ลู่โจวกลับมาจากเยอรมันได้อาทิตย์หนึ่งแล้ว เดือนตุลาคมมาถึง สภาพอากาศมีความหนาวเย็น
ลู่โจวจามเบาๆ เขาหยิบเสื้อโค้ทตัวโปรดมาสวม
ลู่โจวนั่งอยู่ในห้องหนังสือ เขาดื่มกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์ที่มาจากอีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรไปด้วย
เขาเปิดหน้าแรกแล้วอ่านหัวข้อใหญ่
[การประยุกต์ใช้วิทยาการคอมพิวเตอร์ในการทดลองสมัยใหม่และแนวโน้มของการพัฒนาทางวิชาการในอนาคต]
เหรินเหรินเดลี่ใช้ทั้งหน้าเพื่อเผยแพร่เนื้อหาในจดหมายเขา
แน่นอน หนังสือพิมพ์ทำให้เนื้อหาของจดหมายเข้าใจได้ง่ายขึ้นและอธิบายการทำงานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์
ลู่โจวอ่านทั้งบทความแล้วอดยิ้มมุมปากไม่ได้
อย่างไรก็ตามเขากังวลเล็กน้อยเช่นกัน
แม้ว่าเขาจะมองซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในแง่ดี แต่เขาสงสัยว่ามันถูกสนับสนุนมากไปไหม…
เพราะยังไงเสียเงินทุนวิจัยวิทยาศาสตร์ก็มีจำกัด
แม้ว่าเคมีเชิงคำนวณจะโอกาสที่ดี แต่มันก็ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น ห้องแล็บหลายแห่งก็สร้างผลการวิจัยออกมาได้โดยไม่ได้ใช้เคมีเชิงคำนวณ
หวังว่าผู้กำหนดนโยบายจะตระหนักเรื่องนี้นะ
จู่ๆ ลู่โจวก็รู้สึกว่าเขาให้ความเห็นให้น้อยลงจะดีกว่า
แม้จะได้รับการช่วยเหลือจากระบบ แต่เขาก็รับประกันไม่ได้ว่าตัวเองจะถูกเสมอ การวิจัยทางวิทยาศาสตร์คือการลองผิดลองถูก อันที่จริงจำนวนความผิดพลาดของเขามีมากกว่าจำนวนความสำเร็จเสียอีก
อย่างไรก็ตามที่บทความเผยแพร่ไปทั้งหมดเป็นเรื่องความสำเร็จเขา
ลู่โจวส่ายหน้าแล้ววางหนังสือพิมพ์ลง “ฉันว่าฉันคงต้องระวังให้มากกว่านี้ ความผิดพลาดอาจมาเล่นงานฉันในอนาคตก็ได้”
เขาหยิบถ้วยกาแฟเปล่าไปห้องครัว พอเขากลับมา เขาก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
มันเป็นสายจากต่างประเทศ มันไม่ได้มาจากมหาลัยจินหลิง แต่มาจากหยางสวี่
ลู่โจวรับสาย
“คุณได้พัสดุรึยัง?”
“ได้แล้ว”
“คุณรู้สึกยังไงกับเหรินเหรินเดลี่?”
ลู่โจวยิ้ม “มันก็โอเค”
มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาออกข่าวในเหรินเหรินเดลี่
เขาชนะรางวัลระดับโลกมาหลายครั้ง เรื่องนี้จึงไม่มีอะไรพิเศษเลย
ลู่โจวกล่าว “ถ้าคุณไม่โทรหาฉัน ฉันก็จะโทรหาคุณอยู่พอดี จะว่าไป อาคารสถาบันวิจัยวัสดุเชิงคำนวณก่อสร้างไปถึงไหนแล้ว?”
“วางรากฐานเรียบร้อย ผมไปมาสองสามครั้งแล้ว แต่ผมก็ไม่แน่ใจ คุณเป็นซีอีโอสตาร์สกายเทคโนโลยีไม่ใช่เหรอ? คุณไม่ถามผู้จัดการล่ะ?”
สตาร์สกายเทคโนโลยีเปิดสาขาที่เซี่ยงไอ้ และลู่โจวก็ได้รายงานการก่อสร้างแล้ว แต่เขาก็ยังกังวลอยู่
“รายงานเป็นแค่กระดาษ มันไม่ดีเท่าเห็นกับตา ครั้งหน้าถ้าคุณไป อย่าลืมถ่ายรูปด้วยล่ะ”
หยางสวี่ยิ้ม “มันเป็นไซต์ก่อสร้างขนาดใหญ่ มันมีฝุ่นฟุ้งไปทั่ว ฉันเกรงว่าต่อให้ก่อสร้างเสร็จก็คงใช้เวลาสองสามปีกว่าจะเข้าไปอยู่ได้”
ลู่โจวตอบ “สองสามปีนานเกินไป ฉันจะย้ายไปอยู่ในสองสามเดือนหลังมันสร้างเสร็จ”
หยางสวี่ยิ้ม “สาขาเคมีบอกว่าเราอยู่ที่นี่ได้นานเท่าต้องการ”
“ไม่ๆ” ลู่โจวยิ้มแล้วกล่าว “ยืมก็คือยืม เราต้องย้ายออกอยู่ดี เรายังคงเป็นสถาบันวิจัยเอกชน ส่วนพวกเขาเป็นสถาบันวิจัยของสาธารณะ ต่อให้เราสนิทกันแค่ไหน แต่เอามารวมกันมันคงไม่ดีอยู่ดี”
ถ้าอยู่พักหนึ่งมันคงไม่เป็นไร แต่ถ้าพวกเขาอยู่นานเกินไป ผู้คนคงเริ่มตั้งคำถามกับพวกเขาแล้ว
อย่างใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของอาคารนี้?
โอนทรัพย์สินของรัฐให้องค์กรเอกชนได้ด้วยเหรอ?
จากนั้นก็จะมีคำถามเกิดขึ้นมาเป็นชุด
ลู่โจวซื้อตึกใหม่แล้ว ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ได้ขาดเงิน เขาจึงไม่จำเป็นต้องยืมตึกใครอีก
“ครับ คุณพูดถูก” หยางสวี่กล่าว จู่ๆ เขาตบหัวตัวเองแล้วกล่าว “ผมเกือบลืมเลย ปีนี้คุณมีแผนการวิจัยใหม่ไหม?”
ลู่โจวกล่าว “ตอนนี้ยังไม่มี แต่ถ้ามีฉันจะแจ้งคุณ ข้อเสนอของฉันก็คือ คุณควรหาโปรเจ็ควิจัยที่น่าสนใจทำ”
ถ้านักวิจัยไม่ได้ทำการทดลองนาน พวกเขาจะไม่สบายใจ
พวกเขาไม่มีแผนการวิจัยของตัวเอง ดังนั้นมันคงเป็นความคิดที่ดีถ้าพวกเขาร่วมมือกับบริษัทวิจัยอื่น ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ และอาจทำเงินได้เพิ่มด้วย
เขาเชื่อว่าด้วยความสามารถในการวิจัยและพัฒนาของสถาบันวิจัยวัสดุศาสตร์จินหลิง ตราบใดที่พวกเขาอยากร่วมมือกับบริษัทอื่น คงมีหลายบริษัทอยากมาทำงานด้วย
“รับทราบครับ” หยางสวี่กล่าว ขณะที่เขาควงปากกาในมือเล่น เขาก็ถาม “จะว่าไป คุณจะทำวิจัยอะไร? เคมีเชิงทฤษฎีอีกครั้ง?”
“ฉัน?” ลู่โจวยิ้ม “ไม่ใช่ แบบจำลองเชิงทฤษฎีของโครงสร้างพื้นผิวสัมผัสเคมีไฟฟ้าเสร็จแล้ว ฉันไม่สนใจเคมีแล้ว”
หยางสวี่กล่าว “แปลว่าคุณไม่ได้วิจัยอะไรเลยเหรอ?”
ลู่โจวกล่าว “ไม่ ช่วงนี้ฉันกำลังศึกษาสมการนาเวียร์-สโตกส์”
ปากกาของหยางสวี่หลุดจากมือ
ปากกาลอยไปชนกำแพง
หยางสวี่อึ้ง
เชี่ย?
สมการนาเวียร์-สโตกส์?
แม้ว่าเขาจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับคณิตศาสตร์มากนัก แต่เขาก็ยังรู้จักปัญหารางวัลมิลเลนเนียม
หลังได้ยินเสียงอะไรชนกำแพงและไม่มีเสียงตอบกลับมา ลู่โจวก็ขมวดคิ้ว
“…มีปัญหาไหม?”
“เชี่ย คุณสุดยอด! สมการ NS!” หยางสวี่ผุดลุกจากเก้าอี้ “ในที่สุดคุณก็จะพิชิตปัญหารางวัลมิลเลนเนียมแล้ว?”
‘ในที่สุด’หมายความว่าไง?
แล้ว มันเกี่ยวกับปัญหารางวัลมิลเลนเนียมยังไง?
ลู่โจวกระแอมแล้วอธิบาย
“ปัญหารางวัลมิลเลนเนียมเกี่ยวกับความราบรื่นและการมีอยู่ของสมการ NS ฉันกำลังศึกษาการประยุกต์ใช้สมการ NS ในทางเฉพาะบนพลาสมา…”
จู่ๆ ลู่โจวก็นึกอะไรออก
“เอ้อ ถ้าคุณกำลังหาโปรเจกต์วิจัย ฉันแนะนำวัสดุตัวนำยวดยิ่ง”
“วัสดุตัวนำยวดยิ่ง?” หยางสวี่ถาม จากนั้นเขาก็ชี้ให้เห็น “แต่เราอยู่ในสาขาวัสดุนาโนคาร์บอนนะ เราไม่มีประสบการณ์กับโลหะ…”
“ฉันไม่ได้บอกให้คุณเปลี่ยนทิศทาง เรายังทำวัสดุนาโนคาร์บอนอยู่”
ลู่โจวหยุดชั่วครู่ก่อนจะกล่าวต่อ “มันเป็นแค่ความเห็นของฉัน แต่ฉันคิดว่าเราต้องหาวัสดุตัวนำยวดยิ่งที่เป็นโลหะ บางทีเราอาจพบคู่คูเปอร์ในพันธะ π ก็ได้”
………………………………….