ลู่โจวและศาสตราจารย์คลิทซิ่งไม่ได้อยู่ที่นั่นนานนัก หลังจากเยี่ยมชมเวนเดลสไตน์ 7-X พวกเขาก็กลับเบอร์ลิน
ลู่โจวอยู่ที่เยอรมันมาเดือนหนึ่งแล้ว และเขาก็ได้ประโยชน์มากมาย อย่างไรก็ตามมีหลายสิ่งที่เขาต้องทำในพรินซ์ตัน มันจึงถึงเวลาที่เขาจะกลับแล้ว
ลู่โจวจองตั๋วเครื่องจะบินกลับตอนวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยบอนน์ หลังจากนั้นประธานสตราทแมนแห่งสถาบันมักซ์พลังค์ก็มาส่งเขาที่สนามบินเบอร์ลินเทเกิล
ชายชราจับมือกับลู่โจว “ขอบคุณที่มาบรรยายที่เบอร์ลิน เราจะรอคอยการมาเยี่ยมชมของคุณครั้งหน้าและเฝ้าดูคุณประสบความสำเร็จที่สูงขึ้น”
“แน่นอน” ลู่โจวกล่าวและจับมือกับสตราทแมน เขากล่าวเสริมด้วยรอยยิ้ม “ผมจะเดินบนถนนสายนี้ต่อแน่นอน”
ลู่โจวบอกลาสตราทแมนและลากกระเป๋าเดินทางเข้าสนามบิน
หลังจากบินมาสิบชั่วโมง เครื่องก็ลงจอดที่สนามบินเจเอฟเคในนิวยอร์ก
ลู่โจวกลับมาแบบไม่บอกใคร เขาจึงได้ประสบการณ์นั่งรถไฟ
รถไฟเคลื่อนที่มาเรื่อยๆ จนถึงเมืองพรินซ์ตันที่คุ้นเคยโดยมีลูกศิษย์ต้อนรับเขากลับ
เพื่อฉลองรางวัลฮอฟแมน ฮาร์ดี้แนะนำให้จัดปาร์ตี้ที่บ้านลู่โจว
ครั้งนี้อาหารของปาร์ตี้ไม่ใช่บาร์บีคิวสไตล์บราซิลดั้งเดิมของฮาร์ดี้ แต่เป็นอาหารจีนดั้งเดิม เข่าช่วน(ปิ้งย่างแบบเสียบไม้)
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ลู่โจวทำเคบับจีนที่ต่างประเทศ
น่าเสียดายในตู้เย็นไม่มีเบียร์ พวกเขามีแต่แชมเปญผลไม้เท่านั้น พวกเขารู้สึกไม่เพียงพอ
ขณะที่ลู่โจวนั่งอยู่บนพื้นหญ้ากินเข่าช่วน เขาก็เริ่มคิดถึงสหายทั้งสามในหอพักสองศูนย์หนึ่ง
นับตั้งแต่ลู่โจวจบการศึกษา พวกเขาก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย เขาสงสัยว่าพวกเพื่อนๆ จะเป็นอย่างไรกันบ้าง
ฮาร์ดี้เดินถือแชมเปญมาด้วยรอยยิ้ม
“ศาสตราจารย์ ผมขอสัมภาษณ์หน่อยได้ไหม?”
ลู่โจวกล่าว “ถ้าคำถามปกตินะ”
“ไม่ต้องห่วง มันเป็นคำถามปกติแน่นอน” ฮาร์ดี้กระแอมเบาๆ “มันรู้สึกยังไงที่เชี่ยวชาญทั้งคณิตศาสตร์และเคมี?”
ลู่โจวกล่าว “มันเป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันสัมผัส”
“ศาสตราจารย์ มันเจ็บปวดมาก ผมเป็นหนึ่งในลูกศิษย์คนเก่งของคุณนะ” ฮาร์ดี้ทำหน้าเจ็บปวด “คุณมั่นใจในตัวผมกว่านี้หน่อยได้ไหม?”
ลู่โจวรู้สึกเศร้าเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เศร้ากับเด็กคนนี้ เขาเศร้ากับตัวเอง
เขาสงสัยว่าเขาเห็นอะไรในตัวเจ้าหนูนี่กันนะ? ทำไมเขาถึงมอบข้อเสนอให้ฮาร์ดี้กัน?
ลู่โจวไม่รู้จะตอบคำถามนี้ยังไง
ปาร์ตี้ดำเนินมาได้สักพักแล้ว หลัวเหวินเซวียนที่พึ่งหาแฟนใหม่ได้ในที่สุดก็มาถึง
อย่างไรก็ตามครั้งนี้เขาไม่ได้พาแฟนมาด้วยเท่านั้น เขายังเอาข่าวดีมาด้วย
หลังทำงานหนักมาหลายเดือน ด้วยความช่วยเหลือของเหว่ยเหวิน ในที่สุดเขาก็ทำวิทยานิพนธ์จบการศึกษาเสร็จ
วิทยานิพนธ์ ‘การวิจัยสถานะโคฮีเรนต์ของการแกว่งฮาร์โมนิกดิสเตอร์เต็ด -q ในปริภูมิฮิลเบิร์ทมิติจำกัด’ ของเขาในที่สุดก็ได้รับการยอมรับจากวารสาร ‘ฟิสิกส์ทูเดย์’ มันจะถูกตีพิมพ์ในหกเดือนข้างหน้า
แม้ปัจจัยกระทบของวารสารนี้จะไม่สูงนัก แต่สำหรับนักศึกษาปริญญาเอก โดยเฉพาะนักศึกษาฟิสิกส์เชิงทฤษฎี มันไม่ได้เลวร้ายเลย
นอกจากนี้ปัจจัยกระทบยังไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยเดียวที่จะวัดอิทธิพลทางวิชาการ เพราะแม้แต่อาจารย์ที่ปรึกษาเขา วิตเตน ก็ยังส่งวิทยานิพนธ์ไป’ฟิสิกส์ทูเดย์’เลย
ถ้าทุกอย่างไปได้สวย เขาควรได้ปริญญาเอกตอนต้นปีหน้า
“ขอบคุณมาก นายเป็นคนช่วยชีวิตฉัน” หลัวเหวินเซวียนกล่าวกับลู่โจว เขาตบหลังลู่โจวเบาๆ “ไว้มีโอกาสฉันจะเลี้ยงเหล้านาย”
“ไม่ต้องขอบคุณผม ขอบคุณเหว่ยเหวินดีกว่า” ลู่โจวยิ้ม “แน่นอน จะเลี้ยงผม ผมไม่ปฏิเสธ”
“ที่จริงผมไม่ได้ช่วยอะไรมากเลย” เหว่ยเหวินกระแอม เขาดูไม่สนใจนักว่าถูกยอมรับไหม กลับกันเขากล่าว “ผมแค่รับผิดชอบการคำนวณเล็กน้อย แต่ชื่อของผมอยู่ในวิทยานิพนธ์ คุณมั่นใจเหรอว่าไม่เป็นไร?”
“ไม่ๆ ฉันไม่คิดแบบนั้น” หลัวเหวินเซวียนกล่าวและส่ายหน้า “ฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์คือการศึกษาฟิสิกส์โดยใช้วิธีทางคณิตศาสตร์ นายช่วยอุดข้อบกพร่องของฉัน ถ้าไม่มีความช่วยเหลือของนาย ถ้าไม่มีความช่วยเหลือของนาย กว่าฉันจะทำวิทยานิพนธ์เสร็จก็คงครึ่งปี”
ลู่โจวเห็นหลัวเหวินเซวียนยอมรับว่าตัวเองขาดความสามารถทางคณิตศาสตร์ เขาก็ถอนหายใจแล้วถาม “เฒ่าถังคงปวดใจกับคำพูดของคุณ คุณเรียนเอกคณิตศาสตร์ประยุกต์มาจริงเหรอ?”
เจ้าหมอนี่ได้ข้อเสนอจากพรินซ์ตันได้ยังไง?
แถมได้ข้อเสนอจากวิตเตนอีก
หลัวเหวินเซวียนเกาหัวแกรกๆ
“ไม่ต้องห่วง เฒ่าถังด่าฉันตลอด”
ลู่โจว “…”
…
วันถัดมา ลู่โจวไปที่สถาบันการศึกษาขั้นสูง เขาไม่ได้เริ่มวิจัยในทันที กลับกันเขาไปหาเอ็ดเวิร์ด วิตเตนเพื่อที่จะถามอะไรบางอย่าง
ผู้ออกแบบสเตลล่าร์เรเตอร์ ไลแมน สปิตเซอร์ ทำงานอยู่สถาบันขั้นสูงพรินซ์ตันอยู่พักหนึ่ง แนวคิดเดิมของสเตลล่าร์เรเตอร์ก็มาจากเขา
สปิตเซอร์ต้องทิ้งหลักฐานบางอย่างไว้ที่ห้องทำงานเก่าแน่
“ขอแสดงความยินดีด้วย รางวัลฮอฟแมนเป็นเกียรติอย่างยิ่ง” เอ็ดเวิร์ด วิตเตนพูดกับลู่โจว จากนั้นเขาก็ยิ้มแล้วเอ่ยถาม “เยอรมันเป็นไงบ้าง? คุณเจอฟาลติ้งส์ไหม?”
ลู่โจวตอบ “ผมเจอเขา แต่ผมรู้สึกเหมือนเขาไม่ชอบผม”
เอ็ดเวิร์ด วิตเตนยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ตาแก่นั้นทำแบบนี้กับทุกคนแหละ ขนาดเดอลีงย์ยังทนเขาไม่ได้เลย แต่ฉันยินดีนะที่คุณพูดแบบนี้…อย่างน้อยมันก็หมายความว่าเขาแข็งแรงดี แข็งแรงพอที่จะไม่ชอบคุณ”
“ผมไม่ค่อยสนใจหรอก” ลู่โจวยักไหล่ “ที่จริงผมไม่ได้อยู่แค่เบอร์ลิน ผมไปไกรฟ์วาลด์มาด้วย”
“ไกรฟ์วาลด์?” วิตเตนรู้สึกสนใจ “คุณไปห้องแล็บเวนเดลสไตน์ 7-X มาเหรอ?”
“ครับ” ลู่โจวพยักหน้า “ศาสตราจารย์คลิทซิ่งพาผมไปดูสเตลลาเรเตอร์เวนเดลสไตน์ 7-X ไม่ใช่แค่นั้น ผมโชคดีได้เห็นการทดลองสดด้วย”
ศาสตราจารย์วิตเตนกล่าว “คุณโชคดีมาก ฉันไปยุโรปมาห้าครั้งในช่วงสองปี สองครั้งตอนที่ฉันอยู่เยอรมัน แต่ทุกครั้งที่ไป ฉันก็พลาดการทดลองเวนเดลสไตน์ 7-X ตลอด โดยเฉพาะการทดลองในปี 2016”
จากนั้นลู่โจวก็กระแอมแล้วเปิดเผยความตั้งใจจริง
“ผมอยากถามอะไรบางอย่างเกี่ยวกับสเตลเลราเตอร์”
วิตเตนกล่าว “หือ?”
ลู่โจวกล่าว “เกี่ยวกับต้นฉบับของไลแมน สปิตเซอร์…”
………………………………….