าว
“ด้วยทฤษฎีนี้ ผลลัพธ์ที่ได้คือ…”
ลู่โจวดูไวท์บอร์ดทั้งหกแล้วหยุดคิดกะทันหัน เขาเข้าสู่ภวังค์
ห้องประชุมเงียบกริบ ทุกคนต่างก็จ้องมองมาทางเขา
หนึ่งนาทีผ่านไป
หนึ่งนาทีนี้ให้ความรู้สึกเหมือนหนึ่งชั่วโมง
ศาสตราจารย์อาร์ตัลดูการคำนวณบนไวท์บอร์ดแล้วกล่าว “ไม่แปลกใจเลย…”
ประธานสตราทแมนกล่าวทันที “ไม่แปลกใจอะไร?”
อาร์ตันเผยรอยยิ้มออกมาและวางปากกาลง
“ไม่แปลกใจเลยว่านี่จะเป็นเคมียุคใหม่”
ศาสตราจารย์สแตนลีย์ที่กำลังนั่งอยู่มุมห้องประชุมถอดแว่นออกแล้วขมวดคิ้ว
ไม่สงสัยเลย
เขาแพ้แล้ว
พ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง…
เขาไม่คู่ควรเป็นคู่แข่งอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์สแตนลีย์รู้สึกโล่งอก
คำถามเขาในที่สุดก็ได้คำตอบ…
เกิดความปั่นป่วนขึ้นในฝูงชน
ผู้คนเริ่มเข้าใจแบบจำลองเชิงทฤษฎีของเขามากขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดลู่โจวก็ได้สติคืน
เขายิ้มให้กับไวท์บอร์ด
จากนั้นเขาก็หันหลังกลับมาแล้ววางปากกาลงบนโพเดียมอย่างเบามือ
สุดท้ายเขาก็ประกาศ
“…อย่างที่ทุกท่านเห็น ข้อสรุปของเราถูกต้อง!”
ทันทีที่เขาประกาศเสร็จ ห้องประชุมก็ดังก้องด้วยเสียงปรบมือ
เสียงปรบมือของการยอมรับ
เสียงปรบมือของการเฉลิมฉลอง
และพวกเขาก็กำลังปรบมือให้กับช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นี้…
…………………………………